สวัสดีครับ เรื่องลี้ลับในสถาบัน และ พี่ลาเต้ มาแล้วครับ สัปดาห์นี้เชื่อว่าเดาไม่ยากว่าโรงเรียนอะไร เป็นเรื่องราวชวนขนหัวลุกที่เกิดขึ้นจริงกับสมาชิกวงดนตรีของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง จะเป็นยังไง ไปติดตามความหลอนกันได้เลย วันนี้เสนอในชื่อตอน "นางรำจากอีกด้านของกระจก"
เรื่องนี้มีอยู่ว่า ผมเป็นสมาชิกวงดนตรีสตริงของโรงเรียน (ย่านรามคำแหง แหม่ มีไม่เยอะหรอก) เมื่อใกล้จะถึงวันแข่งขัน พวกเราทุกคน ซึ่งมีอยู่สองวง รวมแล้วนับสิบคน จะต้องมานอนกันที่โรงเรียนในห้องดนตรีสากล ในวันเสาร์-อาทิตย์ อาจารย์จะอนุญาตให้พวกเรากลับบ้านได้ โดยจะต้องกลับมาที่โรงเรียนในเย็นวันอาทิตย์ ในระหว่างที่กำลังรอคนอื่นๆ มากันครบ จู่ๆ พี่ที่เป็นหัวหน้าวงโยฯ ก็เล่าเรื่องบางอย่างให้เราฟัง
เรื่องนี้มีอยู่ว่า ผมเป็นสมาชิกวงดนตรีสตริงของโรงเรียน (ย่านรามคำแหง แหม่ มีไม่เยอะหรอก) เมื่อใกล้จะถึงวันแข่งขัน พวกเราทุกคน ซึ่งมีอยู่สองวง รวมแล้วนับสิบคน จะต้องมานอนกันที่โรงเรียนในห้องดนตรีสากล ในวันเสาร์-อาทิตย์ อาจารย์จะอนุญาตให้พวกเรากลับบ้านได้ โดยจะต้องกลับมาที่โรงเรียนในเย็นวันอาทิตย์ ในระหว่างที่กำลังรอคนอื่นๆ มากันครบ จู่ๆ พี่ที่เป็นหัวหน้าวงโยฯ ก็เล่าเรื่องบางอย่างให้เราฟัง
พี่เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อพี่เขายังอยู่ ม.ต้น ตอนนั้นก็มีงานแข่งขัน และคนในวงก็ต้องมานอนที่โรงเรียนแบบนี้ ในช่วงใกล้วันแข่ง ทุกคนต่างซ้อมกันถึงตีหนึ่งตีสองทุกวัน ในคืนหนึ่ง เมื่อคนอื่นๆ หลับกันหมดแล้ว เหลือเพียงพี่เขาที่ยังซ้อมเบสอยู่คนเดียวในห้องดนตรี และเพื่อนของพี่เขาอีกคนที่ซ้อมแซกโซโฟนอยู่หน้าห้องนาฏศิลป์ ซึ่งอยู่ด้านล่างของห้องดนตรี ขณะที่กำลังซ้อมๆ อยู่นั้น อยู่ๆ พี่ที่เป่าแซกอยู่ด้านล่างก็ร้องตะโกนสุดเสียงด้วยความตกใจ แล้ววิ่งขึ้นมาที่ห้องดนตรีในสภาพเหมือนคนโดนผีหลอก คนอื่นๆ ในห้องรวมถึงอาจารย์ต่างพากันตื่นหมด
หลังจากใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่สักพักหนึ่ง พี่คนนั้นก็เริ่มเล่าทุกอย่างให้ฟังว่า ตอนที่เขากำลังจะเริ่มซ้อมนั้น เขาหันหน้าไปทางห้องศิลปะที่อยู่ตรงข้ามห้องนาฏศิลป์ โดยประตูห้องทั้งสองเป็นกระจกใสครึ่งบานบน ส่วนครึ่งบานล่างเป็นซี่อะลูมีเนียม ในห้องศิลปะนั้นมันมืดมากจนมองอะไรไม่เห็น พี่เขารู้สึกไม่ดี เลยตั้งแสตนวางโน้ตไว้อีกด้าน หันหน้าไปทางห้องนาฏศิลป์ ซึ่งยังพอมีแสงจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาจากช่องเหนือหน้าต่าง
ขณะที่กำลังเป่าแซกโซโฟนไปนั้น เขาเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ จากในห้อง ครั้งแรกเป็นเสียงเหมือนคนเอานิ้วครูดกับซี่อะลูมิเนียมหลายครั้ง เมื่อพี่เขาหยุดเป่า เสียงก็หายไป ต่อมา ขณะที่พี่เขาเป่าไปเรื่อยๆ นั้น มียอดชฎาค่อยๆ เอียงลงมาจากกำแพงด้านหนึ่งตรงขอบประตู เขาหยุดเป่า แล้วมันก็หายไป พี่เขาหลับตาลง พยายามคิดว่าคงตาฝาด เหลือโน้ตอีกเพียงสองบรรทัดก็จะจบเพลงแล้ว เขาจึงกลั้นใจลืมตาขึ้นเพื่อที่จะซ้อมต่อ
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าแทบทำให้พี่คนนั้นหยุดหายใจ เมื่อจู่ๆ ก็มีนางรำมาปรากฏตัวต่อหน้า เธอใส่ชุดตัวนางที่มีเครื่องประดับเต็มยศทั้งตัว สวมชฎาสูง ยืนตั้งวงในท่าที่เรามักจะได้เห็นในรูปจากหนังสือเรียน ผิวที่ขาวซีด แม้จะเห็นด้วยแสงไฟริบหรี่จากไฟทางเดิน และเอียงคอมองมาที่พี่เขาด้วยสายตาที่ไร้ชีวิต!! พี่เขากรีดร้องสุดเสียงก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นบันไดมาหาคนอื่นๆ โดยไม่คิดชีวิต
หลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด อาจารย์เขาก็บอกว่า นั่นคือครู ครูที่ทุกคนกราบไหว้กันทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มเรียนดนตรีและศิลปะแขนงต่างๆ ครูนั้นวนเวียนอยู่ในตึกนี้ คอยดูแลปกปักรักษาศิษย์ของท่าน อาจารย์บอกว่า ครูเขาคงเห็นพี่เขาซ้อมอยู่คนเดียวดึกๆ ดื่นๆ ไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน คงเป็นห่วง จึงมาปรากฏตนให้เห็น แล้วอาจารย์ก็สั่งให้ทุกคนไปกราบไหว้ขอขมาเศียรครูที่ตั้งอยู่ตรงหน้าห้องดนตรี แล้วก็ให้แยกย้ายกันไปนอน
ลาเต้ลิขิต : ส่งเรื่องลี้ลับในสถาบันของคุณมาได้ที่ latae@dek-d.com
17 ความคิดเห็น
จะใช่โรงเรียนที่เคยนั่งรถเมล์ผ่านบ่อยๆตอนไปเรียนที่รามเหรอเปล่านะ
โรงเรียนเทพลีลาใช่มั้ยถามจริง
อ่านแล้วโครตน่ากลัวววววว
ว้าย!!!!!!!!!!!!
กลัวเลยยยย ขนาดเราเป็นเด็กดนตรีไทยเองก็ยังกลัว
เราก็เล่นดนตรีไทย เล่างี้หวาดเสียว
หลอนมากกกกก น่ากลัว เมื่อก่อนก้อเคยเปนเด็กนาฏศิลป์เหมือนกันคะ
ลองไปฟังรายการห้องเล่าผีมาคะ โครตน่ากลัว
น่ากลัวอ่ะ
หลอนจริงว่าแต่รูปบนโต๊ะนั่นพี่ทีมงานถ่ายเอาฮาใช่ไหมคะ5555