ระวัง! อย่าเอาของก๊อปไปยุโรป

                   สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... พูดถึงยุโรปทั้งที พี่เป้ ว่าหลายคนคงนึกถึงแหล่งต้นกำเนิดของแบรนด์เนมชื่อดังก้องโลก เช่น หลุยส์จากฝรั่งเศส กุชชี่จากอิตาลี และแน่นอนว่าในเมื่อยุโรปเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของสินค้าพวกนี้ แต่ถ้าวันดีคืนดีเกิดสะพายกระเป๋าหรือใส่เสื้อผ้าซึ่งเป็นของเลียนแบบแบรนด์เนมพวกนั้นไปยุโรปล่ะก็..... จะเกิดอะไรขึ้นนะ

{pic-desc}

                    ระวังให้ดี ! ก่อนออกเดินทางไปยังประเทศแถบยุโรป เช็คตัวเองให้พร้อมว่าตั้งแต่หัวจรดเท้ารวมถึงสัมภาระกระเป๋า เสื้อผ้า นาฬิกา ปากกา แหวน ไม่มีอะไรที่เป็นของเลียนแบบแบรนด์เนม เพราะที่สนามบินในประเทศแถบยุโรปโดยเฉพาะ EU หรือสหภาพยุโรปนั้นเค้าเคร่งครัดในเรื่องนี้มากค่ะ

ตามสนามบินจะมีเจ้าหน้าที่คอยเรียกตรวจ (บางคนอาจจะ  โชคดีไม่ถูกเรียกตรวจ) แต่ถ้าโดนเรียกตรวจแล้วพบว่าพกของ  เลียนแบบแบรนด์เนมมาในจำนวนมากล่ะก็ จะถูกยึดของและ  อาจโดนปรับแพงมาก เพราะถือว่าเป็นการละเมิดทรัพย์สินทาง  ปัญญานั่นเองค่ะ แต่ถ้าเป็นของส่วนตัวที่ใช้ใส่เองสองสามชิ้น  อันนี้อาจอนุโลมได้ค่ะ ยกเว้นถ้าเอามาเยอะๆ อาจโดนตั้งข้อหา  ได้ว่าลักลอบนำเข้าไปขาย แต่เพื่อความสบายใจล่ะก็ ขอแนะ  นำว่าอย่าเอาไปจะดีกว่าค่ะ      ซึ่งแม้แต่ผู้โดยสารที่ต้องการเปลี่ยนเครื่อง เช่น  จากกรุงเทพฯ ไปอเมริกา แต่แวะเปลี่ยนเครื่องที่อังกฤษ ก็จะมี  เจ้าหน้าที่เข้าไปขอตรวจ ซึ่งถ้าเค้าพบสิ่งมีพิรุธล่ะก็เป็นเรื่องเลย  ล่ะค่ะ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจๆๆๆ โดยไม่สนด้วยว่าเราจะตก  เครื่องที่จะต่อไปประเทศอื่นหรือไม่

{pic-desc}

                     โดยตามกฎหมายที่ออกมาในปี 2550 ระบุบทลงโทษไว้ว่า ปรับสูงสุดไม่เกิน 100,000 ยูโร (คูณ 50 เข้าไป) และอาจจะมากถึง 500,000 ยูโร (หากเป็นสินค้าที่มีความผิดต่อกฎหมายศุลกากร) และโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปีค่ะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและศุลกากร สามารถดำเนินการจับกุมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีเจ้าทุกข์ร้องเรียนหรือแจ้งความ

                    แหม โหดใช่เลยเลยนะคะเนี่ย แต่ก็ต้องเข้าใจนะคะว่ามันเป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาของประเทศนั้นๆ อีกอย่างการถือของปลอมไปเดินในประเทศที่ผลิตของจริงนี่ก็เหมือนหยามกันชัดๆ เลยนะเนี่ย หุหุ ยังไงใครที่มีแผนจะเดินทางไปยุโรปก็อย่าลืมดูตาม้าตาเรือให้ดีด้วยนะคะ

       
รูปจาก www.tendancehightech.com