ถ้าใครเป็นสาว
NUGIRL ตัวจริงเสียงจริง จะรู้ว่าพี่โอ๊ตชอบย้ำนักย้ำหนาในเรื่องของการทำความสะอาดผิวหน้า ยิ่งสาวๆ คนไหนที่ชอบเป็นสิวโดยไม่รู้สาเหตุล่ะก็ ต้องลองย้อนถามตัวเองเลยล่ะค่ะ ว่าเราทำความสะอาดหน้าได้สะอาดหมดจดแล้วรึยัง
และสำหรับรีวิววันนี้ พี่โอ๊ตก็ได้นำผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวหน้าเลย นั่นก็คือคลีนซิ่งนั่นเองค่ะ ซึ่งคลีนซิ่งทั้งหมดที่เราจะมารีวิวกันวันนี้จะเป็นสูตรน้ำ เนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและเหมาะกับสาวๆ ทุก สภาพผิวอีกด้วย ซึ่งพี่โอ๊ตก็ได้คัดเลือกผู้เข้ารอบตามหลักเกณฑ์ง่ายๆ คือ ส่วนผสมดี หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และราคาไม่แพง เหมาะกับน้องๆ วัยเรียนค่า พร้อมแล้วก็ไปดูโฉมหน้าผู้เข้ารอบกันเลย
คิดว่าสาวๆ น่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วเนอะ เพราะพวกเธอเหล่านี้ก็มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายยาทั่วไปค่ะ แต่ที่อยู่ในรีวิวของเรานั่น เป็นรุ่นเล็ก ขนาดจิ๋วแต่แจ๋ว ราคาสบายกระเป๋ากว่าตัวแม่มากๆ แต่คุณภาพเท่าเดิมค่ะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูคุณสมบัติของแต่ละตัวกันเลยดีกว่า
ตัวแรกที่พี่โอ๊ตหยิบมาก็คือ
Bifesta Cleansing Lotion Sebum สำหรับผืวผสมถึงผิวมัน ซึ่งไซส์ปกติเค้าจะมีให้เลือกหลายสูตรเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นไซส์เล็กขนาด 60 ml. ก็จะเห็นแค่สูตรนี้ที่วางขายอยู่ค่ะ เข้ารอบด้วยราคาเบาๆ ที่ 95 บาท เห็นขวดเล็กๆ แบบนี้ก็ใช้ได้นานอยู่นะ
คุณสมบัติเค้าบอกว่า เช็ดเมคอัพได้หมดจดช่วยให้ผิวชุ่มชื่นกระจ่างใส แถมกระชับรูขุมขนอีกด้วย ตัวนี้ปราศจากน้ำมัน แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสีค่ะ สาวๆ ที่ผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอน
(ทดลองโดยการวางสำลีชุบผลิตภัณฑ์ทิ้งไว้ 5 วินาที แล้วเช็ดออกเพียงครั้งเดียว)
ผลการทดลอง สำหรับตัวนี้ ต้องบอกก่อนนะว่า พี่โอ๊ตเองก็เคยใช้ไซส์จริงมาบ้างแล้วค่ะ พอเจอขวดเล็กเลยไม่พลาดที่จะหยิบมา เพราะว่าเค้าทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีทีเดียว ไม่ต้องถูหน้าแรงๆ แค่เช็ดเบาๆ สองสามรอบก็สะอาดแล้วค่ะ แต่แอบติดนิดนึงที่สูตรนี้เค้าทำให้ผิวรู้สึกแห้งไปนิด แต่ไม่ถึงกับระตายเคืองนะ ใครผิวแห้งมากๆ อาจจะลองมองตัวอื่นแทนดีกว่าค่ะ
ตัวต่อมาคือ
Nivea Bright Acne Oil Control Make Up Clear Cleansing Water ถึงแม้จะวางขายหลังตัวอื่นๆ แต่กระแสมาแรงทีเดียวค่ะ เพราะนอกจากเค้าจะเลือกส่วนผสมได้ดีแล้ว ราคาก็ยังเป็นมิตรอีกด้วย อยู่ที่ 125ml. 99 บาทค่ะ ใช้กันไปยาวๆ เลย
คุณสมบัติตัวนี้บอกว่า เหมาะสำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าจัดเต็ม ผิวมัน หมองคล้ำ และเป็นสิวง่าย นอกจากจะช่วยสลายเมคอัพแล้ว ก็ยังมีมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น และเติมออกซิเจนให้ผิวได้อีกด้วย ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ สี น้ำหอม พาราเบน และซิลิโคน เพราะฉะนั้นไม่อุดตันผิว และไม่ระคายเคืองแน่นอน
ผลการทดลอง เป็นครั้งแรกที่พี่โอ๊ตเคยได้ลองค่ะ บอกเลยว่าประทับใจมากกว่าที่คิดค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์อ่อนโยนมาก และเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญคือหลังจากที่เช็ดเมคอัพออกจนหมดแล้ว เค้าก็ทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้ให้ผิวอีกด้วย ได้ฟีลลิ่งผิวนุ่มแถมสะอาดเกลี้ยงอีกด้วยค่ะ
มากันที่แบรนด์สำหรับสาวแพ้ง่ายอย่าง Smooth E Extra sensitive Makeup Cleansing Water กันบ้างค่ะ ส่งประกวดด้วยราคาที่แอบสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ คือ 80ml. 155 บาท แต่แน่นอนค่ะว่า ราคาเท่านี้พี่เค้าไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ
คุณสมบัติของเค้าคือ ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้หมดจด ช่วยลดโอกาสเกิดสิวและริ้วรอย เป็นสูตรปราศจากน้ำมัน แอลกอฮอล์ และพาราเบน ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ช่วยให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นปกติ และยังให้ความชุ่มชื้นผิว ทำให้ผิวไม่แห้งตึงอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมาด้วยขวดหัวปั๊มลักษณะพิเศษคือ ปั๊มขึ้นด้านบน สาวๆ สามารถใช้สำลีวางแล้วปั๊มได้เลย
ผลการทดลอง ตัวนี้พี่โอ๊ตยกให้พี่เบลเอาไปลองค่ะ เนื่องจากผิวพี่เบลค่อนข้างแพ้ง่ายกว่า น่าจะเหมาะกับสูตรอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งพี่เบลก็บอกว่าตัวนี้ทำความสะอาดได้ดี และรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นหลังทำความสะอาด แต่แอบติดตรงที่เค้าใส่น้ำหอมมาด้วยนิดนึงค่ะ และลักษณะขวดที่เป็นการปั๊มขึ้นด้านบน หากกดแรงเกินไปก็มีโอกาสหกเลอะเทอะออกมาได้ ดังนั้นปั๊มเบาๆ ก็พอจ้า
ตัวสุดท้ายแล้ว กับคลีนซิ่งสีสันสดใสวัยรุ่นชอบ Biore Perfect Cleansing Water ตัวนี้พี่โอ๊ตได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาเยอะมาก รวมทั้งก่อนหน้านี้ พี่โอ๊ตก็เคยใช้มาแล้วทั้งคลีนซิ่งออยล์ คลีนซิ่งมิลค์ และคลีนซิ่งไวพ์ แหม...ก็ใช้มาเยอะอยู่เนอะ แล้วตัวนี้จะพลาดได้ไงล่ะ บิโอเรส่งเข้าประกวดด้วยค่าตัว 129 บาท ต่อ 90ml. จ้า
ว่ากันในเรื่องของคุณสมบัติ เค้าบอกว่า เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางและผิวหน้า สูตรน้ำ ครบทุกขั้นตอน ไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ ทำความสะอาดหมดจดถึงรูขุมขน ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ผสมโทนเนอร์กระชับรูขุมขน และยังผสมโลชั่นที่ช่วยให้ผิวนุ่มดูกระจ่างใสอีกด้วย มาเต็มจริงๆ ค่ะ
ผลการทดลอง ยกให้เป็นหน้าที่พี่เบลอีกเช่นเคยค่ะ พี่เบลบอกว่าค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียวกับคลีนซิ่งตัวนี้ เพราะทำความสะอาดได้หมดจดจริงๆ ไม่ต้องเช็ดซ้ำหลายครั้ง แถมยังช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นตามที่เค้าบอกเอาไว้เป๊ะๆ
สาวๆ บางคนอ่านอย่างเดียวอาจจะยังไม่เห็นภาพ ลองคลิกวิดีโอดูการทดสอบไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
ทั้ง 4 ตัวนี้พี่โอ๊ตว่าสามารถทำความสะอาดได้ดีพอๆ กันเลยค่ะ แถมราคาก็เป็นมิตร หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ส่วนผสมก็ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองอีกด้วย สาวๆ คนไหนที่ยังไม่ได้เริ่มใช้คลีนซิ่ง ลองไปหามาใช้กันดูนะคะ แล้วกลับมาเจอกับพี่โอ๊ตได้ใหม่ใน
NUGIRL REVIEW ครั้งหน้า อยากให้มารีวิวอะไรก็อย่าลืมมาคอมเม้นท์บอกกันบ้างนะคะ ^^
เพียงสาวๆ ตอบคำถามว่า “สาวๆ เลือกซื้อคลีนซิ่งจากอะไร”
พิมพ์คำตอบเสร็จแล้ว อย่าลืมเลือกของรางวัลกันด้วยนะจ๊ะ
A Nilin Silky Perfect Sun (2 รางวัล)
B Obuse Magic Skin Beautiful BB Cream (3 รางวัล คละสี)
ตัวอย่าง : อย่างแรกเลยคือต้องไม่มีส่วนผสมที่อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองค่ะ อีกอย่างคือต้องเช็ดทำความสะอาดได้หมดจดด้วย (เลือก A ค่ะ)
หมายเหตุ
1. สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 และประกาศผลในวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 ค่ะ
2. อย่าลืม log in ก่อนทุกครั้งนะคะ สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิกเว็บไซต์ Dek-D.com เท่านั้นจ้า
3. หากพบว่าผู้โชคดีคอนเฟิร์มกลับมาเป็นชื่อและที่อยู่เดียวกัน พี่ขออนุญาติรวมเป็น 1 รางวัลเท่านั้นนะคะ แบ่งให้เพื่อนๆ คนอื่นบ้างเนอะ เข้าใจตรงกันน๊า ^^
50 ความคิดเห็น
เลือกจากราคาก่อนค่ะ ถ้าราคาไม่แพงมากจะพิจารณาส่วนผสมอย่างอื่นที่ดูว่ามันเหมาะกับผิวเราไหม ? มีส่วนผสมเหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย หรือมีส่วนผสมที่ทำให้ระคายเคืองหรือเปล่า และสามารถเช็ดทำความสะอาดได้หมดจดไม่ทำให้เกิดสิวอีกค่ะ (เลือก A ค่ะ)
อย่างแรกก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเราก่อนค่ะ เพราะเป็นคนที่ผิวแพ้ง่ายจะซื้ออะไรก็ต้องศึกษาดีๆ ว่าผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมอะไรบ้าง มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดขนาดไหน และแน่นอนค่ะราคาก็ต้องเหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า (เลือก A ค่ะ)
ดูจากราคา ขนาด และคุณสมบัติ ส่วนผสมทีใช้ เพราะเป็นคนผิวค่อนข้างอ่อนโยน แพ้ง่าย เลยต้องละเอียดอ่อนเรื่องส่วนผสมที่ใช้ และระศึกษาข้อมูลก่อนซื้อทุกครั้ง จะหาอ่านรีวิวจากคนที่เคยใช้ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ (เลือก B ค่ะ)
ของหนูก็ดูจากผิวตัวเองค่ะ เพราะว่าเป็นคนผิดแห้ง แล้วก็สิวขึ้นบ่อยมากเลย จากนั้นก็ดูส่วนผสมค่ะ ว่าปลอดภัยไหม ถึงแม้ว่าจะทำให้ไม่มีสิวก็จริง แต่ถ้าไม่ปลอดภัยกับหน้าเรา ก็เซย์โนเลยค่ะ จากนั้นก็ดูราคาต่อค่ะ ถ้าไม่แพงมากก็โอเคค่ะ ถ้ามันค่อนข้างแพงแต่ไม่เกิน 300c]h;dHดีจริงๆก็จะลองดูค่ะ แล้วก็อีกส่วนนึงต้องดูรีวิวจากคนที่ใช้แล้วค่ะ แต่ว่าคนที่เคยใช้ต้องมีสภาพผิวเหมือนเรา (เลือก A)
เลือกจากส่วนผสม ราคา และรีวิวค่ะ ส่วนตัวไม่ใช่คนแพ้ง่ายแต่ก็เลือกที่อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอร์ ไม่มีสารที่ทำให้หน้าบาง lสลายเมคอัพได้ดี พวกนี้ค่ะ ส่วนใหญ่จะดูจากรีวิวก่อนหลายๆตัวแล้วตัดสินใจเลือกที่เหมาะกับตัวเองและสภาพการแต่งหน้าประจำ (เลือก B)
พอดีเราเป็นคนที่หน้าแพ้ง่ายมากเช่นกันค่ะแต่งหน้านิดเดียวผื่นก็ขึ้นแล้ว เลยเลือกคลีนซิ่ง ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือส่วนผสมที่รุนแรงเกินไป บอบบางกับผิวมากที่สุด^^ ราคาน่าคบ และหาซื้อได้ง่ายส่วนตัวตอนนี้ก็ใช้ SmoothE อยู่นะคะ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีการแพ้ด้วย (เลือกBค่ะ)
แบบที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน
เหมาะกับสภาพผิวเราเอง
อ่อนโยน
ล้างหน้าได้สะอาดหมดจด เพราะช่วยลดสาเหตุของสิวอุดตันได้
ไม่ระคายเคืองผิวเรา
ไม่ทำให้ผิวแห้งแตก ขาดความชุ้มชื้น
(เลือก บี ค่า)
เลือกซื้อคลีนซิ่งจาก การหาซื้อได้ง่ายค่ะ จะได้สะดวกซื้อ ซื้อปุ๊บใช้ปั๊บ ตรงกับความต้องการ (เลือกAค่ะ)
เลือกจากส่วนผสมว่าทำให้หน้าเราเป็นสิวมั๊ย ผลิตภัณฑ์อันนี้เหมาะกับหน้าเรามากแค่ไหน ระคายเคืองแค่ไหนรองลงมาก็ราคาค่ะ เนื่องจากเป็นนักเรียนรายรับอาจมีไม่มากนักก็ต้องคำนึงถึงตรงนี้ดวยค่ะ ^^
(เลือก A ค่ะ)
เลือกจากราคาและจากส่วนประกอบในคลีนซิ่งค่ะ อย่างแรกเรื่องราคาถ้ามันแพงเกินไปเราก็จะไม่ซื้อเพราะยังเราอยู่ในวัยเรียนอยู่ ส่วนเรื่องส่วนประกอบเราจะเลือกอันที่ไม่มีนำ้หอมและแอลกอฮอล์เพราะเราเป็นคนผิวแพ้ง่าย (เลือก A ค่ะ)
ส่วนใหญ๋เลือกคลีนซิ่งจากส่วนประกอบเป็นหลักค่ะ เหตุผลคือ เราไม่อยากใช้คลีนซิ่งที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายกับหน้ามากๆ เพราะกลัวเกิดผลในระยะยาว อันที่จริงหน้าเราค่อนข้างแข็งแรง ไม่ค่อยแพ้(แต่แอบระคายเคืองบ้าง) อยากดูแลผิวให้ดีน่ะค่ะ เลยเลือกคลีนซิ่งที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ซิลิโคน เป็นต้น ที่สำคัญต้องล้างสะอาด ผิวไม่ตึงเกินไป รองลงมาคือราคา ต้องเป็นราคาที่อยู่ในระดับที่กระเป๋าเงินของเราจ่ายไหวค่ะและต้องยี่ห้อที่ปลอดภัยด้วยค่ะ ส่วนใหญ่เราจะเลือกดูรีวิวในเว็บเด็กดี พันทิป จีบัน เป็นต้น ค่ะ เผื่อหาตัวที่น่าสนใจ ซึ่งตอนนี้ก็พบคลีนซิ่งที่ถูกใจมากๆแล้วด้วย ใช้แล้วหน้านุ่ม ไม่ตึง แถมผิวขาวใสขึ้นด้วยค่ะ ^___^
(เลือก A ค่ะ)
อย่างแรกที่ทุกคนจะดูก็คงจะเป็นคุณภาพสินค้า เราก็จะคำนึงถึงสิ่งแรกเลยว่าในคลีนซิ่งยี่ห้อนั้นอะมีส่วนผสมที่เราเเพ้มั้ย แล้วก็ดูส่วนผสมอื่นๆตามมาว่าจะมีส่วนผสมที่มีผลอันตรายต่อหน้าเรามั้ย ลำดับต่อมาเราก็จะดูราคาค่ะ เพราะว่าเรายังเป็นนักเรียนอยู่งบในการซื้อค่อนข้างจำกัด หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นนักเรียนแต่งหน้าไปเรียนเหรอ ก็อยากจะบอกว่าถึงไม่แต่งเราก็ล้างหน้าสะอาดไม่เพียงพออยู่ดี เราเลยจำเป็นจะต้องใช้คลีนซิ่งด้วย (เลือก บี ค่าาา)
อย่างแรกต้องดูราคาค่ะ แล้วก็ดูส่วนผสมว่าเป็นอันตรายต่อผิวเราหรือไม่ ทำความสะอาดได้หมดจดไหม (เลือก B ค่ะ)