10 เคล็ดลับง่ายๆ หายง่วงตอนอ่านหนังสือ

       น้องๆ ชาว Dek –D เครียดเรื่องอ่านหนังสือกันให้เข้าใจก็ยากแล้วนะ พี่เมษ์มาอ่านบอร์ด Dek –D แล้วเจอปัญหาหนักใจกว่า เพราะน้องๆ อยากอ่านหนังสือ แต่พอจับหนังสือขึ้นมาเพื่อจะอ่าน ตาก็พาลจะปิดทุกที  งั้นพี่เมษ์จะพาน้องๆมาเจอกับ เคล็ดลับง่ายๆ ,,, หายง่วงตอนอ่านหนังสือ จะได้อ่านได้อย่างสดชื่น กระปรี้กระเปร่าดีมั้ยละ

 

 
       จากหลายๆกระทู้ที่พี่เมษ์เข้าไปอ่านเจอมา เรามาดูปัญหากันก่อนว่าชาว Dek – D ของเราเค้าว่ายังไงกันบ้าง
 


  
       อื้อหือ ปัญหาใหญ่ แต่แก้ได้ พี่เมษ์มีเทคนิคมานำเสนอ มาดูเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะทำยังไงดีน้ออออ เวลาอ่านหนังสือจะได้ไม่ง่วง มีปัจจัยแค่ 2 อย่างเท่านั้น!!!!
       
       อย่างแรก คือ
ปัจจัยภายใน หรือ ร่างกาย
       จะอ่านหนังสือให้ได้ดี ร่างกายเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะร่างกายที่ดี จะทำให้น้องๆมีสุขภาพจิตดี สมองที่ปลอดโปร่ง จะทำให้ร่างกายมีสภาพสมบูรณ์ ทำตามนี้เลย
 
  1. กินอาหารดี ไม่ไดเอ็ต
      ถ้าน้องๆ กินอะไรก็ได้ง่ายๆ อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรีบเข้าเรียน หรือไดเอตช่วงเดียวกับที่จะอ่านหนังสือเนี่ย,,, รู้รึเปล่า มันพังมาก!!! 
      น้องๆ ควรทานอาหารที่ให้สารอาหารและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะสมองและร่างกายคนเราต้องการสารอาหารมากกว่าที่มีในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป,,, อย่างเช่นโปรตีนและไขมันบางอย่าง ที่นอกจากจะทำให้น้องๆรู้สึกมีกำลังแล้ว และยังช่วยทำให้สมาธิและความจดจำดีขึ้น
      พี่เมษ์แนะนำว่าให้น้องๆลองหาข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช ถั่วบางชนิดหรืออาหารที่มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ก็ช่วยบำรุงประสาทและช่วยให้สดชื่นได้ แล้วก็ยังมีพวกผัก ผลไม้ ที่จะทำให้น้องๆรู้สึกกระปรี้กระเปร่า อย่างผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ที่มีวิตตามินซีสูง อย่าง ส้ม ฝรั่ง เลมอน ฯลฯ ผักผลไม้เหล่านี้จะทำให้น้องๆรู้สึกเฟรช เหนื่อยน้อยลง ลดความเครียดและความกังวลได้ดีเลยหละ
      อ่อ แต่อย่าลืม กินให้พอดีๆ ไม่มากไม่น้อยไป เพราะกินน้อยเกินไปนะคะ เดี๋ยวจะหิวแล้วพาลไม่มีสมาธิ แต่ถ้ากินมากเกินไป หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนอีกนะจ๊ะ
  1. ออกกำลังกาย
       การออกกำลังกายนอกจากทำให้สุขภาพของน้องๆ แข็งแรงแล้ว ตลอดเวลาที่ออกกำลังกาย เลือดของน้องก็จะสูบฉีดได้ดี และสูบฉีดออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดีเช่นเดียวกัน ทำให้สมองได้รับเลือดและออกซิเจนอย่างเต็มที่ สมองจึงปลอดโปร่ง มีความจำดีขึ้น
  1. พักผ่อนให้เพียงพอ / ไม่อดนอน
      การนอนไม่พอ เป็นสาเหตุใหญ่สาเหตุหนึ่งของการง่วงเลยแหละ พี่เมษ์แนะนำพยายามนอนให้ถูกเวลา เพราะร่างกายของเรามีเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอน นั่นก็คือช่วง  22.00 - 24.00 น.  เพื่อให้ร่างกายได้เตรียมเตรียมความพร้อม โดยร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน Melathonin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้น้องๆรู้สึกอยากพักผ่อน หาว อยากนอน
      เมื่อเราหลับไปแล้ว ร่างกายของเราก็จะเริ่มซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เซลล์ต่างๆในร่างกาย จาก Growth hormones ที่หลั่งออกมา ซึ่งช่วงที่ Growth hormones หลั่งได้ดีที่สุดก็เวลา 02.00-04.00 น.ค่ะ ,, เมื่อร่างกายของน้องๆ ได้รับการซ่อมแซมและการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว จะทำให้น้องๆ รู้สึกตื่นตัว พร้อมสำหรับการทำความเข้าใจหนังสือที่อยากอ่านแล้วหละค่ะ
 
  1. ให้รางวัลตัวเองนอนตื่นสายบ้าง
       แน่นอนว่าทำอะไรด้วยความตั้งใจเยอะๆ มันก็มีเหนื่อยบ้าง ยิ่งถ้าน้องๆต้องตื่นมาไปโรงเรียน หรือไปเรียนพิเศษทุกเช้า มันก็มีแอบขี้เกียจกันบ้างใช่มั้ยละ 555 งั้นก็ให้รางวัลตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
      ลองอนุญาตให้ตัวเองได้ตื่นสายสักวันนึง แต่อย่าสายจนไปเรียนนะจ๊ะ ,,, เพราะการที่เราได้ทำตามใจตัวเองบ้าง ไม่ได้ทำให้เราขี้เกียจนะ แต่จะทำให้เรามีกำลังทำวันอื่นๆ ให้ดีมากขึ้นต่างหาก ^O^
 
  1. งีบหลับสัก 10 - 15 นาที
      ถ้าทำยังไงๆ ก็ยังง่วง พี่เมษ์แนะนำให้น้องๆ “นอน” ค่ะ แต่ไม่ได้ให้หลับแบบยาวนานนนะ อาจจะงีบหลับสัก 10 – 15 นาที เพื่อให้ร่างกายได้รีชาร์จสักหน่อย ให้สมองได้พักสักนิด พอตื่นขึ้นมาสมองก็จะปลอดโปร่ง ความจำดีขึ้น ที่สำคัญการที่น้องๆ ฝืนตัวไม่นอนทั้งที่ง่วงมากเนี่ย อาจจะทำให้น้องๆ เบลอ จำเนื้อหาสับสน งงไปเลยก็ได้นะ ดังนั้น ถ้าไมไหวก็งีบสักนิด ก่อนจะไปลุยกันต่อค่ะ

 
       เราอาจจะเตรียมความพร้อมในด้านร่างกายเต็มที่แล้ว แต่อาจจะยังรู้สึกว่า “พี่ค่ะ มันไม่พอ!!! ขอให้น้องๆดูปัจจัยต่อไป นั่นก็คือ ปัจจัยอย่างที่สอง ปัจจัยภายนอก หรือ “ตัวช่วย” พี่เมษ์มาแนะนำของกินแก้ง่วงสักนิด มีอะไรที่นิยมกินแก้ง่วงกันบ้างมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ
 
1. การกินวิตามิน อาหารเสริม
      เป็นวัยรุ่นไม่ง่ายนะคะ เพราะต้องใช้ร่างกายซะหนัก นอนดึก อ่านหนังสือมหาโหด ข้อมูลที่อ่านก็เยอะแยะเต็มไปหมด จนร่างกายอ่อนล้า เพลีย สมองก็ล้า ,,, การกินอาหารเสริม หรือวิตามินเสริมเข้าไปก็เป็นอีกทางเลือกที่ก็น่าสนใจนะคะ เพราะต้องยอมรับว่าในแต่ละวันเราใช้ร่างกายเกินขีดจำกัดอยู่บ่อยๆ แถมบางทียังไม่สามารถเลือกทานอาหารไปบำรุงให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมได้ครบถ้วน ดังนั้น การเติมวิตามินหรืออาหารเสริม เพื่อทดแทนส่วนที่เราอาจจะไม่สามารถเติมเต็มได้จากการทานอาหารในแต่ละวันก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ ซึ่งก็มีวิตามิน และอาหารเสริมหลายชนิดที่เป็นที่นิยม เช่น วิตามินซี วิตามินบี โอเมก้า3 แป๊ะก๊วย ธาตุเหล็ก หรืออาหารเสริมอย่างโปรตีน แต่ถ้าน้องๆ จะเลือกทานวิตามิน หรืออาหารเสริมต้องเลือกสถานที่ซื้อ และปรึกษาเภสัชกรด้วยนะคะ จะได้ปลอดภัย ให้ประโยชน์ค่ะ
 
2. ลูกอม หมากฝรั่ง
      ทั้งลูกอมรสมินต์ เปปเปอร์มินท์ รสชาติสดชื่นๆ หรือลูกอมรสผลไม้เปรี้ยวๆ ลูกอมหวานๆ และหมากฝรั่งสาระพัดชนิด หลากหลายรสชาติเนี่ยแหละตัวช่วยที่ง่ายและหลายคนใช้กัน ง่วงปุ๊บ แกะปั๊บ เข้าปาก จะอม จะเคี้ยวก็ตามสะดวก เต็มที่ค่ะ เพราะความหวาน น้ำตาล รสชาติสดชื่นๆ หรือรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ สามารถช่วยให้น้องๆ ตาสว่าง หายง่วงได้ผลนักแหละค่ะ เลือกตามที่ชอบกันได้เลยนะ
 
3. ดื่มน้ำ (มันเกี่ยวมาก!!)
      น้องๆรู้มั้ยค่ะ ว่าบางทีที่เราเพลีย ปวดหัว หรือเหนื่อยมากๆ เนี่ย ไม่ใช่เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือได้รับสารอาหารไม่ครบที่ร่างกายต้องการนะ แต่ “น้ำ” เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญด้วย เพราะในร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 70% !!!
      อาการการขาดน้ำ หรือ Dehydration จะส่งผลต่อระบบการสูบฉีดของเลือด เพราะเลือดของน้องๆที่ทานน้ำน้อยจะข้นขึ้น ทำให้ร่างกายสูบฉีดเลือดลำบาก หัวใจทำงานหนัก สมองอาจจะได้รับเลือดไปเลี้ยงลำบากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดหัวไงละค่ะ แล้วยังทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง แถมระบบในร่างกายอย่างปอด ไต ระบบการย่อยอาหาร ฯลฯ รวน ป่วยหนักได้เลยนะ ,,, > <
 
4. ขนมสาระพัดชนิด
       ไม่อยากง่วงต้องหาอะไรทำเพิ่มเติม ลองอ่านไปกินไปดูสิค่ะ เพลินดีนะ มารู้ตัวอีกที อุ๊ย อ่านจบละ (หรือขนมหมดหว่า ฮ่าๆๆๆ) แต่อยากจะเตือนว่า การทานขนมตอนอ่านหนังสือก็ดีอยู่หรอก ทำให้น้องเพลิดเพลิน อ่านได้เรื่อยๆ แต่ปัญหาคือ “ความอ้วน” ซี่งเป็นเอฟเฟคหลังกิน ถ้าไม่อยากอ้วน แนะนำให้หาขนมไขมันต่ำๆมาทาน ระวังเรื่องแคลอรี่ของขนมนิดนึงก็ช่วยให้เลี่ยงปัญหาโรคอ้วนที่จะตามมาได้แล้วค่ะ
 
5. เครื่องดื่มช่วยได้
       เป็นข้อที่ทุกคนกำลังลุ้นใช่มั้ยละ แน่นอนว่า ง๊วงง่วงแบบขนาดนี้ เครื่องดื่มแก้ง่วงที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นเครื่องดื่มผสม คาเฟอีน ใช่มั้ยละ เพราะเป็นตัวเลือกแรกสำหรับคนที่อยากให้ร่างกายตื่น
       คาเฟอีกส่งผลต่อสมองโดยเข้าไปเจ้าสารคาเฟอีนที่ผสมในเครื่องดื่มเนี่ยจะเข้าไปกระตุ้นสมอง ทำให้น้องรู้สึกตื่นตัว  ไม่ง่วงนอน กระปรี้กระเปร่า ดูเหมือนจะดีมากๆเลยใช่มั้ยคะแต่ผลเสียก็มีนะ เพราะอาจจะทำให้น้องๆ นอนไม่หลับ หรือนอนได้น้อยลง แถมหลับแล้วก็อาจจะหลับไม่สนิท ถ้ากินเยอะๆ จะเกิดอาหารมือสั่น รู้สึกกังวล ชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือการตอบสนองของร่างกายช้าลงก็ได้นะ > _<
       เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีกก็ได้แก่ กาแฟ ชา ช็อคโกแล็ต  โกโก้ น้ำอัดลมประเภทโคล่า  รวมทั้งเครื่องดื่มประเภทชูกำลัง ,,,ซึ่งน้องๆสามารถเลือกดื่มได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ
       หรือถ้าน้องๆ ไม่ชอบกินเครื่องดื่มเหล่านั้น พี่เมษ์ก็มีทางเลือกให้อีกนะ น้องๆลองหาเครื่องดื่มรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ มาดื่มค่ะ เช่น น้ำหวานเย็นๆ หรือ น้ำหวานผสมโซดาซ่าๆ หรืออาจจะมาแนวสุขภาพอย่างน้ำผัก น้ำผลไม้ น้ำสมุนไพรก็เวิร์คเลยนะ เพราะรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ เย็นสดชื่น ซ่าสะใจที่มาจากเครื่องดื่มพวกนี้ทำให้น้องรู้สึกสดชื่นขึ้น สามารถอ่านหนังสือต่อได้แน่นอน แต่พี่เมษ์มีทริคจะบอกว่า อย่ากินน้ำหวานที่หวานมากๆ เพราะแทนที่จะสดชื่น อาจจะง่วงกว่าเดิม เพราะเครื่องดื่มรสหวาน หรือของหวานเกินไปนั้น “น้ำตาล” จะทำให้ง่วงนอนเพราะเข้าไปแย่งวินามินบีไปจากร่างกายของเรา ซึ่งการที่ร่างกายขาดแคลนวิตามินบีจะทำให้รู้สึกหมดแรง และรู้สึกง่วงนะ
       

      แถมให้อีกนิดว่า นอกจากเทคนิคทั้งหมดแล้ว น้องๆควรอ่านหนังสือในบรรยากาศที่เหมาะสม ไม่หนาวไป ไม่ร้อนไป และมีแสงสว่างเพียงพอ เพราะจะช่วยทำให้น้องๆง่วงน้อยลง ลองคิดดูว่าถ้าร้อนไป หรือหนาวไป ง่วงแน่นอน และถ้าไฟจะสลัวๆแล้วละละก็ ,,,บรรยากาศชวนฝันเลยนะ 555

       เอาหละค่ะน้องๆ พี่เมษ์ขนเทคนิดมาฝากกันแล้วแบบเต็มที่ ไม่มีกั๊ก ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ ได้ผลเป็นยังไงมาบอกพี่เมษ์ด้วย หรือ ถ้ามีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็คอมเม้นท์บอกไว้ได้เลยค่ะ ^_________^ ขอให้น้องๆชาว Dek – D ตั้งใจอ่านหนังสือ และประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้าค่ะ 

   

 
พี่เมษ์
พี่เมษ์ - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายการศึกษา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Cool74 Member 15 เม.ย. 57 19:26 น. 3

ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ด้วยครับ

"โมคคัลลานสูตร" มีช่วงหนึ่งกล่าวไว้(ขอใช้คำสามัญนะครับ)ประมาณว่าพระโมคคัลลานะ(สมัยยังไม่บรรลุอรหันต์)เกิดง่วงระหว่างศึกษาธรรม พระพุทธเจ้าจึงปรากฎกายต่อหน้าท่าน แล้วทรงแนะวิธีแก้ง่วงให้ 8 ขั้น

ขั้นแรก เมื่อมีสัญญาใดแล้ว ให้ทำสัญญานั้นให้มาก(แปลอย่าง่ายคือทำอะไรอยู่ก็อัดเข้าไป เร่งเข้าไปอีก)

ขั้นที่ 2 ถ้ายังไม่หาย ให้นึกถึงสิ่งที่ได้เรียนได้ฟังมา

ขั้นที่ 3 ถ้ายังไม่หาย ให้ท่องออกเสียงสิ่งที่ได้เรียนได้ฟังมา

ขั้นที่ 4 ถ้ายังไม่หาย ให้ดึงหู 2 ข้าง และเอามือลูบตามตัว

ขั้นที่ 5 ถ้ายังไม่หาย ให้ล้างหน้าล้างตา แล้วมองสิ่งต่างๆรอบตัว(เช่นดูดาว)

ขั้นที่ 6 ถ้ายังไม่หาย(ผมไม่ชัวร์นะครับแต่ตีความคร่าวๆได้ว่า) คิดเสียว่าเป็นเวลากลางวัน พร้อมด้วยความสดชื่นแจ่มใส

ขั้นที่ 7 ถ้ายังไม่หาย  ให้นอน แต่นอนโดยคิดว่าเป็นการนอนเพื่อพัก เพื่อแก้ง่วง เมื่อตื่นแล้วก็จะศึกษาต่อให้เป็นประโยชน์

เป็นเรื่องที่บางคนอาจจะมองข้ามไปในพระธรรม

แต่สำหรับผมมันได้ผลซะด้วยสิ!

0
กำลังโหลด
Ms. Kwon Member 15 เม.ย. 57 18:38 น. 2

เราลองมาหลายอย่างแล้วแหละ เราว่ากินขนมไปด้วยอ่านไปด้วยไม่ค่อยดีอ่ามันไม่เข้าหัวแถมอ้วนอีกพออิ่มๆเราก็จะง่วงและหลับในที่สุด -_- เราว่าที่เวิร์คสำหรับเราคือ พออ่านหนึ่งหน้าจบปุ๊ปเราจะปิดหนังสือแล้วพูดออกมาเหมือนอธิบายให้ตัวเองฟัง ถ้าทำได้ก็กลับไปอ่านหน้าต่อไป ถ้าไม่ได้ก็เเสดงว่ายังไม่เข้าใจ มันทำให้เราไม่ง่วงด้วยแต่ก็มีข้อเสียคือบางสถานที่เราก็ทำแบบนั้นไม่ได้เช่น ห้องสมุด ที่เวิร์คสำหรับเราคือตื่นมาเรากินกาแฟแบบเข้มสุดๆ แต่ไม่ใส่น้ำตาล นม อะไรนะเพราะเราว่าคาร์โบมันทำให้เราง่วงอ่ะ นอกจากจะไม่ง่วงแล้วมันเหมือนกระตุ้นให้เราแอคทีฟไม่เลื้อยด้วยอ่ะ แต่เราไม่อยากติดกาแฟเลย ฮือๆ

สำหรับเราเวลาท้องว่างนิดๆจะทำให้หัวแล่นอ่ะ 5555555 ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวมั้ย ส่วนใครชอบซาดิสม์ๆลองเคี้ยวมะนาวทั้งเปลือกดูนะ เราเคยทำ ตื่นจริง แต่มันแย่มากอ่ะ 5555555555555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Thunnyzz Member 17 เม.ย. 57 17:35 น. 10

สำหรับเทคนิคของเราที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ฟังนะ

ถ้าง่วง เราจะกินกาแฟอเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาลอ่ะ ไม่อ้วนแน่

กินแล้วสดชื่นหัวแล่นปรื้ดด ดีสำหรับการฟังเลกเชอร์เหมือนกันนะคะ จดได้ทุกคำพูดของอาจารย์เลย

(แต่อาจมีผลกระทบคือเข้าห้องน้ำบ่อยได้ เพราะคาเฟอีนจะไปเร่งการขับน้ำออกของร่างกาย แล้วอาจจะรบกวนการเรียนของเราได้บ้างนิดนึง เพราะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ)

ถ้าเราอ่านมากๆ อ่านนานๆ เพื่อนๆมีอาการปวดตากันหรือไม่คะ ถ้ามีแนะนำเลย เรากินวีต้าเบอร์รี่ (ขออนุญาตเอ่ยยี่ห้อนะคะ) แบบนอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว รสชาติของมันยังช่วยให้เราสดชื่นด้วย

นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ทานอาหารตามปกติ ง่วงก็ลุกไปล้างหน้า กินน้ำ เดินไปเดินมาแล้วมาอ่านต่อ ไม่ไหวจริงๆก็นอนซะ จบค่ะ

เขิลจุงเขิลจุงเขิลจุง

0
กำลังโหลด
MUK_MIKI Member 17 เม.ย. 57 17:42 น. 13

เรื่องการดื่มน้ำน้อยนี่ต้องขอบอกเลยว่ามีผลจริงๆค่ะ  เราต้องดื่มน้ำให้เยอะๆยิ่งก่อนเรียนคณิต หรือวิชาที่ต้องใช้สมองเยอะควรดื่มไปเลยอย่างน้อยครึ่งขวด เราทำประจำค่ะ ได้ผลดีด้วย

แล้วก้อย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆนะตั้งใจ

0
กำลังโหลด

45 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Ms. Kwon Member 15 เม.ย. 57 18:38 น. 2

เราลองมาหลายอย่างแล้วแหละ เราว่ากินขนมไปด้วยอ่านไปด้วยไม่ค่อยดีอ่ามันไม่เข้าหัวแถมอ้วนอีกพออิ่มๆเราก็จะง่วงและหลับในที่สุด -_- เราว่าที่เวิร์คสำหรับเราคือ พออ่านหนึ่งหน้าจบปุ๊ปเราจะปิดหนังสือแล้วพูดออกมาเหมือนอธิบายให้ตัวเองฟัง ถ้าทำได้ก็กลับไปอ่านหน้าต่อไป ถ้าไม่ได้ก็เเสดงว่ายังไม่เข้าใจ มันทำให้เราไม่ง่วงด้วยแต่ก็มีข้อเสียคือบางสถานที่เราก็ทำแบบนั้นไม่ได้เช่น ห้องสมุด ที่เวิร์คสำหรับเราคือตื่นมาเรากินกาแฟแบบเข้มสุดๆ แต่ไม่ใส่น้ำตาล นม อะไรนะเพราะเราว่าคาร์โบมันทำให้เราง่วงอ่ะ นอกจากจะไม่ง่วงแล้วมันเหมือนกระตุ้นให้เราแอคทีฟไม่เลื้อยด้วยอ่ะ แต่เราไม่อยากติดกาแฟเลย ฮือๆ

สำหรับเราเวลาท้องว่างนิดๆจะทำให้หัวแล่นอ่ะ 5555555 ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวมั้ย ส่วนใครชอบซาดิสม์ๆลองเคี้ยวมะนาวทั้งเปลือกดูนะ เราเคยทำ ตื่นจริง แต่มันแย่มากอ่ะ 5555555555555

0
กำลังโหลด
Cool74 Member 15 เม.ย. 57 19:26 น. 3

ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ด้วยครับ

"โมคคัลลานสูตร" มีช่วงหนึ่งกล่าวไว้(ขอใช้คำสามัญนะครับ)ประมาณว่าพระโมคคัลลานะ(สมัยยังไม่บรรลุอรหันต์)เกิดง่วงระหว่างศึกษาธรรม พระพุทธเจ้าจึงปรากฎกายต่อหน้าท่าน แล้วทรงแนะวิธีแก้ง่วงให้ 8 ขั้น

ขั้นแรก เมื่อมีสัญญาใดแล้ว ให้ทำสัญญานั้นให้มาก(แปลอย่าง่ายคือทำอะไรอยู่ก็อัดเข้าไป เร่งเข้าไปอีก)

ขั้นที่ 2 ถ้ายังไม่หาย ให้นึกถึงสิ่งที่ได้เรียนได้ฟังมา

ขั้นที่ 3 ถ้ายังไม่หาย ให้ท่องออกเสียงสิ่งที่ได้เรียนได้ฟังมา

ขั้นที่ 4 ถ้ายังไม่หาย ให้ดึงหู 2 ข้าง และเอามือลูบตามตัว

ขั้นที่ 5 ถ้ายังไม่หาย ให้ล้างหน้าล้างตา แล้วมองสิ่งต่างๆรอบตัว(เช่นดูดาว)

ขั้นที่ 6 ถ้ายังไม่หาย(ผมไม่ชัวร์นะครับแต่ตีความคร่าวๆได้ว่า) คิดเสียว่าเป็นเวลากลางวัน พร้อมด้วยความสดชื่นแจ่มใส

ขั้นที่ 7 ถ้ายังไม่หาย  ให้นอน แต่นอนโดยคิดว่าเป็นการนอนเพื่อพัก เพื่อแก้ง่วง เมื่อตื่นแล้วก็จะศึกษาต่อให้เป็นประโยชน์

เป็นเรื่องที่บางคนอาจจะมองข้ามไปในพระธรรม

แต่สำหรับผมมันได้ผลซะด้วยสิ!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
enun Member 17 เม.ย. 57 16:59 น. 8

มันมีอาหารเสริมช่วยซ่อมเเซมเซลล์อ่ะค่ะ พอดีเราทานอยู่ดีมากๆช่วยเรื่องการนอนหลับ บางทีอ่านหนังสือ ทำงานกลุ่มจนดึก ก็ทานยาตัวนี้ เวิร์กมากๆค่ะ ตื่นมาไม่เพลีย ยาตัวนี้ชื่อ        ฟาร์มาตอนค่ะ

0
กำลังโหลด
อิ่มอุ่น พรรณวดี Member 17 เม.ย. 57 18:57 น. 9-1
ไม่ค่อยได้ผลมากนะเราทำมันจะขี้เกียจอยากกลับไปเล่นมากกว่านะเราว่ากินกาแฟหรือลูกอมเปรี้ยวๆระหว่างอ่านน่าจะดีกว่านะยิ้ม
0
กำลังโหลด
Thunnyzz Member 17 เม.ย. 57 17:35 น. 10

สำหรับเทคนิคของเราที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ฟังนะ

ถ้าง่วง เราจะกินกาแฟอเมริกาโน่ไม่ใส่น้ำตาลอ่ะ ไม่อ้วนแน่

กินแล้วสดชื่นหัวแล่นปรื้ดด ดีสำหรับการฟังเลกเชอร์เหมือนกันนะคะ จดได้ทุกคำพูดของอาจารย์เลย

(แต่อาจมีผลกระทบคือเข้าห้องน้ำบ่อยได้ เพราะคาเฟอีนจะไปเร่งการขับน้ำออกของร่างกาย แล้วอาจจะรบกวนการเรียนของเราได้บ้างนิดนึง เพราะต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ)

ถ้าเราอ่านมากๆ อ่านนานๆ เพื่อนๆมีอาการปวดตากันหรือไม่คะ ถ้ามีแนะนำเลย เรากินวีต้าเบอร์รี่ (ขออนุญาตเอ่ยยี่ห้อนะคะ) แบบนอกจากจะช่วยบำรุงสายตาแล้ว รสชาติของมันยังช่วยให้เราสดชื่นด้วย

นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ทานอาหารตามปกติ ง่วงก็ลุกไปล้างหน้า กินน้ำ เดินไปเดินมาแล้วมาอ่านต่อ ไม่ไหวจริงๆก็นอนซะ จบค่ะ

เขิลจุงเขิลจุงเขิลจุง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Suppaiy Member 17 เม.ย. 57 17:40 น. 12

มีคนบอกว่ากิน นมร้อนๆ โกโก้ พวกนี้จะทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นค่ะ เขิลจุง

สำหรับเราเวลาอ่านจะจดจ่อ ตัดสิ่งรอบข้างใส่หูฟังกรอกเพลงดังๆเลยค่ะ แต่เดี๋ยวนี้อ่านหลังสือไม่ชอบฟังเพลงละ ฟังแล้วคึก ละเมอเต้น55555

0
กำลังโหลด
MUK_MIKI Member 17 เม.ย. 57 17:42 น. 13

เรื่องการดื่มน้ำน้อยนี่ต้องขอบอกเลยว่ามีผลจริงๆค่ะ  เราต้องดื่มน้ำให้เยอะๆยิ่งก่อนเรียนคณิต หรือวิชาที่ต้องใช้สมองเยอะควรดื่มไปเลยอย่างน้อยครึ่งขวด เราทำประจำค่ะ ได้ผลดีด้วย

แล้วก้อย่าลืมจิบน้ำบ่อยๆนะตั้งใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mothebestok Member 17 เม.ย. 57 18:26 น. 17

หนังสือคือยานอนหลับ...จริงๆ เขิลจุง

ขอบคุณค่ะ!!!! จะจำแล้วนำไปใช้

พี่เคยบอกว่าตื่นมาอ่านตอนตี5โอเคสุด แต่ไมเคยทำตามได้เลย 555 ตื่นไม่ไหววว หลับดีกว่า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ด.ญ.มโนเก่งครัช 18 เม.ย. 57 00:17 น. 20
เปลี่ยนสภาพแวดล้อมนะของเรา ยกตัวอย่างเช่น พอมาถึงที่ โรงเรียน อารมณ์อยากอ่านหนังสือพรุ่งปรี๊ดดด !! วางแผนในหัวเสร็จสรรพว่าต้องทำอะไรบ้างพอถึงบ้าน พอถึงบ้านเท่านั้นแหละ มันเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างเราและเตียงนอนชั้นเฟิร์สคลาส เป็นสมการ w = Mg และจบลงที่ ตัวเราตั้งฉาก คู่ขนานกับเตียงไปทันทีตามด้วยไอแพด พอด โฟน เป็นขโยง ตั้งสติก่อนสมาธิ แล้วเริม สตาร์ท ยกตัวอย่างของเราคือ เปิดเพลงที่เราฟังแล้วไม่รู้เรื่อง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ดับเสต็ป สากล ตามที่เราชอบ ให้ในหัวเรารู้สึกหนักแน่นไม่ใจลอย และเริมที่การชงโกโก้อุ่นค่ะ (ฮะ?) หรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ดื่มไปพลาง กินลูกอมฮอx รสมะนาวไป เปิดแอร์ด้วยนะ บ้านเรานี่ร้อนจริงจัง เดี๋ยวเครียด แล้วก็เริ่มลุย อย่าลืมตั้งนาฬิกาบริหารเวลาการพักผ่อนค่ะ (ฮะ?) ร่างกายต้องอิ่มเอิบตลอดเวลา ห้ามขาดอาหาร ขนม นม โกโก้ ลูกอม และแอร์ !! ถ้าเรามีสมาธิแล้วอ่านจดจ่อนานๆ เมื่อเงยหน้าออกจากหนังสือเท่านั้นแหละ ล้ามากกกกก ต้องนั่งวาดรูปเล่น ผ่อนคลายหัวสัก 15 นาที แล้วเริ่มต่ออะไรงี้ การเขียนก็ช่วยแก้ง่วงได้นะ อย่างเช่น เราอ่านบทที่ 1 ไปพร้อมไฮไลท์สิ่งที่เราจะเขียนจำเป็นในสมุดโน้ตไป พอจบบท ก็สลับมาเขียนสิ่งที่เราไฮไลท์อย่างมันมือ (ถ้าเป็นคนชอบจดนะ) --- สำหรับพวกวิชาประวัติศาสตร์ สังคม วิทยาศาสตร์ ไทย ไรงี้ แต่ถ้าเป็นวิชาวิเคราะห์พวกฟิสิกส์เราก็จะอ่าน และเข้าใจ แล้วค่อยบันทึกตามที่เราเข้าใจของจริงลงไป แต่ถ้าขี้เกียจวิเคราะห์ ไปเรียนพิเศษกับติวเตอร์ที่สอนสนุก ง่ายสุดละ อุๆ ['w' ] เป็นกำลังใจให้กับบุคคลที่ต้องอ่าน หนังสือไม่รุ้เรื่องนะครัชชชชช
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด