บินสู่แคลิฟอร์เนีย! ย้าย 3 บ้าน 3 โรงเรียน แต่คุ้มเวอร์

 
        สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย^^ เรื่องที่นำมาฝากวันนี้มาจากอเมริกา อ่านแล้วรู้สึกว่าทำให้รู้จักไลฟ์สไตล์ชีวิตคนอเมริกันขึ้นเยอะเลย จะเป็นยังไง มาอ่านกันเลยจ้า


       
       สวัสดีเพื่อนๆ ชาวเด็กดีทุกคน
เราชื่อ "เนย" อยู่ ม.4  มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษานะ เนยมากับโครงการ IEE Thailand ไปปี 2014-2015 คือก็เพิ่งกลับมาถึงประเทศไทยสดๆ ร้อนๆ นี้เลย 55555 ตอนก่อนไปก็กลัวบ้าง เครียดบ้าง เพราะจะต้องจากไทย จากครอบครัวจากเพื่อนไปตั้ง 1 ปี แถมกังวลว่าพอไปถึงเมกาแล้วจะเป็นยังไงมีเพื่อนบ้างไหม พอใกล้ๆ วันเดินทางก็มีแอบอยากเปลี่ยนใจไม่ไปเล็กๆ อยู่คนเดียว 555555
    
        เนยได้ไปอยู่ รัฐ California รัฐนี้เราเชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินชื่อแน่ๆ รัฐนี้หน้าร้อนก็ร้อนแบบประเทศไทยเลย ร้อนมากๆ ต่างกันตรงที่ไม่ชื้นค่ะ เป็นร้อนแห้งๆ ส่วนหน้าหนาวก็หนาวเอาเรื่องอยู่ แต่ไม่มีหิมะนะ ถ้าอยากเล่นต้องไปเล่นบนภูเขา 


        เมืองที่อยู่ชื่อว่า Plumas lake เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ มีคนอยู่ในเมืองประมาณ 1-2 พันคน ครอบครัวที่เนยไปอยู่ด้วยมี 3 คนค่ะ มีโฮสท์พ่อ โฮสท์แม่ และก็น้องสาว 5 ขวบหนึ่งคน
โฮสท์แม่เป็นคนไทยค่ะ ส่วนโรงเรียนที่เนยไปเรียนชื่อว่า Marysville Charter Academy for the arts โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนอาร์ทๆ สำหรับคนที่รักในศิลปะ ร้องเพลง วาดรูป เต้น และอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวกับทางศิลปะ ที่นี่ไม่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลทั่วไป เป็นโรงเรียนรัฐบาลที่บริหารรูปแบบการสอนด้วยตัวเอง

        ทั่วไปแล้วโรงเรียนที่อเมริกาจะเรียนเหมือนกันทุกวัน วันละ  6-7 คาบ แต่ที่นี่จะแบ่งวันเป็น 2 วัน คือวันคู่/คี่ เรียนวันละ 4 คาบ คาบละ 90 นาที มีนักเรียนตั้งแต่ ม.1-6 วิชาที่เปิดสอนนอกจากวิชาพื้นฐานทั่วไป(วิทย์,คณิต,อังกฤษ,สังคม)แล้วก็จะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับทางศิลปะ เช่น ขับร้องเดี่ยว ขับร้องกลุ่ม แจ๊ส บัลเลต์ tap-dance วาดรูป การเขียน เปียโน กีต้าร์ ไวโอลิน วงดนตรี  .... วิชาที่เราเลือกเรียนคือ ชีววิทยา ร้องประสานเสียง แจ๊สแดนซ์ ภาษาอังกฤษ พีชคณิต 2 กีตาร์ ประวัติศาสตร์โลก โรงเรียนนี้ไม่มีสอนพละและไม่มีกีฬาหลังเลิกเรียน  และเพราะว่าไม่มีทีมฟุตบอลของโรงเรียนเลยไม่มีงาน homecoming เศร้ามากกก อดไปงานโฮม TT แต่ยังดีที่เรารู้จักเพื่อนจากโรงเรียนติดกันเลยให้เขาพาไปดูฟุตบอลเกมแต่ละอาทิตย์ได้ 

    
        กิจกรรมที่สนุกๆ ของโรงเรียนนี้ก็มี musical ที่เราไปช่วยเป็นสต๊าฟคุมเวที สนุกมากๆ ได้เรียนรู้งานเบื้องหลังว่าเขาทำอะไรกันบ้าง ละครที่เราไปช่วยชื่อว่า forgiven a fairy tale อีกงานนึงคืองานโชว์ผลงานนักเรียน เราได้ขึ้นไปร้องเพลงพรปีใหม่ กับเพื่อนนักเรียนไทยอีก 2 คน รู้สึกเป็นเกียรติมากๆ เลยค่ะ 

        ชีวิตในโรงเรียนก็มีสนุกบ้าง ทุกข์บ้าง ส่วนใหญ่ก็เซ็งๆ เพราะว่าเหมือนเพื่อนโรงเรียนนี้จะพวกติสท์ๆ โลกส่วนตัวสูงกันเยอะ เข้าถึงยากมากทำให้หาเพื่อนได้ยากมากๆ  ส่วนโฮสท์ก็ดีนะ เขาดูแลเราดี ทำหารอร่อย แต่เพราะนิสัย ไลฟ์สไตล์ไม่เข้ากันมากๆ  คิดอะไรไม่ค่อยตรงกัน เลยทำให้ทั้งเราทั้งโฮสท์รู้สึกว่าควรย้ายบ้าน คือไม่ใช่ว่าเกลียดกันแต่คิดว่าอยู่ด้วยกันไม่น่าจะเวิร์ค เราอึดอัดเขาก็อึดอัดย้ายออกมาก็ดีกว่า ตอนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่ อีกทั้งเราอยากเปลี่ยนโรงเรียนมากๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะเราอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกเราพลาดอะไรหลายๆ  อย่างที่ไฮสคูลเมกาควรจะมีไป เช่น homecoming และกีฬาต่างๆ แถมคนก็ไม่เฟรนด์ลี่มากๆ ด้วย ย้ายจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด


        บ้านที่ 2 ย้ายมาอยู่เมือง Sacramento เป็นเมืองหลวงของ California เป็นซิงเกิ้ลมัมกับลูกชาย 8  และ2 ขวบ มีหมา 1 ตัว โรงเรียนใหม่ชื่อว่า Hiram Johnson High school ไปโรงเรียนครั้งแรกคือช็อกมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เพราะ 90 เปอร์เซ็นต์ของเด็กในโรงเรียนนี้ถ้าไม่เป็นเม็กซิกันก็เอเชีย  นับฝรั่งหัวทองได้เลย วิชาโปรดเราในโรงเรียนนี้คือภาษาอังกฤษค่ะ ครูสอนสนุกมาก สอนเขียน essay มีให้พูดหน้าชั้นเรียน discuss กันเป็นกลุ่ม รู้สึกภาษากระเตื้องเลย เพื่อนในโรงเรียนก็เฟรนด์ลี่ดี มีเพื่อนตั้งแต่วันแรกเลยยย

  
        ผ่านไปสักพักก็ปัญหาก็มาอีกรอบ โฮสท์จากเริ่มดีๆ ก็แปลก เราช่วยงานเขา เขาก็บอกไม่ช่วย เราถามเขาว่าอะไรที่ไม่ได้ช่วย เขาก็บอกผ้าเขาทำไมไม่พับ(มีพวกชุดชั้นในด้วย)เราแบบ ฮะ ให้พับกางเกงในให้งี้อ๋อ และก็อีกหลายเรื่องแบบไม่ให้เราเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนเพราะเขาจะตื่น สุดท้ายก็ได้เปลี่ยนบ้าน บ้านสุดท้ายคือดีมากกกกกกก แบบเนี่ยแหละโฮสท์ที่เฝ้ารอ 5555


         บ้านนี้ย้ายมาอยู่เมืองเดิม 2 ชม. ชื่อ Redwood valley เมืองนี้เป็นเมืองติดธรรมชาติหน่อย เวลานั่งรถไปเรียนก็จะผ่านเขาผ่านทะเลสาบ สวยมากๆ บ้านนี้มี พ่อ แม่ และน้องชาย 4 ขวบ และหมา อีก 2 ตัว น้องน่ารักมากกกกกก เป็นเด็กที่ทำให้เราอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา น่ารักแบบกินใจเลย บ้านนี้ดีมากและเข้ากับเรามากๆ เราสนิทกับโฮสท์แม่มากๆ แถมทั้งโฮสท์พ่อและแม่เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วย เขาเลยเข้าใจเราดี บางทีก็เหมือนเขาเป็นพี่สาวพี่ชายอีกคนของเรา เขาพาเราเที่ยวเกือบทุกอาทิตย์ ทำอาหารอร่อย ให้คำปรึกษาตลอด คือดีมากจริงๆ 


         เพราะย้ายบ้านก็เลยต้องย้ายโรงเรียนด้วย โรงเรียนใหม่มีชื่อว่า Potter Valley High School โรงเรียนนี้มีนักเรียนทั้งหมด 75 คน โรงเรียนเล็กมันดีตรงที่ทุกคนสนิทกันหมด อบอุ่น แต่ถ้าไม่เจอเพื่อนที่เข้ากับเราได้ก็จะไม่มีเลย โชคดีที่เราเจอเพื่อนกลุ่มดีเลยรอดไป แต่กว่าจะเจอก็เกือบอาทิตย์ วิชาที่เราชอบของที่นี่คือ ทักษะการเป็นผู้นำ เป็นวิชาที่วางแผนจัดกิจกรรมให้โรงเรียน และกิจกรรมบังคับของวิชานี้คือ legacy goal โดยที่นักเรียนจะต้องคิดงาน 2 อย่างที่ทำเพื่อโรงเรียน วางแผน คิดขั้นตอนการดำเนินงานลงมือทำเองทั้งหมด เช่น จัดตั้งบอร์ดประชาสัมพันธ์ ทำกิจกรรมบริจาคเลือดฯลฯ ชอบตรงที่ทำให้เราได้เรียนรู้การทำงาน ได้ลงมือทำจริงๆ โรงเรียนนี้เราได้ร่วมเล่นละครเวทีเรื่อง Alice in Wonderland ด้วย เป็นตัวประกอบ 5555 สนุกดี ได้เพื่อนเยอะ ถ้าอยากได้เพื่อนเร็วๆ ต้องทำกิจกรรมเยอะๆ 


        กิจกรรมอื่นๆ ที่เราชอบก็มีพรอม คือก็เหมือนงานเต้นรำ ไปก็เต้นแหลก 55555 สนุกๆ มีโฟโต้บูธ อาหารก็อร่อย มันสนุกตรงที่ได้เห็นเพื่อนตัวเองในอีกมุมนึง บางคนนี่แทบจำไม่ได้ 5555 งานนี้ผู้ชายจะติดดอกไม้ให้ที่ข้อมือผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจะติดให้ที่อกผู้ชาย

      
        ถามถึงเรื่องความรัก เราก็ไม่ได้มีแฟนอะไร 5555 คนที่มาจีบเรา เราก็ไม่ได้ชอบเขา คนที่เราชอบเขาก็ไม่ได้ปิ๊งเรา เรื่องมันเศร้า แต่ก็จะแอบเม้าท์หนุ่มเมกันว่าแบบบางคนจะคิดว่าหนุ่มเมกันชอบใครแล้วจะแสดงออกโต้งๆ จีบเลย หน้าทน จริงๆ มันก็ไม่ใช่ทุกคน บางคนที่แอบขี้อายก็มี แบบมีคนนึงเขาไม่ได้อะไรกับเราเลยนะเวลาเจอกัน แต่พอเราจะกลับเขาก็เมสเสจมาแบบที่ผ่านมาไม่กล้าทักไรงี้ 55555 เราแบบโอ้ยยย เพิ่งเคยเจอฝรั่งขี้อาย คาวาอิ้ แล้วก็ส่วนเรื่องที่ฝรั่งจะชอบแต่คนไทยที่ผิวแทน ดั้งแหมบ คือไม่จริงนะ หมวยๆ ฝรั่งก็จีบ ส่วนใหญ่เขาไม่ดูหน้าตากันอ่ะ เขาดูที่นิสัยมากกว่า เพื่อนเราอ้วนๆ นี่ก็ฮอตมาก ไม่จำเป็นจะต้องผอมๆ สวยๆ เสมอไป คนเมกันเขาเชื่อกันว่า ทุกคนเกิดมาสวยเหมือนกันหมด ไม่มีใครไม่สวย และสังคมที่นี่ การทักว่าอ้วนขึ้น ดำขึ้น เป็นอะไรที่ไม่สุภาพมากๆ ที่ไทยก็เหมือนเป็นเรื่องปกติแซวขำๆ แต่ที่นี่ต่อให้พูดเล่นๆ ก็ไม่ขำ เป็นเรื่องที่ไม่สุภาพมากๆ

       
        คืออยู่มา 3 บ้านนี่มีเด็กทุกบ้าน รู้เลยว่าเด็กกี่ขวบจะเป็นยังไง เราชอบสไตล์การเลี้ยงลูกของคนอเมริกันมากๆ อย่างเวลาเด็กทำผิดเขาก็ไม่ได้จะเอาแต่ลงโทษ แต่เขาจะสอนให้เด็กคิด เช่น ถ้าเด็กดื้อเขาก็จะให้ไปนั่ง time-out คือไปนั่งในห้องคนเดียว นั่งคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด เหมาะสมจะโดนลงโทษไหม จากนั้นพ่อแม่ก็จะเรียกมาคุยและค่อยให้บทลงโทษที่เหมาะสม เช่น อาจจะยึดของเล่น แต่จะไม่ค่อยเห็นเขาตีลูกกัน เพราะเขาถือว่าจะเป็นความรุนแรงที่เด็กไม่ควรได้รับ

         ชีวิตนักเรียนแลกเปลี่ยนถึงแม้จะแค่ 10 เดือน แต่มันได้อะไรเยอะมาก เยอะที่ว่าเสียเวลาเรียนไปปี 1 นี่ก็คุ้มมากๆ เราจะโตขึ้น คิดแบบผู้ใหญ่มากขึ้น มองเรื่องเดิมๆ ในมุมที่ต่างออกไป ได้ภาษาที่แบบดูหนังฝรั่งรู้เรื่อง ได้เพื่อนจากหลายชาติทั่วโลก ได้เที่ยว ได้ประสบการณ์ บอกเลยว่าคุ้มมากจริงๆ ใครมีโอกาสก็ควรจะไป 1 ปีแลกเปลี่ยน เรามีทุกข์บ้าง สุขบ้างปนกันไป แต่พอเราผ่านมันมาได้และเรามองย้อนกลับไปเราก็ภูมิใจกับตัวเอง ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดว่าปีนี้เป็นปีที่ดีอะไร แต่พอสุดท้ายแล้ว ปีนี้คือปีที่ดีที่สุดและจะไม่มีวันลืมสำหรับเรา ถ้ามีเวลาก็อยากจะกลับไปเยี่ยมโฮสท์เยี่ยมเพื่อน อยากไปขอบคุณทุกๆ คนอีกครั้งที่ทำให้ปีแลกเปลี่ยนของเรามีค่ามากที่สุด 

     

         ถึงจะต้องย้ายตั้งสามบ้าน แต่ว่าแต่ละบ้านก็ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ถือว่าเป็นปีที่คุ้มมากๆ สำหรับน้องเนยเลยนะเนี่ย^^ ส่วนน้องๆ คนไหนมีประสบการณ์เด็กนอกอยากแบ่งปันเพื่อนๆ แบบนี้บ้าง ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com เดี๋ยวนำมาลงให้จ้า
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เราก็เคยไปแลกเปลี่ยนที่CALI 19 ก.ค. 58 10:06 น. 2
เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่คาลิเหมือนกันค่ะ ที่Sacramento แต่จำไม่ได้แล้วว่าโรงเรียนอะไร แต่โรงเรียนที่เราไปจะไม่ค่อยมีคนเอเชียค่ะ มีฝรั่งจริงๆ(แต่ไม่ใช่หัวทอง)ประมาณ70% แคนาเดียน10% เม็กซิโก7% เอเชีย3% ฝรั่งชอบคนที่นิสัยจริงๆค่ะ ตอนเราไปก็มีคนมาจีบอยู่ แต่ที่เราเจอนี่ไม่ได้มาแบบขี้อายค่ะ มาแบบจัดเต็ม เราเดินกับกลุ่มเพื่อนก็จะชอบมาเดินๆด้วย แล้วพอเพื่อนนัดกันว่าเดี๋ยวจะไปroad tripกัน นางก็มาถามแบบ ไปด้วยได้มั้ย เราอยากไปกับเธอ แล้วชี้มาที่เราโหยย โคตรเขิน แล้วโฮสที่เราไปอยู่ด้วยใจดีมากกกก อบขนมให้กินทุกวันเสาร์ พาไปเทียวทุกวันอาทิตย์ ถ้ามีโอกาสก็ยากไปอีกเหมือนกัน แต่เหมือนตังค์จะไม่เข้าใจจจเย้
0
กำลังโหลด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
เราก็เคยไปแลกเปลี่ยนที่CALI 19 ก.ค. 58 10:06 น. 2
เราเคยไปแลกเปลี่ยนที่คาลิเหมือนกันค่ะ ที่Sacramento แต่จำไม่ได้แล้วว่าโรงเรียนอะไร แต่โรงเรียนที่เราไปจะไม่ค่อยมีคนเอเชียค่ะ มีฝรั่งจริงๆ(แต่ไม่ใช่หัวทอง)ประมาณ70% แคนาเดียน10% เม็กซิโก7% เอเชีย3% ฝรั่งชอบคนที่นิสัยจริงๆค่ะ ตอนเราไปก็มีคนมาจีบอยู่ แต่ที่เราเจอนี่ไม่ได้มาแบบขี้อายค่ะ มาแบบจัดเต็ม เราเดินกับกลุ่มเพื่อนก็จะชอบมาเดินๆด้วย แล้วพอเพื่อนนัดกันว่าเดี๋ยวจะไปroad tripกัน นางก็มาถามแบบ ไปด้วยได้มั้ย เราอยากไปกับเธอ แล้วชี้มาที่เราโหยย โคตรเขิน แล้วโฮสที่เราไปอยู่ด้วยใจดีมากกกก อบขนมให้กินทุกวันเสาร์ พาไปเทียวทุกวันอาทิตย์ ถ้ามีโอกาสก็ยากไปอีกเหมือนกัน แต่เหมือนตังค์จะไม่เข้าใจจจเย้
0
กำลังโหลด
F.Anchisa Member 19 ก.ค. 58 12:20 น. 3

เราก็จะไปแลกเปลี่ยนสิงหานี้แล้วเหมือนกัน ตื่นเต้นนน พออ่านๆประสบการณ์ของคนอื่นแล้วรู้สึกมีกำลังใจไปมากๆ อยากทำให้ปีที่เราไปเป็นปีที่มีความสุข 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Little아가세 Member 19 ก.ค. 58 16:43 น. 5

ถ้าไปแลกเปลี่ยนเเล้วพอเรากลับมาไทยทางโรงเรียนเขาจะให้เราขึ้นชั้นมั้ยค่ะหรือต้องซ้ำ???

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด