ช่วงเดือนนี้ (พฤศจิกายน 58) เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่! หลายคนอาจจะได้เจอการเปลี่ยนแปลงในเทอมใหม่ การปรับห้องเรียนใหม่ การเจอกิจกรรมใหม่ๆ ฯลฯ วัยรุ่นล้วนต้องเผชิญหน้ากับการปรับตัวและมีการตอบสนองต่อสังคมที่แตกต่างกัน คนที่อยู่ได้ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงก็มีความสุขกันไป แต่สำหรับบางคนอาจไปอยู่ในฐานะ "คนถูกรังแก"  



            แม้ว่าสาเหตุของการเป็นคนรังแกหรือกลายคนถูกรังแกจะมีหลายสาเหตุก็ตาม แต่การถูกรังแกมักเป็นปัญหามากกว่า เพราหากผู้ถูกรังแกแก้ไขปัญหาไม่ได้ อาจจบลงด้วยความรุนแรงและเศร้าใจ 
             ผู้เขียนมีคลิปจากสำนักโทรทัศน์ฝรั่ง ที่ทำคลิปเล่าเรื่องโดยจำลองสถานการณ์ให้เด็กน้อยสองคนที่ดูเป็นตัวแม่สวยเก๋ มานั่งพูดจาดูถูกทำร้ายจิตใจสาวน้อยตัวเล็กอีกคน หัวคลิปโปรยไว้แบบนี้ 

"เมื่อสาวน้อยถูกรังแก...กับสิ่งที่พวกเขาแสดงออก จะทำให้คุณอึ้ง" 



คลิปเปิดด้วยคำพูดทำร้ายจิตใ
 
"ถามจริง เธอมีเพื่อนบ้างปะ เพื่อนจริงๆ ไม่ใช้เพื่อนในจิตนาการหรือพ่อแม่เธออะ"


ระหว่างนั้นก็มีคนมานั่งมายืนรอรถสาธารณะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
และการทำร้ายพูดจาทำร้ายจิตใจสาวน้อยตัวเล็ก ยังคงดำเนินต่อไป เช่น
 

นี่เธอรู้ไหม (หน้าแย่อย่างเธอ) เธอควรต้องแต่งหน้าบ้างอะไรบ้างนะ  
รู้เปล่า ชั้นเรียนดนตรี ใครๆ ก็บอกว่าเสียงร้องเพลงของเธอยังกับหมูถูกเชือด!
รู้ตัวไหม นี่เธอมันตัวประหลาดมากเลยนะ  เธอไม่ควรพูดกับใครนะ 


            ตอนแรกแอบคิดว่า คนที่มารอรถในป้ายเดียวกัน คงไม่ค่อยสนใจอะไร เพราะมันก็เหมือนเด็กทะเลาะกัน ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย สงสัยจะไม่มีใครอยากยุ่ง แล้วคลิปจะจบแบบทุกคนที่เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์จำลองนี้เป็นคนใจร้ายมาก แต่เรื่องไม่เป็นแบบนั้นเลยค่ะ 


"นี่คิดว่าสิ่งที่พวกเธอทำมันตลกนักเหรอ?"
 
"ดูเหมือนพวกเธอมีอะไรดีๆ จะพูดนะ" พีคเบาๆ ขอแท็ก #ประชด 
(พูดในเชิงตำหนิทำนองว่า นี่คือไม่มีอะไรดีๆ จะพูดกันแล้วเหรอ)

"เธอไม่ควรทำร้ายจิตใจของใคร เพราะมันจะทำให้คนรู้สึกตัวเองไร้ค่า"

ผู้ใหญ่หลายคนบอกให้อีกฝ่ายหยุด ชวนขึ้นรถเมล์ และชวนมานั่งข้างๆ 
 

มานั่งนี่มาสาวน้อย (แล้วคุณลุงก็นำหีบเพลงออกมาเป่าให้ฟังด้วย)
 

และคลิปก็จบด้วยคำถามค่ะ 
ใครควรจะเป็นผู้หยุดการรังแกกลั่นแกล้งเหล่านี้? 
คำตอบ คือ พวกเราทุกคน! 

(ขอบคุณคลิปเรื่องราวจาก http://uptv.com/life/help-prevent-bullying-with-these-anti-bullying-tips-for-parents-teens-and-kids/ )

              สิ่งที่ต้องทำสำหรับคนที่เป็นผู้ถูกรังแกคือ  เริ่มต้นคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนอ่อนแอค่ะ ไม่ใช่แพะรับบาปของใคร และไม่ควรต้องถูกใครแกล้งด้วย ต้องบอกใครสักคนที่มีอำนาจในการจัดการค่ะ ผู้ใหญ่ที่เราไว้วางใจค่ะ   สำหรับคนที่เห็นคนอื่นกำลังถูกแกล้ง อย่าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราค่ะ ไม่มีใครควรโดนแกล้งทั้งนั้น ถ้าไม่กล้าเข้าไปช่วย ให้เรียกผู้ใหญ่โดยด่วนค่ะ 

                เรื่องตลกคือ ในโรงเรียนไทย ปัญหาการถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้งเป็นปัญหาใหญ่ที่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจมากนัก ทั้งๆ  ที่เด็กไทยทุกคนมีโอกาสจะเจอ แต่น้อยนักที่สังคมโรงเรียนไทยจะเข้าใจและแก้ไขมัน ยกเว้นตัวเด็กจะเข้มแข็งและผ่านมันไปด้วยตัวเองค่ะ แต่เมืองนอกเขาจริงจังกับเรื่องแบบนี้มาก มีเดือนแห่งการป้องกันการถูกรังแก หรือ National Bullying Prevention Month ค่ะ ตรงกับเดือนตุลาคม แต่เมืองไทยส่วนใหญ่ปิดเทอมพอดี โอกาสการตระหนักตามวาระถึงเรื่องนี้จะลดลงพอดีเช่นกัน หรืออาจเพราะผู้ใหญ่ หรือหลายคนที่เป็นวัยรุ่นตอนปลายๆ แล้ว ล้วนคิดว่าการรังแกแกล้งกันในโรงเรียนของเด็กๆ เป็นแค่เรื่องเด็กๆ เรื่องเล็กน้อยกันเท่านั้นคะ? 


​          
อ่านเพิ่มเติมพร้อมคำแนะนำ สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ค่ะ

           

 
         * บทสนทนาในคลิปแปลคร่าวๆ  เพื่ออรรถรสในความเข้าใจ และไม่ได้เรียงลำดับภาพเนื้อหาตามคลิปเป๊ะๆ นะคะ 



แหล่งอ้างอิง, ภาพประกอบ:
    - TeensAgainstBullying.org ค่ะ
 
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ดวงดาวแห่งแสง Member 3 พ.ย. 58 18:42 น. 1

เราคือ 1 ในคนที่ถูกรังแก แล้วก็ต้องขอบอกว่า ไม่ได้กลัวการถูกรังแก แต่เราไม่ชอบมานั่งทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า สมัยนั้น 10 ขวบก็ถูกรังแกบ่อยๆ แต่เราก็เลี่ยงคนที่ชอบมารังแกเรา แต่ทางนั้นก็ยังรังแกบ่อยๆ เหมือนเดิม 

จนเราทนไม่ได้ ถ้าทางนั้นอยากให้เราเอาคืนเราก็เอาคืนได้ แต่เราไม่เอาคืนแบบไปตบกันหรอก เราเอามารยา ไปฟ้องครูเลย แล้วก็ทำตัวว่า ถูกรังแกต่อหน้าเพื่อนๆ ให้เพื่อนเป็นพยาน แล้วมารยาจนครู จัดการให้ หลังจากนั้นเราก็มีชีวิตที่สบายใจมากๆ 

เราไม่ได้รังเกียจการมีเพื่อน แต่เราไม่แคร์ถ้าจะไม่มีเพื่อนคบด้วย แม้แต่น้อย ต่อให้ถูกด่า รึ ถูกรังแกจนไม่มีเพื่อนเราก็ไม่สน เพราะเรารู้ตัวว่า เราทำอะไรอยู่ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ แต่ถ้ามาทำให้ ก็นะ เราแค่รอที่จะมีเพื่อนที่ดีก็เท่านั้นเอง

เด็กทุกคนมีวิธีการรับมือแตกต่างกัน สำหรับเราการรับมือก็ออกแนวให้เพื่อนคนอื่นช่วยปกป้องมากกว่ามั้ง แต่ถามว่าสู้ได้ไหม สู้ได้ แต่ไม่ทำ เลี่ยงที่จะทะเลาะก่อน ถ้าไม่ไหวก็ลุยตายไปข้าง

สำหรับน้องๆที่ถูกรังแก จงจำไว้ เราคือเรา เค้าเกลียดเรา รึ รังแกเราเพียงเพราะเรื่องโง่ๆ ถ้าเรายอมเค้าก็ได้ใจ แต่ถ้าไม่ยอมก็แตกไปข้าง มันก็แค่นั้น จงมั่นใจในตัวเองว่าสิ่งที่เราทำอยู่แล้วไม่ทำให้เดือดร้อนใค เป็นเรื่องถุกต้องนะ จงเข้มแข้งและมีจุดยืนในตัวเอง อย่ายอมแพ้ในทุกๆอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะหากเรายอมแพ้แม้กระทั้งการยอมถูกรังแก นับว่าทำให้เรากลายเป็นคนโง่ที่ไร้ค่าทันที  อย่ายอมแพ้นะ น้องๆ

เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

1
karin<f>e Community 6 พ.ย. 58 16:32 น. 1-1
สุดยอดดด จริงๆ การแก้ไขปัญหาของแต่ละคน ก็อยู่ที่ความพึงพอใจและวิธีการของแต่ละคนด้วยเนอะ แต่ที่แน่ๆ คือการยอมรับตัวเอง มีจุดยืนตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง นี่แหละสำคัญที่สุดเนอะ
0
กำลังโหลด
นาโนะเดส 8 พ.ย. 58 20:03 น. 7
เราก็เคยโดนแกล้งนะคะเพราะสนิทกับผู้ชายได้ดีมากก ชนิดว่าเพื่อนผู้หญิงมีไม่กี่คนเอง55555 ตอนประถมโดนแบนจากผู้หญิงทั้งห้องเพราะสนิทกับเพื่อนผู้ชายเราเคยไม่แคร์...ไปคบเพื่อนห้องอื่นแทน555 ช่วงม.ต้นก็อยู่กลุ่มเพื่อนผู้หญิง5คนที่ไปกันได้ แต่บางกลุ่มค่อนข้างหมั่นแบบบางวันนั่งๆอยู่มีโทรศัพท์เข้ามาด่าแล้ววางไป บางวันก็ชี้หน้าด่าเราเหมือนเขาตลกแต่เราไม่ตลกเลยเกือบไปตะบันหน้าเพื่อนคนนั้นดีที่เพื่อนผู้ชายมาล็อกตัวเอาไว้ก่อนตอนนั้นคือคิดอย่างเดียวว่าถ้าไม่เอาให้ปากแตกคา_ีนมันคงไม่จำ หลังจากนั้นคนทั้งห้องก็มองเราเปลี่ยนไปเป็น....'-เป็นผู้หญิงแน่เหรอ' คิดแล้วก็ฮาไม่หาค่ะ555555 ขำ
0
กำลังโหลด
SS_nightmare34 Member 8 พ.ย. 58 15:25 น. 5
เราก็เป็นคนที่เคยถูกรังแกเหมือนกัน ด้วยทางวาจาอ่ะนะ เราเข้าม.4 โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ๆ เลยปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เรามีนิสัยที่มาตั้งนานแล้วคือ ชอบคุยกับอาจารย์ หยอกๆเล่นๆตามประสาลูกศิษย์ ไม่คิดประจบอะไร แต่เพื่อนๆหลายคนก็แกล้งนั่นนี่ รวมถึงการไม่ทำตามเพื่อนในห้องอ่ะนะ ก็จะถูกเพื่อนด้วยกันประจานบ้างแหบะ ด่าเสียๆหายๆบ้างแหละ แต่เราไม่ตอบโต้ไง บางทีก็โดนเพื่อนคนอื่นใช้นู่นนี่ สั่งให้ทำนู่นนี่ บางทีก็พากันเมิน ไม่สนใจ ราวกับเราไม่มีตัวตนในห้อง เราโดนทุกคนพากันเมินหมด เราไม่มีเพื่อนเลยในเวลา 1 ปีตอนม.4 เข้าหาใครๆ เพื่อนในห้องที่ดูมีอิทธิพลก็มักจะบอกว่า อย่ายุ่งกับเรางั้นงี้นะ คือ...ที่พูดน่ะไม่ใช่ความจริงเล้ยยยยย T^T แต่เราก็พยายามทำให้เพื่อนๆในห้องยอมรับนะ ในบรรดาเด็กใหม่ที่ย้ายเข้าตอนม.4 เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ช้าที่สุดในห้องเลย แต่ถึงเราจะปรับตัวได้ ใช่ว่าเราจะไม่แก้แค้นนะ รอจบม.ปลายนะ แม่จะแฉให้หมด เก็บกดมาตั้ง 2 ปี 55555
1
prangnoi2 Member 13 พ.ย. 59 14:10 น. 5-1
ใช่ๆ โดนเหมือนกัน บางคนถึงกับฟ้องครู คือเราผิดไร ยังงงจนทุกวันนี้-....- ไม่มีเพื่อนของแท้มา3ปี เพิ่งได้มีเพื่อนจริงๆที่เห็นใจกันปีนี้แหละ
0
กำลังโหลด
ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าลืมศัพท์ 8 พ.ย. 58 19:01 น. 6
ถ้าพูกถึงถูกรังแก ครอบครัวเรามีพี่น้องอยู่ 2 คนคือ เราและพี่ชายคะ และอายุห่างกัน 7 ปี เราเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งเดียวกันคะ พอเข้าไปคนที่เผชิญก่อนเลยคือพี้ชายเราคะ พี่ชายเรามักโดนใส่ร้ายและโดนแกล้งหลายๆแบบอ่ะคะ และทั้งเราทั้งพี่เป็นพวกดีมาดีกลับร้ายมาร้ายกลับ และจิตใจอ่อนไหวง่ายคะ แต่พี่ชายเราเป็นคนที่ดื้อเงียบและติดเกมส์ หลังจากโดนมากๆเข้าผู้ใหญ่ในรร.ก็ช่วยไม่ได้เพราะว่ารู้นิสัยของพี่ชายพอสมควร พี่ชายเลยไม่ค่อยอยากไปโรงเรียนและมักโดดบ่อยๆหรือไปโรงเรียนสายแบบนั้นประจำ จนพี่ชายอยู่ม.ปลายรร.เดิมก็ย้ายรร.ออกมาแต่ต้องเรียนของปีก่อนหน้าใหม่ แต่ปัญหาเดิมๆก็ตามมาพี่เราเลยออกมาเรียนกสน.แทน ตอนนี้พี่ชายเรียนการอาชีพคะ ส่วนเราเข้าม.1 ปี56 ตอนนี้อยู่ม.3แล้วคะ นิสัยเราจะคล้ายๆกับพี่ชายคะ คืออ่อนไหวง่าย แล้วมาดีดีตอบมาร้ายร้ายตอบ แล้วชอบทำตัวเป็นเด็กอ่ะคะ ตอนเราเข้าม.1 เราโดนหาเรื่องเลยคะ แล้วคนที่เรามีเรื่องด้วยมันเป็นผู้ชาย(แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว) คือทะเลาะวิวาทกัน แต่ว่าเราค่อนข้างจะใจอ่อนคะไม่ชอบทำร้ายใครเท่าไหร่ เห็นเขาเจ็บแล้วเราเจ็บแทนอ่ะคะ เราเลยขู่เฉยๆ แต่ทันเอารองเท้ามาฟาดหัวเราเลยคะ ดีที่เป็นรองเท้าผ้าใบธรรมดา ไม่งั้นเราคงหัวแตกไปแล้วคะ เพื่อนเอาเราแยกออกจากกันแล้วไปบอกครูให้มาเคลียร์ พอเคลียร์ปุ๊ป ผลสรุป อาจารย์บอกให้เราปรับตัวคะ และตอนม.2เราก็มีเรื่องอีก แต่รอบนี้ไม่ฟ้องครูแล้วคะ รู้สึกว่าฟ้องไปก็เท่านั้น เราเลยเอาเรื่องไปบอกแม่ วันต่อมาแม่เรามาห้องปกครองเลยคะ เพราะว่าเรื่องทะเลาะวิวาทของเราคราวนั้นเราโดนคน 6 คนรุมเราคนเดียวคะ แต่เพราะเราเป็นนักวิ่งเราเลยวิ่งหลบพวกนี้ได้แล้วเราก็กลับบ้านไปบอกแม่เลย แม่เราก็ทำงานครูคะ แม่รู้ว่าเราไม่ชอบหาเรื่องใครอยู่แล้ว มาปุ๊ปพวกนั้นแอ๊บเลยคะมันบอกว่าแค่หยอก แต่หยอกของมันคือดึงหนังสือออกไปจากมือเราตอนนั้นเป็นหนังสือรร.แล้วมันเกือบขาด แล้วเราห่วงหนังสือมากไงคะ แล้วพวกนี้ก็มารุมกวนประสาทเรา พอเราว่ากลับมันก็ทำท่าจะมารุมคะ เราเดินไปแย่งหนังสือมาเก็บกระเป๋าออกจากจากห้อง(ห้องเป็นห้องชุมนุมนะคะแต่อ.ไม่อยู่)เกินไปจะลงบรรไดแต่โดนพวกนั้นวิ่งมาดักเลยวิ่งออกอีกทาง กลับมาที่ก้องปกครองคะ เราแอ๊บคืนเลยคะว่า แล้วทำไมไม่ยอก พสกเตงก็รู้ว่าเค้าซื่อบื้อจะตาย พวกนั้นมองหน้ากันก่อนออกไป จากนั้นพวกนั้นก็ไม่มีเรื่องกับเราอีกเลย ทีนี้ตอนม.3เทอมที่แล้วก็โดนด่าคะ ด่าแบบกวนมากเลยคะ คือพวกนั้นเป็นพวกว่สแต่เขาอิเหนาเป็นเองอ่ะคะ แล้วมันมาบอกว่า อย่างเราอ่ะไม่มีทางสอบเข้าหมอได้หรอก(คือเราอยากเป็นหมอไงคะ อยากเป็นมานานแล้ว) แล้วทันว่าเราจะตกวิทย์แน่ๆ แต่ว่าพวกมันไม่ดูตัวเองคะ ในห้องมีเราและเพื่อนอีกไม่กี่คนที่เก่งวิทย์ และด้วยความที่ว่า วิทย์เป็นวิชาที่เรารักื่สุไงคะ เลยเถียงกันคะ จนเพื่อนผู้ชายที่เป็นหัวหน้าห้องทันตีเราจนแขนแดงเลยคะ แล้วมันมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆคอยซ้ำเติมคะ ทั้งๆที่คนนี้ทำผิดมากกว่าเราหลายขุม แล้วเราไม่ชแบให้คนที่ด่อยกว่าหรือที่ทำผิดเยอะกว่าเรามาว่าไงคะตอนนั้นเส้นความอดทนขาดสะบั้นเลยคะ มือเราคะประทับไปบนหลังนางอย่างดังเลยคะ พวกมันสำออยกันใหญ่เลยคะ ตอนนั้นเราพูดใส่ทั้งน้ำตาเลยคะว่า " นี่ยังถือว่าเค้าใจดีอยู่นะ ถ้าแกทำแบบนี้อีก อย่าคิดว่าจะจบแค่ตบเลย เผลอๆแกอาจได้ไปนอนรพ.เลยดเวยซ้ำ อย่าคิดว่าเค้าไม่กล้านะ " ที่นี้เราสงบสติอารมณ์คะ อ.ก็อยู่ในห้องเพื่อนทุกคน ณ ตอนนั่นเป็นสัคคีพยานแห่งวีรกรรมครั้งนั้นเลยคะ พอออกจากคาบ เราเดินไปห้องสมุดก่อนเลยคะ ไปบ่นให้รุ่นพี่กับอ.ที่สนิทกันที่ห้องสมุดให้ฟัง รุ่นพี่เราบอกว่า " คนแบบนั้นไม่ใช่เพื่อนเราหรอก เพื่อนจริงๆมันจะไม่พูดแบบนี้ใส่เราหรอก และน้องจำไว้นะ มันดูถูกอะไรเรา เราต้องทำสิ่งที่ดีกว่าเกย์ทุบมันเลย เอาให้มันพูดแบบนั้นไม่ได้อีก เราต้องเหนือกว่ามันนะน้อง " จากนั้สเราตั้งปนิธานเลยคะ ว่าอะไรๆก็ตามเราต้องดีต้องเลิศกว่ามัน(ซึ่งเราเหนือกว่าฝั่งเพื่อนผู้หญิงในปัจจุบันอยู่แล้วคะ) ปิดเทอมปุ๊ป เราเอาหนังสือวิทย์มาสรุปก่อนเลยคะ จากนั้นก็แก้โจทย์คณิตพื้นล่วงหน้าซึ่งมันง่ายสำหรับเราอยู่แล้ว เรามาเบรกรอเพื่อนคนอื่นที่ตรีโกณฑ์คะ จากนั้นเราก็พักผ่อนในช่วงปิดเทอมตามสไตล์เราคะ เปิดเทอมมาเราเล่าเรื่องนี้ให้กลุ่มเพื่อนสนิทของเราและแม่ฟัง แม่มาคุยกับเพื่อนที่รร.เลยคะ ส่วนเพื่อนสนิทเราบอกว่า ช่วงกีฬาสีเราจะทำการถ่ายภาพแบล็คเมย์เพื่อนคนที่แกล้งเราคะ แล้วพอมันแกล้งเราอีกเราก็ค่อยๆแบล็คเมย์นางไปเพื่อให้มันรู้ว่า อย่างน้อยเราก็มีเพื่อนที่เราเชื่อใจได้และพึ่งพาได้ งานเหือบทุกงานเราแทบไม่ต้องพึ่งเพิ่อนห้องเดียวกันเลยคะ ถ้าเป็นทำป้ายหรืออะไรแบบนั้นเราจะหันไปหาเพื่อนสนิทเราเลยคะ ส่วน 2 คนนั้น เราพยายามตีตัวออกห่างคะ ถ้าไม่จำเป็นอย่าหวังเลยว่าเราจะคุยด้วย และปัจจุบันเรามีความสุขดีชีวิตแฮปปี้มากเลยคะ เวลาว่างๆก็ไปเล่นบ้านเพื่อนบ่อยๆหรือไปเที่ยว ไม่ก็ทำอะไรๆคนเดียว ปลีกวิเวกมาเลยคะ และตอนนี้ก็พยายามฟิตตัวเองมห้เข้าห้องกิ๊ฟตอนม.4ให้ได้คะ ถึงรุ่นพี่ที่อยู่ห้องกิ๊ฟจะบอกว่าอย่างเราไม่ต้องฟิตก็เข้าได้ก็เถอะ แต่เราเอาชัวร์มากกว่าคะ เลยตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ
0
กำลังโหลด
เเว่นน้อยยย 8 พ.ย. 58 14:06 น. 3
สมัยตอน 6 ขวบ ก็เคยไม่มีเพื่อนนะคะเพราะเพื่อนคบเพราะตัวเอง"ผมสั้น" เพราะึิดว่าตัวเองเป็นเหาเลยไม่กล้าคบเป็นเพื่อนกัน(เเต่จริงๆเเล้วตัวเองไม่ได้เป็นเหาค่ะ) เเต่ตัวเองก็ไม่ซีเรียสค่ะ(ตอนนั้นโลกส่วนตัวสูงมาก)เพราะเพื่อนคนนั้นมักมองโลกในเเง่ร้ายมากเกินไปหน่อย เเต่พอผ่านๆไปก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ตัวเองก็ไมีซีเรียสกับเรื่องอดีตที่ผ่านๆมา(เเบบเจ็บเเล้วไม่จำค่ะ) ก็อยากจะบอกว่าเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดค่ะ ตั้งใจ
0
กำลังโหลด

28 ความคิดเห็น

ดวงดาวแห่งแสง Member 3 พ.ย. 58 18:42 น. 1

เราคือ 1 ในคนที่ถูกรังแก แล้วก็ต้องขอบอกว่า ไม่ได้กลัวการถูกรังแก แต่เราไม่ชอบมานั่งทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า สมัยนั้น 10 ขวบก็ถูกรังแกบ่อยๆ แต่เราก็เลี่ยงคนที่ชอบมารังแกเรา แต่ทางนั้นก็ยังรังแกบ่อยๆ เหมือนเดิม 

จนเราทนไม่ได้ ถ้าทางนั้นอยากให้เราเอาคืนเราก็เอาคืนได้ แต่เราไม่เอาคืนแบบไปตบกันหรอก เราเอามารยา ไปฟ้องครูเลย แล้วก็ทำตัวว่า ถูกรังแกต่อหน้าเพื่อนๆ ให้เพื่อนเป็นพยาน แล้วมารยาจนครู จัดการให้ หลังจากนั้นเราก็มีชีวิตที่สบายใจมากๆ 

เราไม่ได้รังเกียจการมีเพื่อน แต่เราไม่แคร์ถ้าจะไม่มีเพื่อนคบด้วย แม้แต่น้อย ต่อให้ถูกด่า รึ ถูกรังแกจนไม่มีเพื่อนเราก็ไม่สน เพราะเรารู้ตัวว่า เราทำอะไรอยู่ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ แต่ถ้ามาทำให้ ก็นะ เราแค่รอที่จะมีเพื่อนที่ดีก็เท่านั้นเอง

เด็กทุกคนมีวิธีการรับมือแตกต่างกัน สำหรับเราการรับมือก็ออกแนวให้เพื่อนคนอื่นช่วยปกป้องมากกว่ามั้ง แต่ถามว่าสู้ได้ไหม สู้ได้ แต่ไม่ทำ เลี่ยงที่จะทะเลาะก่อน ถ้าไม่ไหวก็ลุยตายไปข้าง

สำหรับน้องๆที่ถูกรังแก จงจำไว้ เราคือเรา เค้าเกลียดเรา รึ รังแกเราเพียงเพราะเรื่องโง่ๆ ถ้าเรายอมเค้าก็ได้ใจ แต่ถ้าไม่ยอมก็แตกไปข้าง มันก็แค่นั้น จงมั่นใจในตัวเองว่าสิ่งที่เราทำอยู่แล้วไม่ทำให้เดือดร้อนใค เป็นเรื่องถุกต้องนะ จงเข้มแข้งและมีจุดยืนในตัวเอง อย่ายอมแพ้ในทุกๆอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะหากเรายอมแพ้แม้กระทั้งการยอมถูกรังแก นับว่าทำให้เรากลายเป็นคนโง่ที่ไร้ค่าทันที  อย่ายอมแพ้นะ น้องๆ

เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยม

1
karin<f>e Community 6 พ.ย. 58 16:32 น. 1-1
สุดยอดดด จริงๆ การแก้ไขปัญหาของแต่ละคน ก็อยู่ที่ความพึงพอใจและวิธีการของแต่ละคนด้วยเนอะ แต่ที่แน่ๆ คือการยอมรับตัวเอง มีจุดยืนตัวเอง เห็นคุณค่าตัวเอง นี่แหละสำคัญที่สุดเนอะ
0
กำลังโหลด
เด็กกัซ 8 พ.ย. 58 12:44 น. 2
สำหรับเรานะตอนเด็กๆเราก็โดนบ่อย แต่เราเลือกที่จะเลี่ยง ที่จะเงียบ แต่ถ้าเราเลี่ยงแล้วยังมาหาเรื่องเราอีก เราลุยลูกเดียว เจ็บช่างมัน ในเมื่อเราเลี่ยงแล้วมันเลี่ยงไม่ได้นิเนาะ
0
กำลังโหลด
เเว่นน้อยยย 8 พ.ย. 58 14:06 น. 3
สมัยตอน 6 ขวบ ก็เคยไม่มีเพื่อนนะคะเพราะเพื่อนคบเพราะตัวเอง"ผมสั้น" เพราะึิดว่าตัวเองเป็นเหาเลยไม่กล้าคบเป็นเพื่อนกัน(เเต่จริงๆเเล้วตัวเองไม่ได้เป็นเหาค่ะ) เเต่ตัวเองก็ไม่ซีเรียสค่ะ(ตอนนั้นโลกส่วนตัวสูงมาก)เพราะเพื่อนคนนั้นมักมองโลกในเเง่ร้ายมากเกินไปหน่อย เเต่พอผ่านๆไปก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ตัวเองก็ไมีซีเรียสกับเรื่องอดีตที่ผ่านๆมา(เเบบเจ็บเเล้วไม่จำค่ะ) ก็อยากจะบอกว่าเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดค่ะ ตั้งใจ
0
กำลังโหลด
SS_nightmare34 Member 8 พ.ย. 58 15:25 น. 4
เราก็เป็นคนที่เคยถูกรังแกเหมือนกัน ด้วยทางวาจาอ่ะนะ เราเข้าม.4 โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ๆ เลยปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เรามีนิสัยที่มาตั้งนานแล้วคือ ชอบคุยกับอาจารย์ หยอกๆเล่นๆตามประสาลูกศิษย์ ไม่คิดประจบอะไร แต่เพื่อนๆหลายคนก็แกล้งนั่นนี่ รวมถึงการไม่ทำตามเพื่อนในห้องอ่ะนะ ก็จะถูกเพื่อนด้วยกันประจานบ้างแหบะ ด่าเสียๆหายๆบ้างแหละ แต่เราไม่ตอบโต้ไง บางทีก็โดนเพื่อนคนอื่นใช้นู่นนี่ สั่งให้ทำนู่นนี่ บางทีก็พากันเมิน ไม่สนใจ ราวกับเราไม่มีตัวตนในห้อง เราโดนทุกคนพากันเมินหมด เราไม่มีเพื่อนเลยในเวลา 1 ปีตอนม.4 เข้าหาใครๆ เพื่อนในห้องที่ดูมีอิทธิพลก็มักจะบอกว่า อย่ายุ่งกับเรางั้นงี้นะ คือ...ที่พูดน่ะไม่ใช่ความจริงเล้ยยยยย T^T แต่เราก็พยายามทำให้เพื่อนๆในห้องยอมรับนะ ในบรรดาเด็กใหม่ที่ย้ายเข้าตอนม.4 เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ช้าที่สุดในห้องเลย แต่ถึงเราจะปรับตัวได้ ใช่ว่าเราจะไม่แก้แค้นนะ รอจบม.ปลายนะ แม่จะแฉให้หมด เก็บกดมาตั้ง 2 ปี 55555
0
กำลังโหลด
SS_nightmare34 Member 8 พ.ย. 58 15:25 น. 5
เราก็เป็นคนที่เคยถูกรังแกเหมือนกัน ด้วยทางวาจาอ่ะนะ เราเข้าม.4 โรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ๆ เลยปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เรามีนิสัยที่มาตั้งนานแล้วคือ ชอบคุยกับอาจารย์ หยอกๆเล่นๆตามประสาลูกศิษย์ ไม่คิดประจบอะไร แต่เพื่อนๆหลายคนก็แกล้งนั่นนี่ รวมถึงการไม่ทำตามเพื่อนในห้องอ่ะนะ ก็จะถูกเพื่อนด้วยกันประจานบ้างแหบะ ด่าเสียๆหายๆบ้างแหละ แต่เราไม่ตอบโต้ไง บางทีก็โดนเพื่อนคนอื่นใช้นู่นนี่ สั่งให้ทำนู่นนี่ บางทีก็พากันเมิน ไม่สนใจ ราวกับเราไม่มีตัวตนในห้อง เราโดนทุกคนพากันเมินหมด เราไม่มีเพื่อนเลยในเวลา 1 ปีตอนม.4 เข้าหาใครๆ เพื่อนในห้องที่ดูมีอิทธิพลก็มักจะบอกว่า อย่ายุ่งกับเรางั้นงี้นะ คือ...ที่พูดน่ะไม่ใช่ความจริงเล้ยยยยย T^T แต่เราก็พยายามทำให้เพื่อนๆในห้องยอมรับนะ ในบรรดาเด็กใหม่ที่ย้ายเข้าตอนม.4 เราเป็นคนที่ปรับตัวได้ช้าที่สุดในห้องเลย แต่ถึงเราจะปรับตัวได้ ใช่ว่าเราจะไม่แก้แค้นนะ รอจบม.ปลายนะ แม่จะแฉให้หมด เก็บกดมาตั้ง 2 ปี 55555
1
prangnoi2 Member 13 พ.ย. 59 14:10 น. 5-1
ใช่ๆ โดนเหมือนกัน บางคนถึงกับฟ้องครู คือเราผิดไร ยังงงจนทุกวันนี้-....- ไม่มีเพื่อนของแท้มา3ปี เพิ่งได้มีเพื่อนจริงๆที่เห็นใจกันปีนี้แหละ
0
กำลังโหลด
ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าลืมศัพท์ 8 พ.ย. 58 19:01 น. 6
ถ้าพูกถึงถูกรังแก ครอบครัวเรามีพี่น้องอยู่ 2 คนคือ เราและพี่ชายคะ และอายุห่างกัน 7 ปี เราเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งเดียวกันคะ พอเข้าไปคนที่เผชิญก่อนเลยคือพี้ชายเราคะ พี่ชายเรามักโดนใส่ร้ายและโดนแกล้งหลายๆแบบอ่ะคะ และทั้งเราทั้งพี่เป็นพวกดีมาดีกลับร้ายมาร้ายกลับ และจิตใจอ่อนไหวง่ายคะ แต่พี่ชายเราเป็นคนที่ดื้อเงียบและติดเกมส์ หลังจากโดนมากๆเข้าผู้ใหญ่ในรร.ก็ช่วยไม่ได้เพราะว่ารู้นิสัยของพี่ชายพอสมควร พี่ชายเลยไม่ค่อยอยากไปโรงเรียนและมักโดดบ่อยๆหรือไปโรงเรียนสายแบบนั้นประจำ จนพี่ชายอยู่ม.ปลายรร.เดิมก็ย้ายรร.ออกมาแต่ต้องเรียนของปีก่อนหน้าใหม่ แต่ปัญหาเดิมๆก็ตามมาพี่เราเลยออกมาเรียนกสน.แทน ตอนนี้พี่ชายเรียนการอาชีพคะ ส่วนเราเข้าม.1 ปี56 ตอนนี้อยู่ม.3แล้วคะ นิสัยเราจะคล้ายๆกับพี่ชายคะ คืออ่อนไหวง่าย แล้วมาดีดีตอบมาร้ายร้ายตอบ แล้วชอบทำตัวเป็นเด็กอ่ะคะ ตอนเราเข้าม.1 เราโดนหาเรื่องเลยคะ แล้วคนที่เรามีเรื่องด้วยมันเป็นผู้ชาย(แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว) คือทะเลาะวิวาทกัน แต่ว่าเราค่อนข้างจะใจอ่อนคะไม่ชอบทำร้ายใครเท่าไหร่ เห็นเขาเจ็บแล้วเราเจ็บแทนอ่ะคะ เราเลยขู่เฉยๆ แต่ทันเอารองเท้ามาฟาดหัวเราเลยคะ ดีที่เป็นรองเท้าผ้าใบธรรมดา ไม่งั้นเราคงหัวแตกไปแล้วคะ เพื่อนเอาเราแยกออกจากกันแล้วไปบอกครูให้มาเคลียร์ พอเคลียร์ปุ๊ป ผลสรุป อาจารย์บอกให้เราปรับตัวคะ และตอนม.2เราก็มีเรื่องอีก แต่รอบนี้ไม่ฟ้องครูแล้วคะ รู้สึกว่าฟ้องไปก็เท่านั้น เราเลยเอาเรื่องไปบอกแม่ วันต่อมาแม่เรามาห้องปกครองเลยคะ เพราะว่าเรื่องทะเลาะวิวาทของเราคราวนั้นเราโดนคน 6 คนรุมเราคนเดียวคะ แต่เพราะเราเป็นนักวิ่งเราเลยวิ่งหลบพวกนี้ได้แล้วเราก็กลับบ้านไปบอกแม่เลย แม่เราก็ทำงานครูคะ แม่รู้ว่าเราไม่ชอบหาเรื่องใครอยู่แล้ว มาปุ๊ปพวกนั้นแอ๊บเลยคะมันบอกว่าแค่หยอก แต่หยอกของมันคือดึงหนังสือออกไปจากมือเราตอนนั้นเป็นหนังสือรร.แล้วมันเกือบขาด แล้วเราห่วงหนังสือมากไงคะ แล้วพวกนี้ก็มารุมกวนประสาทเรา พอเราว่ากลับมันก็ทำท่าจะมารุมคะ เราเดินไปแย่งหนังสือมาเก็บกระเป๋าออกจากจากห้อง(ห้องเป็นห้องชุมนุมนะคะแต่อ.ไม่อยู่)เกินไปจะลงบรรไดแต่โดนพวกนั้นวิ่งมาดักเลยวิ่งออกอีกทาง กลับมาที่ก้องปกครองคะ เราแอ๊บคืนเลยคะว่า แล้วทำไมไม่ยอก พสกเตงก็รู้ว่าเค้าซื่อบื้อจะตาย พวกนั้นมองหน้ากันก่อนออกไป จากนั้นพวกนั้นก็ไม่มีเรื่องกับเราอีกเลย ทีนี้ตอนม.3เทอมที่แล้วก็โดนด่าคะ ด่าแบบกวนมากเลยคะ คือพวกนั้นเป็นพวกว่สแต่เขาอิเหนาเป็นเองอ่ะคะ แล้วมันมาบอกว่า อย่างเราอ่ะไม่มีทางสอบเข้าหมอได้หรอก(คือเราอยากเป็นหมอไงคะ อยากเป็นมานานแล้ว) แล้วทันว่าเราจะตกวิทย์แน่ๆ แต่ว่าพวกมันไม่ดูตัวเองคะ ในห้องมีเราและเพื่อนอีกไม่กี่คนที่เก่งวิทย์ และด้วยความที่ว่า วิทย์เป็นวิชาที่เรารักื่สุไงคะ เลยเถียงกันคะ จนเพื่อนผู้ชายที่เป็นหัวหน้าห้องทันตีเราจนแขนแดงเลยคะ แล้วมันมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆคอยซ้ำเติมคะ ทั้งๆที่คนนี้ทำผิดมากกว่าเราหลายขุม แล้วเราไม่ชแบให้คนที่ด่อยกว่าหรือที่ทำผิดเยอะกว่าเรามาว่าไงคะตอนนั้นเส้นความอดทนขาดสะบั้นเลยคะ มือเราคะประทับไปบนหลังนางอย่างดังเลยคะ พวกมันสำออยกันใหญ่เลยคะ ตอนนั้นเราพูดใส่ทั้งน้ำตาเลยคะว่า " นี่ยังถือว่าเค้าใจดีอยู่นะ ถ้าแกทำแบบนี้อีก อย่าคิดว่าจะจบแค่ตบเลย เผลอๆแกอาจได้ไปนอนรพ.เลยดเวยซ้ำ อย่าคิดว่าเค้าไม่กล้านะ " ที่นี้เราสงบสติอารมณ์คะ อ.ก็อยู่ในห้องเพื่อนทุกคน ณ ตอนนั่นเป็นสัคคีพยานแห่งวีรกรรมครั้งนั้นเลยคะ พอออกจากคาบ เราเดินไปห้องสมุดก่อนเลยคะ ไปบ่นให้รุ่นพี่กับอ.ที่สนิทกันที่ห้องสมุดให้ฟัง รุ่นพี่เราบอกว่า " คนแบบนั้นไม่ใช่เพื่อนเราหรอก เพื่อนจริงๆมันจะไม่พูดแบบนี้ใส่เราหรอก และน้องจำไว้นะ มันดูถูกอะไรเรา เราต้องทำสิ่งที่ดีกว่าเกย์ทุบมันเลย เอาให้มันพูดแบบนั้นไม่ได้อีก เราต้องเหนือกว่ามันนะน้อง " จากนั้สเราตั้งปนิธานเลยคะ ว่าอะไรๆก็ตามเราต้องดีต้องเลิศกว่ามัน(ซึ่งเราเหนือกว่าฝั่งเพื่อนผู้หญิงในปัจจุบันอยู่แล้วคะ) ปิดเทอมปุ๊ป เราเอาหนังสือวิทย์มาสรุปก่อนเลยคะ จากนั้นก็แก้โจทย์คณิตพื้นล่วงหน้าซึ่งมันง่ายสำหรับเราอยู่แล้ว เรามาเบรกรอเพื่อนคนอื่นที่ตรีโกณฑ์คะ จากนั้นเราก็พักผ่อนในช่วงปิดเทอมตามสไตล์เราคะ เปิดเทอมมาเราเล่าเรื่องนี้ให้กลุ่มเพื่อนสนิทของเราและแม่ฟัง แม่มาคุยกับเพื่อนที่รร.เลยคะ ส่วนเพื่อนสนิทเราบอกว่า ช่วงกีฬาสีเราจะทำการถ่ายภาพแบล็คเมย์เพื่อนคนที่แกล้งเราคะ แล้วพอมันแกล้งเราอีกเราก็ค่อยๆแบล็คเมย์นางไปเพื่อให้มันรู้ว่า อย่างน้อยเราก็มีเพื่อนที่เราเชื่อใจได้และพึ่งพาได้ งานเหือบทุกงานเราแทบไม่ต้องพึ่งเพิ่อนห้องเดียวกันเลยคะ ถ้าเป็นทำป้ายหรืออะไรแบบนั้นเราจะหันไปหาเพื่อนสนิทเราเลยคะ ส่วน 2 คนนั้น เราพยายามตีตัวออกห่างคะ ถ้าไม่จำเป็นอย่าหวังเลยว่าเราจะคุยด้วย และปัจจุบันเรามีความสุขดีชีวิตแฮปปี้มากเลยคะ เวลาว่างๆก็ไปเล่นบ้านเพื่อนบ่อยๆหรือไปเที่ยว ไม่ก็ทำอะไรๆคนเดียว ปลีกวิเวกมาเลยคะ และตอนนี้ก็พยายามฟิตตัวเองมห้เข้าห้องกิ๊ฟตอนม.4ให้ได้คะ ถึงรุ่นพี่ที่อยู่ห้องกิ๊ฟจะบอกว่าอย่างเราไม่ต้องฟิตก็เข้าได้ก็เถอะ แต่เราเอาชัวร์มากกว่าคะ เลยตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ
0
กำลังโหลด
นาโนะเดส 8 พ.ย. 58 20:03 น. 7
เราก็เคยโดนแกล้งนะคะเพราะสนิทกับผู้ชายได้ดีมากก ชนิดว่าเพื่อนผู้หญิงมีไม่กี่คนเอง55555 ตอนประถมโดนแบนจากผู้หญิงทั้งห้องเพราะสนิทกับเพื่อนผู้ชายเราเคยไม่แคร์...ไปคบเพื่อนห้องอื่นแทน555 ช่วงม.ต้นก็อยู่กลุ่มเพื่อนผู้หญิง5คนที่ไปกันได้ แต่บางกลุ่มค่อนข้างหมั่นแบบบางวันนั่งๆอยู่มีโทรศัพท์เข้ามาด่าแล้ววางไป บางวันก็ชี้หน้าด่าเราเหมือนเขาตลกแต่เราไม่ตลกเลยเกือบไปตะบันหน้าเพื่อนคนนั้นดีที่เพื่อนผู้ชายมาล็อกตัวเอาไว้ก่อนตอนนั้นคือคิดอย่างเดียวว่าถ้าไม่เอาให้ปากแตกคา_ีนมันคงไม่จำ หลังจากนั้นคนทั้งห้องก็มองเราเปลี่ยนไปเป็น....'-เป็นผู้หญิงแน่เหรอ' คิดแล้วก็ฮาไม่หาค่ะ555555 ขำ
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
dontgiveita- 7 ธ.ค. 58 14:26 น. 10
เป็นบูลลี่ประจำห้องค่ะ เป็นมาตั้งเเต่ม.1ยันม.6 ใจเย็นก่อนค่ะ เป็นบูลลี่ที่คอยจัดการบูลลี่ที่คอยแกล้งคนอื่นค่ะ พูดง่ายๆก็คือเป็นบูลลี่ที่ดี (ชมตัวเองอีก 5555 ) จริงๆแล้วมันมีไม่กี่คนหรอกนะคะที่จะไปว่าไปด่าเขาทั้งๆที่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ทุกอย่างมีที่มาเเละที่ไปค่ะ ส่วนมากในชีวิตจริงๆเลยที่เป็นเหยื่อของบูลลี่ ไม่ใช่คนที่นิสัยดีนักหรอกค่ะ ส่วนมากจะเป็นคนเห็นแก่ตัวเเละไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น ขอไม่ยกตัวอย่างเเล้วกันค่ะ เพราะเเต่ละคนมีมุมมองเเละทัศนคติที่ต่างกัน ใจเย็นๆก่อนนะคะ ขอเน้นคำว่า*ส่วนมาก* ไม่ได้ว่าทุกคนค่ะ ซึ่งในที่นี้เท่าที่อ่านดูเเล้วเจอบูลลี่ที่แย่จริงๆค่ะ แต่วิธีตอกกลับบูลลี่ของเเต่ละคนก็ใช่ย่อยนะคะ 5555 เป็นเรื่องดีค่ะ เเค่อย่ามากเกินไป อ่ะไหนๆก็ลองยกตัวอย่างมาซักอันนึง ใครเคยดูมาลีเพื่อนรักพลังพิศดารบ้างคะ นั่นเเหละค่ะ เมษา ตอนที่ยังไม่เจอมาลีหรือเจอมาลีใหม่ๆ เป็นไงคะ เงียบๆเเต่นิสัยดีมั้ย เพื่อนที่จะรับมือกันอารมณ์เเบบนั้นได้มีน้อยมากจริงๆค่ะ ส่วนนอกนั้นที่รับไม่ได้ก็จะกลายเป็นคนไม่ชอบไปโดยสิ้นเชิงค่ะ เป็นตรรกะที่ง่ายมากๆ ทุกคนเข้าใจค่ะ ที่พูดมาซะเยิ่นยาว ไม่ได้จะเข้าข้างบูลลี่หรืออันธพาลหรืออะไรนะคะ แค่อยากให้ลองมองในมุมอื่นๆดู และอย่าตัดสินคนที่ภายนอกที่ผิวเผิน แน่นอนค่ะว่าต้องมีคนไม่ชอบใจสำหรับเม้นท์นี้ ก็ขออภัยด้วยนะคะ ไม่ได้มีเจตนาจะเเบ่งพรรคเเบ่งฝ่ายเเต่อย่างใดค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
0
กำลังโหลด
Quint Member 7 ธ.ค. 58 17:36 น. 11

เห้อ ปัญหาการถูกรังแกในสังคมนักเรียนไทยมันยังเป็นเรื่องที่เงียบนัก เพราะถ้าเราดูดีๆแล้ว เด็ก 3 ห้อง มีอัตราการถูกรังแกอยู่แค่ 1-2 คนเอง คือถ้ามี 9 ห้อง ก็มีคนถูกรังแกอยู่แค่ 3 คนถึง 6 คน แต่คิดดูๆสิว่า 9 ห้องก็มีประมาณ 270 กว่าคน เด็ก 3 คนนี้ในสังคมที่อยู่ดีๆกันปกติกันตั้ง 270 คน ใครที่ไหนจะมาเห็นหัวพวกเขา มารู้สึกถึงพวกเขา และแล้วก็กลายเป็นว่าเป็นปัญหาที่ครูบางคนรู้แต่ถูกกลบเกลื่อน เพราะครูบางคนเองแต่ก่อนก็อาจจะมีครูที่โดนแกล้งสมัยเด็ก และเคยถูกแกล้งสมัยเด็ก จึงทำให้ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ และไม่อยากช่วยเหลือคนที่ถูกแกล้ง คนไทยไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาดูเพราะเรามุ่งเน้นไปผิดทิศผิดทาง เราเน้นไปแต่ว่าการศึกษา คนต้องเก่ง ต้องชนะคนอื่น ให้ตายเถอะว่ะ แล้วทำไมเราไม่หยุดการแข่งขันนี้แล้วสร้างประเทศแบบฝรั่งเขา แบบนานาชาติเขา ที่ถึงแม้จะเคยแข่งกันแต่เขาก็หยุดทุกคนและหันกลับมาเดินรวมกัน ก้าวไปพร้อมๆกัน ให้ความดูแลเอาใจใส่ทุกๆคน ตั้งองค์กร ตั้งมูลนิธิ แถมยังใช้บริการได้จริง แต่ถึงแม้เขาจะทำแบบนั้นได้ก็ไม่ได้ทำให้ปัญหาหายไป แต่ที่แน่ๆมันจะลดลง และไม่เกิดเหมือนไทยที่ปล่อยปะละเลย มีใครยังจำข่าวเด็กที่โดนล้อว่าอ้วนและพยายามฆ่าตัวตายของไทยไหม นั่นแหละ ไปดูในคอมเม้นท์เฟสบุคสิ บางคนยังด่าทอเด็กคนนั้นว่าเป็นเด็กเวรจะไปฆ่าตัวตายทำไม แต่ขอโทษ คุณไม่รู้สึกถึงจิตใจเขาบ้างรึไงกับสาเหตุที่ทำให้เขาทำแบบนั้น ต่อแม้ให้มีคนตายเป็นพันเพราะเรื่องแบบนี้ก็จะไม่มีใครสนใจ เหมือนเรื่องข่มขืนนั่นแหละ!

0
กำลังโหลด
Nut'reeeee Member 7 ธ.ค. 58 20:02 น. 12

เคยโดนรังแกตอนเด็กเหมือนกันค่ะ เป็นพวกยอมคนมาก รู้สึกเจ็บใจและฝังใจจากหลายๆเรื่องที่โดนมา พอขึ้นมัธยมเริ่มสู้คนเป็นละ เห็นเพื่อนโดนรังแกเบาๆ ก็ไปช่วย แต่ดันโดนตอกหน้ากลับมาว่าแค่นี้เอง ไม่เป็นไร หลังจากนั้นเลยเงียบๆ แต่ก็พูดให้มันอย่ายอมอีก บางทีเห็นแล้วหงุดหงิดอะ ดูไม่ยุติธรรม

0
กำลังโหลด
Makhawan Khumphai Member 13 ธ.ค. 58 13:45 น. 13

ผมก็เคยโดนเหมือนกันแหละ และสุดท้ายผมก็หยิบของมาฟาดใส่ใครต่อใครไปหมด

แต่ตอนนี้ผมลดระดับความฮาร์ดคอร์ลงบ้างแล้ว อย่างมากผมก็แค่หนีไปร้องไห้คนเดียว แล้วก็กลับมาเรียนต่อ และมันมักจะเป็นน้อยมากครับ

0
กำลังโหลด
Dark of days Member 14 ธ.ค. 58 11:08 น. 14

เราเป็นคนหนึ่งที่เป็นฮีโรอีนมั้งคะ เราจะไม่พูดรังแกใคร และพยายามบอกว่าการรังแกคนอื่นนั้นมันไม่ดี คำพูดบางคำที่เราพูดเล่นๆ เอามาตั้งเป็นฉายา แต่บางทีมันส่งผลกระทบถึงจิตใจของผู้ฟัง และบางทีอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายค่ะ 

เพราะเราเคยอยู่ตรงจุดนั้น จุดที่จะฆ่าตัวตาย ด้วยคำพูดเล่นๆของแม่ที่บอกว่าเรา "ขี้เหร่" เรายังเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา แต่รู้ว่าคำนี้เป็นด้านลบ เอาจริงๆ ตอน ป.2 เราก็เอาหัวตัวเองโขกผนังห้อง ให้มันแตกๆไปเหมือนลูกแตงโมจะได้ตายๆไป ไม่อยากเกิดมาขี้เหร่ บางทีก็เอามีดจิ้มคอตัวเอง แต่ดีนะว่าทั้งหมด ทำมาไม่แรงพอ ไม่งั้นได้ตายจริงแน่

เพราะฉะนั้นอย่าเลยค่ะ อย่าทำให้ใครรู้สึก "ด้อย" เพียงเพราะความคิดแค่ตลกๆของพวกคุณเลย 

0
กำลังโหลด
พี่ที่เคยผ่านมาทางถนน 15 ธ.ค. 58 22:34 น. 15
จริงก็เคยเจอนะหลายรูปแบบและมาพีคช่วงป.6 คือโดนแกล้งมาตั้งแต่ป.2-ป.6(เทาที่จำได้) คือ ก็ไม่เคยทำตัวเลวๆใส่ใครมาก่อน เพราะเรามีของอะไรก็แบ่งนะ คือ ไม่พูดไม่ตอบโต้เอาตัวรอดอดทน (ไม่รู้อดทนโดยไม่คิดสั้นได้ไง555) คือ มักจะเดินคนเดียวตลอดมากๆจนชินคือ ไม่มีเพื่อนเลยจ้ะ มีก็แต่พวกเกาะเพราะมีผลประโยชน์ มาพีคตอนที่แกล้งด่าเราสารพัดคือแบบสุดๆร้องไห้ แม่รู้เรื่องมาตลอดก็บอกเราว่าอีกไม่กี่เทอมจะจบแล้ว อดทนนะ มีดนตรีเนี่ยแหละที่ช่วยดึงเราไว้ แต่ตอนโดนคือวิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำคือมันเครียดมากผอมเลยตอนนั้น จนในที่สุดมันก็มาถึงวันแตกหัก คือเราสู้ด้วยการทำเป็นหูซ้ายทะลุหูขวา แต่มันก็ไม่ไหวเดินออกไปข้างนอกไม่ไหวละ แม่รู้ รีบมาโรงเรียนแม่เรามาตะโกนถามหาอีพวกนั้นเลยจ้า._.จ๋อยสนิทหน้าซีด หลังจากนั้นเราก็ตัดปัญหาย้ายห้องคืออยู่ไปก็จิตตก จะสอบละจะจากไปละ ปัจจุบัน ก็ยังเจออยู่ตอนมหาวิทยาลัยแต่ประสบการณ์มันสอนให้้เราสู้^^จงคิดซะว่ามันมีปัญหาที่บ้านเลยพยายามสร้างตัวข่มคนอื่น ถ้าเราไม่ยอมและสู้มันก็ไม่มีปัญหาไร ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราคงตบอีพวกนั้นไปแล้ว555+เสียดายจังยังก็เกลียดอยู่แล้วนิเนอะ ขอบอกเคล็ดลับคือดู แรงเงาคะสมัยม.ต้นก็โดนนะแต่คิดสู้จากแรงบันดาลใจปัจจุบันใครร้ายมา ร้ายตอบแบบคนฉลาดๆ เย้
0
กำลังโหลด
madameferby Member 25 ธ.ค. 58 11:15 น. 16
ตั้งแต่เข้ารร.มา ไม่เคยมีปีไหนที่ไม่เคยโดนรังแกเลย ด้วยความที่ผิดปกติทางจิตนิดหน่อย พวกคนในห้องมักจะหาว่าเป็นคนบ้า โดนทั้งเมิน เอาของไปซ่อน รวมทั้งทำร้ายร่างกาย เพื่อนแทบไม่มีที่สนิทก็มีแค่ครูเขาเห็นว่าเราฉลาด ในใจไม่คิดประจบอะไรเลย แต่มักโดนหมั่นไส้ บางครั้งด่าเสียหายบ้าง แบล็คเมล์บ้าง แต่ในใจก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าบอกครูเพราะกลัวโดนหาว่าขี้ฟ้องและกลัวโดนทำร้ายซ้ำ จริงๆไม่อยากจะอ่อนแอเลย ในใจคิดแค่อยากจะเอาชนะด้วยการเรียนและผลคะแนน และอยากจะแก้แค้นอย่างสาหัสที่สุด
0
กำลังโหลด
madameferby Member 25 ธ.ค. 58 11:15 น. 17
ตั้งแต่เข้ารร.มา ไม่เคยมีปีไหนที่ไม่เคยโดนรังแกเลย ด้วยความที่ผิดปกติทางจิตนิดหน่อย พวกคนในห้องมักจะหาว่าเป็นคนบ้า โดนทั้งเมิน เอาของไปซ่อน รวมทั้งทำร้ายร่างกาย เพื่อนแทบไม่มีที่สนิทก็มีแค่ครูเขาเห็นว่าเราฉลาด ในใจไม่คิดประจบอะไรเลย แต่มักโดนหมั่นไส้ บางครั้งด่าเสียหายบ้าง แบล็คเมล์บ้าง แต่ในใจก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าบอกครูเพราะกลัวโดนหาว่าขี้ฟ้องและกลัวโดนทำร้ายซ้ำ จริงๆไม่อยากจะอ่อนแอเลย ในใจคิดแค่อยากจะเอาชนะด้วยการเรียนและผลคะแนน และอยากจะแก้แค้นอย่างสาหัสที่สุด
0
กำลังโหลด
madameferby Member 25 ธ.ค. 58 11:16 น. 18
ตั้งแต่เข้ารร.มา ไม่เคยมีปีไหนที่ไม่เคยโดนรังแกเลย ด้วยความที่ผิดปกติทางจิตนิดหน่อย พวกคนในห้องมักจะหาว่าเป็นคนบ้า โดนทั้งเมิน เอาของไปซ่อน รวมทั้งทำร้ายร่างกาย เพื่อนแทบไม่มีที่สนิทก็มีแค่ครูเขาเห็นว่าเราฉลาด ในใจไม่คิดประจบอะไรเลย แต่มักโดนหมั่นไส้ บางครั้งด่าเสียหายบ้าง แบล็คเมล์บ้าง แต่ในใจก็ได้แต่ร้องไห้ ไม่กล้าบอกครูเพราะกลัวโดนหาว่าขี้ฟ้องและกลัวโดนทำร้ายซ้ำ จริงๆไม่อยากจะอ่อนแอเลย ในใจคิดแค่อยากจะเอาชนะด้วยการเรียนและผลคะแนน และอยากจะแก้แค้นอย่างสาหัสที่สุด
1
prangnoi2 Member 13 พ.ย. 59 14:07 น. 18-1
โดนเหมือนกัน ชอบโดนด่าว่าติดเกม แต่จริงๆไม่ได้ติดนะ เห็นเล่นสัก2-3ชม.บอกติดเกม เราเป็นเหมือนกันเลย ร้องไห้บ่อย เลยโดนเพือนหาว่าขี้แย ในใจคิดว่า ถ้าลองมาโดนจะรู้สึก แต่ทำไรไม่ได้ ฟ้องครูเพื่อนก้ร้องไห้เพื่อทำให้ตัวเองถูกอะ
0
กำลังโหลด
หญิงแว่น หฤหรรษามโนวาย Member 18 ก.พ. 59 08:22 น. 19
เคยโดนแกล้งตอนม.ต้นค่ะ ตอนนั้นโดนแกล้งหนักมากและอยู่ในจุดที่แทบจะไม่มีเพื่อนเลยสักคน เข้ากับใครแทบไม่ได้ โดดเดี่ยว หัวเดียวกระเทียมลีบ เป็นช่วงชีวิตที่เลวร้ายที่สุดเลยค่ะ พอนึกย้อนไปถึงตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรน่าภาคภูมิเลย นอกจากการที่เราผ่สนจุดๆนั้นมาได้ ตอนนี้อยู่มหาลัยแล้วค่ะ พอเข้ากับเพืีอนร่วมชั้ยได้และไม่ได้โดนรังแกแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว มีบ้างที่โดนแกล้งขำๆ(ขำจริงๆนะ). ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้มีใครมาเจอแบบเราเลยค่ะ ถึงมันจะผ่านมานานแล้วแต่มันก็ยังเป็นแผลในใจอยู่ หากใครกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ ขอแนะนำให้อดทนรอเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ค่ะ(เราย้ายโรงเรียนตอนม.ปลาย ย้ายไปไกลมาก นับหนึ่งใหม่เลย) จากประสบปการณ์แล้วการย้ายโรงเรียนกลางคันไม่ช่วยอะไรค่ะ เพราะเราจะต้องไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆใหม่ทั้งหมดในขณะที่พวกเขารู้จักดันหมดทุกคนแล้ว เอาเป็นว่า ใครที่เจอปัญหาอยู่ก็สู้ๆนะคะ เราเป็นกำลังใจให้
0
กำลังโหลด
DPTB 18 ก.พ. 59 22:16 น. 20
สำหรับผมก้อเคยโดนนะ บ่อยมากด้วย ตอนนี้ผมอยู่ม.4 อยู่โรงเรียนก้อไม่ค่อยมีเพื่อนคบเท่าไหร่ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียว ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ผมขอบอกเลยว่า "เ-้ยมาก" โคตรเ-้ยเลยก้อว่าได้ คือตอนนั้นผมพึ่งขึ้นห้องหลังจากหมดพัก เเล้วเพื่อนผมก้อเอาขนมมาเเบ่งให้กิน (ขนมโอริโอ้ที่เปนวงกลม มีครีมสีขาวๆข้างใน) มันก้อบอกว่า เห้ย ช่วยกูกินหน่อย กินไม่หมด ผมก้อเลยกิน พอผมกิน ไอ่พวกนั้นมันก้อหัวเราะกันใหญ่ ผมก้อเลยถามมันว่า พวก-หัวเราะไร? เเล้วเพื่อนคนหนึ่งมันก้อบอกว่า ป่าว ไม่มีรัย รีบๆเเดกสิ สัส ผมก้อเลยกิน พอผมกินเกือบเสด มันก้อบอกผมว่า ขนมที่-แดกอ่ะ เขาเอากาวทาบนครีมเเล้วให้-แดก ผมก้ออ้วกสิครับ รีบคายออกพร้อมสำลักขนม จนครูมาถามว่าเปนรัย ผมก้อเล่าเรื่องให้ครูฟังหมด จนเพื่อนผมถูกครูเรียกไปคุย หลังจากนั้นเพื่อนก้อไม่แกล้งผม พอผ่านไปสัก 1 อาทิตย์ พวกมันก้อแกล้งผมอีก แกล้งทุกอย่าง เอากระเป๋าไปซ่อนบ้าง เอาเก้าอี้ไปซ่อนบ้าง เอาปากกาผมไปหักเล่นบ้าง เอาลิขวิดมาหักหัวแล้วนำน้ำลิขวิดมาบีบใส่โต้ะเเล้วเอาไฟเเช็คจุดบ้าง เขียนชื่อพ่อแม่ผมในหนังสือบ้าง ในห้องน้ำบ้าง ขนาดถังกินน้ำมันยังไม่เว้นแม่งเขียนเต็มเลย เวลาผมอยู่เฉยๆก้อหาเรื่อง ผมอยากจะชกหน้ามันเหมือนกัน เเต่ผมยังเหนความเปนเพื่อนอยู่เลยไม่ทำ ทุกวันนี้ผมก้อเรียนแบบไม่มีความสุข อดทนมาตลอด เเละไม่รู้ว่าจะอดทนได้อีกนานเเค่ไหน เพราะผมก้อไม่ใช่สีทาบ้าน ที่จะเจอทุกสถานการณ์เเล้วบอกว่าทนได้ #ความอดทนกูก้อมีขีดจำกัดนะเว้ยยย ขอบคุณที่ทำให้ผมได้ระบายอารมณ์ ยังมีอีกหลายอย่างที่โดนแกล้งง ไว้ว่างจะมาเล่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด