สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย วันนี้มีประสบการณ์การเรียนภาษาและทำงานที่ออสเตรเลียมาฝากค่ะ 


       
      สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Dek-D.com เราชื่อ กรวินท์ บรรลือศักดิ์ ชื่อเล่น "มิกิ" ค่ะ เรากำลังเรียนอยู่ที่จุฬาฯ คณะนิเทศศาสตร์ ปี 2 ค่ะ เมื่อปีที่แล้วในช่วงปิดเทอม มิกิได้มีโอกาสไปเรียนภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลีย 3 เดือนค่ะ ใน 3 เดือนที่มิกิได้ไปเรียนและใช้ชีวิตที่ออสเตรเลีย มิกิได้ประสบการณ์มากมาย มิกิเลยอยากนำประสบการณ์มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังค่ะ เผื่อเพื่อนๆ กำลังมองหาประเทศที่จะไปเรียนช่วงซัมเมอร์นี้กันค่ะ

        จุดเริ่มต้นของการไปเรียนภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลียคือ มีเพื่อนของมิกิบอกว่าจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่แคนาดาในช่วงปิดเทอมระยะเวลาสั้นๆ มิกิเลยเกิดความสนใจอยากไปเรียนด้วยเพราะอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษเหมือนกัน และได้เที่ยวในต่างประเทศด้วย แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว แต่แคนาดาไกลไปในความคิดของมิกิ เพราะเป็นการไปเรียนต่างประเทศครั้งแรกเลยอยากไปประเทศที่ใกล้ๆ ก่อน มิกิเลยไปปรึกษากับเอเจนซี่ว่าจะไปที่ไหนดีที่ใกล้ๆ ทางเอเจนซี่เลยแนะนำให้ไปเรียนที่บริสเบน ประเทศออสเตรเลีย เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทย นั่งเครื่องไปแค่ 9 ชั่วโมง เมืองบริสเบนมีคนไทยไม่เยอะมากด้วยค่ะถ้าเทียบกับซิดนีย์ 


        มิกิเลือกเรียนภาษาอังกฤษคอร์สสั้นๆ 3 เดือนค่ะเพราะเวลามีจำกัด มิกิต้องกลับมาให้ทันเปิดเทอมที่จุฬาฯ หลักสูตรที่สมัครเรียนคือ หลักสูตร General English ที่โรงเรียน Imperial College วันแรกที่โรงเรียนได้เจอกับเพื่อนจากหลายๆ ประเทศเลยค่ะ มีทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง บลาซิล เยอรมัน สวีเดน ฝรั่งเศส คนไทยก็มีค่ะแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ ส่วนครูที่สอนเป็นออสซี่ และมีมาจากทางอเมริกา แคนาดา ด้วยค่ะ ทำให้ได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษหลายๆ สำเนียง ครูเค้าจะสอนสลับกับให้ทำกิจกรรมและเล่นเกมส์ระหว่างเรียนด้วยค่ะ ทำให้ไม่น่าเบื่อและได้สนิทกับเพื่อนในห้องเร็วขึ้นด้วย และโรงเรียนมีกิจกรรมข้างนอกด้วยนะคะ เช่นไปปิคนิกวันหยุด บาร์บิคิว หรือพาไปเที่ยวหรือเล่นกีฬาในที่ต่างๆ ใครจะไปหรือไม่ได้ก็ได้โรงเรียนไม่บังคับค่ะ 

       ช่วงที่มิกิไปเป็นเดือนเมษายนค่ะ อาทิตย์แรกที่ไปถึงอากาศร้อนมาก แต่พอเข้าอาทิตย์ที่ 2 อากาศเริ่มหนาวและมีลมค่ะ บริสเบนเป็นเมืองเงียบสงบไม่วุ่นวาย ปลอดภัย ผู้คนใจดี ธรรมชาติสวยมาก อากาศคล้ายเมืองไทย กลางวันอากาศจะอบอุ่นส่วนกลางคืนเย็นสบาย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวค่ะ การคมนาคมก็สะดวก และที่สำคัญค่าครองชีพถูกด้วยค่ะ 


       ส่วนที่พักให้ทางเอเจนซี่ช่วยหาให้ค่ะ มิกิอยู่แบบ Shared Housing หรือบ้านที่แชร์กันค่ะ เจ้าของบ้านพักเป็นคนไทยค่ะ ในบ้านมี 4 คนคือ เจ้าของบ้านคนไทยกับสามีชาวออสเตรเลีย และมีนักเรียนไทยอีก 1 คน ช่วงแรกที่ไปไม่ได้ปรับตัวอะไรมากค่ะ เพราะเจ้าของบ้านเป็นคนไทยน่ารักมาก ใจดี คอยดูแลและแนะนำอย่างดีค่ะ เดินทางไปเรียนและทำงานสะดวกมากค่ะ จากที่พักไปโรงเรียนและที่ทำงานประมาณ 20 นาที  การเดินทางสะดวกมากค่ะ แม้จะอยู่นอกเมืองแต่เราก็สามารถไปได้ทุกที่ด้วยระบบขนส่งที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ รถบัส หรือรถทัวร์เชื่อมต่อระหว่างเมือง ทำให้การเดินทางไม่มีปัญหาค่ะ ที่สำคัญรถมาตรงเวลาด้วย 


       ระหว่างที่เรียน มิกิได้มีโอกาสทำงานไปด้วยค่ะ ที่ออสเตรเลียวีซ่านักเรียนเค้าให้ทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เลยช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ลงได้บ้าง มิกิได้ทำงานที่ร้านอาหารไทย ทำหน้าที่แคชเชียร์ รับออเดอร์ลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งอาหาร แรกๆ ก็มีอุปสรรคบ้าง เพราะยังฟังและพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เท่าไร และต้องทำงานแข่งกับเวลา ร้านอาหารไทยจะเปิดเฉพาะช่วงเย็น เปิดตอน 5 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม ส่วนคนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ของตัวเอง เก็บกวาด ล้าง เช็ดถูค่ะ มิกิจะทำเฉพาะช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันละ 5-6 ชม.ได้ รายได้  70 เหรียญต่อวัน ไม่รวมทิปนะคะ ที่นี่เค้าจะมีถุงให้คนละใบค่ะ โดยที่ทิปก็จะแบ่งกันทุกวัน  แต่ถ้าเป็นทิปที่ลูกค้าให้เรา ก็เป็นของเรานะคะ มิกิคิดว่ามิกิได้รับประสบการณ์จากการทำงานมากเลยค่ะ ได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน  ทำให้ภาษาพัฒนาเร็วขึ้นจากตอนแรกไม่ค่อยได้ หลังๆ นี่มิกิฟังกับพูดคล่องขึ้นเลยค่ะ มิกิมีความสุขมากๆ ค่ะ ตอนครบ 3 เดือนยังรู้สึกว่าเวลาเดินเร็วมากๆ ยังไม่อยากกลับเมืองไทยเลย


       ระหว่างอยู่ที่บริสเบน นอกจากเรียนและทำงาน มิกิยังมีเวลาไปเที่ยวด้วย ไหนๆ มาแล้วต้องก็ต้องเที่ยวให้คุ้ม มิกิได้ไปเที่ยวที่ Mount Coot เห็นถึงความงดงามของสวนพุ่มไม้ที่ตกแต่งเป็นทางเดิน เที่ยวชมแม่น้ำที่บริสเบนโดยเรือคายัก ได้นั่งรถไปเที่ยวที่โกลด์โคสท์ซึ่งเป็นเมืองอยู่ใกล้ๆ กับบริสเบน และไหนๆก็มาถึงที่ออสเตรเลียแล้วต้องไม่พลาดไปที่ซิดนียค่ะ พอช่วงวันหยุดมิกิกับเพื่อนๆ ก็เลยนั่งเครื่องไปเที่ยวซิดนีย์ซะเลยที่ซิดนีย มีที่เที่ยวเยอะมากและมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะด้วย เมืองดูครึกครื้นกว่าบริสเบนและมีคนไทยเยอะกว่าด้วยค่ะ 

        สุดท้ายมิกิอยากขอบคุณพี่ๆ ทีมงาน A.E.C  Education Center ที่มอบโอกาสดีๆ แนะนำโรงเรียนและจัดหาที่พักรวมถึงคอยดูแลให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนการเดินทาง แนะนำเรื่องการปรับตัว ช่วยเตรียมเอกสารและยื่นวีซ่า แม้เวลาในการสมัครและเดินทางจะค่อนข้างกระชั้นชิด แต่พี่ๆ ก็ช่วยเหลือเต็มที่จนทำให้มิกิได้มีโอกาสมาเรียนที่บริสเบน รวมถึงได้ประสบการณ์ดีๆ กลับมาแบบนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

       

         อ่านแล้วยังรู้สึกเลยว่าคุ้มมากๆ เลยค่ะ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ได้อะไรเยอะทีเดียวเลย ^^ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกอยากเล่าแบบนี้บ้าง ก็เขียนส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com เดี๋ยวนำมาลงให้แน่นอนจ้า
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

9 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
ไกด์ 25 พ.ค. 58 17:12 น. 8
หาเพื่อนไป ออสเตรเลียครับ ชื่อ ไกด์ ครับ Line: googuidesz คุยกันหน่อยนะครับ อยากมีเพื่อนไปเรียนด้วย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด