Keio บ้านนักคิดนักบริหารแดนซามูไร

     สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com แม้ช่วงนี้กระแสเกาหลีจะฟีเวอร์แบบสุดๆ แต่สำหรับพี่ยีนแล้ว ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษาคงต้องซูฮกให้พี่ยุ่นเขาล่ะครับ เพราะนอกจากจะติดอันดับต้นๆ ของเอเชียแล้ว ยังขึ้นแท่นมีชื่อเสียงกันในระดับโลกอีกด้วย คราวนี้พี่ยีนเลยอยากพาน้องๆ มารู้จักกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกแห่งของแดนอาทิตย์อุทัย มหาวิทยาลัยเคโอ ครับ...

มหาวิทยาลัยเคโอ (Keio University) เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น  ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1858 โดย ยูกิชิ ฟุกุซาวะ (Yukichi Fukuzawa) ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิทยาการสมัยใหม่ของญี่ปุ่น เป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อประเทศญี่ปุ่น ถึงขนาดปรากฏอยู่บนธนบัตรที่มีค่ามากที่สุด (หนึ่งหมื่นเยน) ของญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบัน

     เคโอ เป็นสถาบันบ่มเพาะนักการเมืองและนักบริหารชั้นนำในประเทศมาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของนักคิดและนักบริหารระดับประเทศ ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยล้วนแล้วแต่ก้าวขึ้นไปมีบทบาทสำคัญ ทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง และธุรกิจของญี่ปุ่น ตั้งแต่อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น โคอิซุมิ จินจิโระ ไปจนถึงผู้บริหารสูงสุดคนปัจจุบันของบริษัท Toshiba  นอกจากนี้ยังมีคนไทยที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคโอได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ หลายตำแหน่งในประเทศไทย ตั้งแต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไปจนถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง

     มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นที่รู้จักแพร่หลายในมิติของคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นทุกคนจะรู้จักมหาวิทยาลัยนี้เป็นอย่างดี แม้แต่ในการ์ตูนของญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง ก็อ้างอิงเคโอ ในแง่ของในด้านวิชาการที่แข็ง และด้านฐานะที่ร่ำรวยของเด็กนักเรียน

มหาวิทยาลัยเคโอ เป็น 1 ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้ง 6 แห่งของกรุงโตเกียว  โดย 4ICU ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเคโออยู่ในอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน cole des Mines de Paris (2007) จัดอันดับมหาวิทยาลัยเคโอให้อยู่ในอันดับ 2 ของมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น (และอันดับ 4 ของโลก) ตามจำนวนผู้บริหารสูงสุดของบริษัทชั้นนำทั่วโลก และ Webometrics (2008) ยังได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยเคโออยู่ในอันดับ 3 ของญี่ปุ่นด้วย

     ในปี 2008 มหาวิทยาลัยเคโอ มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติกว่า 930 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีนักศึกษาไทยถึง 29 คน  ศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ในคณะต่างๆ ได้แก่

     คณะอักษรศาสตร์
     คณะเศรษฐศาสตร์
     คณะนิติศาสตร์
     คณะมนุษยสัมพันธ์
     คณะบริหารธุรกิจ
     คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
     วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านสื่อและบรรษัทภิบาล

     ซึ่งการเรียนการสอนจะมีทั้งหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าน้องๆ ภาษาญี่ปุ่นยังกระเตาะกระแตะไม่แข็งแรงพอ ก็สามารถเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ที่ Center for Japanese Studies ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีการศึกษา

สำหรับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่นั้น ทางมหาวิทยาลัยเคโอมีบริการที่พักนักศึกษาให้กับนักศึกษาต่างชาติ ทั้งที่เป็นของทางมหาวิทยาลัยเองและของเอกชน และถ้าน้องๆ สมัครเป็นสมาชิกองค์การนักศึกษาต่างชาติของเคโอ รับรองได้ว่าไม่มีเหงา เพราะเขาจะมีกิจกรรมเวียนมาให้ร่วมสนุกได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่การท่องเที่ยว การประกวดแข่งขันต่างๆ การเป็นอาสาสมัคร ไปจนถึงการจัดตั้งกลุ่มหรือพรรคนักศึกษาอีกด้วย

     เมื่อพูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ขึ้นชื่อว่ากรุงโตเกียวก็ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าราคาสูงทีเดียว ซึ่งในการแก้ปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้ได้นั้น นอกจากทุนการศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยจัดให้นักศึกษาต่างชาติแล้ว น้องๆ ยังสามารถสมัครเข้าทำงานพาร์ทไทม์ได้ตามระเบียบข้อบังคับที่กฎหมายกำหนด เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองได้อีกด้วย

     เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้ ใครใคร่อยากจะเรียนก็พยายามกันหน่อยนะครับ ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึงครับ ถ้าน้องๆ คนใดมีเรื่องอยากพูดคุยหรืออยากเล่าประสบการณ์เด็กนอกให้พี่ยีนฟัง ก็อีเมล์มาได้ครับที่ gin@dek-d.com คราวหน้าพี่ยีนจะนำสถาบันแห่งไหนมาให้รู้จักอีก คอยติดตามกันนะครับ...

Source : http://th.wikipedia.org, www.keio.ac.jp
Pic : www.pbase.com, ecoli.iab.keio.ac.jp, www.time.com, www.fmc.keio.ac.jp