4 ทางออกสำหรับคนอยากเรียนต่อนอกแต่ "เกรดไม่สวย"

       สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... หนึ่งคำถามที่มีน้องๆ ถามมาเยอะมากเกี่ยวกับการเรียนต่อนอกคือ อยากไปเรียนต่อนอก แต่เกรดน้อย ทำยังไงดี? จะมีโอกาสมั้ย? วันนี้ พี่เป้ เลยหาตัวช่วยหรือทางเลือกอื่นๆ มาฝากค่ะ

 

       ปกติแล้วการไปเรียนต่อนอกนั้น หากไปด้วยเงินทุนตัวเอง เกรดเฉลี่ยควรอยู่ที่ 3.0 ขึ้นไป แต่หากเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปหรือดังมากๆ ก็ควรจะได้ 3.5 ขึ้นไปค่ะ แต่หากต้องการสมัครชิงทุน เกรดเฉลี่ยก็ควรจะลอยลำมาแบบสูงๆ เลย ยิ่ง 3.7 3.8 ขึ้น ยิ่งมีโอกาสค่ะ เพราะทุนส่วนมากเค้าก็จะพิจารณาจากเกรดกันเป็นอันดับต้นๆ อยู่แล้ว ดังนั้นหากใครยังมีเวลาเตรียมตัวล่ะก็ แนะนำให้ฟิตเกรดให้ได้สูงๆ เข้าไว้ค่ะ

       มีบางคนที่เกรดไม่ค่อยสวยงามเท่าไร แต่อยากลองสู้สักตั้งเพื่อไปเรียนต่อนอก ก็อย่าเพิ่งหมดหวังกันไปค่ะ มาดูกันว่ามีทางไหนที่จะช่วยเราได้บ้าง

ทำคะแนนภาษาให้สูง

       
       หลายคนคงรู้กันดีว่า การสมัครเรียนต่อนอกจะต้องใช้คะแนนภาษายื่นสมัครไปด้วย อย่าง TOEFL หรือ IELTS สำหรับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โดยเราควรทำได้มากกว่าขั้นต่ำที่เค้ากำหนดค่ะ เช่น เค้ากำหนดว่าต้องได้ IELTS 6.0 ขึ้นไป เราก็ฟาดไปซัก 7.0 เลย หรือจะไปเรียนต่อญี่ปุ่น เขากำหนดว่าต้องสอบวัดระดับผ่านระดับ 3 เราก็ฟาดให้ได้ระดับ 2 เลย (ของญี่ปุ่น ระดับ 2 ยากกว่าระดับ 3) พูดง่ายๆ คือเอาคะแนนภาษาตรงนี้มาทดแทนเกรดที่น้อยเกินไปค่ะ 

ทำงานหาประสบการณ์ก่อน

       
        มีบางคนที่เรียนจบปริญญาตรีปุ๊บ ก็อยากเรียนต่อโทปั๊บ แต่เกรดไม่ค่อยงามเท่าไร เลยตัดสินใจ "ทำงานหาประสบการณ์" ก่อนสักอย่างน้อย 2-3 ปี และนำประสบการณ์ตรงนั้นมาเขียนเล่าในใบสมัคร ให้ทางมหาวิทยาลัยเห็นว่าเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง และว่ากันว่า หากบริษัทที่เราเข้าไปทำงานเป็นบริษัทระดับ International ที่คนประเทศอื่นก็รู้จักด้วย ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เรามากขึ้นด้วยล่ะ

ฝึกงานหรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับสาขาที่ต้องการสมัครเรียนโดยตรง

   
       พูดง่ายๆ ว่าพอร์ตฟอลิโอต้องขั้นเทพค่ะ สมมติเรารู้ตัวแล้วว่า ในระดับปริญญาโทต้องการจะเรียนต่อสายวิทย์สุขภาพ เราอาจหาประสบการณ์การไปเป็นลูกมือทีมหมออาสา ไปออกค่ายชนบทกับหน่วยสาธารณสุข หรืออะไรที่ต้องเกี่ยวข้องกับสาขาที่ต้องการเรียนต่อโดยตรงค่ะ ยิ่งถ้ามีโอกาสไปฝึกงานในต่างประเทศที่เป็นบริษัทหรือองค์กรระดับสากลได้ยิ่งดีเลย!

เลือกมหาวิทยาลัยระดับกลางๆ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยระดับท็อป

     

       ข้อนี้เป็นวิธีที่หลายคนนิยมมากที่สุดค่ะ พูดกันตรงๆ คือ มหาวิทยาลัยระดับท็อปนั้นเข้ายากค่ะ ขนาดสมัครเรียนแบบเงินทุนตัวเอง ไม่ได้ขอทุน ยังเข้ายากพอควร ดังนั้นลองมองดูมหาวิทยาลัยระดับกลางๆ รองลงมาเป็นตัวเลือกบ้างก็ไม่เลวค่ะ

        

ห้ามพลาด!! Dek-D's โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอกทั่วโลก 2016