สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com เจอกับ พี่โช และคอลัมน์ JaPON JaPAN (เจปงเจแปน) วันนี้พี่โชมาพร้อมกับบทความอ่านเพลินอีกครั้ง วันนี้มาดูกันว่า 10 แบรนด์ญี่ปุ่นที่ดังที่เมืองไทยกัน ว่าสาขาหลักที่ญี่ปุ่นหน้าตาเป็นอย่างไรเหมือนหรือต่างจากบ้านเราขนาดไหน บอกเลยว่าบางอย่างก็เหมือนบ้านเรามากๆ แต่บางอย่างก็ต่างกันจนแบบคาดไม่ถึง จะเป็นอย่างไรนั้น ไปอ่านกันเลยครับผม
1. ร้านมูจิ หรือ มุจิรุชิเรียวฮิน (無印良品)
สำหรับร้าน มุจิรุชิเรียวฮิน ที่เราชาวไทยอาจจะคุ้นกันในชื่อร้าน มูจิ เป็นร้านที่อยู่ยงคงกระพันมากๆ และพบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่นสำหรับคอนเซ็ปต์เรียบง่าย ไม่ติดยี่ห้อ ซึ่งขอบอกว่าที่ญี่ปุ่น นอกจากจะอยู่ในห้างแล้ว บางสาขายังเป็นร้าน stand alone มีคาเฟ่เป็นของตัวเอง หลายๆ คนคงเคยมาเห็นแล้ว ภายในร้าน นอกจากจะขายของใช้ประจำวัน เครื่องเขียน เครื่องครัว เสื้อผ้าแล้ว ยังมีอาหารแห้งหลายประเภท (แบบมีต้มยำกุ้ง มัสมั่น กะเพรา ไว้ให้คนญี่ปุ่นไปทำกินง่ายๆ คงไว้ซึ่งสไตล์มุจิรุชิฯ ด้วย) ขนม และเครื่องดื่มแช่เย็น
บางทีมีการจัดนิทรรศการด้วย
ส่วนสาขาร้านมุจิรุชิเรียวฮินที่พี่โชว่าค่อนข้างใหญ่มากและน่ามาเดินเล่นเป็นอย่างยิ่งสาขาหนึ่งคือสาขา Yurakucho ซึ่งไม่ไกลจากย่านกินซ่าในโตเกียว เพราะจะมีทั้งคาเฟ่ มีจัดนิทรรศการจากสินค้าผลัดเปลี่ยนไปเป็นประจำ และมีร้านลอฟต์อยู่ในอาคารเดียวกันด้วย
2. ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ (紀伊国屋)
ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ เป็นร้านหนังสือที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2470 ยืนหยัดอยู่คู่กับญี่ปุ่นมาจนปัจจุบัน มีสาขาหลักอยู่ที่สถานีชินจุกุ ประตูตะวันออก เป็นตึก 9 ชั้น และมีใต้ดินอีกสองชั้น สิ่งที่คนญี่ปุ่นรู้จักดีสำหรับร้านหนังสือคิโนะคุนิยะสาขาหลักคือพนักงานใส่เครื่องแบบเป๊ะเว่อร์ที่ยืนกดลิฟต์และคอยพูดบรรยายในลิฟต์อันแสนคับแคบด้วยเสียงหวานเล็กชดช้อยตลอดเวลาว่าชั้นไหนมีอะไรบ้าง เช่น “ชั้นเจ็ด หมวดศิลปะ บันเทิง และหมวดหนังสือต่างประเทศค่ะ มีท่านไหนที่จะใช้บริการชั้นนี้หรือไม่คะ...ประตูจะปิดแล้วค่ะ ลิฟต์กำลังขึ้นค่ะ โปรดระวังขณะก้าวออกจากตัวลิฟต์นะคะ” คือเยอะมากจริงๆ
หน้าตาสาขาหลัก สถานีชินจุกุทางออกฝั่งตะวันออก เป็นตึกสีอิฐๆ แบบนี้
นี่คือตึกร้านหนังสือคิโนะคุนิยะที่สถานีชินจุกุทางออกฝั่งใต้
ถ้าใครรู้สึกว่าสาขาหลักคับแคบ แนะนำให้เดินมาที่สถานีชินจุกุ ประตูใต้ ไม่ไกลจากกันนักจะเจอห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ชื่อ Takashimaya ซึ่งข้างๆ จะเป็นร้านหนังสือคิโนะคุนิยะอีกสาขาหนึ่งที่ใหญ่มากและเป็นร้านหนังสือทั้งตึกเช่นเดียวกันกับสาขาหลัก มีทั้งภาษาต่างประเทศและภาษาญี่ปุ่น หนอนหนังสืออย่าได้พลาดเชียว
3. ร้านมิสเตอร์โดนัท (ミスタードーナツ)
ที่ญี่ปุ่น เวลาอยากดื่มกาแฟและอยากเข้าคาเฟ่ ร้านมิสเตอร์โดนัทก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คนญี่ปุ่นเลือกใช้บริการ เพราะมีทั้งโดนัทรสคาวหวานและกาแฟไว้ให้พร้อม โดยเฉพาะเด็กนักเรียนมัธยมชอบมานั่งหลังเลิกเรียนกันเป็นประจำ
บางสาขาเป็นสีฟ้า โดยเฉพาะช่วงที่มีน้ำแข็งไสขาย
เซทติ่มซำ บะหมี่ที่ว่า บางทีมีข้าวผัดด้วย
พี่โชจำได้ว่าร้านมิสเตอร์โดนัทที่ญี่ปุ่น นอกจากจะมี “พอนเดอริงค์” เหมือนกับที่เมืองไทยแล้ว ยังมีสินค้าอีกชนิดหนึ่งที่ไม่น่าจะมีในร้านนี้ได้ มันคือ ติ่มซำ จริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น มีข้าวผัด มีเส้น มีซุป กะกินอิ่มได้เลย และช่วงนี้ที่โฆษณากันเยอะๆ คือ น้ำแข็งไสครับ
ร้านยูนิโคลเป็นร้านเสื้อผ้าที่มีสาขาเยอะมาก ทุกๆ แหล่งชุมชนจะมีร้านยูนิโคล่ให้ได้ไปใช้บริการไม่ว่าจะไกลสักแห่งหนใด (เว่อร์ไปนิด แต่ก็จริงๆ) และแม้จะดูเผินๆ จะสินค้าเหมือนกันหมด บอกเลยว่าแต่ละสาขาบางทีมีสินค้าไม่เหมือนกันและบางทีราคาก็ไม่เหมือนด้วย เพราะบางสาขาอาจจะลดราคา บางสาขายังไม่ลด
เดี๋ยวนี้ชอบทำร้านเป็นสไตล์นี้ ออกขาวๆ โปร่งๆ
อันนี้สาขาอิเคะบุคุโร ทางเดินไปยังศูนย์การค้าซันไชน์ครับ
สาขาใหญ่ๆ บางทีชอบมีแคมเปญ “สินค้าลดราคาสำหรับสาขาใหญ่ๆ เท่านั้น” ซึ่งสาขาใหญ่ๆ นั้น เอาจริงๆ ก็มีหลายที่มากๆ อย่างในโตเกียวนี่เท่าที่นึกออก เช่น กินซ่า ทั้งตึกเป็นของนางจริงๆ ประมาณว่าใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีสาขาอิเคะบุคุโระ ชินจุกุ คิจิโจจิ หรือชินไซบะชิในโอซาก้า ไรงี้ เป็นต้น ที่เป็นยูนิโคลขนาดใหญ่ยักษ์ทั้งตึก ขึ้นบันไดเลื่อนกันเพลิน
5. ห้างสรรพสินค้าอิเซะตัน (伊勢丹本店)
คนไทยรู้จักห้างสรรพสินค้าอิเซะตันกันเป็นอย่างดี ซึ่งที่ญี่ปุ่นก็เป็นอีกห้างสรรพสินค้าที่ดีมากๆ และจัดข้าวของได้น่าเดินที่สุด พี่โชจำได้ว่าเคยเห็นแคมเปญหน้าอิเชตันสาขาหลักเขียนไว้ว่า "อิเซตันจะมีสินค้าใหม่ๆ เปลี่ยนไปทุกวัน" ซึ่งก็จริง เพราะพี่โชบ้านใกล้อิเซตันสาขาหลักมาก ตอนค่ำๆ จะเห็นพนักงานมาเปลี่ยนสินค้าที่ตู้กระจกหน้าห้าง ออกแบบธีมต่างๆ ถี่มากๆ ซึ่งสาขาหลักของอิเซตันนั้นจะอยู่ที่สถานีชินจุกุ ประตูตะวันออก ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องบอกว่าเป็นชินจุกุเขตสาม ซึ่งสาขาหลักนี้ถ้ามองตึกจากข้างนอกจะดูขรึมๆ แต่พอเข้าไปข้างในนี่สวรรค์ของนักช็อปจริงๆ โดยเฉพาะชั้นใต้ดินจะเป็นที่ขายเค้ก ของหวาน และอาหารที่น่ากินแบบไม่ไหวแล้วเยอะมาก ต้องไม่พลาดถ้าได้มา
บรรดาร้านเค้ก ขนมต่างๆ ในชั้นใต้ดินสาขาหลักของอิเซตัน
ห้างอิเซตันสำหรับสุภาพบุรุษ
อยากจะบอกว่าห้างอิเซตันสาขาหลักจะมีอาณาบริเวณกว้างขวางมาก เพราะตึกข้างๆ จะเป็นตึกของเครืออิเซตันกระจุกตัวกันเช่น อิเซตัน เมนส์ ซึ่งก็คือทั้งตึกขายแต่ของผู้ชาย หรืออีกตึกเป็นขายเครื่องกีฬาทั้งตึกเป็นต้น วันเสาร์อาทิตย์ก็เหมือนบ้านเรา คือที่จอดรถแน่นเอี้ยด บางทีต้องใช้บริการ valley parking แนะนำให้ใช้รถไฟจริงๆ ถ้าคิดจะมา
6. ห้างสรรพสินค้าโตคิว (東急百貨店)
จริงๆ พี่โชไม่ค่อยเห็นห้างสรรพสินค้าโตคิวในญี่ปุ่นมากขนาดนั้นถ้าเทียบกับห้างยักษ์ใหญ่อย่างอิเซตันหรือทะกะชิมะยะ เพราะจริงๆ แล้วถ้าพูดถึง โตคิว คนไทยจะนึกถึงห้างสรรพสินค้าก่อน แต่สำหรับคนญี่ปุ่น ถ้าพูดถึงโตคิว สิ่งแรกๆ ที่จะนึกถึงอาจจะเป็นชื่อของบริษัทรถไฟ ซึ่งมีสายหนึ่งที่ดังๆ วิ่งตรงจากชิบุย่าออกไปทางเมืองโยโกฮาม่า ซึ่งที่ต้นทางชิบุย่า บริษัทรถไฟโตคิวก็มีห้างโตคิวอยู่ติดกับสถานีรถไฟนี้
ในรูปคือโตคิวชิบูย่าอีกตึกนึง คนญี่ปุ่นเรียกติดปากกันว่า Bunkamura
อันนี้เป็นโตคิวอีกอาคารหนึ่ง เรียกกันว่า โตคิวพลาซ่า
และก็เหมือนกับอิเซตันที่ชินจุกุ ถ้าถามว่าห้างสรรพสินค้าจะซื้ออะไรถ้าไม่ซื้อเสื้อผ้า แนะนำให้ไปชั้นที่ขายของหวาน รับรอง เพลิน
7. ร้านฮะจิบังราเมน(8番ラーメン)
ร้านบะหมี่หมายเลขแปดนี้เป็นร้านราเมนที่มีสาขาในไทยเยอะมาก เยอะมากแทบจะเรียกได้ว่ามีเกือบในทุกที่ที่มีห้าง แต่ที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบโตเกียว ไม่มี!! เท่าที่พี่โชเข้าใจ ส่วนมากร้านฮะจิบังราเมนจะเป็นร้านออกแนว family restaurant ตามแถบนอกเมืองที่สามารถขับรถเข้าไปจอดได้และรับประทานได้สะดวกๆ
ตามต่างจังหวัดมักจะเป็นร้านเดี่ยวๆ แบบนี้และเป็น drive thru
โดยเฉพาะในด้านตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นจะเจอร้านบะหมี่หมายเลขแปดนี้เยอะหน่อย แต่เอาจริงๆ สาขาร้านฮะจิบังราเมนที่ญี่ปุ่นก็มิอาจเทียบกับในบ้านเราได้ เพราะมีตั้ง 111 สาขา ขอบอกว่าตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นมา พี่โชเคยขับรถผ่านร้านฮะจิบังราเม็นตอนไปเที่ยวเมืองเกียวโตครั้งเดียวเท่านั้น ขออันเชิญคนไทยที่เคยใช้บริการร้านฮะจิบังฯ ในญี่ปุ่นเข้ามาเล่าให้ฟังว่ารสชาติเหมือนหรือต่างกับที่ไทยอย่างไร จะเป็นพระคุณมากครับ 5555 ไม่เคยจริงๆ
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าพี่โชอยู่โตเกียวมาตลอด ร้านลอฟต์ที่เห็นประจำและอยากแนะนำให้รู้จักกันคือที่สถานี Yurakucho ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับย่านดังอย่างกินซ่า สาขานี้นอกจากจะใหญ่แล้วยังเดินสบายแถมมีคาเฟ่ของร้านมูจิอยู่ติดๆ กันด้วย
ภายในสาขายูระคุโจเป็นปูนดิบ
ทางเข้า
อันนี้สาขาชิบูย่า
ถ้าใครไม่เชี่ยวก็สามารถไปสาขาชิบูย่าก็ได้ เพราะก็ใหญ่มาก เป็นตึกทั้งตึกและแต่ละชั้นก็จะขายของต่างชนิดกันประหนึ่งว่าเป็นห้างสรรพสินค้าเลยทีเดียว
9. ร้านร้อยเยน ไดโซ (ダイソー)
จริงๆ แล้วที่ญี่ปุ่นมีร้านร้อยเยนหลายเจ้ามาก เช่น ซีเรีย แคนดู ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีธีมสินค้าที่แตกต่างกัน แต่ที่ชาวไทยคุ้นเคยที่สุดคือเจ้าที่ชื่อว่า ไดโซ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วจะมีขนาดของร้านกว้างหน่อยเมื่อเทียบกับร้านร้อยเยนยี่ห้อ “แคนดู” ที่มักนิยมตั้งตามสถานีรถไฟ ไดโซเนี่ย ความดีงามคือค่อนข้างมีของหลากหลายชนิด และด้วยความที่ร้านชอบตั้งอยู่ชานเมือง บางทีเป็นร้านโดดๆ สร้างตึกขึ้นมาเองเลย จึงมีพื้นที่เยอะขึ้นมาหน่อยและทำให้สามารถวางสินค้าได้เยอะขึ้น เช่น ถ้าจะซื้อแฟ้มใส่เอกสาร ที่ไดโซก็จะมีหลากหลายประเภทเอามากๆ ถ้วยชามจะก็จะลวดลายแปลกๆ เยอะจนเลือกไม่หวาดไม่ไหว แถมจะมีสินค้าบางอย่างที่ไม่ใช่ 100 เยนด้วย (คือของจะดีหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย)
อันนี้สาขาชิบูย่า
ตอนนี้หลายๆ สาขาไดโซได้ทำการปรับปรุงหน้าตาร้าน อย่างที่ตรอกทะเคะชิตะ (บางคนไม่คุ้นชื่อ แต่ก็คือย่านฮาราจุกุนั่นเอง) ร้านไดโซจะเป็นสีชมพูแปร๋น ส่วนของข้างในก็เหมือนเดิม มีสินค้าผลิตจากจีนญี่ปุ่นสลับกันไป แต่ถ้าใครชอบของถูกและมีสไตล์ฟรุ้งฟริ้ง บางดีลวดลายดูแพงเลยแหละ พี่โชอยากบอกว่าร้านซีเรียจะเหมาะกว่า ลองไปเปรียบเทียบกันดูนะครับ
จริงๆ ร้านสะดวกซื้อบ้านเราก็เยอะแล้ว แฟมิลี่มาร์ทที่ญี่ปุ่นจริงๆ แล้วก็เป็นหนึ่งในบรรดาร้านสะดวกซื้อที่เยอะมากๆ ข้อดีของแฟมิลี่มาร์ทอาจไม่ได้เน้นที่ขนมสดอร่อย มูสเค้ก ชีสเค้ก หรือเครื่องดื่มทั่วไปแต่อย่างเดียว พวกของใช้ประจำวันที่ขายในแฟมิลี่มาร์ทที่ญี่ปุ่น รวมไปถึงเครื่องเขียนต่างๆ เป็นของยี่ห้อมูจิจ้าาา
บางสาขาจะหน้าตาเป็นแบบนี้
สามารถหาสินค้าของมูจิได้ในแฟมิลี่มาร์ท
คนไทยหลายคนพอมาญี่ปุ่น บอกขอเข้าไปซื้อน้ำเปล่าแป๊บเดียวในแฟมิลี่มาร์ท ปรากฏว่าพอเห็นข้าวของจากมูจิน่ารักน่าหยิบ กลายเป็นช็อปเพลินจนลืมว่าตัวเองอยู่ในร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ทบางสาขาก็จะปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และสไตล์ของร้านให้เข้ากับบรรยากาศสถานที่รอบข้าง เช่นในอาคารสำนักงานราคาแพงหน่อย ก็จะทำโทนสีเรียบๆ ดำๆ ครีมๆ ขรึมๆ เน้นสีไม้ๆ เป็นต้น
11. ร้าน MK shabu shabu
อันนี้ขอแถม เพราะไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่น แต่เป็น MK suki ของบ้านเรานี่เอง อยากเอามาให้คนที่ยังไม่รู้ว่าญี่ปุ่นก็มี MK ได้เห็นกันว่าที่ญี่ปุ่นจริงๆ มีหลายสาขาและเปิดกิจการมานานแล้ว แต่ที่เป็น talk of the town จริงๆ คงไม่แพ้สาขาที่สถานีชินจุกุเขตสาม ซึ่งก็ค่อนข้างใหญ่มาก แถมลูกค้าก็เยอะมากซะด้วย คือถ้าไปช่วงพีคนี่รอคิวกันจนเอียนได้เลยทีเดียว เพราะราคาไม่แพง อาหารเยอะ และเป็นแบบเติมได้ไม่อั้น บางช่วงมีผักบุ้งให้ด้วย คือต้องบอกก่อนว่าผักบุ้งนี่ที่ญี่ปุ่นไม่ใช่ของถูกแบบบ้านเรา การกินผักบุ้งแบบเติมไม่อั้นได้นี่เป็นเรื่อง โอ้ววววว สุดยอด นอกจากนี้ ถ้าเพิ่มราคาขึ้นมานิดนึง เราจะสามารถกินบุฟเฟ่ต์ติ่มซำไม่อั้นได้ ที่โดนใจหลายๆ คนมากที่สุดคือการที่สามารถกินปูก้ามยาวๆ ได้ไม่อั้น
หน้าตาเป็นแบบนี้
อันนี้ซอส มีซอสเอ็มเคแบบไทย มีปอนซึ มีงา และในขวดเล็กๆคือ เกลือผสมบ๊วย
ถ้าถามถึงรสชาติ บอกไว้ก่อนว่าเหมือนกับชาบูชาบูที่ญี่ปุ่นร้านอื่นๆ ทุกประการ น้ำซุปไม่เหมือนที่บ้านเราซะทีเดียว เช่น ใส่สาหร่ายคอมบุเฉยๆ เป็นสีใสๆ หรืออาจมีรสต้มยำให้เลือก (ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ ฮ่าๆ) รสชาติเนื้อหมูเนื้อวัวก็ไม่เหมือนบ้านเรา ลูกชิ้นต่างๆ ก็เป็นแบบญี่ปุ่นมากๆ น้ำจิ้มนั้นมีสามประเภทให้เลือก หนึ่ง เป็นงา สอง เป็นปอนซึหรือซีอิ๊วสีดำๆ รสเปรี้ยวๆ ของญี่ปุ่น และสาม เป็นน้ำจิ้มเอ็มเคแบบบ้านเราทุกประการ แต่ที่ไม่เหมือนคือไม่มีพริก กระเทียม มะนาวให้ เพราะที่นี่ถ้าจะปรุง...ให้ใส่หอมซอยจ้าาาา ปล. เดี๋ยวนี้นางมีเป็ดย่างแล้วด้วยนะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับแบรนด์ต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จริงๆ แล้วพี่โชมั่นใจว่าหลายๆ คนคงอาจเคยได้มาญี่ปุ่นและได้มาสัมผัสกับร้านเหล่านี้แล้วด้วยตัวเอง บอกก่อนเลยว่าพี่โชอยู่โตเกียว บางทีบางร้านที่โตเกียวอาจไม่ได้หาได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น ร้านฮะจิบังราเมน ดังนั้น ถ้าน้องๆ คนไหนเคยไปหรือคุ้นเคยเป็นอย่างดีลองคอมเม้นต์มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนะครับ ถ้ามีร้านอะไรที่นึกออกนอกจากร้านข้างบนลิสต์นี้ลองพิมพ์เพิ่มกันเข้ามานะครับ พี่โช อยากอ่าน สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อน ฮ่าๆ ครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นอย่าลืมติดตามกันต่อไปนะครับผม บ๊ายบาย
ขอบคุณรูปประกอบจาก :blog-imgs-48.fc2.com、art23.photozou.jp、image.blog.livedoor.jp、fashionsnap.com,blogs.c.yimg.jp、kinokuniya.co.jp,facility.homemate-navi.com,duo.or.jp、blog-imgs-50.fc2.com、mage.gora.golf.rakuten.co.jp、.e-libera.com、genbanikki.cocolog-nifty.com、wwdjapan.com、blogimg.goo.ne.jp、blog-imgs-42.fc2.com,leeland.ca,
business.nikkeibp.co.jp,vivaikebukuro.up.n.seesaa.net/,fukui-ramen.com,image1-4.tabelog.k-img.com,userdisk.webry.biglobe.ne.jp、img.4travel.jp、trendy.nikkeibp.co.jp、.homeon.jp、4.bp.blogspot.com、c1.staticflickr.com、userdisk.webry.biglobe.ne.jp、skyhits.koiyk.com、livedoor.blogimg.jp、epark.jp,blog-imgs-46.fc2.com、media-cdn.tripadvisor.com
15 ความคิดเห็น
อยากจะมีโอกาสไปบ้าง ._____.
MK ยืนยันว่าไม่เหมือนบ้านเราค่ะ เคยไปกินที่ห้างแถวบ้านโฮสเพราะเพื่อนชวนไปกิน (ก็งงว่าชวนเราที่เป็นคนไทยไปร้านเอ็มเคทำไม) แต่สาขานั้นมีน้ำจิ้มเด็กและน้ำจิ้มเอ็มเคปกติ เสียอย่างเดียวคือพวกผัก ลูกชิ้น และอื่นๆที่ไม่ใช่เนื้อวัว หมู ไก่ ไม่เยอะเหมือนบ้านเราค่ะ
อ้าวทีแรกเราคิดว่าร้านมิสเตอร์โดนัท กับ MK เป็นแบร์นของเมกาฯ แล้วร้านแฟมิลี่มาร์ท เป็นแบร์นของไทยมาโดยตลอย #ม่ายยยย
แถมให้อีกอัน sega (โดนตบ)
ร้าน แฟมิลี่มาร์ท ที่ญี่ปุ่นเราเคยไปน่ะ คือแบบ..........ของ เทียบเท่ากับโลตัส big c เมืองไทย ได้เลยอ่ะ คือเยอะมาก ปลาก็มี
สะ อาด น่า อยู่ มาก
ร้านอย่างกะเปิดใหม่ สะอาดมากจริงๆค่ะ ชอบประเทศนี้จังเลย
ร้านแฟมิลี่มาร์ทเกิดมาไม่เคยเข้าอะแถวบ้านมีแต่ 7-11 ทั้งๆที่ของแฟดูมีอะไรสดๆกินเยอะกว่า
ไปคิโนะคุนิยะสาขาใหญ่ที่ยุ่นแล้ว พนง.ใจดีมากกก พูดกันไม่รู้เรื่องแต่ก็พยายามช่วยเราหาหนังสือ ได้กลับมาเป็นลังเลย5555555
ไปเซเว่นญึ่ปุ่นนี้เพลินกับการซื้อขนมมักๆ(อร่อยอีกต่างหาก)
ฮะจิบังราเมง ไปกินที่จังหวัดฟุกุอิ อร่อยกว่าที่บ้านเราเยอะ ให้เยอะกว่ามาก ชามเดียวอิ่มจุก และราคาถูก คือกลับมาไม่กินของไทยอีกเลย