แม้ว่าสาเหตุของการเป็นคนรังแกหรือกลายคนถูกรังแกจะมีหลายสาเหตุก็ตาม แต่การถูกรังแกมักเป็นปัญหามากกว่า เพราหากผู้ถูกรังแกแก้ไขปัญหาไม่ได้ อาจจบลงด้วยความรุนแรงและเศร้าใจ
"เมื่อสาวน้อยถูกรังแก...กับสิ่งที่พวกเขาแสดงออก จะทำให้คุณอึ้ง"
คลิปเปิดด้วยคำพูดทำร้ายจิตใจ
ระหว่างนั้นก็มีคนมานั่งมายืนรอรถสาธารณะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
นี่เธอรู้ไหม (หน้าแย่อย่างเธอ) เธอควรต้องแต่งหน้าบ้างอะไรบ้างนะ
ตอนแรกแอบคิดว่า คนที่มารอรถในป้ายเดียวกัน คงไม่ค่อยสนใจอะไร เพราะมันก็เหมือนเด็กทะเลาะกัน ดูเป็นเรื่องเล็กน้อย สงสัยจะไม่มีใครอยากยุ่ง แล้วคลิปจะจบแบบทุกคนที่เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์จำลองนี้เป็นคนใจร้ายมาก แต่เรื่องไม่เป็นแบบนั้นเลยค่ะ
(พูดในเชิงตำหนิทำนองว่า นี่คือไม่มีอะไรดีๆ จะพูดกันแล้วเหรอ)
ผู้ใหญ่หลายคนบอกให้อีกฝ่ายหยุด ชวนขึ้นรถเมล์ และชวนมานั่งข้างๆ
มานั่งนี่มาสาวน้อย (แล้วคุณลุงก็นำหีบเพลงออกมาเป่าให้ฟังด้วย)
และคลิปก็จบด้วยคำถามค่ะ
(ขอบคุณคลิปเรื่องราวจาก http://uptv.com/life/help-prevent-bullying-with-these-anti-bullying-tips-for-parents-teens-and-kids/ )
สิ่งที่ต้องทำสำหรับคนที่เป็นผู้ถูกรังแกคือ เริ่มต้นคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนอ่อนแอค่ะ ไม่ใช่แพะรับบาปของใคร และไม่ควรต้องถูกใครแกล้งด้วย ต้องบอกใครสักคนที่มีอำนาจในการจัดการค่ะ ผู้ใหญ่ที่เราไว้วางใจค่ะ สำหรับคนที่เห็นคนอื่นกำลังถูกแกล้ง อย่าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องของเราค่ะ ไม่มีใครควรโดนแกล้งทั้งนั้น ถ้าไม่กล้าเข้าไปช่วย ให้เรียกผู้ใหญ่โดยด่วนค่ะ
เรื่องตลกคือ ในโรงเรียนไทย ปัญหาการถูกรังแก ถูกกลั่นแกล้งเป็นปัญหาใหญ่ที่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจมากนัก ทั้งๆ ที่เด็กไทยทุกคนมีโอกาสจะเจอ แต่น้อยนักที่สังคมโรงเรียนไทยจะเข้าใจและแก้ไขมัน ยกเว้นตัวเด็กจะเข้มแข็งและผ่านมันไปด้วยตัวเองค่ะ แต่เมืองนอกเขาจริงจังกับเรื่องแบบนี้มาก มีเดือนแห่งการป้องกันการถูกรังแก หรือ National Bullying Prevention Month ค่ะ ตรงกับเดือนตุลาคม แต่เมืองไทยส่วนใหญ่ปิดเทอมพอดี โอกาสการตระหนักตามวาระถึงเรื่องนี้จะลดลงพอดีเช่นกัน หรืออาจเพราะผู้ใหญ่ หรือหลายคนที่เป็นวัยรุ่นตอนปลายๆ แล้ว ล้วนคิดว่าการรังแกแกล้งกันในโรงเรียนของเด็กๆ เป็นแค่เรื่องเด็กๆ เรื่องเล็กน้อยกันเท่านั้นคะ?
แหล่งอ้างอิง, ภาพประกอบ:
28 ความคิดเห็น
เราคือ 1 ในคนที่ถูกรังแก แล้วก็ต้องขอบอกว่า ไม่ได้กลัวการถูกรังแก แต่เราไม่ชอบมานั่งทะเลาะกันด้วยเรื่องงี่เง่า สมัยนั้น 10 ขวบก็ถูกรังแกบ่อยๆ แต่เราก็เลี่ยงคนที่ชอบมารังแกเรา แต่ทางนั้นก็ยังรังแกบ่อยๆ เหมือนเดิม
จนเราทนไม่ได้ ถ้าทางนั้นอยากให้เราเอาคืนเราก็เอาคืนได้ แต่เราไม่เอาคืนแบบไปตบกันหรอก เราเอามารยา ไปฟ้องครูเลย แล้วก็ทำตัวว่า ถูกรังแกต่อหน้าเพื่อนๆ ให้เพื่อนเป็นพยาน แล้วมารยาจนครู จัดการให้ หลังจากนั้นเราก็มีชีวิตที่สบายใจมากๆ
เราไม่ได้รังเกียจการมีเพื่อน แต่เราไม่แคร์ถ้าจะไม่มีเพื่อนคบด้วย แม้แต่น้อย ต่อให้ถูกด่า รึ ถูกรังแกจนไม่มีเพื่อนเราก็ไม่สน เพราะเรารู้ตัวว่า เราทำอะไรอยู่ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ แต่ถ้ามาทำให้ ก็นะ เราแค่รอที่จะมีเพื่อนที่ดีก็เท่านั้นเอง
เด็กทุกคนมีวิธีการรับมือแตกต่างกัน สำหรับเราการรับมือก็ออกแนวให้เพื่อนคนอื่นช่วยปกป้องมากกว่ามั้ง แต่ถามว่าสู้ได้ไหม สู้ได้ แต่ไม่ทำ เลี่ยงที่จะทะเลาะก่อน ถ้าไม่ไหวก็ลุยตายไปข้าง
สำหรับน้องๆที่ถูกรังแก จงจำไว้ เราคือเรา เค้าเกลียดเรา รึ รังแกเราเพียงเพราะเรื่องโง่ๆ ถ้าเรายอมเค้าก็ได้ใจ แต่ถ้าไม่ยอมก็แตกไปข้าง มันก็แค่นั้น จงมั่นใจในตัวเองว่าสิ่งที่เราทำอยู่แล้วไม่ทำให้เดือดร้อนใค เป็นเรื่องถุกต้องนะ จงเข้มแข้งและมีจุดยืนในตัวเอง อย่ายอมแพ้ในทุกๆอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะหากเรายอมแพ้แม้กระทั้งการยอมถูกรังแก นับว่าทำให้เรากลายเป็นคนโง่ที่ไร้ค่าทันที อย่ายอมแพ้นะ น้องๆ
เราเนี่ยประจำ ตอนอยู่ประถม โดนเพื่อนกวนทรีนใส่เพียบบบ
เห้อ ปัญหาการถูกรังแกในสังคมนักเรียนไทยมันยังเป็นเรื่องที่เงียบนัก เพราะถ้าเราดูดีๆแล้ว เด็ก 3 ห้อง มีอัตราการถูกรังแกอยู่แค่ 1-2 คนเอง คือถ้ามี 9 ห้อง ก็มีคนถูกรังแกอยู่แค่ 3 คนถึง 6 คน แต่คิดดูๆสิว่า 9 ห้องก็มีประมาณ 270 กว่าคน เด็ก 3 คนนี้ในสังคมที่อยู่ดีๆกันปกติกันตั้ง 270 คน ใครที่ไหนจะมาเห็นหัวพวกเขา มารู้สึกถึงพวกเขา และแล้วก็กลายเป็นว่าเป็นปัญหาที่ครูบางคนรู้แต่ถูกกลบเกลื่อน เพราะครูบางคนเองแต่ก่อนก็อาจจะมีครูที่โดนแกล้งสมัยเด็ก และเคยถูกแกล้งสมัยเด็ก จึงทำให้ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ และไม่อยากช่วยเหลือคนที่ถูกแกล้ง คนไทยไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาดูเพราะเรามุ่งเน้นไปผิดทิศผิดทาง เราเน้นไปแต่ว่าการศึกษา คนต้องเก่ง ต้องชนะคนอื่น ให้ตายเถอะว่ะ แล้วทำไมเราไม่หยุดการแข่งขันนี้แล้วสร้างประเทศแบบฝรั่งเขา แบบนานาชาติเขา ที่ถึงแม้จะเคยแข่งกันแต่เขาก็หยุดทุกคนและหันกลับมาเดินรวมกัน ก้าวไปพร้อมๆกัน ให้ความดูแลเอาใจใส่ทุกๆคน ตั้งองค์กร ตั้งมูลนิธิ แถมยังใช้บริการได้จริง แต่ถึงแม้เขาจะทำแบบนั้นได้ก็ไม่ได้ทำให้ปัญหาหายไป แต่ที่แน่ๆมันจะลดลง และไม่เกิดเหมือนไทยที่ปล่อยปะละเลย มีใครยังจำข่าวเด็กที่โดนล้อว่าอ้วนและพยายามฆ่าตัวตายของไทยไหม นั่นแหละ ไปดูในคอมเม้นท์เฟสบุคสิ บางคนยังด่าทอเด็กคนนั้นว่าเป็นเด็กเวรจะไปฆ่าตัวตายทำไม แต่ขอโทษ คุณไม่รู้สึกถึงจิตใจเขาบ้างรึไงกับสาเหตุที่ทำให้เขาทำแบบนั้น ต่อแม้ให้มีคนตายเป็นพันเพราะเรื่องแบบนี้ก็จะไม่มีใครสนใจ เหมือนเรื่องข่มขืนนั่นแหละ!
เคยโดนรังแกตอนเด็กเหมือนกันค่ะ เป็นพวกยอมคนมาก รู้สึกเจ็บใจและฝังใจจากหลายๆเรื่องที่โดนมา พอขึ้นมัธยมเริ่มสู้คนเป็นละ เห็นเพื่อนโดนรังแกเบาๆ ก็ไปช่วย แต่ดันโดนตอกหน้ากลับมาว่าแค่นี้เอง ไม่เป็นไร หลังจากนั้นเลยเงียบๆ แต่ก็พูดให้มันอย่ายอมอีก บางทีเห็นแล้วหงุดหงิดอะ ดูไม่ยุติธรรม
ผมก็เคยโดนเหมือนกันแหละ และสุดท้ายผมก็หยิบของมาฟาดใส่ใครต่อใครไปหมด
แต่ตอนนี้ผมลดระดับความฮาร์ดคอร์ลงบ้างแล้ว อย่างมากผมก็แค่หนีไปร้องไห้คนเดียว แล้วก็กลับมาเรียนต่อ และมันมักจะเป็นน้อยมากครับ
เราเป็นคนหนึ่งที่เป็นฮีโรอีนมั้งคะ เราจะไม่พูดรังแกใคร และพยายามบอกว่าการรังแกคนอื่นนั้นมันไม่ดี คำพูดบางคำที่เราพูดเล่นๆ เอามาตั้งเป็นฉายา แต่บางทีมันส่งผลกระทบถึงจิตใจของผู้ฟัง และบางทีอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตายค่ะ
เพราะเราเคยอยู่ตรงจุดนั้น จุดที่จะฆ่าตัวตาย ด้วยคำพูดเล่นๆของแม่ที่บอกว่าเรา "ขี้เหร่" เรายังเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา แต่รู้ว่าคำนี้เป็นด้านลบ เอาจริงๆ ตอน ป.2 เราก็เอาหัวตัวเองโขกผนังห้อง ให้มันแตกๆไปเหมือนลูกแตงโมจะได้ตายๆไป ไม่อยากเกิดมาขี้เหร่ บางทีก็เอามีดจิ้มคอตัวเอง แต่ดีนะว่าทั้งหมด ทำมาไม่แรงพอ ไม่งั้นได้ตายจริงแน่
เพราะฉะนั้นอย่าเลยค่ะ อย่าทำให้ใครรู้สึก "ด้อย" เพียงเพราะความคิดแค่ตลกๆของพวกคุณเลย