เปิดความลับไพ่ 52 ใบที่เล่นกันทุกวันนี้ มีที่มาอย่างไร?

        น้องๆ ชาวเด็กดีเคยสงสัยไหมคะว่าไพ่ที่เราเห็นๆ กันอยู่ ทุกวัน ที่เราเรียกคิง แจ็ก แหม่ม สามดอกจิก สี่โพธิ์ดำ หกข้าวหลามตัด (แหม่ พี่น้องก็ร่ายซะเหมือนเล่นบ่อย) จริงๆ แล้วดีไซน์ต่างๆ มันมีที่มาของมันอยู่นะ อย่ามัวแต่สงสัย มาหาคำตอบเก็บไว้เป็นความรู้รอบตัวกันดีกว่าค่ะ
 

กำเนิดดีไซน์ไพ่

        ไม่มีใครยืนยันได้แน่นอนว่าไพ่ที่เราเล่นกัน ใครเป็นคนคิด ใครเป็นคนเริ่ม บางก็ว่าเริ่มที่จีน บ้างก็ว่าเริ่มที่อียิปต์ บ้างก็ว่าไกลกว่านั้นอีก เอาเป็นว่า ไม่ว่าใครเริ่มก็ตาม มันก็ทวีความนิยมขึ้นที่ประเทศแถบยุโรปในช่วงคริสตศวรรษที่ 14 นั่นเอง
        สมัยนั้น ไพ่ยังจัดเป็นของที่จับต้องได้ยาก เป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงที่มีขึ้นเพื่อเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น เนื่องจากกรรมวิธีในการทำค่อนข้างละเอียด ต้องแกะสลักไม้พิมพ์ลายแล้วทาสีลงไป กว่าจะเสร็จแต่ละใบเล่นเอาหอบลง
        นานวันเข้า เมื่อการผลิตไพ่เริ่มง่ายขึ้นและใช้เวลาน้อยลง ก็มีคนพยายามทำไพ่ทำนองนี้เพื่อการค้า โดยผลิตให้ชาวประชาทั่วไปได้ซื้อไปเล่นกัน ดีไซน์กันไปมามันก็แตกออกเป็นสองสายคือ สายปาริเซียง ที่คนฝรั่งเศสนิยม และสายรูเอนเน่ที่มาป๊อบเอาในอังกฤษ
 


 
        สายรูเอนเน่นี่เองที่กลายเป็นต้นกำเนิดของไพ่ที่เราเห็นในปัจจุบัน ซึ่งเราจะมาเน้นที่สายนี้เป็นพิเศษ
 

ดอกบนไพ่

        ในสมัยก่อนแต่ละประเทศที่รับวัฒนธรรมการเล่นไพ่เข้ามา หลายประเทศก็คิดดอกไพ่ของตัวเอง เช่น ดอกไพ่ของสเปนจะเป็น เหรียญ (Coins) ถ้วย (Cups) ตะบอง (Clubs) และดาบ (Swords) ส่วนเยอรมันจะเป็น ระฆัง (Bells) หัวใจ (Hearts) ใบไม้ (Leaves) และผลโอ๊ก (Acorns)
        คนฝรั่งเศสรับวัฒนธรรมส่วนหนึ่งมาจากเยอรมัน ปรับแต่งนิดหน่อยจนมันออกมาเป็น ดอกทั้ง 4 อันได้แก่ ดอกจิก (Clubs) โพธิ์แดง (Hearts) โพธิ์ดำ (Spades) และข้าวหลามตัด (Diamonds) ซึ่งเอามาทำเป็นแม่พิมพ์ผลิตง่ายกว่าแบบของประเทศอื่นมาก พอคนออกแบบไพ่ฝั่งฝรั่งเศสผลิตไพ่ได้มากกว่าที่อื่น คนก็นิยมเล่นไพ่ของฝรั่งเศส จนกลายเป็นดีไซน์สากลไปซะอย่างนั้น
 

 
        มีนักวิชาการหลายคนพยายามตีความการใช้สัญลักษณ์ดอกทั้ง 4 นี้ ซึ่งเดาว่าแต่ละประเทศคงให้เป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นทั้ง 4 (สมัยก่อนยังแบ่งชนชั้นกันเป็นเรื่องปกติ) อย่างของฝรั่งเศสเอง คงมีความหมายตามนี้
 
  • โพธิ์แดง (Hearts) หมายถึงโบสถ์ หรือกลุ่มนักบวช
  • โพธิ์ดำ (Spades) หมายถึงกลุ่มชนชั้นสูงหรือขุนนาง เพราะโพธิ์ดำมีรูปร่างคล้ายกับปลายหอกซึ่งเป็นอาวุธของนักรบผู้ปกป้องกษัตริย์
  • ข้าวหลามตัด (Diamonds) หมายถึงกลุ่มมีผู้มีฐานะ เพราะรูปเพชรเป็นรูปทรงเดียวกับก้อนอิฐที่ปูในโบสถ์ ซึ่งโบสถ์ก็เป็นที่ๆ คนมีเงินที่ตายไปแล้วจะได้มาฝังศพที่นี่
  • ดอกจิก (Clubs) หมายถึงกลุ่มชนชั้นล่างธรรมดา เนื่องจากมันมีรูปร่างเหมือนใบต้นโคลเวอร์ ซึ่งเป็นอาหารสำหรับหมู
     
        แต่นี่ก็เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้นเอง บางทีอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ได้นะ
 

รูปสมมาตร และสัญลักษณ์ที่ข้างไพ่

        คนสมัยก่อนเขาออกแบบไพ่มาโดยยึดผู้เล่นเป็นสำคัญจริงๆ เพราะไพ่แต่ละใบจะสมมาตรกันอยู่ จะได้ไม่มีปัญหาจั่วไพ่มาแล้วต้องมานั่งพลิกไพ่ให้มันหันขึ้นเหมือนกัน รวมทั้งไพ่คิง แจ็ก แหม่มที่เป็นรูปบุคคลต่างๆ แต่เดิมนั้นวาดเป็นรูปคนเต็มตัว ก็เปลี่ยนเป็นครึ่งท่อนแล้ววาดอีกครึ่งให้เป็นภาพสะท้อนแทน
        นอกจากนี้ แต่ก่อนเขาไม่มีสัญลักษณ์บอกที่ขอบไพ่อีกทีนะคะ จะรู้ว่าตัวเองถือไพ่หน้าอะไรต้องคลี่ดูเต็มๆ ใบ แล้วนับดอกเอา พอกันทีกับปัญหาแบบนี้ ช่วงปี 1875 เมื่อเกมไพ่ได้โกอินเตอร์ไปอเมริกา ใครสักคนที่อเมริกาคงคิดขึ้นได้ว่าการแผ่ไพ่ออกเพื่อดูว่าตัวเองถืออะไรนั้นมันดูไม่เท่เลยสักนิด ใส่สัญลักษณ์ไว้ที่ขอบไพ่ให้มันจบๆ ไปเลยดีกว่า
        ต้องขอบคุณคนในประวัติศาสคนนั้นที่ทำให้เราได้ท่าคลี่ไพ่เท่ๆ แบบไม่ต้องนั่งนับดอกในไพ่ให้เสียฟอร์มเลยสักนิด
 

คิง แจ็ก แหม่ม

        ทีนี้มาดูสามสหายที่มีรูปวาดอันวิจิตรอลังที่สุดกันบ้าง คิง (King) แจ็ก (Jack) หรือ แหม่ม (Queen) แต่เดิมเขามีกันสี่ตัวนะคะ คือ ราชา (King) ราชินี (Queen) อัศวิน (Knight) และ คนโกง (Knave) แต่ตอนหลัง "คนโกง" ก็หลุดหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เหลือแต่สามตัวนี้ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ตัวย่อของทั้งสามคือ K Q K
        เอาล่ะสิ มี K สองตัว แบบนี้เวลาทำสัญลักษณ์ข้างไพ่ก็แยกไม่ออกน่ะสิว่าที่ถืออยู่นี่ ราชาหรืออัศวิน
        ก็เลยเป็นที่มาให้ต้องเปลี่ยนชื่อจากอัศวินเท่ๆ เป็นแจ็ก (Jack) นั่นเอง
        นอกจากนี้ ช่วงที่ไพ่ของช่างทำไพ่ชาวฝรั่งเศสกำลังเฟื่องฟู ช่างทำไพ่บางคนก็เริ่มแทนตัวคิง แจ็ก แหม่มแต่ละตัวด้วยบุคคลต่างๆ ทั้งที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ และในตำนาน บางคนถึงขนาดใส่ชื่อลงไปในไพ่ด้วย ซึ่งรายชื่อบุคคลที่เข้าไปอยู่ในไพ่ก็แตกต่างกันไปตามช่างทำไพ่แต่ละคน ที่เห็นบ่อยๆ ก็ดังนี้





        การกำหนดบุคคลเป็นต้นแบบให้กับไพ่แต่ละใบนั้นไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งแต่อย่างใด พอถึงช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสที่กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 และมารี อังตัวแนตถูกประหาร สัญลักษณ์แห่งเชื้อพระวงศ์ในฝรั่งเศสก็หายไป ช่างทำไพ่จึงเลิกใส่ชื่อเหล่านี้ และบางคนถึงกับเปลี่ยนไพ่จากคิง แจ็ก แหม่ม ไปเป็น เสรีภาพ (Liberté) เสมอภาค (égalité) และภราดรภาพ  (fraternité) แทน
 

ทำไมคิงโพธิ์แดงถึงฆ่าตัวตาย?

        ถ้าใครช่างสังเกตจะพบว่าไพ่คิงโพธิ์แดง (คิงหัวใจ) เป็นใบเดียวที่ช่างแตกต่างจากชาวบ้าน หนึ่งเลยคือเป็นคิงคนเดียวที่ไม่มีหนวด สองเป็นคิงที่เอามีดแทงศีรษะตัวเอง
        คำตอบเรื่องนี้ เดาว่ามันไม่ได้มีนัยยะสำคัญอันใดค่ะ แค่เกิดจากความผิดพลาดของช่างทำไพ่ในสมัยก่อน อาจจะก๊อปงานมาแล้วเผลอทำหนวดตกหล่นระหว่างทาง ส่วนดาบนั้นจริงๆ แล้วน่าจะเป็นด้ามขวาน แต่คนก๊อปคงลืมก๊อปหัวขวานที่ต้องยื่นไปอีกฝั่ง เลยทำให้ดูเหมือนคิงคนนี้กำลังเอามีดแทงตัวเองมากกว่า
 

ทำไมเอซโพธิ์ดำถึงต่างจากไพ่ใบอื่น?

        เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 17 ช่วงนั้นกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษออกกฎหมายว่าไพ่ที่พิมพ์ออกมาจากโรงพิมพ์ทุกสำรับต้องจ่ายภาษีด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นคนปั๊มตรารับรองว่าไพ่จากโรงงานนี้เสียภาษีแล้ว และก็มักเลือกปั๊มที่ไพ่เอซโพธิ์ดำเพราะมันมีพื้นที่ขาวว่างๆ เยอะดี
        พอเวลาผ่านไป ก็เปลี่ยนเป็นการพิมพ์หน้าเอซโพธิ์ดำที่มีตราประทับของราชวงศ์ไปเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลาปั๊มมือ และพอกฎหมายนี้ไม่มีอีกต่อไป โรงงานทำไพ่ส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้หน้าเอซโพธิ์ดำนี่แหละมาทำสัญลักษณ์ลวดลายวิจิตรเพื่อเป็นตราว่านี่คือไพ่จากโรงงานข้า กลายเป็นธรรมเนียมมาตราบจนทุกวันนี้
 

แล้วโจ๊กเกอร์มาจากไหน?

        โจ๊กเกอร์เพิ่งมาโผล่ในกองไพ่เมื่อช่วงปี 1860 โดยคนอเมริกัน สมัยนั้นมีเกมที่ชื่อว่า ยูเคอร์ (Euchre) ซึ่งเป็นเกมไพ่ที่มีต้นกำเนิดมาจากเยอรมัน ตอนที่คนอเมริกันเอาเกมไพ่นี้มาเล่น จึงตัดสินใจเพิ่มไพ่พิเศษที่ชื่อว่าโจ๊กเกอร์เข้าไป โดยยกให้เป็นไพ่ที่มีแต้มสูงที่สุดของเกมนั้น
        และโจ๊กเกอร์ก็เลยกลายเป็นไพ่พิเศษในเกมอื่นๆ บางเกม มีทั้งเป็นไพ่ที่ดีสุดๆ และก็แย่สุดๆ ไปเลย หรือบางทีโจ๊กเกอร์ก็กลายเป็นไพ่ตัวแทน เวลาไพ่ใบใดใบหนึ่งในกองไพ่นั้นหายไปก็ได้
 
        เห็นพี่น้องพูดเรื่องไพ่แบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะสนับสนุนให้น้องๆ เล่นไพ่นะจ๊ะ แต่ทุกอย่างล้วนมีที่มาของมัน และไพ่ทั้ง 52 ใบนี้ก็มีที่มาเช่นกัน
        ขอให้น้องๆ จำไว้ว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี แต่มีอีกหลายวิธีในการเอาไพ่มาใช้ฝึกสมองแทนที่จะกินตังค์กันนะจ๊ะ ^^

 
ขอบคุณข้อมูลจาก
wopc.co.uk
i-p-c-s.org
snopes.com
en.wikipedia.org
designshack.net
whiteknucklecards.com
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

kotoba Member 12 ม.ค. 59 00:38 น. 1

ถึงจะบอกว่าคิงโพธิ์แดงนั่นจริง ๆ แล้วน่าจะเป็นขวาน...   แต่ปกติแล้วขวานมันไม่มีที่กั้นมือกันไม่ใช่รึ...

0
กำลังโหลด
mirasugi Member 13 ม.ค. 59 20:56 น. 2

ผมนึกว่าคิงโพธิ์ถือดาบไว้หลังหัวมาตลอดเลยนะนั่น เเต่คิดๆไปคิดมาผมว่าผมเชื่ออย่างเดิมดีล่ะครับ

0
กำลังโหลด
ตรัง 14 ม.ค. 59 09:48 น. 4
ความหมายดอก ชื่อมันบอกชัดเจนอยู่แล้ว โพธิ์ดำ Club แปลว่า สโมสร แทนการศึกษา ดอกจิก Diamond แปลว่า เพชร แทนทรัพย์สินเงินทอง โพธิ์แดง Heart แปลว่า หัวใจ แทนความรัก ความสุข โพธิ์ดำ Spade แปลว่า พลั่ว จอบ แทนความตาย(ขุดฝังศพ) รูปไม่ใช่รูปหอกเด้อ
2
กำลังโหลด

5 ความคิดเห็น

kotoba Member 12 ม.ค. 59 00:38 น. 1

ถึงจะบอกว่าคิงโพธิ์แดงนั่นจริง ๆ แล้วน่าจะเป็นขวาน...   แต่ปกติแล้วขวานมันไม่มีที่กั้นมือกันไม่ใช่รึ...

0
กำลังโหลด
mirasugi Member 13 ม.ค. 59 20:56 น. 2

ผมนึกว่าคิงโพธิ์ถือดาบไว้หลังหัวมาตลอดเลยนะนั่น เเต่คิดๆไปคิดมาผมว่าผมเชื่ออย่างเดิมดีล่ะครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ตรัง 14 ม.ค. 59 09:48 น. 4
ความหมายดอก ชื่อมันบอกชัดเจนอยู่แล้ว โพธิ์ดำ Club แปลว่า สโมสร แทนการศึกษา ดอกจิก Diamond แปลว่า เพชร แทนทรัพย์สินเงินทอง โพธิ์แดง Heart แปลว่า หัวใจ แทนความรัก ความสุข โพธิ์ดำ Spade แปลว่า พลั่ว จอบ แทนความตาย(ขุดฝังศพ) รูปไม่ใช่รูปหอกเด้อ
2
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด