สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ครั้งก่อนนู้น พี่เป้ เคยนำเรื่องของ ประวัตินักเรียนทุนของ University of Cambridge(มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์) มาฝาก เพื่อให้เห็นกันว่า การจะได้ทุนเข้าเรียนต่อในสถาบันดังมากๆ ระดับโลกนั้น ต้องมีประวัติดีมากขนาดไหน วันนี้นำมาฝากกันอีกมหาวิทยาลัยนึงค่ะ นั่นคือ University of Oxford(มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด) มาดูกันกว่า เหล่านักเรียนทุนของอ๊อกซ์ฟอร์ดนั้น เค้าต้องเก่งกันแค่ไหนถึงจะได้ทุนเข้าไปเรียนกันฟรีๆ
ชื่อ : Alyce de Carteret ประเทศ : สหรัฐอเมริกา สาขาที่ได้รับทุน : โบราณคดี |
เรียนจบปริญญาตรีสาขามานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปของอเมริกาและของโลก รวมถึงเคยได้รับใบประกาศนียบัตรอบรมด้านละตินอเมริกันศึกษาและภาษาเช็ก ในช่วงเรียนปริญญาตรีนั้น ได้ศึกษาเฉพาะเจาะจงในเรื่องของชาวมายาซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งของอเมริกา
นอกจากนี้ยังเคยใช้เวลาในช่วงซัมเมอร์ไปฝึกงานที่ประเทศฮอนดูรัส เพื่อขุดค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่บ้านของชาวมายาอีกด้วย สำหรับเป้าหมายของการได้ทุนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดคือต้องการศึกษาเกี่ยวกับโบราณคดีของอังกฤษในช่วงยุคสมัยกลาง
ชื่อ : Pauline Ahn ประเทศ : เกาหลีใต้ สาขาที่ได้รับทุน : วิทยาศาสตร์สุขภาพ ทั่วโลก |
ได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กในประเทศเกาหลีใต้ จีน และฟิลิปปินส์ จึงได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมที่หลากหลายตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้มองเห็นโลกในหลายๆ แง่มุม รวมถึงทำให้เริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับพัฒนาการของโลกรวมถึงมองเห็นความแตกต่างของสุขภาพประชากรโลก ต่อมาเรียนจบปริญญาตรีในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยบราวน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี 2007 เคยร่วมทีมประสานงานการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของประชาชนในนิวออร์ลีนส์ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนแคทรีน่า
หลังเรียนจบ เข้าทำงานที่ World Vision International Organization (หรือมูลนิธิศุภนิมิต) โดยดูแลในเรื่องการศึกษา ความปลอดภัยของอาหาร สุขภาพ โรคเอดส์ ในพื้นที่แอฟริกาใต้ และเคยมีโอกาสเดินทางไปทำงานที่ประเทศแซมเบีย 1 ปีในฐานะที่ปรึกษาโครงการให้แก่รัฐบาลเกาหลีใต้เพื่อที่จะช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพให้แก่เด็กยากไร้ที่ต่ำกว่า 5 ขวบ ทำให้มีความสนใจในเรื่องของสุขภาพประชากรวัยเด็กทั่วโลกเป็นอย่างมาก
ชื่อ : Kaila Morin ประเทศ : แคนาดา สาขาที่ได้รับทุน : กฎหมายสิทธิมนุษยชน ระหว่างประเทศ |
เรียนจบปริญญาตรีสาขากฎหมายและสิทธิมนุษยชนจากมหาวิทยาลัย Carleton ในแคนาดา และเรียนภาษาฝรั่งเศสและการแปลเป็นวิชาโท จากนั้นได้ทำงานเป็นผู้ช่วยอาจารย์ในคอร์สเรียนวิชากฎหมายและสิทธิมนุษยชน ในช่วงการเรียนชั้นปีที่ 4 ได้ตัดสินใจดร็อปเรียนเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อเดินทางไปยังประเทศอัฟกานิสถาน ในฐานะพลเรือนแคนาดาเพื่อช่วยเหลือเหล่าทหารในการช่วยพัฒนาอัฟกานิสถาน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สำคัญของครั้งแรกของชีวิต
จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในด้านกฎหมายโดยเฉพาะเพื่อตั้งเป้าอยากเป็นทนายความในด้านกฎหมายระหว่างประเทศ โดยงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ได้ทำคือการวิเคราะห์ความชอบธรรมในความเป็นประชาธิปไตยของการพิจารณาทบทวนโดยศาลระหว่างประเทศ ส่วนผลงานชิ้นอื่นๆ ก็ได้เน้นไปที่สิทธิมนุษยชนและกฎหมายความขัดแย้งทางอาวุธ
ชื่อ : Tess Hellgren ประเทศ : สหรัฐอเมริกา สาขาที่ได้รับทุน : การศึกษาการอพยพ |
เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นนักชีววิทยาสัตว์ป่า จึงทำให้ได้ออกแคมป์ในป่าอยู่เสมอรวมถึงมีเซนส์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติเป็นพิเศษ ต่อมาได้เข้าเรียนปริญญาตรีสาขาสังคมศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โฟกัสในเรื่องของวัฒนธรรมข้ามชาติ และเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสเป็นวิชาโท ในช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ จะหาโอกาสเดินทางไปทำกิจกรรมในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง เคยไปเป็นอาสาสมัครและทำงานวิจัยในอินเดีย เคยไปสอนให้ความรู้ในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ประเทศจีน เคยไปเรียนคอร์สความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปและตุรกีที่เมืองอิสตันบูล เคยไปแลกเปลี่ยน 1 เทอมที่สถาบัน Sciences Po ที่ปารีส
ก่อนเรียนจบปริญญาตรี ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการพลัดถิ่นของผู้หญิงในเอเชียใต้ สำหรับเป้าหมายของได้ทุนมาเรียนที่อ๊อกซ์ฟอร์ดคือต้องการต่อยอดในงานวิจัยด้านอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านการศึกษาและพิจารณานโยบายการย้ายถิ่นเข้าประเทศ
ชื่อ : Melissa Samarin ประเทศ : สหรัฐอเมริกา สาขาที่ได้รับทุน : รัสเซียและยุโรปตะวันออกศึกษา |
เรียนจบปริญญาตรีจากวิทยาลัย Whittier ด้วยวิชาเอกคู่ 2 ตัวคือ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและรัสเซียศึกษา เน้นศึกษาในเรื่องยูเรเชียเป็นหลักเนื่องจากครอบครัวมีเชื้อสายชาวรัสเซียอยู่ด้วย โดยสนใจทั้งเรื่องของสังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงสิทธิมนุษยชน ผลงานวิจัยล่าสุดที่เคยทำนั้นเกี่ยวข้องโบสถ์ประจำแต่ละเมืองของรัสเซียว่าส่งผลต่อสถาบันศาสนาของเหล่าชนกลุ่มน้อยในรัสเซียอย่างไรบ้าง
หลังเรียนจบ ได้ลองทำงานหลายอย่าง เช่น สอนหนังสือ ฝึกงานที่ศูนย์ลี้ภัยของสหประชาชาติ เป็นที่ปรึกษาในการประชุมของสหประชาชาติ เป็นผู้ช่วยกองบรรณาธิการของเอกสารทางวิชาการ ผู้ช่วยวิจัย เคยฝึกงานที่หอสมุด Nixon Predidential Library เป็นต้น
หลักๆ จะเห็นว่าคนที่ได้ทุนนั้น เค้าจะลองออกหาประสบการณ์ระหว่างเรียน แล้วเป็นประสบการณ์หรือกิจกรรมที่จริงจังยิ่งใหญ่มากสุดๆ เลยล่ะค่ะ ดังนั้นข้อแนะนำสำหรับน้องๆ ที่กำลังเรียนปริญญาตรีอยู่และอยากได้ทุนไปเรียนสถาบันดังๆ คือไม่ควรใช้เวลาในช่วงปิดเทอมให้ผ่านไปแบบเปล่าประโยชน์ ควรออกหาทำกิจกรรมทำกันให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ^^
บทความนี้ถูกเขียนขึ้นโดยทีมงานเว็บไซต์ Dek-D.com หากต้องการนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซต์อื่น กรุณาใส่เครดิตให้ครบถ้วน |
ภาพประกอบ : http://vine.ova.org.sg/
11 ความคิดเห็น
งานแต่ละงานช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
เก่งมากกกกเบยยย.
แต่ละคนมันเหมือนดูไม่มีอะไร แต่โคตรยิ่งใหญ่และแตกต่าง
ถ้าอยากเข้าต้อง
1.เรียนเก่งโครต. ทำกิจกรรมเยี่ยม
2.เรียนเก่งโครต. ทำกิจกรรมเยี่ยม
3.เรียนเก่งโครต. ทำกิจกรรมเยี่ยม
มีแต่"ผู้หญิง"
จริงๆนะชื่อสาขาของเขาเราไม่เคยได้ยินเลยอ้ะ อย่าง การศึกษาอพยพและวิทยาศาสตร์สุขภาพทั่วโลก-0- อลังงานการสร้าง เลอออออ