"พาวเวอร์แพท" กับวันพ่อในปีนี้...

 

     สวัสดีค่ะน้อง ๆ dek-d.com ... เพิ่งผ่านพ้น "วันพ่อ" มาได้ไม่กี่วัน พี่เหมี่ยวเชื่อว่าหลายคนคงได้ทำกิจกรรมดี ๆ หรือมอบสิ่งดี ๆ ให้กับ "พ่อ" ของเรา แน่นอนล่ะค่ะนั่นคงเป็นวันแห่งความสุข วันที่เราจะได้แสดงความรักต่อ "พ่อ" ของเรา แต่เชื่อไหมคะว่าสำหรับบางคนแล้ว เค้าไม่สามารถแสดงความรักต่อ "พ่อ" ได้อย่างที่พวกเราทำ ...

     กว่า 5 ปี มาแล้ว ที่วันที่ 5 ธันวาฯ กลายเป็นวันที่แสนเดียวดายของ "พ่อนิวัติ บุญทองนุ่ม" คุณพ่อของอดีตนักร้องขวัญใจวัยรุ่น "พาวเวอร์แพท" หรือ "แพท วรยศ" หลังลูกชายสุดที่รักถูกจับในข้อหาค้ายาเสพติด ต้องจำคุก 50 ปี ทำให้ความใกล้ชิดระหว่าง "พ่อ-ลูก" มี "กรงขัง" เข้ามากางกั้น

     หัวอกคนเป็นพ่อ ไม่แปลกหากจะผิดหวังที่ลูกทำผิด เสียใจที่ลูกไม่เชื่อฟัง หรือแม้กระทั่งอาจจะถึงขั้นตัดพ่อตัดลูก เพราะทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลแปดเปื้อน แต่สำหรับพ่อแพทแล้ว กลับไม่มีสิ่งเหล่านั้นในความคิดเลย ตรงกันข้ามมีแต่คำว่า อภัย ให้โอกาส ให้กำลังใจ และจะไม่ทอดทิ้ง ถึงแม้ว่ามันจะยาวนานถึง 50 ปีก็ตาม

     วันพ่อปีนี้ ถึงจะไม่ต่างจาก 5 ปีที่ผ่านๆ มา แต่พ่อนิวัติบอกว่า ถือเป็นวันพ่อที่วิเศษที่สุด เพราะหนุ่มแพทเพิ่งเข้ารับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ เอกสารสนเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นับเป็นข่าวดีที่ทำให้ครอบครัวหัวใจพองโต ที่เห็นลูกคนนี้กลับตัวกลับใจ และเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในชีวิตได้

     “ดีใจที่เขาใช้เวลาว่างได้เป็นประโยชน์ เพราะพ่อเคยบอกเขาไว้ว่า เราอย่าทำตัวให้ว่าง ถ้าว่างแล้วมันจะคิดมาก ก็เป็นเรื่องดีๆ เป็นของขวัญวันพ่อ แล้วก็ของขวัญวันเกิดพ่อที่ครอบครัวเราภูมิใจ (พ่อเกิดเดือนธันวาคม) ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อพ่อคนเดียว แต่เพื่อตัวเขาเองด้วยเหมือนกัน ภูมิใจมากที่เขาเชื่อฟังที่เราบอก เขาก็คงภูมิใจในตัวเขาเองเหมือนกัน ไปเยี่ยมเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาก็บอกเขาว่าพ่อภูมิใจนะ ที่เรียนสำเร็จ ทั้งปู่เขาแม่เขา ครอบครัวเราทุกคนภูมิใจ คนเป็นพ่อ ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่พิเศษที่สุดนะ”

     “ถึงจะไม่ได้ถ่ายรูปลูกรับปริญญา แต่มันไม่สำคัญนะ เราก็ภูมิใจในตัวเขาอยู่ลึกๆ ถ่ายรูปกับพ่อเนี่ยเมื่อไหร่ก็ถ่ายได้ รอเขาออกมาก็ถ่ายได้ พ่อก็ภูมิใจเหมือนคนทั่วๆ ไป ลูกเราได้รับปริญญา เหมือนหมดหน้าที่ไปอีกเปราะหนึ่งแล้วนะ ก็เหลือแต่ว่าจะทำยังไงต่อไป หรือจะเรียนต่อไปเรื่อยๆ จะต่อโทหรืออะไร ก็ยังไม่ได้คุยกันเป็นกิจจะลักษณะ เคยเกริ่นๆ เอาไว้ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว รอให้ระยะนี้หมดไปก่อน ไม่อยากไปคาดคั้นหรือบีบบังคับเขา รอให้เขาผ่อนคลายสักระยะหนึ่งก่อน”

     “พ่อบอกเขาเสมอว่าอย่าว่างนะ อย่าคิดมาก เขาก็จะอยู่ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้แหละ ตั้งแต่เขาติดอยู่ใหม่ๆ ก็ให้ข้อเสนอแนะเขานะ ว่าควรจะเรียนยังไง พ่อไม่ได้ขอ ก็ปล่อยให้เขาเลือกเอา อย่างเล่นดนตรีกับวาดรูป เขาก็ทำมันอย่างจริงจัง ทำให้ทุกวันผ่านไปเร็ว ได้ประโยชน์ ที่สำคัญช่วยให้เขาไม่จมปลักกับความคิดฟุ้งซ่าน”

     ความรักที่มีให้กับลูกชายคนนี้ ทำให้ต้องเก็บกดความรู้สึกที่ผิดหวังไว้ลึกๆ ข้างใน ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากซ้ำเติมลูกให้ต้องรู้สึกแย่ จนไม่มีกำลังใจที่จะกลับตัวกลับใจ ไม่ว่าจะผิดแค่ไหนก็ให้อภัยได้เสมอ

     “สิ่งดีๆ ที่แพททำในวันนี้ พ่อไม่เคยเอามาทดแทนกับเรื่องในอดีต แต่ว่าลึกๆ แล้วเรื่องคดีพ่อก็เครียดเหมือนกัน แต่ว่ามันมีเหตุและมีปัจจัยให้เป็นไปอย่างนั้น เราจะมัวแต่คิดมากไม่ได้ ในเมื่ออยู่ในนั้นเขาควบคุมตัวเองไม่ให้เครียด เราก็ไม่เครียดไปด้วย ส่วนเรื่องผิดหวัง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วแหละ เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถที่จะพูดออกไปได้ เพราะเท่ากับไปซ้ำเติมเขา พ่อจะระวังอย่างมากเลย จะไม่พูดคำนี้”

     “ธรรมชาติของพ่อทุกคนก็รู้สึกเสียใจทุกคนนั่นแหละ แต่จะให้กำลังใจเขาตลอด ไม่ซ้ำเติมเขา ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง พ่อจะให้กำลังใจเขา ไม่ทิ้งเขา เขาประสบปัญหาในชีวิตอย่างนั้นเนี่ย ถ้าเราไปทิ้งเขามันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ตั้งแต่เขาติดมาพ่อไม่เคยพลาดเยี่ยมเขาเลย อย่างน้อยอาทิตย์ละหน (เรือนจำอนุญาตให้เยี่ยมได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง) ต้องคอยให้กำลังใจเขาตลอด ไม่อย่างนั้นเขาจะตกไปอยู่ในสังคมในนั้น ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำให้เขารู้สึกว่า มีคนแคร์เขานะ พ่อจะบอกเขาตลอดว่าอย่าไปยุ่งกับสิ่งเลวร้ายในนั้น”

     “พ่อจะคอยให้กำลังใจเขา จะบอกรักเขาทุกอาทิตย์ เขาก็จะบอกรักพ่อทุกอาทิตย์ ถ้ามีโอกาสกอดกันได้ก็กอดกัน จะให้ความรู้สึกดีๆ กับเขา ว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งเขานะ ครอบครัวไม่ได้ทอดทิ้ง และเราก็ทำอย่างนี้มาตลอด กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เฉพาะแพทอย่างเดียวนะ ครอบครัวอื่นถ้าประสบเหมือนเราก็ต้องให้กำลังใจ มันมีโอกาสผิดพลาดด้วยกันทุกคนนั่นแหละ อย่าไปซ้ำเติมเขาว่าทำอย่างนี้มันไม่ดีนะ มันเลวนี่ เด็กก็จะยิ่งเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่เลย และประชดตัวเองไปในทางที่ไม่ดีไปเลยก็ได้”

     “สิ่งหนึ่งที่พ่อรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นก็คือ เราปรึกษากันได้ทุกเรื่อง เราเปิดใจกัน แล้วเขาก็มีความสุขในจุดนี้ไม่ปิดบังความรู้สึก ถ้าเขาขอสิ่งของที่เราไม่สามารถหาให้ได้ เราก็ต้องอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง เขาก็จะเข้าใจ บอกไม่เป็นไรแพทรอได้ ก็ไม่กดดันด้วยกันทั้งคู่ แต่แพทก็ไม่ได้ขออะไรมากมายหรอก นอกจากสีวาดรูป กระดาษวาดรูป สายกีตาร์ บางครั้งมันก็ช้าไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ถึงจะหาให้เขาได้”

     “พ่อหมดห่วงที่เห็นเขาโตขึ้นมาก มีความรับผิดชอบขึ้นมาก อยู่ในนั้นเขาจะช่วยเหลือและทำทุกอย่าง ก็จะเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไปด้วย เขาจะระวังตัวกับเพื่อนรอบข้างเขาเหมือนกัน เขาจะเลือกคบคน เคยปรึกษาและมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ พ่อก็เบาใจไปได้บ้าง เพราะเขาสามารถแกร่งอยู่ในนั้นได้ โดยไม่ไปยุ่งสิ่งที่ผิดกฎในนั้นเลย”

     “ตอนเข้าไปใหม่ๆ มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาจำจนวันนี้ ปกติแพทจะชอบวาดรูป และในนั้นเขามีกฎว่าห้ามสัก แพทก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปวาดรูปบนลำตัวของเพื่อนนักโทษคนหนึ่ง แล้วคนนั้นก็เอารูปที่แพทวาดไปสัก ซึ่งมันผิดกฎ พอทางกรมราชทัณฑ์รู้ เขาก็โยงมาหาแพทด้วย โดนงดเยี่ยมไป 2 เดือน ทีนี้เลยไม่ยุ่งกับใครเลย เขาบอกจำไปจนตาย คือเขาไม่รู้ว่าเพื่อนจะเอารูปที่วาดให้ไปสัก เพียงแค่เขาอยากจะโชว์ ว่าฝีมือวาดรูปเขาเป็นยังไง เพราะชอบวาดรูปอยู่แล้ว”

     ระยะเวลากว่า 5 ปีที่ลูกชายถูกจองจำ แบ่งแยกได้แค่ร่างกายที่ห่างกัน แต่ความรักความผูกพัน คุณพ่อบอกจากก้นบึ้งของหัวใจว่า ไม่เคยลดน้อยถอยลงเลย


     “ไม่เลือนรางเลย ลักษณะพ่อรักลูกนี่จะไม่เหมือนผู้หญิงรักผู้ชายนะ มันเป็นสายเลือดของเรา เราสามารถดูแลเขาให้ดีที่สุดได้ เขามีความสุข เราก็มีความสุขเท่านั้น เขาไม่เคยมาร้องไห้ ไม่เคยเลย นอกจากตาแดงๆ เท่านั้นแหละ วันที่พ่อไปเยี่ยมเขาวันแรก คือตัวเขาสำนึกผิด แต่ไม่เคยร้องไห้อ่อนแอให้เราเป็นห่วง และพ่อก็ไม่เคยไปประณามเขา หรือพูดให้เสียน้ำใจ”

     “ตั้งแต่โตมาพ่อไม่เคยตีเลยสักครั้ง ในครอบครัวของเรา เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ก็จะสั่งสอนกันไป พูดกันด้วยความเข้าใจ เพียงแต่ที่เขาพลาดไปคราวนั้น เพราะเขาออกจากบ้านไป ห่างจากเราไป ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดเราเพราะเหตุผลที่เขาต้องการเล่นดนตรีที่เขารัก ก็เตลิดไปช่วงนั้น พ่อมานั่งคิดย้อนหลังไป สิ่งเหล่านั้นที่มันเกิดขึ้นมันไม่ถูกต้อง ที่พ่อปล่อยเขาไปใช้ชีวิตเอง เพราะเขาก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะไปอยู่ข้างนอก สมัยนี้กับดักชีวิตค่อนข้างเยอะ”

     “แต่ไม่คิดโทษใครนะ ก็ปล่อยให้มันว่างเปล่าไปดีกว่า โทษไปก็เท่านั้นแหละ แต่สมัยที่โดนแรกๆ พ่อก็โทษเหมือนกันนะ โทษตัวเองโทษสิ่งแวดล้อม เราให้วัคซีนเขาไม่เต็มที่ แล้วปล่อยเขาไปสู่โลกภายนอกเร็วไปรึเปล่าในจุดนี้ ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องเขาขอโทษเราบ่อยมาก ขอโทษตลอด แต่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่คิดจะไปต่อว่าเขา เราเข้าใจกัน มองตาก็รู้ว่าลูกสำนึกแล้ว เราก็ไม่ซ้ำเติมเขา”

     ได้ฟังเรื่องราวของ "แพท" และ "พ่อ" แล้ว ทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเองเลยนะคะว่า ถ้าเราหลงเดินในทางที่ผิด ไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่จะเสียใจแต่ผู้ชายที่รักเรามากที่สุดอย่าง "พ่อ" จะเสียใจมากกว่าเราเป็นร้อยเท่าพันเท่า ... เราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นใช่มั๊ยคะ? สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำให้พ่อได้ คือการที่เรารักตัวเองและดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสม แค่นันเราก็ทำให้พ่อมีความสุขได้แล้วล่ะค่ะ


พี่เหมี่ยวขอขอบคุณ : ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์ค่ะ

พี่เหมี่ยว
พี่เหมี่ยว - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ผู้หญิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

13 ความคิดเห็น

ขวาน 8 ธ.ค. 51 14:36 น. 1
สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง

ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าคนนั้นจะปรับตัวหรือไม่
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
aden_sk Member 8 ธ.ค. 51 15:22 น. 4
รู้ว่าพลาดถึงยากจะแก้ไข แต่เราก็สามารเอามาเป็นประสบการณ์สอนตัวเองได้ ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญ ถ้าเราไม่จมปรักกับอดีตที่เลวร้าย เราก็อยู่ได้อย่างมีความสุขด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณพ่อ และแพทนะคะ สู้ๆค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เด็กโตแล้ว 8 ธ.ค. 51 20:46 น. 7
อยากร้องไห้
คนดีอย่างนี้ น่าจะให้โอกาสออกมาใช้ชีวิตข้างนอกนะค่ะ
ที่ลูกนักการเมืองบางคนทำร้ายแรงกว่านี้ยังหนีความผิดได้เลย
เฮ้อ กฏหมายไทย

เป็นกำลังใจให้พี่แพทค่ะ
พี่เยี่ยมยอดมากเลย
คนทำผิดแล้วสำนึกได้ ใครๆก็ให้อภัย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พี่แพทสู้ๆ 9 ธ.ค. 51 19:46 น. 11
อ่านแล้วซึ้งมากเลย
คุณพ่อตอบดีมาก พออ่านแล้วเข้าใจว่าพ่อพี่แพทรักเค้าจริง ๆ
รักแบบสุด ๆ ด้วย

ขอให้พี่แพทได้ผ่อนโทษหรืออภัยโทษ
แล้วออกมากอดพ่อพี่แพทซักที

ถึงแม้จะพลาดมาแล้ว
แต่กลับตัวได้ ถือว่าดีมาก ๆๆๆๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แอมม่า จอมบงการ 21 พ.ย. 56 11:31 น. 13
เราอยากให้อภัยคนที่ทำชั่ว แล้วคิดได้ แต่เราจะไม่ให้อภัย คนเลวที่ยังเลว และยังสามารถยืดหน้า โดยไม่อายผู้คนอันนั้น น่าสมเพชมากกว่า คนที่เคยทำชั่วแล้วกลับใ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด