เคล็ดลับช้อปปิ้ง : จำวันซื้อสินค้าไว้ ใช้เรียกร้องสิทธิในการประกันสินค้า

     สินค้าหลายๆ อย่างที่มีราคาสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า , เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ , คอมพิวเตอร์ ฯ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสินค้าที่มีระยะเวลาการรับประกันการใช้งาน เมื่อผู้บริโภคซื้อไปใช้แล้ว ถ้าหากมีปัญหาขัดข้องในการใช้งานสามารถนำกลับมาเข้าศูนย์ซ่อมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ...

     แต่การที่เราจะใช้สิทธิ์ในการนำสินค้าที่อยู่ในประกันเข้าไปตรวขเช็คสภาพได้นั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานที่ประกันยังไม่หมดอายุด้วย ... มีผู้บริโภคหลายๆ คนมักละเลยที่จะจดจำว่าเราซื้อสินค้ามาวันไหน และสินค้านั้นจะหมดอายุในการประกันเมื่อไหร่ ดังนั้นเมื่อสินค้าเกิดการชำรุดเสียหายขึ้น ผู้บริโภคหลายคนจึงลังเลที่จะใช้สิทธิ์ในการเคลมประกัน เพราะไม่แน่ใจว่าสินค้าที่เราซื้อมานั้นประกันหมดอายุหรือยัง

     และจากการละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เองทำให้ผู้ประกอบการบางคนอาศัยช่องว่างตรงนี้ฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้ค่ะ



     มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับการนำสินค้าเข้าไปเคลมประกัน ... คุณเอ สาวใหญ่วัยกลางคน ซื้อเครื่องซักผ้ายี่ห้อดังจากห้างสรรพสินค้าหรูแห่งหนึ่งมา ต่อมาในวันที่ 26 สิงหาคม 2551 เครื่องซักผ้าที่เธอซื้อมานั้นเกิดอาการเกเรไม่สามารถใช้งานได้ คุณเอเลยนำใบรับประกันซึ่งมีอายุรับประกันระบุไว้ว่า 2 ปี ไปติดต่อที่ศูนย์บริการของเครื่องซักผ้ายี่ห้อดังกล่าว

     ซึ่งพนักงานศูนย์ก็ได้ทำการสอบถามรายละเอียดต่างๆ ของเครื่องแล้วก็แจ้งว่า เครื่องซักผ้านี้ซื้อมาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2548 ซึ่งตอนนี้หมดระยะเวลาในการรับประกันแล้ว ถ้าหากจะให้ศูนย์ซ่อมให้จะตอ้งเสียค่าบริการ 500 บาท และค่าอะไหล่อีกต่างหาก

     คุณเอเองก็ไม่แน่ใจว่าซื้อเครื่องซักผ้ามาวันไหน แต่ก็รู้สึกตะหงิดๆ ใจว่ายังไม่น่าจะหมดประกัน แต่ก็ตัดสินใจให้ช่างของศูนย์มาซ่อม

     หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ช่างของศูนย์บริการมาซ่อมเครื่องซักผ้าให้ที่บ้าน พบว่าแผงวงจรไฟฟ้าเสีย ต้องเปลี่ยนทั้งชุดเป็นราคา 5,000 รวมกับค่าบริการอีก 500 บาท รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5,500 บาท



     และหลังจากที่จ่ายค่าซ่อมไปครึ่งหมื่นคุณเอก็เริ่มฉุกคิดขึ้นได้ว่า อายุประกันของเครื่องซักผ้าไม่น่าหมดไว แต่ที่ไม่แน่ใจเพราะจำวันที่ซื้อไม่ได้ และในใบรับประกันก็ไม่ได้เขียนไว้ คุณเอเลยลองไปถามหลานชายที่ไปซื้อเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ด้วยกัน ซึ่งหลานชายก็ให้คำตอยว่าตอนที่ซื้อเครื่องซักผ้าเครื่องนี้ลูกของเขาเพิ่งเกิดไม่นาน ลูกเขาเกิดวันที่ 10 พฤษภาคม 2549 ดังนั้นที่พนังงานของศูนย์บริการแจ้งว่าซื้อมาตั้งแต่วันที่ 45 พฤษภาคม 2548 นั้นไม่น่าจะถูกต้อง

     ได้คำตอบจากหลานชายแล้ว คุณเอจึงลองไปเช็คข้อมูลการชำระเงินผ่านธนาคารที่ทำบัตรเครดิต เพราะว่าคุณเอใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน เมื่อธนาคารได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วปรากฏว่าคุณเอได้ทำการจ่ายเงินค่าเครื่องซักผ้านไปเมื่อวันที่ 9 กันยาบย 2549 ไม่ใช่วันที่ 15 พฤษภาคม 2548 อย่างที่พนักงานที่ศูนย์บริการบอก ...

       เมื่อได้หลักฐานยืนยันชัดเจนอย่างนี้แล้ว คุณเอจึงไม่รอช้า เธอรีบทำจดหมายทวงเงินคือนจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องซักผ้าโดยทันที่ ซึ่งเมื่อบริษัทดังกล่าวได้รับจดหมายและได้ดูหลักฐานแล้วก็หมดทางปฏิเสธจึง ยอมคืนเงินให้คุณเอแต่โดยดี

     จากกรณีดังกล่าวนี้จะเห็นได้ว่า หลานชายของคุณเอเป็นคนที่มีไหวพริบดี และมีความละเอียดในการจดจำสิ่งต่างๆ เพราะใช้วันเกิดของลูกตัวเองเป็นข้ออ้างอิงในการพิสูจน์หลักฐาน น้องๆ Dek-D ลองคิดดูสิคะว่าถ้าหากไม่มีหล้กฐานที่สามารถยืนยันได้ชัดเจนขนาดนี้ คุณเอต้องไม่มีทางได้ค่าซ่อมเครื่องซักผ้าคืนแน่ๆ

     พี่เหมี่ยวมีข้อแนะนำดีๆ ว่าถ้าหากกลัวว่าเราจะจำไม่ได้ล่ะก็ ให้เราจดรายละเอียดการซื้อสินค้าไว้ในใบรับประกันให้หมดทั้งวันที่ซื้อ วันหมดอายุประกัน ชื่อผู้ขายสินค้าหรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและให้ประทับตรายางร้านค้าไว้เป็นหลักฐาน จะได้ใช้สิทธิ์ประกันได้อย่างสมบูรณ์ค่ะ



     รู้แบบนี้แล้วทุกครั้งที่จะซื้อสินค้าที่มีการรับประกัน ไม่ว่าน้องๆ จะซื้อด้วยตัวเองหรือคุณพ่อคุณแม่ของน้องๆ ก็ตาม ก็จะต้องไม่ลืมใส่ใจกับรายละเอียดเรื่องระยะเวลาในการใช้สิทธิ์ประกันสินค้าด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าหากเกิดสินค้าชำรุดเสียหายจะได้ไม่เข้าเนื้อเรา เราเป็นผู้บริโภคเราจะต้องรู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเองด้วยนะคะ ^^







 
ข้อมูลอ้างอิง : หนังสือ "ยิ่งกว่าคู่มือซื้อของ" ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

ภาพประกอบ : http://www.numsai.com/เรื่องโดนใจ/วิธีการใช้เครื่องซักผ้าให้ประหยัดพลังงาน.html , http://www.consumerthai.org/main/index.php

พี่เหมี่ยว
พี่เหมี่ยว - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ผู้หญิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
wawa11 Member 30 มิ.ย. 55 05:05 น. 11

แค่เล่นเน็ตคุณก็รวย”"
แค่มีเวลาเล่นเน็ต 3-4 ชั่วโมง/วัน หรือมากกว่า แค่นี้ก็สร้างรายได้สัปดาห์ละ 2,000-15,000 บาท!!!
**เป็นการกระจายสื่อโฆษณาผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยมีเว็บไซต์และรายละเอียดของงานจัดเตรียมไว้ให้ รวมถึงการสอนทำงานใหฟรี**
**รับเฉพาะ15ปีขึ้นไป** สนใจทักมาอ่ะ!!!
http://beside-group.com/id.php?id=7

 

 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด