5 คำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ควรใช้มั่ว



       สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่ะ วันนี้ พี่เฟิร์น จะพามาดู 5 คำศัพท์ในภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ควรใช้มั่ว กันว่ามีคำไหนบ้าง จะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกเนอะ



 

       เชื่อว่า 5 คำศัพท์ที่จะหยิบยกมาต่อไปนี้ น้องๆ คนไหนที่ชอบดูอนิเมะญี่ปุ่นจะต้องเคยได้ยินบ่อยๆ แน่นอน แต่... เอ๊ะ ในอนิเมะยังใช้ได้เลย แล้วทำไมในชีวิตจริงถึงจะใช้บ้างไม่ได้ล่ะ คงคิดแบบนี้กันใช่มั้ยล่ะ มันก็ใช้ได้ค่ะ แต่ก่อนจะใช้ก็ต้องดูสถานการณ์ ดูว่าฝ่ายตรงข้ามที่เรากำลังพูดคุยด้วยคือใคร ไม่ใช่ใช้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าจะเป็นการเสียมารยาทได้ค่ะ



1.キモイ (Kimoi)


(
http://articleimage.nicoblomaga.jp/)
 

       คุ้นกันมั้ยคะ? กับคำๆ นี้ ใครที่ชอบดูอนิเมะญี่ปุ่นต้องเคยได้ยินบ่อยๆ แน่ เวลาที่นางเอกตะโกนว่าพระเอกว่า “คิโม่ย!” เวลาพระเอกทำอะไรที่ดูน่าเกลียด ไม่เข้าเท่า
       キモイ (Kimoi) เป็นศัพท์สแลงในภาษาญี่ปุ่นที่มาจากคำว่า 気持ち(kimochi) กับ悪い(warui) ที่แปลว่า “รู้สึกไม่ดี” ค่ะ คงฟังดูไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ แล้วคำนี้เอาไว้ใช้เวลาที่เห็นสิ่งของ หรืออะไรที่มันดูน่าขยะแขยง ถ้าจะเอามาใช้กับคนก็จะดูเป็นการเสียมารยาทไปสักหน่อย ยกเว้นแต่จะพูดกันในกลุ่มเพื่อนเนอะ



2. ウザい (Uzai)


(
http://adn.i.ntere.st/)
 
       นี่ก็เป็นศัพท์สแลงอีกเช่นกัน เวลาดูอนิเมะ ในตอนที่ตัวละครกำลังรู้สึกหงุดหงิด หรือรำคาญ ก็จะพูดว่า “อุไซ!” หรือ “อุรุไซ!” ใช่มั้ยคะ
       ウザい (Uzai) เป็นคำที่มาจากคำว่า うるさい (urusai) อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งแปลว่า “หนวกหูน่ะ!” “น่ารำคาญ!” ใช้ในตอนที่รู้สึกมีเสียงดังมารบกวนให้รำคาญหู รำคาญใจนั่นเองค่ะ คำนี้เป็นคำที่มีความหมายเบากว่าคำว่า キモイ (Kimoi) แต่ก็ไม่ใช่คำที่จะนำไปใช้ได้กับทุกคน ยกเว้นกับคนที่รู้จัก สนิทสนมค่ะ



3. 死ね (Shine)


(
http://blog-imgs-40.fc2.com/)
 
       คำนี้ไม่ได้อ่านว่า “ไชน์” ที่แปลว่า “สว่าง” ในภาษาอังกฤษนะคะ คำนี้อ่านว่า “ชิเนะ” ที่เวลาดูอนิเมะญี่ปุ่นแนวบู๊ล้างผลาญ ที่พระเอกคับแค้นขุ่นเคืองใจตัวร้ายแล้วลากเสียงยาวๆ ว่า “ชิเน่!” นั่นเองค่ะ 
       死ね (Shine) เป็นรูปคำสั่งของคำว่า 死ぬ (shinu) ที่แปลว่า “ตาย” ซึ่งก็หมายถึง “ไปตายซะ” ค่ะ บางคนอาจจะใช้แบบไม่คิดอะไร แต่ใช้บ่อยๆ คนอื่นก็อาจจะรำคาญได้เนอะ



4. くそ (Kuso)


(
http://e-village.main.jp/)

 
       คำนี้เป็นคำสบถค่ะ เวลาที่ดูอนิเมะ ในตอนที่พระเอกจะชนะแล่ไม่ชนะแล่ แล้วสบถออกมาว่า “คุโซะ” ก็จะให้อารมณ์ประมาณ “แม่มเอ๊ย”
       นอกจากเป็นคำสบถแล้ว ก็ยังเป็นคำสแลงที่ให้อารมณ์รุนแรง แบบเวลาเจออากาศร้อนสัก 30 กว่าองศาก็ “ร้อนโฮกๆ เลย”
       จริงๆ แล้วคำว่าくそ(kuso)แปลว่า “อุจจาระ” นะคะ



5. キチガイ (Kichigai)


(http://vvvfhouse.blogspot.com/)
       
       ต้องเคยได้ยินคำว่า “บากะ” กันอยู่แล้วสำหรับคนที่ชื่นชอบอนิเมะญี่ปุ่น คำนี้ก็มีความหมายใกล้เคียงกันค่ะ “คิจิไก” キチガイ (Kichigai) แปลว่า “เสียสติ, บ้า” ก็เหมือนกับ バカ (baka) ที่แปลว่า “บ้า” อย่างที่รู้ๆ กันค่ะ
       แต่เดิมคำว่า キチガイ (Kichigai) เป็นคำที่ใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาทางจิตในช่วงสงครามโลกค่ะ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นคำที่ใช้กันได้อย่างปกติเมื่อมีอินเตอร์เน็ตใช้กันอย่างแพร่หลายค่ะ ถึงอย่างนั้น คำนี้ก็ยังถือเป็นคำที่ให้ความหมายรุนแรงกว่าคำว่า バカ (baka) ค่ะ


       คำเหล่านี้ไม่ใช่ถึงกับว่าใช้พูดไม่ได้ แต่เวลาจะพูดก็ควรนึกถึงกาลเทศะ และคนที่เราคุยด้วยเนอะ หวังว่าน้องๆ จะได้รับประโยชน์จากบทความนี้ถึงที่มาของคำพูดที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ในอนิเมะญี่ปุ่นนะคะ 


ข้อมูลจาก
wasa-bi.com


พี่เฟิร์น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

BeamSensei Member 31 ม.ค. 59 08:49 น. 4

สวัสดีค่ะ 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ

ขอแก้ไขนิดนึงนะคะ

うざい uzai ไม่ได้มาจากคำว่า うるさい  urusai ค่ะ

อาจจะออกเสียงคล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่รากฐานเดียวกันนะคะ

คำว่า うざい เป็นคำย่อมาจากคำว่า うざったい uzattai

ความหมายคล้ายๆกันค่ะ 

หนวกหู น่ารำคาญ รำคาญการจู้จี้จุกจิก ยุ่งยากน่ารำคาญ คนญี่ปุ่นบอกว่าอาจจะ แตกต่างกันตรงที่

うざい uzai จะให้อิมเมจแย่มากกว่า うるさい urusai ในบางที

รวมไปถึง うざい เดิมแล้วเป็นภาษาถิ่น ในขณะที่ うるさい เป็นภาษากลาง

นอกจากนี้คำว่า うざい เริ่มใช้กันมาเมื่อปี 1980 เป็นต้นมา

ซึ่งเป็นรูปย่อของ うざったい uzattai ไม่ใช่  うるさい urusai นะคะ 

คำว่า うざったい เดิมเป็นภาษาถิ่นของผู้คนบริเวณเขตทามะ จังหวัดโตเกียว 
พอวัยรุ่นชอบใช้ ก็ขยายไปเรื่อยๆจนถึงทั่วประเทศ 

ซึ่งรากคำอีกทีของ うざったい หรือ うざい นั้น ว่ากันว่าอาจจะได้รับอิทธิผล มาจากคำในสมัยเอโดะ

จากคำว่า 「うざうざ」 uzauza 「うじゃうじゃ」 ujauja หรือ 「うじょうじょ」ujoujo ค่ะ 

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
บ้าๆ 30 ม.ค. 59 22:35 น. 3-1
ไม่เป็นไรครับคำว่า คิมูจิ มันอ่านว่า คิโมะจิ นะครับไม่ใช่คิมูจิ คิโมะจิแปลว่าความรู้สึกครับ ซึ่งไม่ได้มีความลามกอนาจารย์ครับ อิไต ก็เหมือนกันครับแปลว่าเจ็บหรือปวด ซึ่งใช้เวลาเจ็บปวดครับเช่น ปวดหัวก็ อะตะมะอิไตเดส ไม่ได้มีความหมายลามกเลยครับถ้าเราไม่คิดลึกนะ
0
กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
บ้าๆ 30 ม.ค. 59 22:35 น. 3-1
ไม่เป็นไรครับคำว่า คิมูจิ มันอ่านว่า คิโมะจิ นะครับไม่ใช่คิมูจิ คิโมะจิแปลว่าความรู้สึกครับ ซึ่งไม่ได้มีความลามกอนาจารย์ครับ อิไต ก็เหมือนกันครับแปลว่าเจ็บหรือปวด ซึ่งใช้เวลาเจ็บปวดครับเช่น ปวดหัวก็ อะตะมะอิไตเดส ไม่ได้มีความหมายลามกเลยครับถ้าเราไม่คิดลึกนะ
0
กำลังโหลด
BeamSensei Member 31 ม.ค. 59 08:49 น. 4

สวัสดีค่ะ 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ

ขอแก้ไขนิดนึงนะคะ

うざい uzai ไม่ได้มาจากคำว่า うるさい  urusai ค่ะ

อาจจะออกเสียงคล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่รากฐานเดียวกันนะคะ

คำว่า うざい เป็นคำย่อมาจากคำว่า うざったい uzattai

ความหมายคล้ายๆกันค่ะ 

หนวกหู น่ารำคาญ รำคาญการจู้จี้จุกจิก ยุ่งยากน่ารำคาญ คนญี่ปุ่นบอกว่าอาจจะ แตกต่างกันตรงที่

うざい uzai จะให้อิมเมจแย่มากกว่า うるさい urusai ในบางที

รวมไปถึง うざい เดิมแล้วเป็นภาษาถิ่น ในขณะที่ うるさい เป็นภาษากลาง

นอกจากนี้คำว่า うざい เริ่มใช้กันมาเมื่อปี 1980 เป็นต้นมา

ซึ่งเป็นรูปย่อของ うざったい uzattai ไม่ใช่  うるさい urusai นะคะ 

คำว่า うざったい เดิมเป็นภาษาถิ่นของผู้คนบริเวณเขตทามะ จังหวัดโตเกียว 
พอวัยรุ่นชอบใช้ ก็ขยายไปเรื่อยๆจนถึงทั่วประเทศ 

ซึ่งรากคำอีกทีของ うざったい หรือ うざい นั้น ว่ากันว่าอาจจะได้รับอิทธิผล มาจากคำในสมัยเอโดะ

จากคำว่า 「うざうざ」 uzauza 「うじゃうじゃ」 ujauja หรือ 「うじょうじょ」ujoujo ค่ะ 

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด