สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com สาขาน่าเรียนในวันนี้ที่ พี่พิซซ่า จะแนะนำก็คือ Bakery Science หรือศาสตร์แห่งขนมอบค่ะ รับรองว่าไม่ใช่แค่เรียนทำเค้กเฉยๆ แน่นอนค่ะ
ทำขนมอร่อยเฉยๆ ไม่พอหรอ ทำไมต้องเรียนปริญญาด้วย
ทุกวันนี้น้องๆ คงเห็นว่ามีธุรกิจขนมหวานผุดขึ้นมากมายทั่วไปหมด ไปไหนก็มีร้านเค้ก จะนัดเจอใครก็ต้องไปรอที่ร้านคอฟฟี่ช้อปเก๋ๆ แสดงว่าธุรกิจนี้กำลังแข่งขันกันสูง และยังอยู่ในกระแสของคนรุ่นใหม่อยู่ด้วย ฉะนั้นไม่ใช่แค่อยากเปิดร้านก็เปิดได้นะคะ หลายร้านที่ขนมรสชาติฟ้าประทานจริงๆ ยังต้องปิดตัวลงเลย น้องๆ คิดว่าเป็นเพราะอะไรกันคะ
การจะขายขนมอบ มันมีปัจจัยหลายอย่างที่เข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ ต้องคำนวนต้นทุนกำไรขาดทุน ไม่ใช่ใส่วัตถุดิบชั้นเลิศทุกอย่างแต่ก็แพงมากจนลูกค้าน้อย ไหนจะต้องทำโฆษณา หาทำเลดีๆ ไหนจะต้องบริหารจัดการร้าน จ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้างอีก ฟังดูยากขึ้นแล้วใข่ไหมคะ
บางคนเป็นเชฟเอง แต่จ้างคนอื่นมาบริหารให้ แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่เชิดเงินหนีไป จะให้เรียนทำขนมแล้วต่อ MBA ก็เสียเวลาเพิ่มอีก แทนที่จะได้เข้าตลาดเร็วๆ กลายเป็นเริ่มช้า แถมยังต้องหากำไรเพิ่มเพื่อทดแทนค่าเรียนบริหาร
จากเหตุผลทั้งหมดนั้นทำให้เกิดสาขา Bakery Science ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเป็นเจ้าของร้านและผู้คิดค้นเมนูพิเศษที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วค่ะ
ปริญญาตรี Bakery Science
นอกจากจะเรียนการอบขนมแล้ว น้องๆ จะได้เรียนเรื่ององค์ประกอบทางเคมีทุกอย่างที่เกี่ยวกับการอบขนม กระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นจนจบ หน้าที่ของส่วนผสมทั้งหลายในขนม รวมไปถึงโภชนาการในขนมของเราเอง
เรื่องของธุรกิจเกี่ยวกับการอบขนมก็นำมาสอนเช่นกัน รวมทั้งการสนับสนุนของภาครัฐและกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารและการผลิตอาหาร การจัดการธุรกิจทั่วไป และการดูแนวโน้มของเศรษฐกิจ และความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจกระทบกับการประกอบอาชีพ
ยังค่ะ ยังไม่พอ ^^ น้องๆ จะได้มีโอกาสเป็นวิศวกรซ่อมบำรุงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจขนมอบอีกด้วย
เรียกได้ว่าหลักสูตรปริญญาตรีใบเดียวนี้ มีครบทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ และกฎหมาย
ตัวอย่างวิชาเรียน
คุณสมบัติผู้เรียน
ต้องจบม. 6 หรือเทียบเท่า มีพื้นฐานวิชาเลข เคมี ชีววิทยา และภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ควรมีความรู้พื้นฐานด้านการอบขนมมาบ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็นก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะในหลักสูตรจะสอนให้ใหม่ตั้งแต่ต้น
ตอนนี้มีมหาวิทยาลัยเพียง 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาที่เปิดสอนหลักสูตรนี้เป็นปริญญาตรี 4 ปีแบบครบวงจร ได้แก่ที่ Kansas State University และ Johnson and Wales University
สำหรับที่ Kansas State U. นั้น ต้องใช้ทรานสคริปต์ในการสมัคร โดยมีคะแนนสอบสูงกว่า 65% ของทั้งสายชั้น ผลสอบ ACT 21 คะแนนขึ้นไป และผลสอบ SAT 980 คะแนนขึ้นไป ไม่ต้องใช้ผลทดสอบทางภาษาอังกฤษค่ะ
ส่วน Johnson and Wales U. นั้น ใช้ทรานสคริปต์ และผลทดสอบทางภาษาอังกฤษ TOEFL iBT 80 หรือ TOEFL PPT 550 คะแนนขึ้นไป หรือ IELTS 6.5 คะแนนขึ้นไปค่ะ
แนวทางอาชีพ
น้องๆ สามารถเป็นทั้งเจ้าของร้านและเชฟได้พร้อมๆ กัน หรือจะเป็นผู้จัดการร้าน ผู้ตรวจสอบคุณภาพอาหาร ผู้รับจัดงานเลี้ยง นักทำขนม นักลงทุน ฝ่ายขายและการตลาด ที่ปรึกษา และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ
สถาบันในต่างประเทศที่เปิดสอน
Kansas State University Bachelor of Science in Bakery Science and Management
Johnson and Wales University Bachelor of Science in Baking and Pastry Arts and Food Service Management
นอกจากนี้ยังมีการเรียนการสอนระดับอนุปริญญาและประกาศนียบัตรด้านการอบขนมและธุรกิจ (เท่านั้น) ในสถาบันดังนี้
Kendall College
Southern New Hampshire University
Virginia Intermont College
พูดแล้วอยากทานเค้กขึ้นมาเลย ^^ น้องๆ คนไหนที่อยากมีร้านขนมเป็นของตัวเอง ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมของแต่ละมหาวิทยาลัยนะคะ เปิดร้านเมื่อไหร่บอกด้วย พี่พิซซ่า คงไม่ไปเรียน แต่ขอเป็นลูกค้าแทนละกัน
ข้อมูล:
http://www.princetonreview.com/, http://www.k-state.edu
http://www.jwu.edu
ภาพประกอบ:
http://blog.lauraashley.com, http://ediblecrafts.craftgossip.com
http://perfectweddingcollections.blogspot.com
http://www.onecakeaday.com, http://www.columbiatribune.com
http://www.seriouseats.com
20 ความคิดเห็น
เมืองไทยน่าจะมีบ้างเน้อ (^O^)/
น่าเรียนสุด ๆ .... ไม่ใช่ว่าทำขนมเก่งนะ
อยากชิม <3
ที่พูดมาเนี่ยไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ เเค่อยากมาเล่าประสบการเฉยๆ เพราะพี่ผ่านมาเเล้ว บอกตรงๆมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครๆคิดกันหรอก
ขอโทษที่ตำหนิเเต่เนื่องด้วยว่าผมเปนเชฟ พอเห็นคนใช่คำพูดๆเลยทนไม่ได้
คนที่ทำขนมเก่งๆบางคนยังทะเลาะกับแฟนเพราะเรื่องทำขนมเลยอ่ะ
เราไม่ถูกกับสองวิชานี้จริงๆ
จริงๆ ก็ลองเทียบดูแล้วระหว่างความหมายของ Pastry กับ Bakery
ทีนี้เห็นว่า วิชาด้านการทำขนมนี้เน้นการอบขนมเป็นหลัก มีทั้งอบพิซซ่าด้วย
แล้วก็เห็นว่า bake ก็แปลว่าอบ เลยคิดว่าถ้าใช้คำว่าขนมอบ น่าจะให้ภาพที่ชัดมากกว่าว่าขนมปังเฉยๆ อ่ะค่ะ กลัวว่าถ้าใช้ขนมปังแล้ว ผู้อ่านจะเห็นภาพว่าทำขนมปัง แต่ไม่เห็นภาพเค้กหรือของกินอื่นๆ ไปด้วย
แต่ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ช่วยชี้แนะ
สนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มมากกว่านี้ครับ