Q : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนคืออะไร?
A : โครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน คือโครงการที่ให้เด็กมัธยมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม โดยจะได้เข้าเรียนโรงเรียนรัฐตามหลักสูตร รวมถึงพักอยู่กับโฮสท์แฟมิลี่หรือครอบครัวอุปถัมภ์ตลอดเกือบ 1 ปีที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ค่ะ เรียกว่าใช้ชีวิตเหมือนเป็นคนในประเทศนั้นๆ เลยล่ะ
Q : ค่าใช้จ่ายโครงการแลกเปลี่ยนตกประมาณเท่าไหร่?
A : สำหรับค่าโครงการนั้น ส่วนมากขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทค่ะ ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่ต้องจ่ายเพิ่มก็เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่ากินอยู่(อาจไม่เสียมาก เพราะพักอยู่กับโฮสท์
แฟมิลี่อยู่แล้ว) ดังนั้นหากคิดจะไปแลกเปลี่ยน แนะนำว่าควรมีเงินสำรองไว้ประมาณ
4-5 แสนบาทค่ะ
Q : โห เสียตั้งหลายแสน แล้วมันเป็นทุนยังไง? ต่างจากไปเองยังไงเหรอ?
A : ลองดูตารางต่อไปนี้นะคะ
ข้อแตกต่าง |
ไปเอง |
ไปกับโครงการแลกเปลี่ยน |
ค่าโครงการ/
ค่าเล่าเรียน |
เรียนได้เฉพาะโรงเรียนเอกชน
ค่าเทอมปีละ 3-4 แสน(ขั้นต่ำ) |
เรียนโรงเรียนรัฐ
ค่าโครงการ 3-4 แสนบาท |
ค่าที่พัก |
ขั้นต่ำปีละ 2 แสน |
ไม่เสีย อยู่กับโฮสท์แฟมิลี่ |
ค่ากิน |
แล้วแต่ค่าครองชีพ
ขั้นต่ำปีละ 150,000 บาท |
แทบไม่เสีย อยู่กับ
โฮสท์แฟมิลี่ |
พอเห็นภาพกันแล้วเนาะ ^^ นอกจากนี้ การมีประสบการณ์การเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
ยังช่วยเพิ่มเครดิตให้ตัวเราเองด้วยค่ะ สามารถเอาไปใส่พอร์ตฟอลิโอหรือเขียนเป็นประสบการณ์เวลาสมัครเรียนต่อหรือขอทุนได้ด้วยนะเออ จะบอกให้
Q : มีโครงการไหนมีแจกทุนเต็มจำนวนมั้ย?
A : โครงการที่มีแจกทุนเต็มจำนวน(อ้างอิงจากปีที่ผ่านมา) ได้แก่
- โครงการ SEA จำนวน 1 ทุน
- โครงการ YFU รอบที่จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
จำนวน 4-5 ทุน
- โครงการ YES จำนวน 3 ทุน
- โครงการ AFS แบ่งย่อยได้แก่
>> ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ สำหรับนักเรียนที่บิดามารดาหรือผู้ปกครอง
ตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท จำนวน 10 ทุน
>> ทุน Corporate Scholar Program (CSP) โดยบริษัท หน่วยงาน หรือองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนทุนให้เยาวชนที่เป็นบุตร-ธิดาของพนักงานได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ (ต้องตรวจสอบอีกทีว่าในปีนั้นๆ มีบริษัทหรือหน่วยงานไหนเข้าร่วมบ้าง)
>> ทุนรัฐบาลอเมริกา รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดสรรทุนเต็มจำนวนให้แก่นักเรียนไทยมุสลิม โดยบิดามารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมายมีรายได้รวมกันเฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 50,000 บาท
- โครงการ EF จำนวน 1 ทุน
- โครงการ IEE จำนวน 1 ทุน
ใครอยากได้ก็ต้องทำคะแนนสอบข้อเขียนให้ได้เยอะๆ นะคะ เพราะเค้าใช้คะแนนสอบ
เป็นหลักค่ะ
Q : คุณสมบัติผู้สมัครเป็นยังไงบ้าง?
A : โดยทั่วไปต้องกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 3-5 ค่ะ บางโครงการอาจกำหนดวันเกิด
ด้วยค่ะ
Q : หาใบสมัครได้จากไหน?
A : ถ้าเป็นโครงการใหญ่ๆ เช่น AFS แต่ละเขตพื้นที่ก็จะมีโรงเรียนที่เป็นศูนย์ AFS ค่ะ น้องสามารถไปเอาใบสมัครได้ที่นั่น แต่หากเป็นโครงการอื่นที่ไม่มีอาจารย์คอยประสานงาน
น้องก็สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้จากเว็บไซต์ของโครงการเลยค่ะ
Q : ต้องมีผลการเรียนเท่าไหร่ถึงจะสมัครได้?
A : แต่ละโครงการจะกำหนดเกรดเฉลี่ยสะสมไว้ต่างกันค่ะ เช่น
- โครงการ AFS มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.30 ขึ้นไปและไม่มีผลการเรียนติด 0 ร และ
มส
- โครงการ SEA มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป
- โครงการ FTW มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.50 ขึ้นไป
- โครงการ YES มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไป ไม่มีเกรด 1 หรือ 0 ในผลการ
เรียน 3 ปีล่าสุด
- โครงการ AYC มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.3 ขึ้นไปในรายวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา ภาษาไทย ส่วนวิชาภาษาอังกฤษต้องได้เกรดเฉลี่ย 2.5 ขึ้นไป
- โครงการ ICE มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 2.00 ขึ้นไป
- โครงการ EF มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมและเกรดเฉลี่ยแต่ละรายวิชาไม่ต่ำกว่า 2.0
- โครงการ IEE มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม 2.75 ขึ้นไปและเกรดวิชาภาษาอังกฤษ 3.00
ขึ้นไป
โดยส่วนมากจะพิจารณาเกรดเฉลี่ยสะสม 2-3 ปีย้อนหลัง น้องๆ ก็เอาเกรดที่ได้ทั้งหมด
มาหารจำนวนเทอม ก็จะออกมาเป็นเกรดเฉลี่ยสะสมค่ะ
Q : อยากไปประเทศที่ใช้ภาษาที่สาม แต่ไม่มีความรู้ภาษานั้นๆ เลย จะไปได้มั้ย?
A : ไม่ต้องห่วงค่ะ ส่วนมากก็ไปเรียนกันเอาที่นั่น แต่ก็มีบางโครงการ เช่น AYC มีข้อกำหนดเหมือนกันสำหรับบางประเทศ อย่างเช่น ใครจะไปสวิส ต้องมีพื้นฐานภาษาเยอรมันมา 2 ปี รวมถึงใครจะไปญี่ปุ่น ก็ต้องเรียนญี่ปุ่นมาอย่างน้อย 2 ปีเหมือนกัน ดังนั้นต้องเช็คกับทางโครงการอีกทีค่ะ แต่โดยรวมแล้วไม่ต้องซีเรียสค่ะ
Q : ไปประเทศไหนดีถึงจะดีที่สุด?
A : เป็นหนึ่งในปัญหาโลกแตกที่น้องๆ ถามเยอะมากค่ะว่า จะไปประเทศไหนดี จะเรียนภาษาอะไรดี ซึ่งแต่ละคนก็คงมีคำตอบในใจไม่เหมือนกัน บางคนที่รู้สึกว่าอยากพัฒนา
ภาษาอังกฤษของตัวเองให้ดีเลิศเลย ก็จะเลือกไปประเทศอเมริกา หรือบางคนเป็นเด็กศิลป์ฝรั่งเศสอยู่แล้ว ก็อยากไปฝรั่งเศสไม่ก็เบลเยี่ยม หรือบางคนชอบเที่ยวไกลๆ ก็อาจจะเลือก
ไปอเมริกาใต้ เพราะคิดว่าชีวิตนี้ให้ไปเที่ยวอเมริกาใต้เองคงจะลำบาก เลยไปแลกเปลี่ยนซะเลยดีกว่า ดังนั้นแต่ละคนก็มีแนวทางที่ต่างกันค่ะ ลองถามตัวเองนี่แหละง่ายสุด!
Q : แล้วเราสามารถเลือกเมืองและโรงเรียนที่อยากไปได้มั้ย?
A : ไม่ได้จ้า
Q : โครงการไหนมีไปประเทศอังกฤษบ้าง?
A : ใครอยากไปอังกฤษ มีโครงการของ EF กับ AYC ค่ะ
Q : แล้วโครงการไหนมีไปเกาหลีใต้บ้าง?
A : มีโครงการเดียวค่ะคือ YFU รับปีละ 1-2 คนเท่านั้นและรับเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น (แข่งกันตาเหลือก)
Q : ไม่เก่งภาษาอังกฤษ จะไปได้มั้ย?
A : น้องจะต้องสอบข้อเขียนค่ะ ซึ่งตัวข้อเขียนนั้นก็พอจะเป็นตัววัดได้แล้วว่าเราเก่งพอที่
จะไปได้หรือไม่
Q : สอบข้อเขียนยากมั้ย? เนื้อหาเป็นยังไง?
A : ข้อสอบของโครงการแลกเปลี่ยนเป็นข้อสอบแบบ SLEPT TEST ที่เน้นการฟังและอ่าน ขอบอกว่าไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน เน้นท่องศัพท์ไว้เยอะๆ ค่ะ ส่วนใครอยากลองทำข้อสอบย้อนหลัง ก็มีมาฝากเหมือนกันค่ะ
Q : แลกเปลี่ยนครบ 1 ปีแล้ว อยากเรียนที่นั่นต่อเลยได้มั้ย?
A : ไม่ได้ค่ะ น้องต้องกลับมาที่ไทยก่อนเพราะไปในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน จากนั้น
ถ้าอยากกลับไปเรียนต่อที่นั่น ก็ต้องเดินเรื่องต่อเองค่ะ เช่น ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาตอน
ม.6 น้องต้องกลับมาสอบที่ไทยและทำเรื่องจบม.6 (ปกติไปแลกเปลี่ยน เค้ามักไม่ค่อย
ออกใบจบการศึกษาให้) จากนั้นค่อยเอาวุฒิม.6 ที่จบสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ที่อเมริกาค่ะ
Q : กลับมาต้องซ้ำชั้นมั้ย?
A : ขึ้นอยู่กับโครงการและโรงเรียนที่น้องจะได้ไปค่ะ บางโรงเรียนอาจจะบังคับให้ซ้ำ บางโรงเรียนอนุโลมไม่ต้องซ้ำ น้องควรติดต่อกับทางโรงเรียนดูเป็นกรณีพิเศษค่ะ แต่ส่วน
มากเด็กสายศิลป์จะไม่ซ้ำ แต่สายวิทย์จะซ้ำ เพราะว่าสายวิทย์เนื้อหาเยอะและหนักกว่าสายศิลป์ แต่ก็มีน้องๆ สายวิทย์บางคนไม่ซ้ำชั้นเหมือนกันนะ ได้ยินว่ามีน้องสายวิทย์ไม่ซ้ำ
และสอบกสพท.ติดหมอด้วยล่ะค่ะ ชาบู ชาบู
Q : แล้วจะกลับมาสอบแอดมิชชั่นหรือสอบตรงได้มั้ย?
A : ไม่มีปัญหาค่ะ อย่างสอบตรงมีเกรดกี่เทอมก็ใช้เท่านั้น(ควรติดต่อสอบถามคณะเพิ่มเติมด้วย) มีน้องหลายๆ คนที่ไปแลกเปลี่ยนมาก็สอบตรงติดค่ะ
Q : อยากอ่านประสบการณ์ของรุ่นพี่ที่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน จะหาอ่านได้จากไหน?
A : ใครสงสัยข้อนี้นี่งอนตายเลย ฮ่าๆ แสดงว่าไม่เคยอ่านประสบการณ์เด็กนอกแน่ๆ >__< คลิก
ตรงนี้ แรงๆ เลยค่ะ รวมประสบการณ์เด็กนอกของนักเรียนแลกเปลี่ยนไว้เป็นร้อย
เรื่องเลยจ้า
Q : จะรู้ได้ยังไงว่าโครงการไหนเริ่มเปิดรับสมัครแล้วบ้าง?
A : สบายใจหายห่วงค่ะ น้องๆ สามารถติดตามได้ที่
www.dek-d.com/studyabroad ตรงหมวดนักเรียนแลกเปลี่ยน ถ้าโครงการไหนเปิดรับสมัครแล้ว
พี่เป้ จะรีบนำระเบียบการมา
ลงเลยจ้า
หรืออีกวิธีหนึ่งที่สะดวกมากคือ น้องๆ สามารถเข้าไปค้นหาทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนได้
จากโปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกที่
www.dek-d.com/studyabroad/scholarship
พี่ก็จะอัพเดททุนใหม่ๆ ผ่านโปรแกรมค้นหาทุนนี้เหมือนกันค่ะ
Q : ไปแลกเปลี่ยน เราจะได้อะไรกลับมาบ้าง?
A : โอ้โห เยอะแยะมากมายค่ะ หลักๆ ก็คือภาษา เชื่อเถอะว่าภาษาน้องจะต้องดีมาก พี่รู้จักน้องคนนึงไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 1 ปี กลับมานี่เก่งญี่ปุ่นขั้นเทพ และหลังจากนั้นอีก 2 ปี
น้องเค้าสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นได้ระดับ N1 หรือระดับสูงสุดนั่นเองค่ะ!! นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสลองไปใช้ชีวิตที่เมืองนอกด้วย ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากกกกกก บางคนไปแลกเปลี่ยนที่ยุโรป 1 ก็มีโอกาสได้ตะลุยเที่ยวเกือบทั่วทวีปยุโรปแล้ว อิจฉาปะล่ะ อิอิ (ตาร้อน)
หวังว่าน้องๆ ที่อ่านจนจบคงพอเข้าใจโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนมากขึ้นนะคะ
ใครอยากติดโครงการไหน อยากไปประเทศไหน ก็ขอเอาใจช่วยให้ได้ตามที่ตั้งใจ
ไว้ หรือใครอยากชิงทุนเต็มล่ะก็ ฟิตภาษาอังกฤษกันด่วนเลยจ้า!! ส่วนใครมีคำถาม
อยากรู้เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก ก็ส่งอีเมลมาถามได้ที่ pay@dek-d.com เลยค่ะ
คำถามไหนน่าสนใจ เดี๋ยวเลือกนำมาตอบแน่นอน
73 ความคิดเห็น
พี่ชื่อ ปา เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ระยะ1ปี
ทุนเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รุ่น 52
ณ ประเทศอินโดนีเซีย
แต่พี่สอบผ่านข้อเขียนและสัมภาษณ์ตั้งแต่ รุ่น 50 และ รุ่น 51
พี่รับปรึกษาแบบส่วนตัว ปรึกษาเกี่ยวกับโครงการAFS ได้ทุกทุนเลยจ้ะ
https://www.facebook.com/meddyi
ปล.ชอบอ่านประสบการณืเด็กนอกมาก อ่านไปอิจฉาไป อยากให้พี่เป้ลงอาทิตย์ละหลายๆเรื่องเลย
เค้าออกให้กี่เปอร์เซ็นต์หรอคะ
แล้วไปAFS 1ปีใช่ปะคะ แล้วเราจะซ้ำชั้นมั๊ยคะ ไม่อยากเรียนร่วมกับรุ่นน้องเดี๋ยวโดนเรียกป้า(รุ่นพี่เคยโดน)
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2749870
ปล. เค้าเห็นรูปตัวเอง เค้าตกใจเลยพี่เป้
อ้วนมาก
พี่ๆทุนนี้เขาดูแลดีมากๆอ่า ใส่ใจเด็กดี
ขนาดเอกสารวีซ่านักเรียนทุนก็ไม่ต้องออกค่าแปล
สู้ๆนะทุกคน
เราเป็น บริษัท ที่จัดตั้งองค์การที่จะช่วยให้คนที่อยู่ในความต้องการของช่วยเช่น help.So ทางการเงินถ้าคุณกำลังจะผ่านความยากลำบากทางการเงินหรือคุณอยู่ในระเบียบทางการเงินใด ๆ และคุณจำเป็นต้องเงินเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของคุณเองหรือคุณต้องการให้เงินกู้ยืมแก่ การจ่ายชำระหนี้ของคุณหรือชำระค่าใช้จ่ายของคุณเริ่มต้นธุรกิจที่ดีหรือคุณกำลังมองหามันยากที่จะได้รับเงินกู้ยืมเงินทุนจากธนาคารในประเทศติดต่อเราวันนี้ผ่านทางอีเมล์ mrbillsmithloanfirm@gmail.com ดังนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านคุณโดยเพราะพระเยซูคือเมื่อวานนี้เหมือนกันวันนี้และตลอดไป more.Please เหล่านี้เป็นสิ่งที่ร้ายแรงสำหรับคนที่กลัวใจและพระเจ้า
ชื่อของคุณ:
วงเงินกู้:
ระยะเวลาสินเชื่อ:
จำนวนเซลล์ที่ถูกต้องโทรศัพท์:
ขอบคุณสำหรับความเข้าใจของคุณไปยังรายชื่อผู้ติดต่อของคุณในขณะที่เรารอ
ขอแสดงความนับถือ
การจัดการ
อีเมล์:mrbillsmithloanfirm@gmail.com
เรื่องเกรดอ่ะ โรงเรียนเราเทียบไม่ได้นะ เค้าบอกว่หน่วยกิตไม่พอ แล้วพอจะต่อมหาลัยอ่ะ ก้อต้องแล้วแต่เค้าพิจารณา แต่ถ้าสอบอินเตออ่ะได้ เอกชนก้อน่าจะได้นะ แต่ของรัฐภาคปกอ่ะ ต้องรอadอยากเดียวเลยตรงไม่ได้ (เท่าทีเรารุ้มาอ่านะ)