เตือนภัย : ระวังคนแปลกหน้าแอบอ้างเป็นแฟน

     อย่างที่เราทราบกันดีว่าปัจจุบันนี้ในสังคมมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่มากมาย บางครั้งก็มาในรูปแบบที่แนบเนียน สร้างภาพทำตัวให้ดูดีมีบุคลิกน่าเชื่อถือ หรือบางครั้งก็จะใช้วิธีการ "แกล้งเนียน" แอบอ้างเพื่อหลอกให้คนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ บางรายโชคดีสูญเสียแค่ทรัพย์สิน แต่สำหรับบางรายก็ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยก็มี

     อย่างเมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับภัยสังคมจากฟอร์เวิร์ดเมล โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าเป็นอันตรายมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องๆ ที่เป็นผู้หญิง

เรื่องราวมีอยู่ว่า ... มีนักศึกษาสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณบ่าย 3 โมง หลังจากที่เธอเรียนเสร็จ เธอก็ได้นัดกับกลุ่มเพื่อนเอาไว้ที่บริเวณป้ายรถเมล์แถวๆ หน้าราม      ระหว่างที่เธอกำลังนั่งรอเพื่อนอยู่นั้น ก็มีรถแท็กซี่มาจอดตรงป้ายรถเมล์ที่เธอนั่งอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งลงจากแท็กซี่คันนั้น เดินตรงมาหาเธอและถามทางว่าจะไปรัชดาต้องไปทางไหน ซึ่งนักศึกษาคนนั้นก็ได้บอกเส้นทางไปว่า ให้ลองนั่งรถตัดเข้าไปในซอยรามคำแหง 39 เพราะจะสามารถทะลุไปออกแถวๆ รัชดาได้

   และเมื่อเธอให้คำตอบเสร็จ ระหว่างที่เห็นกำลังหันหลังกลับไปอีกทางหนึ่ง ชายแปลกหน้าคนนั้นก็กระชากแขนเธอ พร้อมกับพยายามดึงให้เธอขึ้นรถแท็กซี่คันที่ชายแปลกหน้าคนนั้นนั่งมา

     นักศึกษาสาวตกใจมากเธอพยายามร้องบอกให้ชายคนนั้นปล่อยแขนเธอและร้องบอกให้คนที่อยู่แถวนั้นช่วย เธอพยายามบอกว่าเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ และพยายามต่อสู้ไม่ยอมไปกับชายแปลกหน้า ทำให้เธอถูกทำร้ายร่างกายโดยการชกและตบ ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาบ่าย 3 โมงกว่าๆ แถวๆ บริเวณนั้นมีคนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่กลับไม่มีใครเข้าไปห้ามหรือให้ความช่วยเหลือเธอเลย!!

     แต่ถึงแม้จะไม่มีใครให้ความช่วยเหลือเธอ เธอก็ตัดสินใจว่าจะไม่ยอมขึ้นรถไปกับชายแปลกหน้าคนนั้นเด็ดขาด และก็ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่มีตำรวจสายตรวจ 2 นาย ขี่มอเตอร์ผ่านมาพอดี เมื่อเห็นเหตุการณ์ผิดปกติดังกล่าว จึงได้เข้ามาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

และทันทีที่เห็นว่ามีตำรวจเห็นเหตุการณ์ชายแปลกหน้ารีบบอกกับตำรวจไปว่า นักศึกษาสาวเป็นแฟนของตนและเพิ่งทะเลาะกัน ตอนนี้ตนกำลังจะพากลับบ้าน เมื่อนักศึกษาสาวได้ยินแบบนั้นเธอจึงรีบตอบสวนกลับไปทันทีว่า เธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ และผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เข้ามาทำร้ายร่างกายเธอและพยายามที่จะฉุดเธอขึ้นไป บนรถ      เมื่อตำรวจเห็นว่าท่าทีของชายคนดังกล่าวมีพิรุธจึงได้จับผู้ชายคนนั้น พร้อมกับพาตัวนักศึกษาสาวไปที่โรงพัก และเมื่อทำการสอบสวนจึงพบว่าชายแปลกหน้าคนนี้เป็นมิจฉาชีพจริงๆ และเคยทำพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันนี้กับเหยื่อสาวมาแล้วหลายราย

     น้องๆ ลองคิดดูสิคะว่าถ้าโชคดีไม่เข้าข้างนักศึกษาสาวคนนี้ ถ้าคุณตำรวจไม่มาเจออะไรจะเกิดขึ้น ... เธออาถูกทำอนาจารหรือข่มขืน หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นเธออาจถูกจับไปค้าประเวณี

     เป็นเหตุการณ์ที่หลายคนคงคาดไม่ถึงแน่ๆ ว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางวันแสกๆ ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ... เมื่อมิจฉาชีพแฝงอยู่รอบๆ ตัวเราในรูปแบบที่เราไม่สามารถคาดเดาได้แบบนี้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ ถ้าไม่จำเป็นเราก็ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือกลางคืน หรือถ้าหากจำเป็นต้องไปคนเดียวก็ควรจะโทรบอกผู้ปกครองไว้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน และกำลังจะเดินทางไปไหน เพื่อที่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดถึงผู้ปกครองจะได้ให้เบาะแสกับตำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือเราได้ทันท่วงที