ซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) ฟังเผินๆ เหมือนเป็นชื่อหุบเขาอะไรสักอย่าง แต่สำหรับคนทำงานแล้ว ซิลิคอน วัลเลย์ น่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลายคนอยากเข้าไปทำงานมากที่สุดในโลก!!
มองจากแผนที่อเมริกา ซิลิคอน วัลเลย์ อยู่ทางตะวันตก ตามที่วงไว้
ซิลิคอน วัลเลย์ เริ่มต้นมาได้ยังไง? หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของ มหาวิทยาลัย
แสตนฟอร์ด(Stanford University)ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดังมากๆๆ ของอเมริกาและของโลก ที่นี่แหละค่ะที่มีบทบาทในการสร้างซิลิคอนวัลเลย์ขึ้นมา ในช่วงปี 1940 เฟรเดริก เทอร์แมน คณบดีของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ในขณะนั้น ได้เชิญชวนกระตุ้นให้เหล่าบรรดาคณาจารย์และศิษย์เก่าที่จบไปเริ่มเปิดบริษัทของตนเองใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย จากนั้นก็ขยายขึ้นเรือยๆ ซึ่งก็คือ ซิลิคอน วัลเลย์ นั่นเอง
และแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ ที่ได้ทราบจากเพื่อนคือ บริษัทใน ซิลิคอน วัลเลย์ ขึ้นชื่อในเรื่องของฐานเงินเดือนที่สูงและมีสวัสดิการที่ดีเยี่ยม จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน
ตัวอย่างสวัสดิการที่บริษัทเหล่านี้มอบให้พนักงาน
1. บริษัทไอทีพยายามดึงคนที่เก่งและมีความสามารถมาร่วมงานด้วย ด้วยเนื้องานที่มีการแข่งขันสูงและมีมูลค่าสูง จึงยินดีที่จะทุ่มเงินเดือนและสวัสดิการแบบไม่อั้น โดยเฉพาะกับตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับไอทีโดยตรง(คอมพิวเตอร์ สารสนเทศ เทคโนโลยี ซอฟท์แวร์ ฮาร์ดแวร์ อิเล็กทรอกนิกส์ อีคอมเมิร์ซ) อ้อ แต่ละรัฐในอเมริกามีเรทเงินเดือนที่ไม่เท่ากันนะคะ ตำแหน่งงานเดียวกันแต่หากเป็นคนละรัฐ ก็ได้เงินเดือนในเรทที่ไม่เท่ากัน
2. สวัสดิการเจ๋งๆ นั้นมีมากมาย เช่น
ป.ล. บริษัทอื่นๆ ที่ไม่ใช่ใน ซิลิคอน วัลเลย์ ก็อาจจะมีสวัสดิการแบบนี้บ้างเช่นกัน
5. ถ้าอยู่ต่างรัฐ เวลาบินมาสัมภาษณ์งาน บริษัทจะออกค่าตั๋วเครื่องบินและค่าเบี้ยเลี้ยงให้ หากได้งานทำแล้วจำเป็นต้องย้ายรัฐมาอาศัยที่นี่ ก็จะมีเงินค่า relocate ให้ ได้มากน้อยขึ้นอยู่กับว่าย้ายมาไกลแค่ไหน อารมณ์เหมือนเงินช่วยเหลือในการย้ายบ้าน
6. แต่อาจไม่ค่อยรับคนที่อยู่นอกอเมริกาเท่าไร (หมายถึงตัวบริษัทแม่ที่อเมริกา) เพราะมหาวิทยาลัยระดับโลกอยู่ที่อเมริกา จะไปรับคนที่เรียนจบจากที่อื่นทำไม(ถือว่ามีเหตุผล) ดังนั้นใครไปเรียนต่ออเมริกา ก็ถือว่าเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานในซิลิคอนวัลเลย์ แต่หลายๆ บริษัทก็มีสาขาในไทยหรือประเทศใกล้ๆ ลองมองหาโอกาสแถวนี้แทนก็ได้
7. หลายๆ บริษัทก็มีคนไทยทำงานอยู่ด้วย ส่วนมากเป็นคนไทยที่เรียนจบจากที่อเมริกานั่นเอง
8. ในบางครั้ง ก็หาพนักงานใหม่ๆ ผ่านประวัติที่ใส่ไว้ใน Linkedin ใครสนใจ ลองไปเล่นกันดู
9. ชื่อของสถาบันที่เรียนจบมา มีผลต่อการสมัครงานมั้ย? ถ้าตอบว่าไม่มีเลยคงเป็นไปไม่ได้ มีในระดับนึง แต่ดูความสามารถเป็นหลักว่าจะทำงานได้มั้ย
แบบนี้เป๊ะๆ สำหรับน้องๆ ที่เรียนอยู่และอยากมีโอกาสดีๆ แบบนี้ นอกจากความรู้ในสายการเรียนแล้ว อีกสิ่งที่ต้องพัฒนาตลอดเวลาคือ "ทักษะภาษาอังกฤษ" สำคัญมากกกกแบบไม่รู้จะมากยังไง เก่งอังกฤษซะอย่าง ไปทำงานที่ไหนๆ ก็ได้ โอกาสก้าวหน้าอยู่ไม่ไกลเลย
บทความนี้ถูกแปลโดยทีมงานเว็บไซต์ Dek-D.com เป็นที่แรก ห้ามนำไปดัดแปลง ตัดต่อ เรียบเรียงใหม่ โดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บไซต์อื่น กรุณาใส่เครดิตให้ครบถ้วน พร้อมทำลิ้งค์เชื่อมโยงกลับมาหน้านี้เท่านั้น |
2 ความคิดเห็น
การไม่รับคนที่อยู่นอกอเมริกา อาจเป็นเหตุผลของ process การจ้าง และตำแหน่งด้วยล่ะมั้งคะ? จะจ้างต่างชาติทั้งทีก็ต้องดูตำแหน่งด้วย package expat. กับ local ค่าใช้จ่ายต่างกันค่อนข้างมาก ไหนจะต้องทำ work permit และ visa ยังไม่นับ relocation benefit อีก รายจ่ายถือว่าเยอะพอสมควร ก็คงต้องพิจารณาเป็นตำแหน่งๆ ไปล่ะค่ะ ว่าคุ้มค่าจะต้องจ่ายไหม ถ้าตำแหน่งเล็กๆ ก็ไม่น่าคุ้มหรอกค่ะ
แล้วก็ไม่แน่ใจว่าเวลารับต่างชาติ กระทรวงแรงงานจะซักเยอะเหมือนที่ฝรั่งเศสหรือเปล่า คือถ้าจะรับชาวต่างชาติเค้าจะมีคำถามมากมายว่าทำไมต้องสัญชาตินี้? งานเกี่ยวกับอะไร? ใช้คนในประเทศไม่ได้หรือยังไง? เพราะคนว่างงานในประเทศก็มีอยู่ ก็อาจะทำให้รับ expat ยากค่ะ
มาเพิ่มเติมจากของพี่เป้ค่ะ :) 1. คนที่นี่งานยุ่งมากๆๆๆ คือทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำกันเลยที่เดียวแบบทำงานกันแบบ 24/7 เลยก็มี คือมีเพื่อนอยู่คนนึง นัดมากินข้าวด้วยกันคือนางแบบ ให้เวลาเราแค่ 40 นาที แล้วกลับไปทำงานต่อ ทั้งๆที่ เกือบจะ ห้าทุ่มแล้ว ครั้งนึงชวนมาเที่ยวไทย แบบนางมาจริงๆ แต่อยู่แค่ 4 วัน เองเพราะมีงานเยอะมากๆที่ต้องเคลียร์. แล้วอีกอย่างช่วงนี้ ( ช่วงใกล้ซัมเมอร์ในเมกา) คือทำงานแบบ โคร.ตยุ่ง.... 2. เรื่องภาษา. ต้องบอกเรื่องว่าคนที่นี่ (ส่วนใหญ่) ภาษาดีมาก คือถ้าใครเคยดู TEDtalk. นะ จะประมาณแบบนั้นเลย. พูดแบบมีหลักการและใช้คำพูดที่ดูดีมากๆๆๆ (ส่วนมากคือวิศวะ) แนะนำชาวเด็กดีนะคะ ลองฝึกภาษากับ TEDtalk. ดูนะ เพราะจะได้ทั้งความรู้กลับมาด้วย :) ...... 3. คนที่นี่( วิศวะ) เก่งมากเลยการแก้ปัญหา คือ ถ้ามีปัญหาไม่ว่าจะเป็น ส่วนตัว หรือ ตรรกะ. ก็ถามพวกเขาได้ เพราะ คุณจะได้คำตอบแบบที่คุณไม่คาดคิดเลย ( ส่วนใหญ่คำตอบดีนะ).... 4. คนที่นี่ คำนึงเรื่องการศึกษามาก ( เน้น) เพราะ ทุกบริษัทเชื่อว่า อนาคตของคนจะเดินต่อไปได้ เพราะความรู้ และหลายๆบริษัทก็แสดงให้เห็น ( เช่น GOOGLE) 5. คนที่นี่มี Motivation สูงมาก เพราะการทำงานในแต่ละวันต้องใช้มัน และเกือบทุกบริษัทจะสอนให้พนักงานทุกวันมี แรงบันดาลใจและการขับเคลื่อนสูงมาก(อาจพอๆกลับเงินเดือน) ที่จะสร้างในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เพราะ. SV จะมีบริษัทเกิดใหม่ๆแทบทุกเดือน ....6. ( ขอนอกเรื่องนะ ) ผู้ชายใน SV. ส่วนใหญ่จีบสาวไม่เป็น 55 และโสดและชอบกินกันเอง (หมายถึง แต่งงานกันผู้หญิงที่ทำงานอยู่ด้วยกันหรืออยู่ข้างบริษัท ) ผู้ชายส่วนใหญ่ อยากมีแฟนนะแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง และพูดจาไม่หวาน ไม่ดี ( ปากไม่ดี) และกวนมาก เพราะส่วนมากจะอยู่แต่หน้าคอม. การสื่อสารเลยไม่ค่อยดี และผู้หญิงที่นี่ ส่วนใหญ่ แซบ! ทั้งความรู้และรูปร่าง ผญ ใน SV เก่งทุกคนและจบที่ดีๆทั้งนั้นส่วนใหญ่ Harvard ^ MIT .. ป.ล. เราก็เป็นคนนึงที่อยากทำงานที่นี่ ไม่ใช่เพราะเงินนะ แต่เป็นเพราะสังคม เราชอบสังคมแบบนี้ เจ้านายแบบ Larry Page คือเจ้านายในฝันเลย เราอยากเห็นคนไทยทำงานที่นี่เยอะๆ เพราะคนไทยเก่งกว่าฝรั่งหลายคนอีก และทำงานได้ดีกว่าด้วย.................... ขอแนะนำ คนที่อยากทำงาน SV นะ ว่า 1. คุณต้องมี Passion ในการทำงาน อย่ามองที่เงินอยากเดียวนะ. 2. คุณต้องตามโลกในทันนะ. เพราะ ศตวรรษนี้ไม่ใช่ ศตวรรษที่ 21 แต่เป็น ศตวรรษแห่งอินเตอร์เน็ต ....3. คุณต้องเรียนให้เก่ง. ( การเข้าทำงานที่นี่สถาบันมีส่วนนะ มากด้วย แต่ความรู้ และ Motivation คุณต้องหนักมากกว่า) เพื่อนเรา ไม่ได้จบสถาบันดังนะ. แต่เขาเรียนเก่งมาก และเคยทำงานบริษัทลูกมาก่อนและสร้างผลงานออกมาดีมากๆเลยได้งานทำที่นี่ เขาเพิ่งจบโท จากStanford. เมื่อปีที่แล้วเองตอนนี้เป็นProject Manager อยู่ ...... 4. งานที่นี่ไม่สบายนะ หนักมาก แต่คุณก็มีเวลาส่วนตัวอยู่ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ทำงาน ไม่เอางานกลับมาทำที่บ้านนะ ยกเว้น บ้านคุณคือ บริษัท. .... 5. เทคนิคของการสมัครงานที่นี่นะ ( กฎ 15วินาทีแรก) คือการpresent ตัวเองอ่ะ แค่15วิ แรกต้องทำให้พวกเขาจดจำคุณให้ได้. และคุณต้องแตกต่างกว่าคนอื่นนะ ( แม้คุณจะสมัครเป็นวิศวะ ก็ตาม) ตอนนี้เราคิดว่า กฎนี้อาจจะเปลี่ยนแล้วมั้งเป็น 10วิ หรือ 5หรือ3วิ? มั้ง55( คนที่นี่ส่วนใหญ่บ้า) ป.ล.การแข่งขันใน SV สูง มากๆ ถ้าไม่ท้อคุณก็จะได้งานเอง( ทุกครั้งที่บริษัทไม่รับคุณนั่นหมายความว่าคุณต้องกลับมาเรียนรู้อะไรบางอย่างเพิ่มเติม) ถ้าคุณจะเป็นวิศวะ คุณต้องเชี่ยวชาญการให้เทคโนโลยีมากๆพอที่จะอธิบายข้อดีและเสียของเครื่องมือเหล่านั้นได้.และบอกทางแก้ให้ได้ด้วยส่วนใหญ่คนในSV จะเป็นวิศวะ * แล้วก็ กิจกรรมที่นี่เยอะมาก และสุดยอกมากๆ เอาง่ายๆวันนี้คุณนั่งทำงานอยู่ ตอนเย็นคุณได้รับเมลจากเพื่อนร่วมงานสักคนว่าพรุ่งนี้ นาซ่าเปิดให้เข้าเป็นครั้งแรกในรอบ 30ปี ซึ่งมันสุดยอดมากๆนะเพราะบางทีคนในCA ยังไม่รู้เรื่องเลย ( งานในนาซ่าเจ๋งมากๆ) วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ ถ้าเพื่อนอยากรู้เพิ่มเติมถามเราได้นะถ้ารู้เราจะตอบให้ แต่ถ้าไม่รู้จะถามเพื่อนเราให้..