สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยนะคะ ร้อนมากซะจนอยากจะใช้คำหยาบมาขยายเลย แต่เดี๋ยวจะโดนแบน 555 ตอนเช้าๆ พี่เดินจากท่าเรือไปออฟฟิศที่ห่างกันแค่ 10 นาที ไปถึงก็เหงื่อแตกพลั่กอย่างกับไปเล่นกีฬามาทั้งที่เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเอง แต่ยิ่งเราบ่น เราก็จะยิ่งร้อนขึ้น ฉะนั้นวันนี้ พี่พิซซ่า เลยรวมอันดับร้านไอศกรีมทั่วโลกมาฝากค่ะ เผื่อเห็นอะไรเย็นๆ แล้วจะรู้สึกเย็นกายเย็นใจขึ้นบ้าง
10 อันดับร้านไอศกรีมที่น่าทานที่สุดในโลก
เปิดบริการในปี 2002 โดยคู่สามีภรรยาที่เดินทางไปเที่ยวอิตาลีซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อแม่สามี ทั้งคู่ได้ทานไอศกรีมอิตาเลี่ยนแท้ๆ จนติดใจ และอยากกลับไปเปิดร้านไอศกรีมเจลาโต้ที่บ้านบ้าง เพราะตอนนั้นเมืองนี้ไม่มีร้านไอศกรีมเจลาโต้เลย ทั้งคู่ตระเวนหาส่วนผสมจากชาวไร่ท้องถิ่นในรัฐเพื่อหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดที่จะนำมาทำไอศกรีมตามแบบฉบับอิตาเลียนแท้ๆ แต่ใช้วัตถุดิบในเมืองเพื่อลดต้นทุน และกระจายรายได้ท้องถิ่น
ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาขาทั่วเมือง โดยไอศกรีมแต่ละรสจะทำขึ้นใหม่วันต่อวันโดยผู้เชี่ยวชาญการทำไอศกรีมจากอิตาลี ทำให้แต่ละสาขามีรสชาติไอศกรีมแต่ละวันต่างกัน สามารถตรวจสอบรสชาติในแต่ละวันได้ทางเว็บไซต์ของร้าน นอกจากไอศกรีมเจลาโต้และไอศกรีมรสชาติทั่วไปแล้ว ยังมีไอศกรีมรสชาติไม่เหมือนใครอีกด้วย เช่น รสมาดากัสการ์บอร์บอนวานิลลา, รสทับทิม, รสไซง่อนซินนามอน รวมไปถึงไอศกรีมกะทิจากไทยด้วย (แต่สูตรของที่นี่จะใส่เหล้ารัมเล็กน้อยด้วย รสชาติจะคล้ายไอศกรีมกะทิสดผสมรัมเรซิ่นหน่อยๆ) แถมยังใช้กะทิส่งตรงจากเมืองไทย
เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1929 จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ไอศกรีมซะทีเดียว เพราะมันคือโฟรเซนคัสตาร์ด ที่ทำมาจากครีมสด ไข่ไก่ และน้ำตาล ซึ่งเป็นขนมหวานท้องถิ่นของชาวมิดเวสเทิร์นในสหรัฐ แต่คนต่างถิ่นทุกคนมองว่ามันคือไอศกรีมรสคัสตาร์ดนั้นเอง ปัจจุบันมีรสชาติหลากหลายขึ้นรวมไปถึงท็อปปิ้งผลไม้กว่าสิบชนิดให้เลือกตกแต่งโฟรเซนคัสตาร์ดได้ตามใจชอบเลย นอกจากนี้ยังพร้อมเสริ์ฟทั้งในรูปแบบโคน ถ้วย ไอศกรีมปั่น หรือเป็นโฟลตอยู่บนเครื่องดื่มอีกที
ไอศกรีมธรรมดาหนึ่งรสถ้วยเล็กสุดราคา $2.30 และถ้วยใหญ่สุดอยู่ที่ $5 ค่ะ นอกจากนี้ยังมีขนมอีกหลากหลายชนิดจากคัสตาร์ดวางจำหน่ายด้วย ตอนนี้มี 2 สาขาในเมืองค่ะ
ร้านไอศกรีมสไตล์อินเดียแท้ๆ ที่ปิดตัวไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมรสชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้น ไอศกรีมที่นี่ต่างจากรสชาติหอมหวานแบบไอศกรีมทั่วไปเพราะมีเครื่องเทศรสจัดจากอินเดียเป็นส่วนผสมหลัก ทั้งรสชาอินเดีย (Chai tea) รสกระวาน รสละมุด รสหญ้าฝรั่น รสกุหลาบและรสขิง รวมไปถึงไอศกรีมอินเดียแท้ๆ ที่เรียกว่า Kulfi หรือนมแช่แข็งและ Lassi (นมเปรี้ยวแบบอินเดีย) ก็มีขายเช่นกัน และไม่ต้องห่วงนะคะ รสธรรมดาอย่างวานิลลา ช็อคโกแลตก็มีขายเช่นกันค่ะ และเป็นแบบปกติด้วย ไม่ได้เติมเครื่องเทศลงไป
Devon House คือคฤหาสน์ของมหาเศรษฐีผิวสีคนแรกของจาไมก้า ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพราะสถาปัตยกรรมแบบคาริเบียนวิคตอเรียสมัยศตวรรษที่ 19 และสวนรอบบ้านที่ยิ่งใหญ่อลังการ นอกจากนี้หลายคนยังยอมจ่ายเงินค่าเข้าเพียงเพื่อเข้ามาทานไอศกรีมของร้านในคฤหาสน์แห่งนี้ เพราะไอศกรีมทั้ง 27 รสของที่นี่มาจากผลไม้สดๆ ทั่วเกาะจาไมก้า และยังมีรสเบียร์ที่ไม่เหมือนใครชื่อรสว่า Devon Stout ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้ชายทั่วโลก ไม่ว่าใครที่ได้มาเยี่ยมชมคฤหาสน์นี้ก็จะต้องตรงไปซื้อไอศกรีมโคนทันที ก่อนที่จะเดินถือไปกินไป ชมสวนอย่างสบายใจ เป็นทัวร์ชมโบราณสถานที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
เป็นร้านเล็กๆ ดูธรรมดามากๆ จนน่าจะเดินผ่านไปแบบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ แต่ที่จริงแล้ว ร้านนี้เป็นร้านไอศกรีมที่อร่อยที่สุดในประเทศ ร้านนี้เปิดบริการเมื่อปี 1938 โดยครอบครัวชาวอิตาเลียนที่อพยพมา ว่ากันว่าจนถึงทุกวันนี้แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยนอกจากการทำให้ไม่ดูเก่าเท่านั้นเอง เพราะเจ้าของปัจจุบันก็ยังเป็นลูกหลายสายตรงที่สืบทอดกิจการและยังคงรักษาฝีมือและสูตรลับของครอบครัวเอาไว้ตลอด 80 กว่าปีมานี้
ร้านนี้มีรสชาติไอศกรีม 50 รสเช่นช็อคโกแลต วานิลลา พีช ซินนามอน แชมเปญมะนาว และค็อกเทลชนิดต่างๆ ใครที่อยากไปลองต้องศึกษาแผนที่ดีๆ และถามคนท้องถิ่นให้รู้เรื่อง เพราะร้านเล็กและธรรมดามากจนมองไม่เห็นจริงๆ
เป็นเมืองไอศกรีมสมชื่อ เพราะมีร้านขายไอศกรีมเป็นสิบๆ ร้าน รวมรสชาติกว่า 300 รสที่ทั้งแปลก ประหลาด น่าพิศวง และชวนสงสัยมากที่สุดในโลก ทั้งรสไก่ผสมถั่วเหลือง รสรากกล้วยไม้ รสเกลือจากเกาะกลางทะเล ไปจนถึงรสปลาไหล เอิ่ม... แต่เจลาโต้และไอศกรีมปกติทั่วไปก็มีขายเช่นกัน แต่แหม มาทั้งทีจะกินรสที่หาได้แถวบ้านทำไมกัน จะไม่ลองชิมรสงูเหลือมซักครั้งหนึ่งในชีวิตซักหน่อยหรอ (เอาจริงๆ พี่ก็ไม่กล้ากิน 555)
Ice Cream City เป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุก Namja Town ค่ะ ถ้าใครมีโอกาสไปอย่าลืมกินรสแปลกๆ แล้วกลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ
เปิดในปี 1984 ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านที่ล้ำสมัย นำเทรนด์ไอศกรีมก่อนใครในโลก แม้จะไม่ประหลาดเท่าหลายรสในอันดับ 7 แต่รสชาติของที่นี่ก็ขึ้นชื่อที่สุดในออสเตรเลีย ร้านมีเพียงสาขาเดียวที่เดียวเท่านั้น ถ้าต้องการรสทั่วไปสามารถเข้าไปสั่งได้ทันที แต่ถ้าต้องการรสชาติที่ไม่เหมือนใครจะต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันให้ช่างทำไอศกรีมได้หาวัตถุดิบก่อน ตัวอย่างรสแปลกๆ เช่น รสใบกระวาน รสสาหร่ายออสเตรเลีย รสช็อคโกแลตพริก รสน้ำผึ้งผสมขิง รสกลีบกุหลาบ รสลิ้นจี่ผสมมะลิ รสแชมเปญมะม่วง รสสตรอเบอร์รี่ผสมน้ำส้มสายชูราดสลัด และอีกหลายรสที่ถึงพูดไปก็ไม่น่ามีใครรู้จัก 555
นอกจากนี้ยังรับทำเค้กแต่งงานด้วยนะคะ ใครอยากได้เค้กไอศกรีมสำหรับงานแต่งที่ไม่เหมือนใครในโลก สามารถสั่งได้ที่นี่เลยค่ะ
โรงแรม A’jia เป็นหนึ่งในโรงแรมที่สามารถชมวิวแบบโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในตุรกี โดยเฉพาะร้านอาหารของโรงแรมที่มีที่นั่งกลางแจ้งริมระเบียงให้คู่รักได้ทานอาหารค่ำใต้แสงจันทร์ จากนั้นก็ตบท้ายด้วยของหวานเลื่องชื่ออย่างไอศกรีมวานิลลาทอด เชอร์เบ็ตเสาวรส และไอศกรีมพื้นเมืองตุรกี Dondurma ที่ทำจากนมแพะ แม้ร้านอาหารจะไม่ได้ให้บริการเฉพาะแขกของโรงแรมเท่านั้น แต่ลูกค้าก็เต็มตลอดเวลา ถ้าใครสนใจต้องจองล่วงหน้าหลายวันเลยค่ะ
ร้าน Vaffelbageriet ตั้งอยู่ในสวนสนุก Tivoli Gardens เป็นร้านไอศกรีมที่สืบทอดมากว่าร้อยปี จุดเด่นของร้านนี้คือ "อเมริกาเนอร์" เป็นไอศกรีมหนึ่งที่ เสริ์ฟในวาฟเฟิลโคนขนาดยักษ์ที่จุไอศกรีมได้ถึง 4 ลูกพร้อมท็อปปิ้ง วิปครีม และเมอแรงก์เคลือบช็อคโกแลต กินอันเดียว รับรองว่าอิ่มไปทั้งวัน
สวนสนุกแห่งนี้เปิดทำการตั้งแต่กลางเดือนเมษายนไปจนถึงปลายเดือนกันยายน ถ้าใครมีโอกาสอย่าลืมเล่นเครื่องเล่นให้ครบและกิน "อเมริกาเนอร์" อย่าให้เหลือ
เปิดกิจการตั้งแต่ปี 1939 ภายใต้ชื่อร้านแสนเก๋ว่า Perchè No! ที่แปลว่า Why not! หรือ ทำไมจะไม่ล่ะ! ทำไอศกรีมสดใหม่แบบวันต่อวันโดยให้รสชาติของแต่ละรสแบบแน่นๆ ไม่ใช่แต่งสีแต่งกลิ่นแล้วใส่แต่นมกับน้ำตาล รสที่มีชื่อเสียงได้แก่รสน้ำผึ้ง รสงา รสขาเขียวมัทฉะ และรสกาแฟกรุบกรอบผสมช็อคโกแลต
นอกจากนี้ยังมีเชอร์เบ็ตผลไม้อีกหลายประเภทสำหรับคนที่ไม่ชอบครีมหวานๆ บางวันยังมีรสพิเศษประจำวันเช่นวันจันทร์มีรสกุหลาบ รสเมล็ดสน และรสทรัยเฟิล หรือวันพฤหัสบดีมีรสชีสเค้ก มีเพียงร้านเดียวสาขาเดียว และขึ้นชื่อว่าเป็นร้านไอศกรีมงานศิลปะแห่งฟลอเรนซ์
ไม่รู้ว่าเห็นอย่างนี้แล้วจะช่วยคลายร้อน หรือเพิ่มความร้อนมากขึ้นเพราะทำให้เกิดความอยากไปกันใหญ่ 555 น้องๆ อยากไปทานร้านไหนคะ แล้วสนใจรสไหนเป็นพิเศษ พี่พิซซ่า อยากลองรสสาหร่ายออสเตรเลียดูค่ะ เพราะชอบทานสาหร่ายเป็นปกติอยู่แล้ว อยากรู้ว่าถ้าเป็นไอศกรีมมันจะออกมายังไง แต่คงต้องคุยกับเงินในกระเป๋าก่อนเนอะ ^^
ส่วนใครอยากอ่านวัฒนธรรมต่างประเทศสนุกๆ เรื่องอื่นๆ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่คอลัมน์เรียนต่อนอก www.dek-d.com/studyabroad มีให้อ่านอีกเพียบเลยจ้า ^^
TWITTER: @PiZZaDekD
ข้อมูล
http://travel.nationalgeographic.com/travel/top-10/ice-cream-parlors/
ภาพประกอบ
www.contemporaryflorence.com, cudo.com.au
sweetnicoletta.com, www.abc.net.au, www.bu.edu
45 ความคิดเห็น
ไอติมกะทิ ต้องของไทยไผ่ทอง!!!#ผิด
ปล.ใครเคยกินกันบ้างเนี่ย....
\vv/
โถ่ ... ชีวิต
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 11 เมษายน 2556 / 06:20
นเห็นแล้วอยากกินมากมาย