เอ๊ะ เราติดเชื้อ HIV มั้ย? อาการเป็นยังไงมาเช็กกันเลย!!



 
 

         “เห้ยๆ แก ไปตรวจเลือดยัง”

         นี่อาจจะเป็นประโยคที่เพื่อนทักเวลาคุณดูซูบผอม ดูไม่ได้กินข้าว จากแต่ก่อนหนักเหมือนฮิปโป เดี๋ยวนี้หน้าตอบ ตาโหล เหมือนฮิปปี้ เพื่อนเลยทักว่า “นี่ เป็นเอดส์ปะเนี่ย?”

         บางทีเพื่อนก็พูดแรงไป!!!

         เนื่องจากตอนเด็กๆ ก็คงสงสัย อ่าว! กรรม! ทำไมดูผอมแล้วต้องป่วยด้วย ผอมแล้วมันดูเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ... เอาจริงๆ คนอ้วน หรือคนที่ดูเฮลท์ตี้สุขภาพดี๊ดีก็มีโอกาสจะป่วยกันได้ แต่ก่อนจะไปไกล เรามาดูกันก่อนว่า ช่วงเวลาของผู้ติดเชื้อ HIV นั้น จะต้องพบเจออะไรบ้าง จะได้สังเกตตัวเองกันได้ ถ้าเพื่อนไล่เราไปตรวจเลือดเราจะได้พูดได้ว่าเราปกติดี อิอิ

 


          1. Acute phase, Acute retroviral syndrome
              
เป็นระยะหลังติดเชื้อใหม่ๆ หลังจากเจอกับความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยง ไม่เกินสองสามเดือน จะมีอาการคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่ เขาเรียกว่า ‘worst flu ever’ คือ แบบที่โอ้โห ป่วยหนักมากกกก มากกว่าจะเป็นหวัดธรรมดาแล้ว และเชื้อ HIV ในร่างกายจะค่อนข้างมาก และระดับ CD4 (เม็ดเลือดขาวที่เอาไว้ดูความรุนแรงของการติดเชื้อ) จะลงไปต่ำมาก แต่ระยะนี้มักถูกละเลย คนมักไม่ค่อยคิดถึงว่าเป็น HIV เพราะว่า...
 
  • อาการจะเป็นเหมือนป่วยทั่วๆ ไป เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ถ้าใครเป็นหวัดใหญ่ทั่วๆ ไป ก็มีอาการคล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน ถ้าไม่ได้บอกหมอว่า มีความเสี่ยง หมอก็จะไม่ได้คิดถึงการติดเชื้อ HIV ระยะแรกไว้อันดับต้นๆ เช่นกัน ดังนั้น ใครที่มีความเสี่ยง ต้องรีบบอกหมอครับ ไม่ต้องอาย
     
  • ระยะนี้เขาเรียกว่า Contagious คือ มีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้มาก เพราะเชื้อเยอะมาก เช่น น้องๆ มีเชื้ออยู่ และเกิดเป็นแผลเลือดออกที่นิ้ว แฟนก็ใจดีหวานซึ้งมาดูดให้ทั้งที่มีแผลในปาก (หมายถึงดูดนิ้วนะ) ก็โอกาสติดสูงขึ้นมาเลยครับ อันตรายทีเดียว
​​

 


          2. Latency phase
               
เป็นช่วงพักกายพักใจของเชื้อครับ หลังจากที่หมดช่วงแรกไปแบบที่เรายังไม่ทันคิดเลยว่าติดเชื้อ เชื้อมันก็พักผ่อนซะแล้ว บางคนใช้เวลาไปถึง 10 ปีกว่าจะแสดงอาการ คือในช่วงเวลานี้จะ ‘ไม่มีอาการใดๆ เลย’ โดยถ้าไปตรวจเลือดแล้วเจอในระยะนี้ แล้วได้กินยาต้านไวรัสทัน (ARV - antiretroviral) ก็จะสามารถกดเชื้อให้อยู่ในระยะนี้ได้ไปตลอดหลายๆ สิบปีเลยทีเดียว แต่ยาต้องกินไปตลอดชีวิตนะครับ เพราะโรคนี้ไม่มีวันหายขาด มีแต่กดตัวโรคไว้ เหมือนความดัน เบาหวานเลยทีเดียว

               และแน่นอนว่าระยะที่ไม่มีอาการนี่แหละครับน่ากลัว เพราะเราจะสามารถแพร่เชื้อไปให้คนอื่น ทั้งคนที่เรารัก และคนที่เราไม่ได้รักแต่มีเพศสัมพันธ์ด้วยไปโดยบังเอิญ และบางครั้งเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้และดันไปบริจาคเลือดเสียอีก ทำให้ทำบาปกรรมไปโดยที่เราไม่ทันรู้ตัวเลยจริงๆ

 


          3. AIDS (Acquired immune deficiency syndrome)
              คือระยะหนึ่งของผู้ที่ติดเชื้อ HIV ครับ อันนี้จะเป็นอันที่คนธรรมดามองเห็นก็พอทราบ และหมอวินิจฉัยได้ง่ายที่สุด เพราะจะมาด้วยอาการที่คนทั่วไปไม่ได้เป็นกัน

             โดยตามหลักการแล้วเราจะวินิจฉัยในผู้ป่วยที่มีระดับ CD4 น้อยกว่า 200 ครับ และสามารถทำให้ติดเชื้อที่คนอื่นทั่วไปเขาไม่ติดกันนั่นเอง จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล

             ซึ่งอาการที่จะมาในระยะนี้ เช่น ไอเรื้อรัง น้ำหนักลด ผอมลงอย่างรวดเร็ว (อาการของติดเชื้อในปอด เช่น วัณโรค หรือ PCP) เป็นต้น หรือ ปวดศีรษะมาก มีอาการชักเกร็งกระตุก ไข้สูง จากการติดเชื้อ Cryptococcus หรือการที่มีเชื้อราในช่องปาก จากการติดเชื้อ Candida เป็นต้น

 


          ดังนั้นจริงๆ แล้ว เวลาเราอยากจะไปทักเพื่อนๆ ว่า “แก ไปตรวจเลือดเหอะ” ไม่ว่าจะทีเล่นทีจริงๆ หรือหยอกกันเล่นก็ตาม ลองสุ่มๆ คนที่มันมีความเสี่ยงก็พอแล้วครับ อาจจะเจอแจ็คพ็อตก็ได้ แล้วก็อย่าลืมบอกเพื่อนว่า...

         “แกๆ เราว่าแกอาจจะติดเชื้อ HIV ได้นะ แต่อยู่ในระยะ Latency phase ไปตรวจเลือดเถอะ เราเป็นห่วง” นอกจากจะดู smart เพราะมีความรู้แล้ว ยังเรียกว่าได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีกแหนะ หรือถ้าไม่อย่างนั้น ก็ลองแอบส่องดูเชื้อราในช่องปากตอนเพื่อนหาวปากกว้างดูก็ได้ ฮ่าๆ

         สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีความเสี่ยงและกลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อ ไม่กล้าไปตรวจ พี่หมอแนะนำว่าตั้งสติให้ดีแล้วรีบไปตรวจกันเถอะครับ เชื่อเถอะว่าความกล้าครั้งนี้ คุ้มค่ากับชีวิตเรามาก บางคนติดเชื้อแทรกซ้อนครั้งเดียวรุนแรงจนเสียชีวิตเลยก็มี และเราอาจจะไม่ได้โชคดีพอที่จะรอด ดังนั้น อย่าปล่อยทิ้งไว้ครับ มีคลินิกนิรนามที่คอยรับบริการโดยที่ปกปิดและรักษาความลับของผู้ป่วยเป็นอย่างดีอยู่ในทุกที่ครับ เลือกที่สะดวกได้เลย

         พี่หมอย้ำเลยนะครับ สำหรับน้องๆ ที่มีความเสี่ยง ถ้าเราพลาดครั้งแรกกับความเสี่ยงแล้ว อย่าพลาดครั้งที่สองกับการไม่ป้องกันและรักษาครับ เชื่อพี่ พี่รู้ พี่เรียนมา!







 
พี่โด่ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
rrooiill0123 Member 26 มิ.ย. 60 15:10 น. 95

ผมส่งสัยว่าผมจะติดเชื่อนี้รึเปล่า ผมมีผื่นแดงเต็มหลังเรยครับ แต่ผมไปตรวจเลือดมาแร้วหมอว่าปกติดีม่พบอะไร. แต่ผมยังม่มันใจยุดีครับ

2
กำลังโหลด
jokatjove Member 6 ต.ค. 60 17:54 น. 160

สงสัยว่าจะติดเชื้อรึเปล่า มีอาการท้องร่วง เหนื่อยง่ายกว่าปกติ มีเลือดออกจากฟัน แต่ไม่มีผื่น แบบนี้ติดเชื้อไหมค่ะ

3
กำลังโหลด
กำลังโหลด

222 ความคิดเห็น

Giraffeonly 11 ส.ค. 59 22:31 น. 1
สงสัยค่ะ ถ้าเจาะสะดือ แต่เราไม่แน่ใจว่าร้านได้เปลี่ยนเข็มทุกครั้งไหม จำเป็นต้องไปตรวจไหมคะ ?
3
sphinxman Member 11 ส.ค. 59 23:31 น. 1-1
จำเป็นครับ ถ้าเราไม่รู้ว่าเขาได้เปลี่ยนหรือฆ่าเชื้อรึเปล่า อย่างแรก ควรถามร้านที่เจาะว่าเปลี่ยนเข็มไหม ถ้าไม่มั่นใจก็ไปตรวจดีกว่า
0
กำลังโหลด
monkey 11 ส.ค. 59 23:53 น. 2
การ ออรัลเซ็กส์ มีโอกาสได้รับเชื้อไหมครับ กรณีเป็นผู้ถูกกระทำ เเล้วถ้าติดเชื้อจะติดจากอะไรหรอครับ
1
Doenjdd Member 12 ส.ค. 59 20:19 น. 2-1
มีครับ แต่น้อยมากๆๆเลย ถ้าจะเกิดจริงๆก็เช่น เช่น เขามีแผลในปาก มีเลือดออก สัมผัสกับเนื้อเยื่ออวัยวะเพศที่บางหรืออาจจะมีแผลก็เกิดได้ครับ
0
กำลังโหลด
Doenjdd Member 12 ส.ค. 59 20:20 น. 3-1
มีครับ ส่วนใหญ่เลยล่ะครับ ถ้าแม่ที่ตั้งท้องไม่ได้กินยา และไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ เพราะขั้นตอนการคลอดก็มีผล และนอกจากนี้ แม่ก็ห้ามให้นมลูกด้วยครับ
0
กำลังโหลด
อิอิ 12 ส.ค. 59 00:24 น. 4
เคยไปตรวจเเล้วครั้งต้นปี ผลคือ ไม่พบเชื้อ ถ้าไปตรวจครั้งที่สองมีโอกาสที่จะพบเชื้อมั้ยครับเสียใจ
2
Doenjdd Member 12 ส.ค. 59 20:20 น. 4-1
มีโอกาสครับ 1 อาจจะเพราะปริมาณเชื้อหลบอยู่ และน้อยมากๆ ขึ้นกับชนิดของการทดสอบด้วยครับ 2 คือ ได้มีการไปรับเชื้อมาใหม่ในช่วงนี้ แต่ทางที่ดี ที่แน่ใจว่าไปมีอะไรกับคนที่มีความเสี่ยงหรือรู้ว่าเป็น กินยาป้องกันไปเลยก็ดีครับ
0
กำลังโหลด
ครับ 12 ส.ค. 59 04:27 น. 5
เคยจูบกับผู้หญิง โดยที่ตัวเองตอนนั้นริมฝีปากแตกอยู่(แบบแห้งจนหนังลอกออก เลือดไหล) มีโอกาสได้รับเชื้อไหมครับ
1
Doenjdd Member 12 ส.ค. 59 20:20 น. 5-1
อย่างที่เคยบอกในกระทู้ก่อนๆครับ การจูบโอกาสการติดเชื้อน้อยมาก เพราะเชื้อในน้ำลายมีค่อนข้างน้อย ยกเว้นเลือดกระฉูดกลบปากกันทั้งคู่ จูบกันค่อยเสี่ยงเยอะหน่อย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Jaipet-Siri S. Member 1 ก.ย. 59 03:18 น. 7-1
น่าจะ 11 วัน หรือ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายหละมั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ประมาณนี้แหละ
0
กำลังโหลด
Homo 31 ส.ค. 59 01:23 น. 8
เป็นแผลเป็นคีย์รอยค่ะ ไปฉีดสเตรียรอยให้เสียใจแผลยุบเรียบค่ะ ในรพ.รัฐค่ะ หมอสั่งให้ไปนอนรอที่เตียง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเข็มใหม่หรือไม่ กลัวจังเลยค่ะ รพ.เค้าเปลี่ยนเข็มใหม่ทุกครั้งมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ
1
กำลังโหลด
Jaipet-Siri S. Member 1 ก.ย. 59 03:24 น. 9-1
ตรวจได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทั่วไปเลยนะ คนไทยมีสิทธิตรวจเลือดฟรีฟีละ 1 ครััง หรือ 2 ครั้งนี่แหละ จำไม่ได้ ตอนนี่ไปตรวจก็เขาเลยว่ามาตรวจเลือดหาเชื้อ HIV พอถึงคิวซักประวัติหรือถ้าพยาบาลมีการคุยกันข้ามห้องเขาจะไม่บอกว่าเรามาทำอะไร เขาจะบอกกันว่าเป็นเคส B24 หรืออะไรซักอย่างอะ แล้วก็ต้องเซ็นสัญญาว่าจะรับมือกับผลที่ได้ด้วยนะ แล้วพยาบาลก็จะเปิดซองจดหมายในห้องอย่างลับๆ กับเราแค่สองคน หรือมีอีกที่นึงคือคลินิกนิรนามอะ เป็นเกี่ยวกับด้านนี้โดยเฉพาะเลย
0
กำลังโหลด
กิ๊กก๊อก 31 ส.ค. 59 20:43 น. 10
เคยไปตรวจ nat ที่นิรนามมา 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังเสี่ยง 9 วัน ผลไปลบ เจ้าหน้าที่นัดตรวจ ครั้งที่ 2 ถ้านับก็หลังเสี่ยง 25 วัน ผลลบ รตรวจnat ครั้งที่3 มีโอกาสหรือไม่ครับ โกรธ
1
Jaipet-Siri S. Member 1 ก.ย. 59 03:26 น. 10-1
ไม่น่าจะมีแล้วนะ แต่ไม่ได้แปลว่าไม่มีเลย เพราะรู้สึกจะต้องใช้เวลา 11 หรือ 14 นี่หละมั้งถึงจะหาเจอ
0
กำลังโหลด
sippkorn115 Member 4 ก.ย. 59 09:52 น. 11
คือ การโดนกัดแบบใส่เสื้อผ้ามีโอกาสติดเชื่อไหมคับ คือเมื่อวานผมไปส่งญาติแล้วหมาตัดหน้า เขาก้เหมือนจะกัดผมมั้งไม่แน่ใจ กังวลมากๆคับ ผมพึ่ง18 TT เฮ้ออออ ญาติคนนั้นรู้สึกจะมีเมียน้อยด้วย. . . ช่วยทีคับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
Karintorn Member 4 พ.ย. 59 17:52 น. 15

แล้วถ้าเป็นไข้แล้วต่อมทอมซินโตอะคับพอไปหาหมอหมอบอกมันอักเสบเกิดจากการติดเชื้อแต่ผมเคยเป็นอย่างงี้บ่อยแล้วอะคับๆแต่เคยมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงประมาณ2อาทิตย์ที่แล้วอะคับแต่แค่ครั้งเดียวนะคับที่ไม่ได้ใส่

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ผู้อยากรู้ 25 ก.พ. 60 01:10 น. 17

ถ้าติดเชื่อถึงขั้นมีตุ่มหนองขึ้นตามตัวแล้วไม่ได้รับยาต้านมีโอกาสมีเม็ดตุ่มจะแห้งแล้วหายเป็นแผลเป็นไหมคับ

0
กำลังโหลด
patsofju1 Member 3 มี.ค. 60 04:15 น. 18

ตอนนี้เครียดมากครับ ไปมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมา แต่ไม่ได้สอดใส่ มีจุบแบบใช้ลิ้นแปปนึง แต่ตัวผมเองพักหลังๆ มีเลือดออกตามไรฟันเวลาแปรงฟันบางครั้ง แล้วก็ใช้ปากกับของเขาไปแปปเดียว แต่เขาไม่ได้มีอารมครับ เลยนกเขาไม่ขึ้นเลย เลยหยุด ตอนนี้ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้ว ผมไอแบบไม่มีสาเหตุ เป็นมาตะ 5 วันได้แล้ว มีเสมหะนิดหน่อย ไม่มีไข้ แต่มีน้ำหมูกตามอากาศในห้องแอร์ อยู่ข้างนอกทุกอย่างก็ปกติดี คือมีแค่ไออย่างเดียว ไอหนักบ้างเบาบ้าง ปกติเคยเป็นอยู่บ้างอาการแบบนี้ แต่ครั้งนี้ปรพจวบเหมาะกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่กล้าถามใครเลยครับ แต่อ่านในเนตเขาบอกว่าคนติดเชื้อจะมีอาการไอแบบหาสาเหตุไม่ได้แต่จะเป็นเรื้อรังอยู่นาน แต่เป็นครั้งนี้เหมือนกับถ้ามีไรทำจะไม่ไอ แต่พอสนใจตัวเองว่า เออไม่ไอแล้วก็จะไอไม่หยุดครับ เลยกะว่าจะรอให้หายก่อน เพราะตอนนี้เครียดมาก ไม่นอนมาหลายวันแล้วครับ ขอคำแนะนำชี้แนะหน่อยครับ ขอร้อง

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อาร์ท 20 มี.ค. 60 02:26 น. 20

ขอสอบถามคับ พอดีมีตุ่มใสๆขึ้นที่ หน้า ลำตัว คอ หลัง แขนขา ต่อมน้ำเหลืองโตนิดๆ

ป่วยก่อนตุ่มใสๆขึ้น ไม่รุ้ว่าเปนอะไร เปนอีสุอีใสรึป่าว แต่ผมเคยออกหัดมาแล้วคับ

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด