สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และวัฒนธรรมต่างประเทศสนุกๆ จากทั่วโลกเช่นเคย ^^ ถ้าพูดถึงคนดังระดับโลกที่เรียนเก่ง น้องๆ นึกถึงใครกันคะ? สำหรับพี่นั้น ต้องคนนี้เลย! เอมม่า วัตสัน หรือ เฮอร์ไมโอนี่ ขวัญใจใครหลายๆ คนจาก Harry Potter ที่นอกจากจะน่ารักและดังมากๆ แล้ว หลายคนคงรู้กันดีว่าเธอจบจากมหาวิทยาลัยบราวน์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดังมากๆ ในอเมริกาค่ะ


     ดังนั้นวันนี้จึงได้รวมเคล็ดลับและเทคนิคดีๆ ของ เอมม่า วัตสัน ที่ใช้กับการเรียน มาดูกันดีกว่าเธอน่ะเก่งและขยันแค่ไหน!!
     

##สีของหัวสไลด์
1=ส้ม
2=ฟ้า
3=ชมพู
4=ม่วง
5=ฟ้า
6=เขียว##
ใส่สีเลขสีที่นี่หลังเครื่องหมายดอกจันทร์ห้ามมีเว้นวรรคนะ-> *1
Learning Habits of Emma Watson
เอมม่า วัตสัน เกิดในปารีส ประเทศฝรั่งเศส พ่อแม่ของเธอเป็นนักกฏหมายชาวอังกฤษ ซึ่ง เอมม่า วัตสัน เคยให้สัมภาษณ์ว่า 
พ่อแม่ของเธอเป็นคนที่มีจริยธรรมในการทำงานมาก และนั่นก็ส่งผลถึงเธอด้วย เพราะพ่อแม่สอนเอาไว้ว่า ให้รักและเคารพใน
ทุกสิ่งที่ทำ

  

ในช่วงที่ถ่ายภาพยนตร์เรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ เอมม่า วัตสัน ต้องขาดเรียนอยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ทิ้งการเรียน เพราะเธอได้เรียนพิเศษวันละ 4-5 ชั่วโมง ทั้งที่บ้านบ้างหรือที่กองถ่ายบ้าง ส่วนมากเธอจะจัดตารางเอาไว้ว่า ทุกวันจันทร์ตอนเช้า จะเข้าเรียนและพูดคุยกับอาจารย์เพื่อรับงานกลับมาทำ และกลับไปส่งงานอีกครั้งทุกวันศุกร์

หลังจากเรียนจบ Year 11 (ประมาณม.5) นักเรียนในอังกฤษจะต้องสอบข้อสอบที่ชื่อว่า GCSE  ในปี 2006 เธอเรียนที่โรงเรียนมัธยมเฮดดิงตัน ในเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เธอได้ลงสอบ GCSE 10 วิชา และเธอก็คว้าเกรด A* ไปถึง 8 วิชา!! ส่วนอีก 2 วิชาที่เหลือได้เกรด A (อารมณ์ประมาณว่าได้เกรด 4 แทบทุกวิชา ส่วนที่เหลือได้ 3.5) เก่งมากกกกกกกกก

จากนั้นเธอเรียนต่อ Year 12-13 ในหลักสูตร A-Level ที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ 3-4 วิชา และต้องนำคะแนนสอบจาก 3-4 วิชานี้ไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย เอมม่า วัตสัน เลือกเรียนวิชาวรรณคดีอังกฤษ ภูมิศาสตร์ และศิลปะ และเธอก็สอบผ่านด้วยเกรด A อีกเช่นเคย

หลังจากจบมัธยมปลายแล้ว เอมม่า วัตสัน ยังไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยทันที เพราะเธอต้องถ่ายแฮร์รี่พอตเตอร์ต่อ แต่ระหว่างนั้น เธอก็คิดอยู่เสมอว่า "ฉันจะต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยให้ได้" และก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพราะเธอได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบราวน์ ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังมากๆ ของอเมริกา และเป็น 1 ในไอวี่ลีก (กลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่และดังมากที่สุดของอเมริกา) โดยมหาวิทยาลัยนี้ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่นักศึกษามีสุขภาพจิตที่ดีมากที่สุดของประเทศอีกด้วย

มหาวิทยาลัยบราวน์(Brown University) ที่เธอเลือกเรียนนั้น เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างมากๆ เพราะผู้เรียนสามารถออกแบบและเลือกวิชาที่ตัวเองต้องการเรียนได้ทั้งหมด เช่น คนที่ต้องการเรียน pre-med (เตรียมพร้อมสำหรับแพทยศาสตร์) อาจไม่จำเป็นต้องลงวิชาหนักๆ อย่างวิทยาศาสตร์ในเทอมเดียวกัน แต่จะไปลงเรียนวิชาสังคมศาสตร์แทนก็ได้ แน่นอนว่าการเลือกเรียนข้ามสาขาเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ รวมถึงสามารถเลือกเรียนแบบไม่เอาคะแนนก็ยังได้ (มีแค่ผ่าน/ไม่ผ่าน)

ซึ่งนี่ก็คือสาเหตุที่ เอมม่า วัตสัน เลือกเรียนมหาวิทยาลัยนี้ เธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า "ชอบการเรียนที่นี่มาก เพราะสามารถออกแบบวิชาเรียนได้เองอย่างอิสระ และทำให้ยังสามารถลงเรียนวิชาอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นในหลักสูตรได้ นอกจากนี้ การที่สามารถเลือกเรียนแบบแค่ ผ่าน/ไม่ผ่าน ยังทำให้เราไม่ต้องเรียนหนักมาก แต่เรียนเพราะอยากรู้ในเรื่องนั้นจริงๆ เพราะการที่ต้องขยันเรียนเพื่อให้เกรดสวยๆ บนทรานสคริปต์นั้น อาจทำให้เราพลาดอิสระบางอย่างไป"

หลังจากเรียนมาได้ปีกว่าๆ ที่มหาวิทยาลัยบราวน์ เอมม่า วัตสัน ได้ทำการโอนหน่วยกิตมาเรียนที่วิทยาลัยวอร์เซสเตอร์ ซึ่งเป็นวิทยาลัยในสังกัดมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด(University of Oxford) ที่ประเทศอังกฤษในปี 2011 เพื่อที่จะทำงานในวงการบันเทิงได้สะดวกขึ้น รวมถึงเธอต้องการเรียนบางวิชาที่ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัยบราวน์ (แต่ก็มีข่าวลือออกมาว่า เธอตัดสินใจออกมาเพราะถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งไม่ใช่ความจริงเลย) และ ณ ตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยบราวน์ตั้งแต่ต้นปี 2013 ในชั้นปีที่ 4 ของเธอแล้ว (ลองเซิร์ชกูเกิลคำว่า Brown University จะเห็นรูปของเธอเต็มไปหมด)

เว็บไซต์ The Sun เคยลงบทความเรื่อง "นิสัยแปลกๆ ของเหล่าคนดัง" ซึ่ง เอมม่า วัตสัน ก็ติดมากับเค้าด้วย! เพราะนิสัยสุดแปลกของเธอคือ "การชอบเรียนรู้" เธอบอกว่าเธอเสพติดการเรียนรู้ เธอชอบเรียนรู้ทุกๆ อย่าง เธออยากรู้ให้มากในทุกๆ เรื่องเท่าที่เธอจะทำได้ เธอรู้สึกว่าความรู้ที่มีอยู่มันยังไม่พอ และเธอจะไม่หยุดค้นหาความรู้แน่นอน ดังนั้น 3 คำที่หลายๆ คนนิยมให้กับเธอ ก็คือ Young Beautiful Brainy - อายุน้อย สวย และฉลาด

"สิ่งที่ยากสำหรับฉันคือ การที่ฉันสนใจในหลายๆ เรื่องที่แตกต่างกัน ฉันคิดภาพตัวเองที่ทำแค่สิ่งๆ เดียวไม่ออก เพราะฉันแน่ใจมากๆ ว่า ชีวิตฉันจะลงเอยด้วยการทำเรื่อง 4-5 เรื่องด้วยกันแน่นอน"  Emma Watson



     โอ้โห เป็นยังไงบ้างคะ อ่านจบแบบนี้ หลายคนคงปลื้มเธอมากขึ้นแน่ๆ จริงๆ อยากจะขอ 3 คำให้นะ แต่ก็มีคนตั้งไว้ให้แล้ว นั่นก็คือ Young Beautiful Brainy นั่นเอง ใครจะลองนำเทคนิคการไม่หยุดเรียนรู้และค้นคว้าตามสไตล์ของ เอมม่า วัตสัน ไปใช้ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะเนี่ย^^


าพประกอบ : boston.com,watsonuncensored.blogspot.com,ctvnews.ca 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

พี่นางฟ้า Member 26 มิ.ย. 56 12:59 น. 2
อยากให้การศึกษาไทยเป็นแบบนี้บ้าง เรียนเพราะอยากรู้ ไม่ใช่เพราะเกรด ให้เราได้เลือกลงในสิ่งที่อยากเรียน ไม่ใช่เรียนในสิ่งที่ไม่ได้ใช้ไปตลอดชีวิต
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
555555 26 มิ.ย. 56 12:02 น. 1
สมกับความเป็นเฮอร์ไมโอนี่ของชั้นเลยจริงๆ เอ็มม่าที่รัก ฉันคิดถึงเธอ ช่วงเวลาที่ได้ดูเธอและตัวละครอื่นๆใน HP ฉันมีความสุขมาก
0
กำลังโหลด

86 ความคิดเห็น

555555 26 มิ.ย. 56 12:02 น. 1
สมกับความเป็นเฮอร์ไมโอนี่ของชั้นเลยจริงๆ เอ็มม่าที่รัก ฉันคิดถึงเธอ ช่วงเวลาที่ได้ดูเธอและตัวละครอื่นๆใน HP ฉันมีความสุขมาก
0
กำลังโหลด
พี่นางฟ้า Member 26 มิ.ย. 56 12:59 น. 2
อยากให้การศึกษาไทยเป็นแบบนี้บ้าง เรียนเพราะอยากรู้ ไม่ใช่เพราะเกรด ให้เราได้เลือกลงในสิ่งที่อยากเรียน ไม่ใช่เรียนในสิ่งที่ไม่ได้ใช้ไปตลอดชีวิต
0
กำลังโหลด
jade Member 26 มิ.ย. 56 13:36 น. 3
เห็นด้วยกับพี่นางฟ้ามากๆ แต่ก็นะ ถ้าพูดว่าเรียนอักษรแล้วจะเรียนพวกวรรณคดี อารยธรรม ไปทำไม ไม่ได้ใช้ แถมฉุดเกรดสุดๆ ก็จะโดนอาจารย์ค่อนว่า อักษรไม่ใช่โรงเรียนสอนภาษา ถ้าอยากเรียนแค่ภาษา ก็ไปเรียนโรงเรียนติวไป๊ T^T

ว่าแล้วก็จมกับหนังสืออารยธรรมต่อ TOT
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Lemon Melos Member 26 มิ.ย. 56 15:55 น. 6
เป็นที่ขยันและมีระเบียบวินัยมาก เหมาะกับบุคลิกของเฮอร์ไมโอนี่และสามารถทำทุกๆ เรื่องให้สำเร็จได้จริงๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด