สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com พบกับพี่หมอโด่งอีกเช่นเคยในคอลัมน์เจาะลึกเพศศึกษา เรื่องที่เราจะมาพูดคุยกันในวันนี้ ดูจะใกล้ตัวใครหลายๆ คนมากขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ นะครับ เพราะแทบทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์ชีวิตแบบนี้มาแล้ว ฮ่าๆ
เรากำลังจะพูดถึง การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หรือ การช่วยตัวเอง (Masturbation) นั่นเองครับ หลายคนอาจจะคิดว่าการช่วยตัวเองคงไม่มีผลเสียอย่างใด เพราะไม่ทำให้เกิดโรคติดต่ออย่างการไปช่วยคนอื่น เช่นโรค HIV หรือ Syphilis และแน่นอนว่าสาวๆ ก็คงไม่ตั้งท้องด้วยปลายจวักของตนเองแน่นอน แต่รู้มั้ยว่า ยังมีข้อเท็จจริงอีกมากมายเกี่ยวกับการช่วยตัวเองที่น้องๆ อาจจะไม่รู้มาก่อนเลย ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
เรากำลังจะพูดถึง การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง หรือ การช่วยตัวเอง (Masturbation) นั่นเองครับ หลายคนอาจจะคิดว่าการช่วยตัวเองคงไม่มีผลเสียอย่างใด เพราะไม่ทำให้เกิดโรคติดต่ออย่างการไปช่วยคนอื่น เช่นโรค HIV หรือ Syphilis และแน่นอนว่าสาวๆ ก็คงไม่ตั้งท้องด้วยปลายจวักของตนเองแน่นอน แต่รู้มั้ยว่า ยังมีข้อเท็จจริงอีกมากมายเกี่ยวกับการช่วยตัวเองที่น้องๆ อาจจะไม่รู้มาก่อนเลย ไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
เมื่อหนุ่มๆ ช่วยตัวเอง
คงไม่ต้องอธิบายลงลึกว่าทำยังไงนะครับ ลองมาดูกันว่าอะไรที่มากเกินไป เยอะเกินไป ไม่พอดีนั้น จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
การช่วยตัวเองที่บ่อยและรุนแรงอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ
หากหนุ่มๆ ช่วยตัวเองบ่อยเกินไป หรือรุนแรงเกินไปนั้น อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีและการอักเสบระคายเคืองของผิวหนังได้ น้องๆ ลองนึกสภาพเวลาที่พื้นที่น้อยๆ อันเปราะบาง (บางคนอาจจะเถียงว่าไม่ใช่พื้นที่น้อยๆ ก็เถอะนะ) เกิดการเสียดสีกับกางเกงในบ่อยๆ และแรงๆ มันคงจะเจ็บแสบเหมือนตอนที่น้องๆ หกล้มแล้วมีแผลถลอก น่ะแหละครับ โห พี่ไม่อยากจะพูดถึงเลย
อาการ “อวัยวะเพศแตก” เกิดขึ้นได้ แม้พบได้น้อยมากก็ตาม
ขณะที่น้องๆ กำลังทำภารกิจพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์อยู่นั้น อาจจะทำให้ “อวัยวะเพศแตก” (Penile rupture) ได้ จากช่องที่เต็มไปด้วยเลือดของอวัยวะเพศตอนแข็งตัว ซึ่งเกิดยากมากในความเป็นจริง แต่น่ากลัวมากนะครับ คงไม่มีใครอยากมาหาหมอพร้อมบอกว่า “พี่ครับ น้องหนูผมหัก” หรอกนะครับ ใครไม่อยากเจอความน่ากลัวนี้ก็เพลาๆ กันบ้างนะครับ (ใครอยากเห็นภาพ ลองตั้งสติ! แล้ว search google ดูครับ)
การช่วยตัวเองที่บ่อยและรุนแรงอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ
หากหนุ่มๆ ช่วยตัวเองบ่อยเกินไป หรือรุนแรงเกินไปนั้น อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีและการอักเสบระคายเคืองของผิวหนังได้ น้องๆ ลองนึกสภาพเวลาที่พื้นที่น้อยๆ อันเปราะบาง (บางคนอาจจะเถียงว่าไม่ใช่พื้นที่น้อยๆ ก็เถอะนะ) เกิดการเสียดสีกับกางเกงในบ่อยๆ และแรงๆ มันคงจะเจ็บแสบเหมือนตอนที่น้องๆ หกล้มแล้วมีแผลถลอก น่ะแหละครับ โห พี่ไม่อยากจะพูดถึงเลย
อาการ “อวัยวะเพศแตก” เกิดขึ้นได้ แม้พบได้น้อยมากก็ตาม
ขณะที่น้องๆ กำลังทำภารกิจพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์อยู่นั้น อาจจะทำให้ “อวัยวะเพศแตก” (Penile rupture) ได้ จากช่องที่เต็มไปด้วยเลือดของอวัยวะเพศตอนแข็งตัว ซึ่งเกิดยากมากในความเป็นจริง แต่น่ากลัวมากนะครับ คงไม่มีใครอยากมาหาหมอพร้อมบอกว่า “พี่ครับ น้องหนูผมหัก” หรอกนะครับ ใครไม่อยากเจอความน่ากลัวนี้ก็เพลาๆ กันบ้างนะครับ (ใครอยากเห็นภาพ ลองตั้งสติ! แล้ว search google ดูครับ)
วัยรุ่นชายที่ช่วยตัวเอง กับความเสี่ยงเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก
เรื่องนี้น่าสนใจมาก การวิจัยหนึ่งทำการศึกษาพบว่า วัยรุ่นที่ช่วยตัวเองในช่วงอายุ 20-30 ปี มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มมากขึ้นกว่า 80% ตอนอายุ 60 ปี แต่ในทางกลับกันจะไปลดความเสี่ยงในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยทฤษฎีคาดเดาว่า เกิดจากฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นต่อมลูกหมากที่มากเกินไปในวัยรุ่น แต่สำหรับการช่วยตัวเองในผู้ใหญ่แล้ว อาจจะเป็นการชะล้างสารพิษมากกว่า
แต่ในทางกลับกัน ก็มีการศึกษาจาก Harvard/s Health Professionals และ Australians study ด้วย โดยได้ศึกษากลุ่มวัยกลางรุ่นและวัยกลางคนเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ หรือถึงจุดสุดยอด (Ejaculation) คือ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ ฝันเปียก และการช่วยตัวเอง พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากถึง 33% ในคนที่ถึงจุดสุดยอดมากกว่า 20 ครั้งต่อเดือน
เอาล่ะสิ ยังไงดี... พี่หมอบอกได้เพียงว่า ในทางการแพทย์นั้น แม้จะมีการศึกษาและทำวิจัยในหลายๆ เรื่องอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจนในหลายๆ เรื่องเช่นกันครับ ดังนั้น ทำอะไรแต่พอดีดีกว่านะครับ ฮ่าๆ
เมื่อสาวๆ ช่วยตัวเอง
เช่นเดียวกันพี่หมอคงไม่อธิบายว่าทำยังไงนะครับ แม้ว่าสาวๆ หลายคนอาจจะสงสัย เอาเป็นว่าอ่านไว้เป็นความรู้ก็พอนะครับ
สภาพกรด-เบสที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดเชื้อราได้
แน่นอนว่าความสะอาดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกสถานที่ครับ โดยเฉพาะจุดซ่อนเร้นของสาวๆ แต่บางคนก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ ปัญหาจึงเกิดขึ้นเมื่อมีการเพิ่มความหล่อลื่นให้ช่องคลอดด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม เช่น การใช้น้ำลาย รวมถึงการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด แน่นอนว่าเชื้อโรคในช่องคลอดนั้นมีอยู่แล้ว แต่เมื่อเจอสภาพกรด-เบสที่เปลี่ยนไป ทำให้เกิดการติดเชื้อราง่ายมากยิ่งขึ้น อาการสำคัญที่แสดงว่าเกิดเชื้อราแล้วคือ อาจมีผื่นคันแดง จนกระทั่งตกขาวขุ่นเหม็นครับ ถึงตอนนั้นควรพบแพทย์ครับ
การช่วยตัวเองที่บ่อยและรุนแรงอาจจะทำให้เกิดการอักเสบ
เช่นเดียวกับหนุ่มๆ เลยครับ การเสียดสีเข้า-ออก ไม่ว่าด้วยวิธีใดหรืออุปกรณ์ใด ต้องคำนึงถึงความสะอาดและระมัดระวังให้มากเช่นเดียวกันครับ หากเกิดการอักเสบหรือมีอุปกรณ์ติดค้างภายใน นอกจากเจ็บแล้วยังได้อายอีกด้วย เพราะสุดท้ายคนที่จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้ก็คือหมอนี่แหละครับ จะมีใคร?
อย่างไรก็ดีนะครับ ข้อเสียหรือข้อควรระวังเหล่านี้ก็ยังดีกว่าการหักห้ามใจตนเองไม่ได้ เมื่อมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมา ลองไปเตะบอลแล้วก็ไม่ช่วยอะไร ก็เลยมาจบที่การช่วยตัวเอง ซึ่งก็คือสิ่งปกติสำหรับมนุษย์ที่เอาไว้ปลดปล่อยอารมณ์ความต้องการทางเพศ (Sexual tension) นั่นเองครับ ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดปกติอะไร เพียงแต่เราก็ไม่นิยมทำต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้นเอง
สุดท้ายนี้ การช่วยตัวเองนั้นจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของน้องๆ เลยครับ หากทำอย่างเหมาะสม ถูกที่ถูกเวลา ไม่ใช่ว่าหมกมุ่นจนไม่เป็นอันเรียน เพราะจิตใจจดจ่ออยู่กับการรอคอยกลับไปบ้านเพื่อจัดการตัวเอง อย่างที่บอกแหละครับ ทุกอย่างที่ตั้งอยู่บนความพอดีคงจะดีที่สุด อะไรที่มากเกินไปก็คงจะไม่ดี หรือไม่มีเลยก็คงจะผิดธรรมชาติและฝืนตัวเองมากเกินไปหน่อย ดังนั้น พี่หมอก็ขอฝากให้น้องๆ ระมัดระวัง ป้องกัน และมีความปลอดภัยในการทำทุกอย่างคงจะดีที่สุดนะครับ
น้องๆ คนไหนมีข้อสงสัย หรืออยากพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาเพศศึกษา แนะนำที่เว็บบอร์ด “ปัญหาเพศศึกษา” นะครับ ถามกันได้เต็มที่ มึคนช่วยตอบเพียบครับ
ข้อมูลอ้างอิง
1) Dimitropoulou, P. BJU International, January 2009; vol 103: pp 178-185. Polyxeni Dimitropoulou, PhD, doctor of epidemiology, University of Cambridge, England.
2) Leitzmann MF, Platz EA, Stampfer MJ, et al. Ejaculation Frequency and Subsequent Risk of Prostate Cancer. Journal of the American Medical Association 2004;291:1578–86. PMID: 15069045.
3) Giles GG, Severi G, English ER, et al. Sexual Factors and Prostate Cancer. BJU International2003;92:211–16. PMID: 12887469. Originally published April 2009; last reviewed February 24, 2011.
2) Leitzmann MF, Platz EA, Stampfer MJ, et al. Ejaculation Frequency and Subsequent Risk of Prostate Cancer. Journal of the American Medical Association 2004;291:1578–86. PMID: 15069045.
3) Giles GG, Severi G, English ER, et al. Sexual Factors and Prostate Cancer. BJU International2003;92:211–16. PMID: 12887469. Originally published April 2009; last reviewed February 24, 2011.
20 ความคิดเห็น
ขอบคุณค้าบ เพลาๆกันบ้างก็ดี
มากกว่า 20 ครั้งต่อเดือน เฉลี่ยแล้วนี่คือ แทบจะทำทุกวันเลยนะ
โอ มาย ก๊อด เยอะไปป่าววะ หรือนี่ปกติ
งงมาก ตรงที่ผู้ชายช่วยตัวเอง เขาบอกมานานละนะว่า มันช่วยลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก พอมาอ่านอันนี้คือบอกจะเป็น และไปลดเสี่ยงวัย 50 เอ่อ คือวัยขนาดนั้นไม่ช่วยตัวเองกันแล้วงใั๊ง ฒ
ทางสายกลางครับ 555+
อยากรู้ค่ะว่าถ้าเราไม่เสร็จอาการจะเป็นยังไง
คือถ้ามันเกิน 30-60 ครั้งต่อเดือนนี้คงไม่เป็นไรสินะ แฮะๆ....
พี่ครับๆๆ
คืออยากมีเวลาส่วนตัว จะดูหนังลามกช่วยตัวเอง จะบอกพ่อแม่ยังไงดีครับ
ขอขอบคุณสำหรับความรู้นะครับช่วยได้มากเลยละแต่ 20 ครั้งนี้มากไปป่าว(-_-)
ผมเนี่ยประมาณ 60 - 80 ครั้ง ต่อเดือนเลยครับ บางวันผมมีความคิดว่า คนเราช่วยตัวเองได้มากสุดกี่ครั้ง/วัน จริงๆใน google มันก็มีบอกอ่ะน้ะ แต่ผมก็ทดลองเองแม่งเลย คือ แตกแล้วแตกอีก เสร็จแล้วเสร็จอีก เปิดดูหนังโป้ให้มันเกิดอารณ์ แล้วก็ทำอยู่นั้นแหละ จนแล้วจนรอดผมทำวันนั้นได้ 12 ครั้งครับ คือ ลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว (จะเพลาๆลงล่ะกันครับ)