สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com หลังจากที่เราพูดถึงการเตรียมตัวต่างๆ นานาพื่อเรียนต่อโท ทั้งการหาที่เรียน การสอบที่จำเป็น อันดับมหาวิทยาลัยในแต่ละด้าน รวมไปถึงการเขียนเรียงความเรียนต่อ หลายๆ คนคงผ่านขั้นตอนพวกนี้ไปหมดแล้ว เรามาดูขั้นต่อไปหลังจากสมัครกันดีกว่าค่ะ นั่นคือการรอฟังผล บางคนอาจจะไม่กล้าทำอะไรเลย หรืออาจจะบ้าทำซะทุกอย่างไปเลยก็ได้ พี่พิซซ่า จะมาบอกว่าในเวลานี้ เรื่องดีๆ ที่น่าทำคืออะไรบ้างค่ะ
เช็คให้ชัวร์ว่าใบสมัครไปถึงอย่างปลอดภัย
ลองส่งเมลไปถามมหาวิทยาลัยว่าได้รับเอกสารทั้งหมดหรือยัง เอกสารของน้องครบมั้ย ขาดเหลืออะไรบ้าง ส่วนมากจะเกิดปัญหาหายระหว่างทาง ฉะนั้นควรส่งแบบ EMS หรือแบบที่มีประกันการสูญหายและสามารถตามรอยได้ จะแพงแค่ไหนก็ควรทำไว้นะคะเพราะถ้าเอกสารหายเนี่ยไม่คุ้มเลย อีกปัญหาคือ กรณีที่อาจารย์บอกว่าจะส่งจดหมายแนะนำตามไปให้ทีหลังค่ะ เพราะท่านอาจจะยุ่งๆ จนลืม หรือมึนส่งใบของอีกคนไปสลับกัน ฉะนั้นเช็คทุกขั้นตอนว่าตอนนี้มันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่อย่าวิตกจริตจนถึงกับส่งอีเมลไปถามคณะกรรมการทุกวันเลยว่าพิจารณาน้องแล้วรึยัง เพราะเขาจะพิจารณาให้ทันทีค่ะ... ให้ชื่อนี้หมดสิทธิเข้าเรียน 555 ฉะนั้นตรวจสอบแค่พองามพอสมควรนะคะ
เตรียมตัวเตรียมใจ
ถึงหลายหลักสูตรจะไม่มีรอบสอบสัมภาษณ์ หรืออาจจะสอบสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ ซึ่งกดดันน้อยกว่าการบินไปสัมภาษณ์ที่โน่น แต่ก็ต้องอ่านระเบียบการดีๆ นะคะว่าน้องต้องไปสัมภาษณ์มั้ย บางครั้งในใบสมัครก็แจ้งว่าไม่มีการสัมภาษณ์ แต่บางทีน้องอาจจะติดกลุ่มน่าลังเล ที่เขาขอคุยด้วยก่อนที่จะตัดสินใจว่าได้หรือไม่ ซึ่งเขาอาจจะแจ้งมาในจดหมายตอบรับค่ะ อย่าอ่านแค่หัวกระดาษว่า "ยินดีด้วยคุณผ่านการคัดเลือก" แล้วก็วิ่งดีใจไปเลยนะคะ เพราะอาจจะมีหมายเหตุด้านล่างบอกว่าจะมีนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เพื่อความชัวร์อีกที แล้ววันนั้นน้องก็ไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะออกไปฉลองกับเพื่อน แบบนี้มันน่าช้ำใจยิ่งกว่าไม่ติดตั้งแต่ต้นอีกนะคะ
วางแผนค่าใช้จ่ายโดยละเอียด
ก่อนสมัครน้องๆ ก็คงวางแผนกันบ้างแล้วละเนอะ ว่าได้ทุนกี่ส่วน ทุนพ่อแม่เท่าไหร่ ต้องไปทำงานพิเศษยังไง ค่าบ้านค่าอาหารใครจ่าย ฯลฯ แต่ตอนนี้อยู่ว่างๆ ก็ควรจะเอาใบรายการเดิมมาแยะย่อยให้ละเอียดยิ่งขึ้นค่ะ ถ้าใครไปทุนส่วนตัวก็ลองค้นเพิ่มว่ามีแหล่งทุนช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ ที่ไหนบ้างที่น้องสามารถขอได้ถ้าได้เป็นนักศึกษาแล้ว หรือว่านักศึกษาที่นั่นนิยมทำงานพิเศษที่ไหนกัน ค่าจ้างเท่าไหร่ หรือว่ามหาวิทยาลัยมีนโยบายช่วยยังไงบ้าง คราวนี้ขอแบบเจาะลึกเลยค่ะ ลองกรอกแบบฟอร์มทั้งหลายดู หรืออาจจะลองแต่งเรียงความขอทุนดูก็ได้ค่ะ
ทำใจให้สบาย
ขั้นตอนข้างบนที่พี่แนะนำ พี่ไม่ได้หมายความว่าน้องๆ ต้องตั้งตาตั้งตาฝึกเขียนเรียงความ หรือว่าฝึกตอบคำถามสอบสัมภาษณ์แบบเอาเป็นเอาตายนะคะ เอาเป็นว่าตอนว่างๆ ก็ทำ นอนกลิ้งไปมาก็ลองเขียน ฝึกทีละน้อยๆ แต่สม่ำเสมอ และต้องมีเวลาทำกิจกรรมบันเทิง หรืองานอดิเรกที่ชื่นชอบด้วยนะคะ จะนัดเพื่อนสมัยประถม มัธยม หรือปริญญาตรีไปเที่ยวก็น่าสนใจ หรือจะไปทำทานเลี้ยงอาหารคนยากไร้ก็เป็นตัวเลือกที่ดี อย่ารอจนเครียด แต่ก็อย่าถึงขั้นมโนวาดฝันว่าจะเอาโปสเตอร์รูปใครไปแปะผนังหอพักที่โน่นนะคะ เพราะพี่เคยมโนมาแล้วค่ะ มโนทีไรไม่ได้ทุกที แต่อันที่ไม่คิดว่าจะได้ดันได้ซะงั้น 55555
นี่เป็นคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ให้น้องๆ ที่กำลังรอผลจากมหาวิทยาลัยนะคะ ซึ่งกิจกรรมฆ่าเวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ช่วงนี้ไม่ว่าน้องจะยังเรียนเทอมสุดท้ายหรือว่าต้องทำงานอยู่ ก็ขอให้แบ่งเวลาให้สมดุล ให้มีเวลาสำหรับหน้าที่ประจำวัน มีเวลาสำหรับเตรียมความพร้อมถ้าได้ใบตอบรับ และเวลาสำหรับคิดแผนสองแผนสามเผื่ออะไรมันไม่เป็นไปตามแผน ^___^ ทางสายกลางนี่แหละดีที่สุดแล้วค่ะ
ข้อมูล
www.gradschools.com/article-detail/waiting-125
ภาพประกอบ
singlegirlblog.wordpress.com
5 ความคิดเห็น
ทำใจให้สบาย (ในใจตื่นเต้นเกินทน) จะทำได้ไหมเนี่ย
หลังเราสอบเสร็จ เราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าควรจะ เตรียมตัว หรือ เตรียมใจ
ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ สูดหายใจเข้าลึกๆ ...................... แล้วปล่อยยาวๆ .....................
ติดแล้วโว๊ย