แบบทดสอบความเครียด กับวิธีดูแลหากเริ่มซึมเศร้า
ภาพ: Melancholy (1891), Edvard Munch
เมื่อครั้งที่แล้วผู้เขียนนำเสนอสัญญาณนำไปสู่โรคทางสุขภาพจิตของวัยรุ่น พร้อมแนบแบบทดสอบภาวะซึมเศร้าจากกรมสุขภาพจิตไว้ด้วย และเพื่อต่อยอดในเรื่องเดียวกัน ผู้เขียนขอเสนอวิธีการดูแล และความแตกต่างของโรคทางสุขภาพจิตที่เกิดกับวัยรุ่น เพราะในโรคเดียวกันเกิดในผู้ใหญ่ หรือกับเด็กหรือวัยรุ่น ก็อาจมีลักษณะอาการและการรักษาก็แตกต่างกันได้ค่ะ
หากยังไม่ได้รับการวินัจฉัยจากจิตแพทย์โดยตรง อย่าเพิ่งตกใจไปก่อน อาจจะแค่เหนื่อยล้าเพราะงานหรือปัญหาช่วงนี้ หรือหากไม่แน่ใจว่าเครียดจริงอยู่หรือไม่ ก็ลองทำแบบทดสอบด้านข้างนี้ค่ะ และต้องหาวิธีคลายเครียดตามที่คุณถนัด ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา และปล่อยวางสักนิด
หากรู้สึกว่ามีอาการมาก ต้องไปหาหมอเพื่อความชัดเจน
ห้ามเดาเองหรือซื้อยากินเองค่ะ
การปฏิบัติของครอบครัว + พ่อแม่และคนใกล้ชิดต้องทำให้วัยรุ่นที่มีภาวะซึมเศร้าได้รับรู้ว่ายังมีคนอยู่ข้างเขา พร้อมให้กำลังใจเสมอ ถามสารทุกข์สุกดิบบ้าง เมื่อยามเขาแจ่มใส แต่ก็ไม่ตั้งคำถามซะจนลูกคิดว่ามองตัวเองว่าเป็นเด็ก (เป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นที่แม้ไม่มีภาวะซึมเศร้าหรือโรคใดๆ ก็ไม่ชอบให้ผู้ใหญ่มาถามจุกจิก)
+ ตอนแรกลูกอาจไม่ค่อยอยากพูดด้วย อย่าชิงน้อยใจไป ก่อน หรือโมโหไปเอง อย่ายอมแพ้ที่จะอยู่เคียงข้างแม้ลูกวัยรุ่นจะไม่ยอมเปิดปากพูดด้วยก็ตาม ให้ทำตัวพร้อมที่จะเป็นผู้ฟังของลูกตลอดเวลา
+ เมื่อลูกเริ่มเปิดใจพูด ต้องหลีกเลี่ยงการสอนหรือตัดสินการกระทำและความคิดใดๆ ของลูก สิ่งสำคัญค่อการเป็นผู้รับฟังที่ดี เพื่อให้ลูกวางใจที่จะพูดกับผุ้ใหญ่ในบ้านก่อน ต้องใส่ใจทุกคำพูดของลูกและ ระมัดระวังคำสั่งเสียสั่งลา
+ หลีกเลี่ยงการพูดถึงความรู้สึกเศร้า อารมณ์หดหู่ใดๆ หรือแสดงตนว่ากำลังเหนื่อยกับภาวะบ้านอึมครึมนี้ไม่ได้ เพราะจะยิ่งทำให้ลูกเครียดไปตามๆ กันมากยิ่งขึ้น
+ รับฟังอย่างตัดใจ ตอบรับว่าคุณกำลังรับรู้และเข้าใจรู้ เช่น ลูกคิดแบบนี้นี่เอง แม่ก็เคยคิดแบบนั้นนะ ลูกรู้สึกแบบไหนล่ะ แบบรู้สึกแบบนี้... เดี่ยวเรามาหาอะไรทำกันดีกว่าดีไหม
+ อย่าพูดบางคำที่ลักษณะเหมือนบอกปัด เช่น อย่าคิดมาก อย่าไปกังวลให้มาก เลิกคิดได้แล้ว ปล่อยวางเสียบ้าง ฯลฯ ในทำนองเดียวกันนี้ เพราะเหมือนเป็นการพูดตัดรำคาญ ผู้ป่วยภาวะซึมเศร้าอาจคิด(หนักกว่าเดิม)ว่าเขากำลังรบกวนคุณ ทำให้คุณลำบาก
|
แบบประเมินความเครียดตนเอง คู่มือคลายเครียดสำหรับวัยรุ่น ข้อมูลโรคซึมเศร้า ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี The Scream (1893), Edvard Munch Edvard Munch ศิลปินชาวนอร์เวย์ ผู้มีชีวิตขมขื่นและสุขภาพไม่ค่อยดีนักมาแต่แต่เด็ก เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มก็มีชีวิตรักที่ตึงเครียด ติดเหล้า ชีวิตมีแต่การเดินทางจากแห่งหนึ่งไปอีกแห่งหนึ่ง ภาพวาดของเขาในยุคต้นสะท้อนถึงความทุกข์ความปวดร้าวต่างๆ เมื่ออายุประมาณ 45ปี ก็มีอาการซึมเศร้า ผลงานของเขามีอิทธิพลต่อศิลปะแบบเอ็กเพรสชั่นนิสซึมในปัจจุบัน - คลังภาพของMunch
|
21 ความคิดเห็น
555 อยากให้มาอ่านจัง แต่คงเป็นไปไม่ได้
ลองคบเพื่อนใหม่ๆ ดูบ้าง ลองทำกิจกรรมกับเพื่อนแปลกๆ ดู
มันก็คลายเครียดได้เยอะขึ้นนะ ระหว่างปิดเทอมเราก็คบกับเพื่อนข้างบ้านเอา ^ ^
คือพอทำแบบทดสอบก็รู้สึกว่า เราก็ไม่ได้นั่งน้ำตาซึมตลอดเวลานี่นา..
แต่พอมาอ่านบทความนี้แล้วชักเริ่มแปลก ๆ สงสัยต้องไปพบจิตแพทย์ดูแล้ว
อาการที่รู้สึกชัดเจนเลยก็คือ
-อารมณ์เปลี่ยนง่าย อยากวีน โวยวายบ่อย ๆ
-ท้อแท้ง่าย บ่อน้ำตาตื้น =[]=
-ปวดท้องบ่อยมากกก เป็นอิด ๆ ออด ๆ จนซี้กับอ.ห้องพยาบาลแล้ว..
-อยากย้ายไปเรียนที่อื่น ไม่อยากอยู่กับอะไรเดิม ๆ
(ตั้งความหวังไว้ว่า ม.5 เราจะไปเรียนแลกเปลี่ยนด้วยล่ะ กำลังพยายามฝึกภาษา ^^)
ตอนนี้เราอยู่ม.3 ตัดสินใจจะย้ายโรงเรียนแล้วค่ะ ตอนแรกอยากไปอยู่จังหวัดอื่นด้วยซ้ำ
แต่คุณพ่อไม่ยอม เลยได้แค่ย้ายไปอีกโรงเรียนที่ไกลกว่าเดิมนิดหน่อย :)
ปล.เราเป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง แต่ไม่รู้เรียกว่าเก็บกดมั้ย 55555 ><
โรคซึมเศร้า มันคือโรค ไม่ใช่อาการทางอารมณ์ เขาถึงใช้คำว่าโรคกำกับนำหน้า
ดังนั้นจะให้เปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็วเหมือนการดีใจเสียใจแบบนี้ ขอบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้
ซึ่งโรคซึมเศร้ามันสามารถนำพาการฆ่าตัวตายได้
ด้วยเหตุนี้หากพบเห็นคนที่พยายามฆ่าตัวตาย มันไม่ได้แปลว่าเขาโง่หรือเขาคิดสั้น
หากให้คิดว่าเพราะเขามีอาการป่วยอยู่ เหมือนกับเป็นไข้ไม่สบายอะไรพวกนี้
ด้วยเหตุนี้ การจะไม่สนใจ ต่อว่า หรือไม่ดูแล ก็ยิ่งผลักให้เขาเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมากขึ้น
โดยการช่วยเหลือพวกเขา ไม่จำเป็นต้องพาไปหาหมอรักษา หรือพาไปกินยา
ขอแค่อยู่เฉย ๆ แล้วรับฟังเขา (รับฟังอย่างเดียวไม่ต้องไปพูดแนะนำหรือค้านอะไร)
ก็สามารถทำให้อาการของพวกเขาทุเลาลง และลดโอกาสที่จะคิดฆ่าตัวตายได้แล้ว
นอกจากนี้การให้ทานอาหารจนอิ่มท้องก็เป็นวิธีหนึ่งที่หลีกเลี่ยงการฆ่าตัวตายได้
เนื่องจากสมองต้องการสารอาหารที่พอเพียง หากขาดไปจะทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่
ซึ่งคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามักจะไม่อยากอาหาร ทำให้สมองขาดสารอาหารที่สมควร
และทำให้ไตร่ตรองอะไรได้ไม่ดีเท่าตอนที่สภาพร่างกายสมบูรณ์
ดังนั้นถ้าเจอคนที่ซึมเศร้าคิดอยากจะฆ่าตัวตายให้
1 รับฟังพวกเขาโดยไม่ขัดไม่ค้านหรือไปแนะนำอะไรที่ไม่จำเป็น
2 ให้พวกเขาทานอาหารที่ทานง่ายจนอิ่มท้อง
ถ้าทำสองอย่างนี้ได้ก็เพียงพอต่อการฉุดเขาออกมาไม่ให้คิดฆ่าตัวตายได้แล้วล่ะ
ตรงแทบทุกข้อเลย
ตัวเองน่าจะเป็นนะ แหะๆ ไม่รู้สิ
รู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการ ไม่เป็นที่ยอมรับ
อยากปรับเปลีย่นหากลุ่มเพื่อนใหม่ๆตลอด
ตอนม.ต้นน่าจะอาการหนักมากอะ ตอนนี้ย้ายรร.มาหนึ่งปีก็ยังอยากหากลุ่มใหม่ๆอยู่
ความรู้สึกคืออยากอยู่แบบเรื่อยๆ อยากเจอเพื่อนสไตล์เดียวกันประมาณนั้น - -
เหมือนร่อนๆไป ผูกพันกันด้วยใจไม่ใช่ระยะทางอะไรประมาณนั้น 555
เปนวัยรุ่นมันเหนื่อย
เพื่อนเราตรงแบบนี้ทุกข้อ
อาการหนักมาเลย
ไม่รุ้ว่าจะเป็นจริงไหม
แต่ไม่ชอบเข้ากลุ่มกับใครเลย
เวลาอยู่ในห้องแทบไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าอยู่ไหน
มีไม่มาเรียนแต่เห็นอยู่ร.ร.
ชอบทำตัวเก็บกดม๊ากก ชอบทำอะไรคนเดียวเสมอ><
มีโอกาสจะเป็นโรคนี้สูงไหมอ่ะ??
-ปวดหัว ปวดตาแบบไร้สาเหตุบ่อยๆ แบบที่ไปหาหมอก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
- เกิดอารมณ์อยากเหวี่ยงแบบสุดๆ
- ร้องไห้ง่ายมาก นิดๆหน่อยๆขอบตาเริ่มร้อนละ
- ไม่ค่อยอยากคุยกับใคร
แบบนี้...นับมั้ย?
อยากให้แม่มาอ่านบ้าง อยากให้เข้าใจบ้าง