สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย สำหรับเรื่องที่นำมาฝากวันนี้มาจากอเมริกาค่ะ กับชีวิตในไฮสคูลที่อ่านแล้วรู้สึกว่า คุ้มค่ามากๆ
(ขอทางการนิดนึง) สวัสดีครับ เราชื่อ ปอตี๋ - วีรวัฒน์ งามเมธาวงศ์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการครับ ตอนนี้ปอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจาก ของ IEE THAILAND ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระยะ 10 เดือนที่เมือง Hillsdale รัฐ Michigan ครับ สาเหตุที่อยากมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อยากฝึกภาษาอังกฤษเนี่ยแหละ
ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงอเมริกา ยังงงกับตัวเองเลย มาทำไม ? คือก่อนมาก็เรียนๆ เที่ยวๆ ไปเรื่อย ไม่ได้ทำใจหรือเตรียมใจอะไรมาเลย มาถึงอเมริกาวันแรกก็เลยเบลอๆ วันแรกก็เลยทำตัวเด่นเลย จะไม่ให้เด่นได้ยังไงล่ะ ก็อากาศมันต่างกันซะขนาดนี้ อิอิ หนาวจนขนหน้าอกลุกอะ !! ธรรมดาปอก็เป็นคนที่ขี้หนาวอยู่แล้ว จากอากาศ 35 องศาที่ไทย มาอเมริกาวันแรกก็ 18 องศาเลย คนอื่นเค้าใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ปอใส่เสื้อกล้ามข้างใน เสื้อยืดอีกชั้น ทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตอีกตัว กางเกงขายาวอีก แล้วมาวันแรกเนี่ย โฮสท์แม่ก็พาไปห้างของเมืองข้างๆ ผมนี่เขินเลยครับ คนมองกันทั้งห้าง!!! โฮสท์แม่ก็เลยกระซิบข้างๆหู "ไม่เป็นไร คนอื่นไม่เข้าใจ แต่ฉันเข้าใจนะ" แล้วก็ขำเบาๆ (จ๊ะ ตลกสุดๆ T____T )
ชอบที่สุดเลยก็คือ โรงเรียน !!! อย่างโรงเรียนที่ปอเรียนอยู่ Hillsdale High School เป็นโรงเรียนรัฐบาล ก็เข้าเรียน 8:05 น. ไม่มีเข้าแถว (ศักรินทร์ดาวร้ายไม่ต้องตากแดดแล้วนะ เห้ย เห้ย เห้ย) เลิกเรียนเวลา 14:55 น. ครับ เลิกเรียนเร็วก็มีความสุขพอแล้วนะ แต่.......!!! สิ่งที่มีความสุขมากกว่านั้น คือ เรียน 5 วัน จันทร์ – ศุกร์ เรียนวันละแค่ 5 วิชา ไม่ต้องจำเยอะแยะ สบายสุดๆๆ ตารางเรียนนั้น เราเลือกลงเองได้เลย ยกเว้นวิชาประวัติศาสตร์ นักเรียนแลกเปลี่ยนทุกคนจะต้องลง เราก็ลงวิชาชิลๆ ซิครับ จะลงยากๆ ทำไมกัน 55555 แต่......ก็ยังสะเหล่อพลาดไปลงภาษาอังกฤษของเกรด 11 (ม.5) นึกว่าจะสอนเหมือนที่ไทย ที่ไหนได้ต้องมานั่งวิเคราะห์วรรณคดีอเมริกา โอ้โห่ โอ้โห่วววว ภาษาไทยเองยังเอาไม่รอดเลย นั่งอ่านกันตาแฉะ.....ยังได้เกรด F !!!!! แต่สุดท้ายก็พยายามจนได้เกรด B มา (เย้ !) มีแต่คนชมมากมาย อิอิ (ยืด) ต้องขอบคุณโฮสท์จริงๆ ที่ช่วยเหลือเรา
ที่สุดของที่สุดของความชิล ก็คือ ถ้าครูสอนเสร็จแล้ว ครูเค้าจะให้เรานั่งทำงาน ทำการบ้านต่อในห้อง เราก็สามารถเอาหูฟังอันน้อยมาจิ้มตูดโทรศัพท์และรูหูของเรา นั่งฟังเพลงได้ตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำ อย่าป่วนห้อง เกรดไม่ตก ไม่เป็นภาระต่อสังคมก็พอ อะไรมันจะชิลขนาดนั้น
ที่สุดของที่สุดของความชิล ก็คือ ถ้าครูสอนเสร็จแล้ว ครูเค้าจะให้เรานั่งทำงาน ทำการบ้านต่อในห้อง เราก็สามารถเอาหูฟังอันน้อยมาจิ้มตูดโทรศัพท์และรูหูของเรา นั่งฟังเพลงได้ตามสบาย อยากจะทำอะไรก็ทำ อย่าป่วนห้อง เกรดไม่ตก ไม่เป็นภาระต่อสังคมก็พอ อะไรมันจะชิลขนาดนั้น
แต่ก็นะ มาอเมริกาใหม่ๆ มันก็ยังไม่ชิลขนาดนี้หรอก พูดก็ไม่กล้าพูด ฟังก็ไม่ค่อยออก มีวันนึงเป็นวันเกิดเพื่อนในคาบเรียน ก็ตั้งใจอวยพรมันอย่างดี ดันพูดผิด กลายเป็นแช่งมันซะงั้น ก็ไอคำว่า wish กับ witch มันออกเสียงคล้ายกันเกิ๊น (เพื่อนตาเหลือกเลยทีเดียว) แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่ซ้อมกีฬากับเพื่อนๆ เพื่อนก็ถาม “รองเท้าหนักมั้ย?” ไม่รู้ว่าหูเพี้ยนหรือสมองทำงานช้า เราดันไปฟังเป็น “รองเท้าซื้อมาจากไหน ?” (ความหมายเพี้ยนไปเยอะเลยครับ) ตอบด้วยความมั่นใจ "อ๋อ ซื้อมาจากเว็บไซต์อเมซอน...." หลังจากนั้นก็เลยกลายเป็นคนเงียบ ไม่กล้าพูดจา ไปพักนึงเลย เสียเพื่อนไปพอสมควร เพื่อนนึกว่าหยิ่ง... (หน้าแหกขนาดนี้ จะเอาที่ไหนมากล้าพูด)
อยู่อเมริกา ถ้าใครมีความสามารถพิเศษอะไรก็โชว์ได้เรื่อยๆ คนที่นี่จะชอบมาก ปอเองก็เป็นคนชอบเต้นมากๆ แล้วโรงเรียนจะมีงาน Homecoming พอตกกลางคืนก็จะมีงานปาร์ตี้ มีดีเจพร้อม พวกนักเรียนก็จะมาเต้นกัน มาแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีคนรู้ว่าปอเต้นเป็น เพื่อนก็มาเล่าให้ฟังว่า “ในงานเนี่ย ถ้ามีใครเต้นนะ เดี๋ยวพวกคนอื่นก็จะมาล้อมวงแล้วให้เราเต้นอยู่ตรงกลาง” พอถึงปาร์ตี้ปุ้ป ปอก็อยากลองของ ปาร์ตี้เริ่มได้ซักพัก คนเริ่มเยอะ ก็เลยลองเต้นขำๆ “อ้าว ไม่มีคนมอง” (คุณหลอกดาว T___T ) เพื่อนคนนึงก็เลยตะโกนขึ้นมาว่า "มีคนเต้น" คนอื่นก็ล้อมวงรอบเลย !!!! 555+ หลังจากนั้นคนก็รู้จักปอกันเพียบเลย เรียกเพื่อนได้เยอะพอสมควร 5555+ หลังจากงานปาร์ตี้ก็มีคนมาทักเยอะมาก หล่อเลยครับงานนี้ (หลงตัวเอง) หลังจากนั้นพอโรงเรียนมีงานปาร์ตี้ ถ้าปอไป พอเพื่อนเห็นปอปุ้ป เพื่อนก็ล้อมวงรอเลยครับ ได้ลงหนังสือพิมพ์ของเมืองด้วยนะตัวเธอ คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อสุดๆ (หลงตัวเองครั้งที่ 2) 555+
สิ่งที่ถูกใจเด็กผู้ชายที่สุด ก็คงไม่พ้นเรื่องกีฬา คนที่นี่จริงจังเรื่องกีฬาสุดๆ ขนาดที่ว่า 70 เปอร์เซนต์ ของเด็กโรงเรียนปอ เล่นเวท ยกน้ำหนักกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งโรงเรียนปอมีห้องยกน้ำหนักเปิดให้ใช้บริการฟรีเลย ยิ่งกีฬาที่มีความยอดนิยมที่สุดของอเมริกา อย่างอเมริกันฟุตบอล เป็นกีฬาที่ใช้พละกำลังเยอะมาก แล้วพื้นฐานของคนเมกันก็สูงอยู่แล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนสูงน่ารักมาก (ประชด) มาอยู่โรงเรียนนี่นึกว่าเดินอยู่กลางป่าดงดิบเลยครับ มองแทบไม่เห็นทางเดิน (เศร้า T___T)
วกกลับมาเรื่องคาบเรียน จะมีบางวิชาที่เป็นเหมือนชมรม อย่างเช่น ศิลปะ, ออกแบบโปรแกรมหุ่นยนต์, ทำอาหาร, เย็บปักถักร้อย, วงดุริยางค์ และ ฯลฯ ปอก็ลง Choir กับ Chorale (ขับร้อง) ซึ่งชมรมแต่ละชมรมจะมีจัดนิทรรศการเป็นของตัวเอง โดยผู้ชมนั้นไม่ได้มีแค่เด็กนักเรียนในโรงเรียนอย่างเดียว ยังมีผู้ปกครอง และคนอื่นๆ ที่สามารถเข้ารับชมได้อีกด้วย แน่นอน งานนี้ งานดี งานเด่น ไม่ธรรมดา เราต้องเข้าชมรมทุกวัน ก็เลยได้ฝึกร้องเพลงเป็นประจำ ทั้งๆ ที่ปอเป็นคนที่ร้องเพลงไม่ได้เลยสักนิด จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ไปออดิชั่นละครเวที The Titanic Musical ของโรงละครเมืองข้างๆ แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ตอนนี้ปอกลายเป็น 1 ในตัวละครหลักของเรื่องด้วย (หล่ออีกละ - หลงตัวเองครั้งที่ 3)
และนี่ก็เป็นเพียงแค่ประมาณส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทั้งหมดที่ปอเจอมากับตัวเองครับ จะพูดว่าครบรสเลยก็ว่าได้ ได้ทั้งเพื่อน ได้ทั้งภาษา ได้ประสบการณ์เพี้ยนๆ ได้เหล่สาวเมกัน และอีกหลายๆอย่าง เอาเป็นว่าบอกเล่าประสบการณ์ต่อแค่นี้ละกันครับ เผื่อจะทำให้คนอื่นรู้สึกอิจฉาจนอยากมาสอบชิงทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนบ้าง ครุคริ
(ท้ายสุด ขอมีสาระนิดนึงครับ) ผมอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนนะครับ อย่ามองว่าการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจะทำให้เสียเวลาเปล่าไปเกือบ 1 ปีเต็ม ไม่จริงหรอกครับ ที่เราเสียไปก็แค่ 1 ปี ของการเรียนรู้ในห้องเรียนสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งแลกมากับ การได้รับประสบการณ์ชีวิตในโลกกว้างเกือบ 1 ปี เต็มๆ ที่มีไม่กี่คนจะได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง สำหรับคนที่มีโอกาสแล้ว แต่ยังลังเลใจอยู่ กลัวสอบไม่ผ่าน หรือกลัวนู้นนี่นั้น ผมฝากสุภาษิตภาษาอังกฤษไว้ลองคิดตามดู "If you can take it, you can make it" อย่าเสียใจครับ แค่ใช้ชีวิตทุกวันนี้ให้คุ้มค่าก็พอแล้ว "You Only Live Once" ขอบคุณครับ ปอตี๋สุดหล่อ พ่อเทพบุตร ดุจเทวดา (อย่าตามมากระทืบผมนะ ผมล้อเล่น)
แหม น้องปอช่างเป็นหนุ่มที่มีอารมณ์ขันจริงๆ นะคะเนี่ย อ่านแล้วก็ยิ้มตามตลอดเลย คารมดี๊ดี อิอิ ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันแบบนี้ ก็ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com เดี๋ยวนำมาลงแน่นอนจ้า
12 ความคิดเห็น
ว้ายยยย พี่ปอเท่จังเลยยย
ไปแลกเปลี่ยนกับโครงการอะไรหรอคะ?
บางทีเราก็เจอกะทู้ เตือนสติดีๆช้าเกินไป
ตอนนั้นไม่สมัครเพราะคิดว่าเสียดายเวลา ปีหนึ่ง
ตอนนี้ยังเสียดายไม่หายเลยยยยย งือออ