ไปดูมาแล้ว.. ม.3 ปี 4 เรารักนาย..

          ภาพยนตร์เรื่อง "ม.3 ปี 4 เรารักนาย.." เป็นเรื่องราวความรักของวัยรุ่นพี่น้อง 2 คู่ ระหว่าง "ธีร์" กับ "นัท" และ "จูน" กับ "แจน" ซึ่งทั้งคู่ต่างใช้ชีวิตอยู่คนละจังหวัด แต่แล้วเทคโนโลยีเข้าใจวัยรุ่นอย่าง MSN ก็นำพาให้พวกเขาได้มารู้จัก ในสถานการณ์ของคำว่า "รักแรก" และ "แรกรัก"

          "ธีร์" และ "นัท" สองพี่น้องวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตอยู่บนคอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ คนน้องชื่อ "นัท" เรียนอยู่ ม.3 เป็นคนร่าเริงตามประสาวัยรุ่น และมักใช้เวลาว่างคุย MSN กับเพื่อนๆ โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่จังหวัดภูเก็ต ขณะที่คนพี่ชื่อ "ธีร์" เป็นนักศึกษาปี 4 คณะทันตแพทยฯ หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่มีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ความสุขของเขา จนกระทั่งวันหนึ่งความสุข และความรักที่เขาต้องการจริงๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น เมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีบุคลิกที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน..

          "จูน" และ "แจน" พี่น้องสองสาวที่ใช้ชีวิตอยู่กับแม่อย่างอบอุ่นที่จังหวัดภูเก็ต คนพี่ชื่อ "จูน" เรียนมหาวิทยาลัยปี 4 เป็นสาวห้าวที่ต้องดูแลแม่ และน้องสาวแทนพ่อที่เสียชีวิตไป ด้านคนน้องชื่อ "แจน" สาวคอซอง ม.3 ที่มองโลกในแง่ดี และเป็นที่หวงแหนของพี่สาวมากที่สุด.. กิจกรรมยามว่างของแจนคือ การแชท MSN คุยกับเพื่อนๆ..

          ชีวิตที่เรียบง่ายของ "จูน" และ "แจน" ต้องเปลี่ยนไป.. เมื่อวันหนึ่ง "นัท" เพื่อนสนิททาง MSN ของ "แจน" ที่คุยกันมานานแต่ยังไม่เคยเห็นหน้า ได้แอบจู่โจมมาหาถึงบ้านที่ภูเก็ต โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า.. เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเข้าใจผิดให้กับ "ธีร์" อย่างจัง เพราะคิดว่าน้องชายตัวเองถูกเพื่อนหญิงทาง MSN หลอก.. จึงตัดสินใจรีบเดินทางไปยังภูเก็ตเพื่อรับน้องชายกลับทันที..

          แต่การเดินทางไปในครั้งนี้ กลับทำให้เขาได้พบกับ "จูน" หญิงสาวที่เขาเคยเจอ และคิดไว้เสมอว่าผู้หญิงคนนี้แหละคือ ความสุข และความรักที่เขาต้องการจริงๆ แต่การพบกันในครั้งนี้ "ธีร์" กลับกลายเป็นคนที่ดูแย่ที่สุดในสายตาของ "จูน" มิหนำซ้ำเขายังเป็นต้นเหตุให้เกิดรอยร้าวขึ้นระหว่าง "นัท" กับ "แจน" อีกด้วย..

          เรื่องราวความรักในสถานการณ์รักแรก [นัท - แจน] และแรกรัก [ธีร์ - จูน] ของทั้งสองคู่นี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร และจริงหรือไม่ที่ความรักเกิดขึ้นได้ แค่คุย MSN กันโดยไม่ต้องเห็นหน้า.. พี่ลาเต้ ชวนน้องๆ มาพิสูจน์ในภาพยนตร์เรื่องนี้กันครับ..

   คนดูเริ่มรักแรก.. ม.3 ปี 4 เรารักนาย..  

          ภาพยนตร์เรื่องนี้ พี่ลาเต้ ขอตอบแบบตรงๆ ว่าดูแล้วมีความสุขครับ.. ไม่มีคำหยาบคายจนเกลื่อนจอ ถึงแม้จะไม่ค่อยมีฉากให้หัวเราะแบบฮากระจายท้องแข็งซักเท่าไหร่.. แต่ตลอดเวลาที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้รับรองว่าทุกคนต้องอมยิ้มไปด้วยแน่นอน.. ช่วงเวลา 50 นาทีแรกจากเริ่มฉาย คนในโรงภาพยนตร์จะสนุกสนานไปกับบทสนทนาแชท Msn ของคู่ ม.3 ขณะเดียวกันก็จะต้องอดขำไม่ได้กับพฤติกรรมแปลกๆ ของคู่ ปี 4 ซึ่งถือเป็นการเปิดเรื่องที่น่าสนใจ และน่าติดตามมากๆ

          ด้านคู่พี่น้องฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า.. ออกมาชิงความน่ารักได้ทุกฉาก งานนี้ใครที่อยากเห็นสาว "บัว" สโรชา ในมาดห้าวๆ รับรองสมหวังแน่นอน.. ขณะที่ด้านคนน้องอย่าง "แจน" สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้น "เสียง" ที่เธอเปล่งออกมาได้สดใส จนซ่าแก้หูซะจริงๆ จนหลายคนอดไม่ได้ที่จะขำไปกับเสียงเธอ..

          อีกสิ่งหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ พี่ลาเต้ อยากให้น้องๆ จับตามองมากที่สุดนั้นก็คือ "ป้าจุ๊" จุรี โอศิริ อีกหนึ่งตัวละครที่มาช่วงสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก บอกได้คำเดียวว่าทุกครั้งที่มีตัวละคร "ป้าจุ๊" ออกมา คนดูทุกคนในโรงหนังก็เตรียมอ้าปากขำได้เลย..

          ถัดจากความสนุกในช่วงแรก จากนั้น 40 นาทีต่อมา เนื้อเรื่องของภาพยนตร์ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงของซีนอารมณ์ จังหวะนี้ พี่ลาเต้ อยากบอกว่าตัวละครในจอเป็นอารมณ์แบบไหน คนดูก็จะเป็นอารมณ์แบบนั้น ใครที่คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังรักวัยรุ่นธรรมดา ขอบอกว่าคิดผิด และควรจะคิดใหม่..

          เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้มีหลายฉากที่สะกดอารมณ์ สร้างความสะเทือนใจ พร้อมเรียกน้ำตาคนดูได้ไม่น้อย.. แต่จะเป็นฉากอะไรนั้น หากบอกไปก็คงหมดสนุกแน่ๆ.. น้องๆ ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองครับ..[พูดให้อยากแล้วจากไป] ด้านตอนจบของหนังเรื่องนี้ พี่ลาเต้ เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะคาดเดาถูกว่าจบยังไง.. พี่ลาเต้ เองเป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ กับเนื้อเรื่องฉากจบของภาพยนตร์เรื่องนี้..

   คนดูรักอย่างจัง.. ม.3 ปี 4 เรารักนาย..  

          ทางด้านตัวละคร ถึงจะประสบการณ์น้อยแต่ก็ไร้ปัญหา เพราะมีข้อดีอยู่ที่การเล่นเป็นธรรมชาติ.. โดยฝากเตือนใครที่จะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เตรียมสร้างหัวใจห้องที่ 5 ไว้ได้เลยครับ.. เพราะ พี่ลาเต้ เชื่อว่าหลังจากที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เสร็จแล้ว.. หลายๆ คนคงจะมีอาการเดียวกัน นั้นก็คือ กลับบ้านไปต้องไปเปิดค้นดูประวัติ และเซฟรูปนักแสดงของเรื่องนี้เก็บไว้แน่นอน..อิอิ..

           อีกสิ่งหนึ่งที่คงจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ นั้นก็คือ เพลงประกอบภาพยนตร์ ต้องบอกก่อนว่า พี่ลาเต้ เคยฟังเพลงนี้มาแล้วหลายครั้งก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอได้มาฟังจากบางฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว.. ขอบอกว่ามันรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกครับ.. ทั้งเพลงช้า และเพลงเร็ว มาถูกฉาก ถูกจังหวะมากๆ โดยเฉพาะฉากตอนก่อนจะจบที่มีเพลงช้าขึ้น อยากบอกว่าคนดูน้ำตาก็เริ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน..

           สุดท้ายนี้ ใครที่เผลอคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังรักวัยรุ่นธรรมดา ขอบอกว่าคิดผิด และน่าจะลองคิดใหม่ครับ.. เป็นหนังที่ดูเรื่อยๆ ภาพสวย ไม่ขำมาก แต่น่ารัก และจะอมยิ้มระหว่างดู.. และที่สำคัญยังมีความเซอร์ไพรส์ชิ้นโตที่รออยู่ในตอนจบ.. ถึงแม้คนดูจะไม่ใช่ ม.3 หรือ ปี 4 แต่ พี่ลาเต้ เชื่อว่าหากได้มาดูรับรองว่าต้องหลงรักหนังเรื่องนี้ แน่นอน..

            ปล. พี่ลาเต้ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "น้องป๊อป" และ "น้องแจน" นักแสดงนำของเรื่องนี้ ซึ่งน้องๆ ก็บอกมาว่าเป็นแฟนประจำของเว็บเด็กดีแห่งนี้เลย.. ยังไงหากน้องทั้ง 2 ได้มาอ่านบทความนี้ก็อย่าลืมมาทักทาย พี่ลาเต้ และเพื่อนๆ ชาวเด็กดีด้วยเน้อ..อิอิ..

   6 ฉากแนะนำสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้..  

             - ฉากบนรถ "จูน" ตะโกนบอก "แจน" ว่ายืนห่างๆ กันได้ไหม..