สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ทั่วโลกต่างได้รับข่าวการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง นั่นคือการจากไปของลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีและสถาปนิกผู้สร้างสิงคโปร์ยุคใหม่ พี่พิซซ่า เลยรวบรวมเรื่องราวของลีกวนยูมาฝากค่ะ น้องๆ จะได้ทราบว่าเพราะอะไรการจากไปครั้งนี้ถึงจัดเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโลกเราเลย
AP Photo/Wong Maye-E, File
Lee Kuan Yew
ลีกวนยูเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ และถือเป็นผู้วางรากฐานสำคัญต่างๆ ที่ทำให้สิงคโปร์เป็นอย่างทุกวันนี้ ท่านเสียชีวิตในวันที่ 23 มีนาคม 2015 หลังจากเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล Singapore General Hospital ด้วยอาการปอดบวมขั้นรุนแรงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 เราลองไปดูเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับตัวท่านกันดีกว่า
ภาพจากวิดีโอในปี 1959 หลังลีกวนยูชนะการเลือกตั้ง
REUTERS/Reuters TV/Files
1. ลีกวนยู เกิดมาพร้อมชื่อเต็มว่าแฮร์รี่ ลี กวน ยู แต่หลังจากเรียนจบจากอังกฤษท่านก็ตัดชื่อส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษออกให้เหลือแต่ "ลีกวนยู" แต่สำหรับเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาก่อนหน้านั้น ยังเรียกท่านว่า "แฮร์รี่ ลี" อยู่เหมือนเดิม
2. ลีกวนยูเป็นรุ่นที่ 4 ของตระกูลที่เป็นชาวสิงคโปร์ คุณปู่ทวดของท่านอพยพมาจากกวางตุ้งในปี 1863
3. ท่านได้ทุน Queen’s Scholarship เพื่อไปศึกษาที่อังกฤษ ทุนนี้เป็นทุนที่อังกฤษแจกให้ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ในยุคที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ ทุนนี้ก็คล้ายๆ ทุน King ของบ้านเรา ที่เป็นทุนสุดยอดของประเทศ ต้องสอบคัดเป็นคนเก่งที่สุดของประเทศจริงๆ ถึงจะได้ทุนนี้ไปเรียนต่อในอังกฤษ
REUTERS/Files
4. ลีกวนยูเจอกับภริยาสมัยเรียนในสิงคโปร์ เมื่อกวาก๊อกชูสอบวิชาภาษาอังกฤษและเศรษฐศาสตร์ได้ที่ 1 ชนะท่าน ทำให้ท่านต้องพยายามมากขึ้นเพื่อชิงทุน Queen’s Scholarship ให้ได้ ซึ่งท่านก็ทำได้ แต่ท่านก็เริ่มสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้มากกว่าแค่เพื่อนธรรมดา
5. ตอนแรกท่านเข้าเรียนที่ London School of Economics ก่อนจะย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์แทน แถมยังจบจากเคมบริดจ์ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 แบบ Double First Class Honours (ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 มา 2 สาขา ในการสอบครั้งเดียวกัน)
6. กวาก๊อกชูก็สอบชิงทุน Queen’s Scholarship ได้ในรุ่นถัดไป แต่ทางการไม่สามารถหาที่ว่างในมหาวิทยาลัยให้เธอได้ จึงแจ้งให้เธอรออีกปี แต่ลีกวนยูที่ตอนนั้นกำลังเรียนอยู่ที่เคมบริดจ์ก็สามารถขอนัดพบคณบดีได้ และกล่อมจนคณบดียอมรับกวาก๊อกชูเข้าเรียนที่นั่นได้ในเทอมถัดมา
ลีกวนยูและกวาก๊อกชูในปี 2006
REUTERS/Nicky Loh/Files
7. ทั้งคู่แต่งงานกันที่ Stratford-upon-Avon ไม่นานหลังจากกวาก๊อกชูย้ายมาเรียนที่อังกฤษ แต่ทั้งคู่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเพราะกลัวว่าทางบ้านและเจ้าหน้าที่ของทุนจะไม่ยอม และเธออาจเสียทุนไป จนกระทั่งกลับไปอยู่ที่สิงคโปร์ ทั้งคู่จึงแต่งงานกันอีกครั้งในประเทศ ในวันที่ 30 กันยายน 1950
8. ลีกวนยูใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่มาตั้งแต่เกิด ท่านเพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีนตอนอายุ 32 แถมเรียนทั้งจีนกลางและฮกเกี้ยน นอกจากนี้ท่านยังมีความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย ท่านเคยเป็นล่ามในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ายึดสิงคโปร์
9. ก่อนหน้าที่ลีกวนยูจะประกาศว่าตนนับถือศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าในปี 2009 ท่านถือว่าตัวเองไม่เคยนับถือศาสนาใดมาก่อน
REUTERS/Bazuki Muhammad/Files
10. ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของสิงคโปร์แถมยังเข้ารับตำแหน่งเมื่อมีอายุเพียง 35 ปี
11. ลีกวนยูออกกำลังกายทุกวัน แม้จะยุ่งกับเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือแม้แต่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ท่านก็แบ่งเวลาไว้ออกกำลังกายได้ทุกวัน นอกจากนี้ท่านยังเลิกดื่มเหล้าเพราะจะทำให้ถ่ายรูปออกมาดูไม่ดี และเลิกสูบบุหรี่เพราะมันทำให้ไม่มีเสียงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง
12. ท่านทุ่มเงินกว่า 10 ล้านเหรียญให้กองทุนลีกวนยูเพื่อการเรียนรู้ 2 ภาษา (Lee Kuan Yew Fund for Bilingualism) เพราะท่านเล็งเห็นแล้วว่าความสามารถในการพูด 2 ภาษาได้คล่องจะทำให้สิงคโปร์มีอนาคตที่ดีขึ้น ยิ่งมีคนพูดได้มากขึ้นเท่าไหร่ประเทศก็ยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น
REUTERS/Tim Chong/Files
13. ลีกวนยูยอมรับว่าหลายสิ่งที่ตัวเองทำไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีงามและถูกต้องเสมอ เช่นการออกกฎหมายควบคุมจำกัดสิทธิการพูดเสรี กฎหมายจำกัดการประท้วง หรือแม้แต่การสั่งขังโดยไม่ผ่านการพิจารณาคดีจากศาล แต่ท่านก็บอกด้วยว่าที่ทำไปก็เพื่อจุดประสงค์ที่น่ายกย่องสำหรับสิงคโปร์ (สิงคโปร์ถึงได้เป็นประเทศที่มีระเบียบมากขนาดนี้)
14. ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ยกย่องลีกวนยูว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์และเป็น "ยักษ์ใหญ่ตัวจริงของประวัติศาสตร์" ส่วนบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติก็ชื่นชมว่าลีกวนยูเป็นผู้เปลี่ยนสิงคโปร์จากประเทศกำลังพัฒนาให้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศหนึ่งของโลก และยังทำให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติด้วย
15. ลีกวนยูเคยเขียนไว้ในหนังสือของเขาว่า "ท้ายที่สุด ความพึงพอใจสูงสุดในชีวิตของผมคือการที่ผมได้ใช้เวลาหลายปีในการรวบรวมความมุ่งมั่นตั้งใจจริงให้ที่นี่ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง เป็นที่ที่ปลอดคอร์รัปชั่นและเป็นที่ที่มีความเท่าเทียมกันสำหรับทุกเชื้อชาติ และมันก็จะคงอยู่แบบนี้ตลอดไปเหมือนที่เป็นมาแม้ผมจะไม่อยู่แล้วก็ตาม" (One Man's View of the World, 2013)
ชาวสิงคโปร์ที่ต่อคิวเข้าแถวแสดงความเสียใจต่อการจากไปของลีกวนยู
REUTERS/Edgar Su
เป็นยังไงบ้างคะกับเกร็ดชีวประวัติของลีกวนยูผู้เป็นพ่อของชาวสิงคโปร์ทุกคน โดยส่วนตัวพี่พิซซ่าชอบเรื่องราวความรักของท่านกับภริยามากๆ เลย รักกันตั้งแต่สมัยเรียนจนนาทีสุดท้ายของชีวิต ถ้าใครติดตามข่าวอยู่เสมอจะเห็นว่าก่อนภริยาของท่านป่วยหนักและเสียชีวิตนั้น ทั้งสองท่านแทบไม่เคยห่างกันเลย ดูมุ้งมิ้งกันตลอดเวลา ตอนนี้ความรักของท่านทั้งสองก็เป็นนิรันดร์ไปแล้ว
11 ความคิดเห็น
เมื่อไหรหนออออออ ประเทศไทยจะมีคนดีๆอย่างนี้บ้าง
น่าชื่นชมมากๆ ขอให้ท่านไปสู่สุขคตินะครับ อยากให้ประเทศไทยได้คนแบบนี้สักสภานึง เพราะคนเดียวดูท่าจะไม่พอ จะได้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วสักที
ถ้าอยากให้ประเทศไทยมีคนดีๆมาพัฒนาประเทศก็คงต้องรออีกนานเลยค่ะ
เกาะสิงคโปร์ แต่ก่อนถ้าเทียบกันแล้วคือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ดีๆ นี่เอง ที่ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย...
อังกฤษกับมาเลเซีย จึงปล่อยให้เป็นเอกราช (เพราะคิดว่าหาผลประโยชน์ไม่ค่อยได้)
แต่แฮร์รี่ ลี กวน ยู สามารถทำให้เกาะที่ไม่มีอะไรนี่กลายเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตของประชากรที่ดี และเป็นเบอร์ 1 เรื่องคุณภาพเศรษฐกิจของ ASEAN ได้...
แค่นี้ก็สื่อถึงความยิ่งใหญ่ของเขาได้เพียงพอหมดจดเลยครับ
RIP แด่อดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองตำแหน่งนานที่สุดในโลก (31 ปี 1959-1990)
จากนี้ไป บุตรชายของเขาที่เป็นายกฯ อยู่ (ลี เซียน ลุง) จะสานต่องานของเขาต่อไป...
R.I.P ค่ะ
อยากให้ประเทศไทยมีนายกฯแบบนี้บ้าง คนดีเหลือน้อยเข้าไปทุกที ..
R.I.Pครับโลกเสียคนดีๆไปคนหนึ่งแล้ว
ข้อ 11 ทำให้เรานึกถึงภาพลักษณ์คนสิงคโปร์
เพราะ ตอนเราอยู่ในโรงเรียนที่นั่น เด็กออกกำลังกายกันจริงจัง
อาจจะเป็นเพราะ มีผู้นำที่ดีเป็นตัวอย่าง
R . I . P
้ข้อ 13 ถ้าไทยเอาม่ทำบ้างนะ รับรองโดนกระเเสต่อต้านยับ
เห็นเลยว่ากว่าสิงคโปจะมาถึงจุดนี้ได้ ลีกวนอูต้องใช้เวลาและเเรงกกดดันมากมายเลยทีเดียว
เมื่อไหร่ไทยจะมีคนดีๆแบบนี้บ้าง
ขอบคุณที่มีเรื่องดีๆอย่างนี้ให้อ่าน
