ตั้งคาราโอเกะในรร.ลดดีกรีร้อนเด็กอาชีวะ

"ดนตรีนั้นเป็นภาษาสากล" และ "ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้สงบและอ่อนโยนขึ้น" สองประโยคนี้คงจะไม่เกินจริงหรอกนะคะ เพราะว่าพี่ปาล์มคิดว่าคงน้อยคนนักที่จะปฏิเสธดนตรี แม้ว่าแต่ละคนจะมีรสนิยมในการฟังหรือเล่นดนตรีที่แตกต่างกันไปบ้างก็ตาม และนายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยก็คงทราบความจริงข้อนี้ดี จึงได้ผุดแนวคิดจัดตั้งตู้คาราโอเกะเพื่อลดความรุนแรงในโรงเรียนลงค่ะ ^__^

ดร.วีระวัฒน์ วรรณศิริ นายกสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่สังคมภายนอกมักจะมองนักศึกษาอาชีวะว่าเป็นนักเลงชอบใช้ความรุนแรง ยกพวกทะเลาะวิวาทสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านนั้น ที่ผ่านมาทางสมาคมโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนฯ จึงได้พยายามคิดหารูปแบบวิธีการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์สร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาอาชีวะได้กล้าแสดงออกในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ทางสมาคมฯมีแนวคิดให้จัดตั้งตู้คาราโอเกะขึ้นในสถานศึกษาอาชีวะเอกชน เพราะเห็นว่ากิจกรรมร้องเพลงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดความรุนแรงลงได้ และยังสามารถทำให้นักศึกษาได้ใช้กิจกรรมเหล่านั้นเป็นที่ผ่อนคลายภาวะอารมณ์ของตนเองได้อีกด้วย เนื่องจากการร้องเพลงเป็นที่นิยมของทุกคน และการดำเนินการดังกล่าวก็คงไม่ยุ่งยากมากนัก เพราะสถานศึกษาแต่ละแห่งก็มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถติดตั้งโปรแกรมร้องเพลงคาราโอเกะได้ทันทีอยู่แล้ว ซึ่งตนเชื่อว่าการร้องเพลงจะส่งผลให้นักศึกษามีพฤติกรรมที่อ่อนโยนมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการป้องกันไม่ให้นักศึกษาไปมั่วสุมตามห้างสรรพสินค้าได้อีกด้วย

ดร.วีระวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ทางโรงเรียนสามารถจัดให้มีการร้องเพลงได้ในคาบเรียนที่ว่าง เพื่อป้องกันไม่ให้นักศึกษาออกไปมั่วสุมที่อื่น หรือไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสม เช่น หนีเรียน ยกพวกตีกัน เป็นต้น โดยการที่นักศึกษาทำกิจกรรมเหล่านี้เพื่อความบันเทิงในทางที่ถูกต้อง และแสดงออกในเชิงกิจกรรม จะส่งผลให้นักศึกษามีความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่คิดชักชวนกันไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมทั้งส่งเสริมบุคลิกภาพของนักศึกษาอีกด้วย ซึ่งขณะนี้มีสถานศึกษาอาชีวะศึกษาดำเนินการไปบ้างแล้วประมาณ 30 – 40 แห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และจะขยายให้ครอบคลุมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชนทั่วประเทศต่อไป

" สำหรับความเชื่อเรื่องการไปแย่งยึดตราสัญลักษณ์ของนักศึกษาต่างสถาบัน เช่น หัวเข็มขัด ผมเห็นว่า เรื่องนี้เป็นความคิดแบบเก่า และถูกถ่ายทอดจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ซึ่งทางเดียวที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ คือ ครูอาจารย์ต้องมีความใกล้ชิดกับลูกศิษย์ให้มากขึ้น และจับคู่สถาบันที่มีปัญหามาจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในเชิงบวกร่วมกัน และที่สำคัญการจัดการเรียนการสอนจะต้องสอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมเข้าไปด้วย เพราะจะทำให้เด็กคิดเป็น และไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่น" ดร.วีระวัฒน์ กล่าว

พี่ปาล์มขอปรบมือให้กับความคิดนี้เลยนะคะ เป็นความคิดที่น่ารักมากเลย และขอเป็นกำลังใจให้แนวคิดนี้ประสบความสำเร็จ เพราะจะได้ส่งผลดีกับทุกๆ ฝ่ายเลย จริงไหมคะ?

พี่ปาล์มขอบคุณข่าวจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ขอบคุณภาพประกอบจาก socialnetwork.meetup.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
หนามเตยปุย Member 4 ส.ค. 51 20:55 น. 2
แล้วก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นรก1 : กูมาก่อน นรก2 : กูอยากร้องก่อน ควาย แล้วนรก1และ2มันก็จะซัดกัน บางทีอาจจะทำให้เก็บศพง่ายขึ้นก็ำได้นะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
@+ค-น-นิ-ร-น-า-ม+@ Member 4 ส.ค. 51 21:50 น. 4
มันก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปนะครับ แล้วแต่คนว่าจะเอาไปใช้ในทางไหนมากกว่า ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พลrock n roll Member 5 ส.ค. 51 17:23 น. 6
ดีเหมือนกัน วิลัย gu ไม่มีผู้หญิงช่วยจรรโลงจิตใจให้อ่อนโยนเลย อย่างน้อย ผ ญ ก็ช่วยให้ผู้ชายอ่อนโยนได้
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด