"ซาแซง" แฟนคลับเกาหลีกลุ่มนี้น่ารักหรือ "น่ากลัว" ??

         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน สาวก K-Pop น่าจะได้ยินข่าวหรือได้ฟังคลิปเสียงที่สมาชิกวง JYJ (แจจุง ยูชอน จุนซู) ต่อว่า "ซาแซงแฟน" จนกลายเป็นประเด็นร้อนว่า ทำไมสมาชิกวง JYJ ต้องต่อว่าแฟนคลับของตัวเองด้วย ? แล้ว "ซาแซงแฟน" นี่คือใครกัน ??

 น้องๆ เคยทำพฤติกรรมแบบนี้กับศิลปินที่ตัวเองชื่อชอบหรือไม่ ?  

 เฝ้าตามศิลปินคนนั้นตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่กลับบ้านกลับช่อง 

-   พยายามสืบหาเบอร์โทรศัพท์ของศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ  

-   จ้างรถแท็กซี่ให้ขับตามศิลปินไปทุกๆ ที่ไม่ว่าศิลปินจะไปไหนทั้งเรื่องงานและส่วนตัว 

         ซาแซงแฟน (사생팬) คำนี้มาจากคำว่า ซาแซงฮวาล (사생활) ที่แปลว่าชีวิตส่วนตัว + แฟน (팬) ที่แปลว่าแฟนคลับ กลายเป็นคำว่า "ซาแซงแฟน" ที่กำลังเป็นประเด็นดังในโลกออนไลน์ค่ะ

         คำนี้เป็นคำใช้เรียกคนกลุ่มหนึ่งที่วันๆ เอาแต่คอยตามศิลปินไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบทุกๆ การเคลื่อนไหวไม่ว่าศิลปินคนนั้นจะไปไหน ขอย้ำว่าตามทุกที่ ! ซาแซงแฟนมักเป็นคนที่มีความรู้สึกรุนแรงมากกว่าแฟนคลับปกติทั่วไป และคนที่เป็นซาแซงแฟนนั้น ส่วนมากมักเบื่อหน่ายกับชีวิตประจำวันของตนเอง เช่น หยุดเรียน ลาออกจากงาน มีปัญหากับครอบครัว จึงหันมาตามศิลปินแบบทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องห่วงกับเรื่องส่วนตัว

         เป้าหมายหลักๆ ของพวกซาแซงแฟนส่วนมากก็คือ อยากจะอยู่ใกล้กับศิลปินที่ตัวเองชอบตลอดเวลา อยากให้ศิลปินคนนั้นอยู่ในสายตาตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อได้เจอในระยะใกล้แล้ว พวกซาแซงแฟนก็จะรีบไปโพสท์เล่าเรื่องหรือโพสท์รูปตามเว็บไซต์ต่างๆ ทันที แต่สำหรับแฟนคลับที่เป็นแฟนคลับปกติทั่วไป พวกเขาถือว่าซาแซงแฟนไม่ใช่แฟนคลับ และจะเรียกซาแซงแฟนว่า "ซาแซง" เฉยๆ (และแฟนคลับทั่วไปจะไม่ชอบซาแซงแฟนเอามากๆ เลยค่ะ) เพราะการที่คอยเฝ้าตามไปนั่นนี่ตลอดเวลาแม้ศิลปินจะเดินทางไปทำธุระส่วนตัวนั้น เป็นการรบกวนศิลปินมากจนเกินไปจนเหมือนเป็นพวกโรคจิตหรือ Stalker มากกว่า หรือแม้แต่เวลาที่ได้พบศิลปิน ซาแซงแฟนก็จะพยายามเบียดเสียดเข้าไปเพื่อจะสัมผัสตัวอย่างรุนแรง จึงไม่น่าแปลกใจที่ซาแซงแฟนมักมีเรื่องกับผู้จัดการศิลปินบ่อยๆ

มิคกี้ (ยูชอน) ขณะถูกซาแซงแฟนพยายามยื่นมือสัมผัสใบหน้าอย่างรุนแรง

         กิจวัตรประจำวันของซาแซงแฟนคือ การไปรอเจอศิลปินทั้งตามงานอีเวนท์ต่างๆ และเวลาส่วนตัว หลักๆ คือ ตอนเช้าจะไปเฝ้าที่หน้าหอพักหรือหน้าบ้าน จากนั้นตามไปยังร้านเสริมสวยที่ศิลปินไปทำผม ตอนกลางวันไปเฝ้าที่งานคอนเสิร์ต ตกเย็นกลับมาเฝ้าที่บริษัท ตกดึกกลับไปเฝ้าที่หน้าหอพักหรือหน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ในบางครั้งศิลปินคนนั้นก็ต้องมีธุระส่วนตัว เช่น ไปเจอเพื่อนสนิท พวกซาแซงแฟนก็มักจะขับรถส่วนตัวหรือจ้างรถแท็กซี่ให้ขับตามศิลปินคนนั้นไป

         หากศิลปินไปนัดกินข้าวกับเพื่อน พวกซาแซงแฟนก็จะไปยืนรออยู่หน้าร้านจนกว่าศิลปินจะออกมา ซึ่งบางครั้งตัวศิลปินเองก็เบื่อหน่ายและต้องการจะหลบหนีจากซาแซงแฟน จึงขับรถ(หนี)ด้วยความรวดเร็ว ซาแซงแฟนก็จะสั่งให้แท็กซี่รีบขับตามไปด้วยความเร็วขึ้น จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และแท็กซี่ประเภทนี้จะเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ "ซาแซงแท็กซี่" ค่ะ ..... นอกจากนี้ ซาแซงแฟนส่วนมากมักรู้เบอร์โทรศัพท์มือถือของศิลปินด้วย และไม่ใช่แค่เบอร์โทรศัพท์มือถือนะคะ เลขบัตรประจำตัวประชาชนก็รู้ !! และไม่น่าเชื่อเลยว่า มีการซื้อขายเบอร์โทรศัพท์ของศิลปิน โดยคนที่นำมาขายก็มักเป็นคนวงในที่ไปแอบสืบมาอีกทีนั่นเอง

ภาพจุนซูขณะนัดกินข้าวกับเพื่อนในร้านอาหาร ด้านหลังจะเห็นซาแซงแฟนรออยู่ด้านนอก 

         อย่าง "ยุนโฮ สมาชิกวงดงบังชินกิ" เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเคยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์เพื่อหนีซาแซงแฟน แต่เมื่อเปลี่ยนเบอร์ไปได้เพียง 5 นาที ก็มีข้อความจากซาแซงแฟนส่งมาถามว่า "เปลี่ยนเบอร์ทำไม" ... โห หลอนกว่าผีอีกนะเนี่ย บรื๋อ

         และเป็นที่รู้กันว่า กลุ่มซาแซงแฟนที่อาการหนักที่สุดคือซาแซงแฟนของดงบังชินกินี่แหละค่ะ ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นเหมือนเทพเจ้า ทำให้การจะเข้าถึงตัวพวกเขาเป็นอะไรที่ยากมากๆ พวกซาแซงแฟนจึงพยายามหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ได้เข้าใกล้ จนในบางครั้งก็รุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป เช่น แอบเข้าไปถ่ายรูปในซาวน่าขณะที่สมาชิกในวงกำลังนอนหลับพักผ่อน แอบขโมยกุญแจหอพักมาปั๊มแล้วพยายามแอบย่องเข้าไปตอนดึก บางคนอาการหนักจนน่ากลัวถึงกับขนาดเคยส่งรูปนู้ดของตัวเองไปให้ด้วย = ="

รูปภาพของแจจุงขณะนอนหลับที่ถูกซาแซงแฟนแอบตามเข้าไปถ่ายในซาวน่า

         สำหรับจำนวนของซาแซงแฟนที่ไปเฝ้าตามศิลปินนั้น มักมีประมาณ 50-100 คน แต่พอตกดึกอาจจะเหลือประมาณ 20 คน นับว่าสร้างความรำคาญใจให้แก่เพื่อนบ้านละแวกนั้นเป็นอย่างมาก เพราะบางทีซาแซงแฟนก็มักเรียกร้องความสนใจด้วยการส่งเสียงดังโหวกเหวก หวังให้ศิลปินเดินออกมาดูนั่นเอง ที่น่าแปลกใจกว่านั้นก็คือ ที่มือหรือนิ้วของซาแซงแฟนบางคนจะเข้าเฝือกไว้ คือไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะ เข้าเฝือกไปอย่างนั้นเพื่อหวังให้ศิลปินเห็นแล้วถามว่า "เป็นอะไร" ... โห แค่นี้ก็เอาเนาะ

         หลายคนคงสงสัยว่า พวกซาแซงแฟนเค้ากินนอนกันที่ไหน? คำตอบก็คือ พวกซาแซงแฟนจะนิยมซื้อคิมพับ (ข้าวห่อสาหร่าย) จากซุปเปอร์มาร์เก็ตมานั่งกินระหว่างรอศิลปินค่ะ หรือบางทีก็ผลัดกันไปกินข้าว เวลานอนก็มักนอนบนรถส่วนตัวหรือรถแท็กซี่ที่เหมามาแล้วทั้งวันทั้งคืนนั่นแหละ หรือถ้าแบตเตอรี่โทรศัพท์จะหมด ก็จะเข้าไปนั่งชาร์จแบตในร้านอาหารหรือร้านกาแฟ เสร็จแล้วก็กลับมานั่งเฝ้าศิลปินเหมือนเดิม

         และแน่นอนว่า ตัวศิลปินเองก็ไม่ค่อยพอใจซาแซงแฟนเหมือนกัน หลายๆ ครั้งที่ศิลปินคนนั้นๆ มีการระบายความในใจผ่านโซเชียลเนตเวิร์คของตัวเอง เช่น

         แจจุง สมาชิกวง JYJ ทวิตผ่านทวิตเตอร์ ใจความประมาณว่า ... การเป็นดาราทำให้ต้องอดทนต่อการกระทำที่มากไปของแฟนคลับบางกลุ่ม ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะกินข้าว ทำงาน พักผ่อนในวันหยุด แม้แต่จะเดินเข้าบ้าน ก็จะมีคนคอยจับตามอง ทำให้การจะไปไหนมาไหนต้องคอยหลบซ่อนตลอดเวลา ขอให้เลิกพฤติกรรมแบบนี้และหันกลับไปสนใจเรื่องของตัวเองเถอะ

         มิคกี้(ยูชอน) สมาชิกวง JYJ ก็เคยทวิตผ่านทวิตเตอร์เช่นกันว่า ... ขอร้องล่ะ อย่าตามมาเลยนะครับ อย่ามารอที่หน้าบ้านผมด้วย ซาแซง !

         จางกึนซอก ก็เป็นอีกคนที่เคยทวิตระบายความในใจเหมือนกันว่า ...ซาแซงแฟนทั้งหลาย พวกคุณคอยตามผมไปทุกที่ แต่รู้มั้ยว่าการทำแบบนี้จะยิ่งทำให้พวกคุณกับผมยิ่งห่างกันออกไป ถ้าอยากหัวเราะก็หัวเราะไปเถอะ แต่ขอบอกว่าไว้ว่าถ้าเวลาผมโมโหขึ้นมา ผมน่ากลัวนะ / ถ้าผมพูดกับซาแซงว่า ผมจำหน้าพวกคุณได้ พวกคุณก็คงจะดีใจใช่มั้ย เวลาที่ผมพูดคุยด้วยก็ยิ้มไปเถอะ แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปก็ออกไปซะ !

         และ พี่เป้ ก็ได้ไปค้นเจอบทความจากเว็บบอร์ดหนึ่ง เป็นความในใจจาก(อดีต)ซาแซงแฟนชาวเกาหลีของซุปเปอร์จูเนียร์ เค้าเขียนเล่าถึงอดีตสมัยที่เคยตามซุปเปอร์จูเนียร์ว่าวันๆ ทำอะไรบ้าง น่าสนใจมากๆ เลย น้องๆ ลองอ่านกันดูนะ

"ตอนปี 2007 ฉันเคยเป็นซาแซงแฟนตามซุปเปอร์จูเนียร์ พอมีเวลา เช่น หลังโรงเรียนเลิกเรียนหรือวันเสาร์อาทิตย์ ฉันก็จะไปตามทันที ที่ๆ ไปหลักๆ ก็คือที่บริษัท ที่ร้านทำผม ที่หอพัก ไปตามหมดทุกทีเลยล่ะ ในบรรดาซาแซงแฟนนั้น ฉันเป็นน้องเล็กสุดเลย ตอนนั้นฉันอายุ 13 โดยคนที่มาตามนั้น ส่วนมากจะอายุประมาณ 13-19 ปี แต่บางครั้งก็มีพี่ที่อายุ 20 กว่าๆ มาตามเหมือนกัน

อ้อ แน่นอนว่าซุปเปอร์จูเนียร์มีตั้ง 13 คน คงเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะเฝ้าตามทุกคนหรอกนะ ซาแซงแฟนมักจะตามเฉพาะสมาชิกที่ตัวเองชอบมากๆ เท่านั้น แต่ก็มีบางครั้งที่ฉันตามทีเดียวพร้อมกัน 2 คน ฉันเคยตามคังอินและก็แว๊บไปตามชินดงเหมือนกัน แน่นอนว่าฉันมีเบอร์โทรด้วย เคยโทรหาพี่ชินดงแล้วเค้ารับสายด้วยล่ะ...

หลายคนอาจจะสงสัยว่าพวกซาแซงแฟนมีปัญหาชีวิตหรือเปล่า สำหรับฉันนั้นบอกได้เลยว่าใช่ TT ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ฉันรู้สึกว่าชีวิตมีบาดแผลมากมาย พ่อแม่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำให้ฉันอยู่คนเดียวแบบเหงาๆ ตลอด แต่ฉันไม่ถึงกับขนาดทิ้งการเรียนนะ หลายคนอาจจะสงสัยต่อเกี่ยวกับเป้าหมายหรือสิ่งที่ซาแซงแฟนต้องการ ... สำหรับฉัน เวลาฉันเจอพี่ชินดง ฉันจะตะโกนบอกพี่ชินดงว่า "พี่ชินดง ฉันชื่อ (XX) นะคะ" หวังจะให้พี่ชินดงจำชื่อฉันได้และเรียกชื่อฉันบ้าง อ้อ ส่วนดงบังชินกินั้น พวกเค้าดังมากกกก แน่นอนว่าเค้าจำชื่อพวกซาแซงแฟนไม่ได้หรอก ดังนั้นซาแซงแฟนที่ตามดงบังชินกิส่วนมากจะทำได้แค่คอยถือกล้องถ่ายรูปหรือถ่ายวีดีโอตอนเจอดงบังชินกิเท่านั้นแหละ

ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือพวกผู้จัดการส่วนตัว บางทีพวกเราเจอผู้จัดการขวางไม่ให้เข้าไปพูดคุยกับศิลปิน ดังนั้นซาแซงแฟนบางคนจึงเคยถูกผู้จัดการตี แต่ก็มีซาแซงแฟนบางคนที่เปลี่ยนจากการตามศิลปินกลายมาเป็นตามผู้จัดการส่วนตัวแทนเหมือนกันนะ เพราะผู้จัดการศิลปินบางคนก็ใจดีและน่ารักมาก ยอมให้เบอร์โทรศัพท์ด้วยล่ะ

และจากแต่ก่อนที่พวกซาแซงแฟนจะมีแต่ผู้หญิง แต่พอโซนยอชีแดเดบิวต์ก็เริ่มมีซาแซงแฟนที่เป็นผู้ชายมาตามด้วย ดังนั้นในบางครั้งซาแซงแฟนของแต่ละกลุ่มจึงมีทะเลาะและกระทบกระทั่งกันบ้าง เพราะพวกผู้ชายเวลารวมตัวกันเยอะๆ จะน่ากลัวมาก แถมบางคนยังสูบบุหรี่เหม็นไปทั่วอีกด้วย

ส่วนเวลาหิวนั้น ส่วนมากฉันก็ใช้เงินตัวเองซื้อข้าวกิน แต่ก็เคยเห็นพี่ๆ ที่เป็นซาแซงแฟนบางคนไปซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วแอบขโมยอาหารใส่กระเป๋าออกมา หรือเวลาสอดบัตรเพื่อเข้าไปในรถไฟใต้ดิน ก็จะแอบเบียดเข้าไปทีละ 2 คน เวลาขึ้นรถบัส ก็จะสอดบัตรครั้งเดียวแล้วขึ้นทีเดียว 10 คนก็มี โชคดีที่คนขับเห็นแต่ไม่ได้สนใจ ตอนนี้พอมองย้อนกลับไป เหมือนเป็นพวกขี้โกงยังไงไม่รู้ ไม่น่าเลย ฉันว่าตอนนั้นฉันก็อาการหนักไม่น้อยทีเดียว

เคยมีคนถามว่า พวกซาแซงแฟนไม่รู้เหรอว่าศิลปินเค้ารำคาญ ... แน่นอนว่าพวกเรารู้ ใครล่ะจะชอบให้คนอื่นมาคอยจับตามองชีวิตทุกฝีก้าว เวลาได้ยินข่าวศิลปินด่าทอหรือขึ้นเสียงกับซาแซงแฟน ฉันเข้าใจและคิดว่าเป็นเรื่องปกติมาก ดังนั้นฉันจึงลองคิดทบทวนสิ่งที่ทำลงไป จึงตัดสินใจเลิกเป็นซาแซงแฟนดีกว่า เพราะในสายตาของศิลปินแล้ว ซาแซงแฟนเป็นสิ่งที่น่ารำคาญมาก ฉันไม่อยากเห็นซุปเปอร์จูเนียร์ต้องทำหน้าเบื่อหน่ายหรือรำคาญเวลาเจอฉัน ตอนนี้จึงรู้สึกอยากขอโทษแก่พี่ๆ ซุปเปอร์จูเนียร์มากๆ ที่เคยทำให้รำคาญ ขอโทษค่ะ "

        อ่านแบบนี้แล้ว หลายคนคงรู้สึกเพลียๆ กับพวกซาแซงแฟนมากเลยทีเดียว ว่าแต่ในที่นี้มีใครเป็นซาแซงแฟนบ้างมั้ยนะ 555555 แต่จริงๆ แล้ว  เมื่อเทียบกับแฟนคลับดีๆ น่ารักอีกจำนวนมหาศาล ซาแซงแฟนก็เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งเท่านั้น อย่างแฟนคลับของศิลปินบางกลุ่มเค้าจะรวมตัวกันแล้วไปเดินเก็บขยะบริเวณที่จัดคอนเสิร์ต ถือเป็นการช่วยรักษาความสะอาดและช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้แก่ศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบด้วยค่ะ น่ารักเนาะ ... ดังนั้น ไม่ว่าเราจะรักจะชอบศิลปินคนไหน ก็ควรเอาแต่พอดีนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นความรักของเราอาจจะกลายเป็นความน่ากลัวโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ ด้วยความหวังดีจากคนที่เคยตามดงเฮมาก่อน 555 (แต่ไม่ใช่ซาแซงแฟนนะ)

ภาพประกอบ : dispatch.co.kr , kr.celeb.yahoo.com