อย่าเลียนแบบ!! 5 กลสุดอันตราย ที่ทำนักมายากลชื่อดังตายมาแล้ว

        มายากลก็ถือเป็นอาชีพทางการแสดงอย่างหนึ่งที่ใครจะมาด้านนี้ต้องมีความสร้างสรรค์ ไหวพริบ และที่สำคัญคือความกล้าค่ะ เพราะยิ่งกลอันตรายและดูไม่น่าเป็นไปได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเรียกคนดูได้มากเท่านั้น แต่ชื่อเสียงย่อมแลกมาด้วยชีวิต
        วันนี้
"พี่น้อง" จะพาไปดูมายากลที่ขึ้นชื่อเรื่องทำคนตายมานักต่อนักค่ะ
 

กลกลืนของ

pixabay.com
 
        ชาวเด็กดีหลายคนคงเคยเห็นกลประเภทกลืนดาบ กลืนนั่นกลืนนี่ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักแสดงผาดโผนฝั่งเอเชีย บางคนก็ทำได้จริงค่ะ ถึงขนาดพิสูจน์ด้วยการเอาคุณหมอมาเอ็กซ์เรย์ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่ายัดดาบเข้าไปจริง แต่บางคนก็มีเทคนิคพิเศษ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษ กลนี้ก็อันตรายมากทีเดียว
        คนที่เสียชีวิตจากการเล่นกลแบบนี้คือหมอฟัน วิเวียน เฮนส์ลีย์ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่นักมายากลมืออาชีพค่ะ เป็นเพียงคนที่ชื่นชอบมายากลเท่านั้น ในปี 1938 เขาแสดงกลหย่อนใบมีดเก่าลงคอให้ลูกชายของเขาดูตามปกติ ซึ่งเคล็ดลับของกลนี้คือต้องปล่อยใบมีดให้ไหลเข้าไปในคอเสื้อ โดยอาศัยมุมอับสายตาของคนดู แต่คุณหมอเฮนส์ลีย์กลับเผลอปล่อยใบมีดโกนลงคอตัวเองจริงๆ
        ภรรยานำเขาส่งโรงพยาบาล แต่ด้วยเครื่องมือแพทย์ในยุคนั้น ทำให้คุณหมอช่วยเขาไว้ไม่ได้ เฮนส์ลีย์จึงจบชีวิตลงในอีก 4 วันต่อมาเนื่องจากถูกของมีคมบาดอวัยวะภายใน
 

กลปลดพันธนาการในน้ำ

Warner Bros.
 
        กลนี้ ถ้าใครดู The Prestige คงจำได้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เรื่องราวเกิดขึ้นนั้นมาจากกลปลดพันธนาการในน้ำนี่แหละค่ะ ผู้ช่วยนักมายากลที่เป็นคนรักของตัวเองเข้าไปอยู่ในตู้ที่ใส่น้ำไว้จนเต็มแล้วต้องปลดพันธนาการตัวเองเพื่อออกมาจากตู้ให้ได้ ตามทริคนี้ คนผูกเชือกจะต้องผูกเชือกที่เตี๊ยมกันไว้แล้วว่าเป็นเชือกที่แก้ได้ง่าย แต่ดันผูกเชือกที่แก้ยาก ทำให้ผู้ช่วยนักมายากลคนนี้จมน้ำเสียชีวิต
        ในชีวิตจริง หนึ่งในคนที่เสียชีวิตจากกลนี้ชื่อ รอยเด็น เจเนสต้า เป็นนักมายากลชาวอเมริกันที่กำลังเตรียมการแสดงมายากลหนีจากถังใส่นมที่ใส่น้ำไว้จนเต็ม แต่ระหว่างการซ้อมกลนี้ ถังใบที่เขาใช้ดันเป็นถังที่มีรอยบุบ ทำให้เขาใช้เทคนิคขยับตัวเพื่อหาทางทุบถังน้ำออกมาไม่ได้ เขาจึงจมน้ำตายอยู่ในนั้น
 
youtube.com
 
        ส่วนอีกคนที่ไม่ได้ตายเพราะกลนี้โดยตรง แต่ตายเพราะสถานที่ที่ใช้ซ้อมกลนี้ คือ เจฟ ฮูเปอร์ นักมายากลวัย 23 ปีที่ซ้อมการแสดงกลปลดกุญแจมือใต้ทะเลสาบ หลังจากที่เขาซักซ้อมได้สำเร็จและว่ายขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ด้วยความที่เขาอยู่ห่างจากฝั่งมากและลมแรง ทำให้เขาว่ายกลับเข้าฝั่งไม่ได้ ตะโกนเรียกให้คนมาช่วยก็ไม่ได้ เขาจึงจมน้ำเสียชีวิตเพราะความอ่อนล้า
 

กลหยุดกระสุน

pixabay.com
 
        กลนี้หลายคนคงรู้ทริคแล้วว่าจริงๆ ปืนที่ใช้ในการแสดงไม่ได้มีกระสุนอยู่จริง แต่จัดฉากให้ดูเหมือนมีกระสุนพุ่งออกไปจริงๆ และที่ทำพลาดกันบ่อยๆ ก็ตรงลืมเอากระสุนจริงออกหรือล้างลำกล้องไม่สะอาดนั่นเองค่ะ
        คนที่เสียชีวิตจากกลนี้เป็นภรรยาของนักมายากลชื่อดัง เดลินสกี้ ที่กำลังจัดแสดงมายากลระทึกขวัญต่อหน้าเจ้าชายชวานซ์เบิร์กฯ แห่งเยอรมนี โดยเดลินสกี้ได้เตี๊ยมกับทหารส่วนพระองค์ไว้ว่าให้เอากระสุนออกจากปืนออกให้หมด แล้วแกล้งทำเป็นยิงใส่ภรรยาของเขาซึ่งจะทำท่าเหมือนรับกระสุนได้
        ปัญหาคือมีทหารคนหนึ่งที่ไม่ได้เอากระสุนออก และดันยิงกระสุนจริงใส่มาดามเลดินสกี้เข้าที่ท้องต่อหน้าราชวงศ์กันเลย มาดามเลดินสกี้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

youtube.com
 
        ส่วนอีกคนคือนักมายากลชาวอเมริกัน วิลเลียม โรบินสัน หรือที่รู้จักกันในนาม "ชุง ลิง ซู" ชาวอเมริกันแท้แต่แกล้งทำตัวเป็นคนจีน พูดภาษาจีน เพื่อให้คนดูตื่นตาขึ้น
        ชุง ลิง ซู ขึ้นชื่อเรื่องคงบุคลิกคนจีนของตัวเองไว้มาก ไม่เคยหลุดพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าคนดูเลย จนกระทั่งวันที่เกิดอุบัติเหตุ กลหยุดกระสุนของเขาพลาดเนื่องจากปืนที่ใช้ในการแสดงลำกล้องมีดินปืนค้างอยู่ ทำให้เขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นครั้งแรกที่เขาพูดภาษาอังกฤษออกมาเพื่อขอให้หยุดการแสดง
        ชุง ลิง ซูเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา แต่ตำนานของเขายังหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ในหนัง The Prestige ก็มีพูดถึงนักมายากลชาวอเมริกันที่แกล้งทำเป็นคนจีนคนนี้
 

กลปลดพันธนาการเพื่อหลบวัตถุอันตราย


lolwot.com
 
        ไม่ใช่แค่ปลดพันธนาการในน้ำที่เป็นที่นิยม กลปลดพันธนาการประเภท มัดตัวเองไว้กับเสา แล้วหนีให้ได้ก่อนที่วัตถุอันตรายจะพุ่งเข้ามาก็เป็นกลที่เสี่ยงตายไม่แพ้กัน
        ชาร์ลส์ โรเวน หรือ คาร์ เดอะ เมจิกเชียน นักมายากลชาวแอฟริกาใต้ที่เชี่ยวชาญกลปลดพันธนาการและชอบเปิดการแสดงกลทำนองนี้ก็เสียชีวิตจากกลของเขาเอง
        ในปี 1930 คาร์จัดแสดงกลหลบหนีในบ้านเกิดตัวเองที่แอฟริกาใต้ โดยใส่เสื้อมัดคนบ้า (เสื้อที่รัดแขนให้กอดตัวเองอยู่ตลอดเวลา) แล้วปล่อยให้รถพุ่งเข้ามาชนที่ความเร็ว 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เขาต้องหนีออกจากเสื้อให้ได้ภายในเวลา 10-15 วินาที
        แต่โชคร้ายคือเขาหนีไม่ทันและถูกรถชนเข้าที่ขาอย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส เป็นบุญของคนขับรถที่คาร์ยังมีลมหายใจนานพอจะเป็นพยานยืนยันว่าเขาเต็มใจให้รถชนเอง คนขับรถจึงไม่โดนความผิดใดๆ
 

กลฝังทั้งเป็น

        ในบรรดากลทั้งหมด พี่น้องว่ากลนี้น่ากลัวที่สุดแล้ว นักมายากลหลายต่อหลายคนต้องอยากลองเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง กลฝังทั้งเป็นมักมีสไตล์คล้ายๆ กันคือ นักมายากลจะเข้าไปอยู่ในโลงปิดสนิท แล้วฝังโลงลงดิน ก่อนจะขุดขึ้นในสามวัน เจ็ดวัน ว่าไปตามกัน
        แม้แต่นักมายากลระดับโลกอย่างแฮร์รี่ ฮูดินี่ก็เคยพยายามเล่นกลนี้แต่ไม่สำเร็จ เขาให้ผู้ช่วยขุดหลุมฝังเขาในดินลึก 6 ฟุต ความกลัวทำให้เขารีบตะกายขึ้นมาจากดินและหมดสติไปจนผู้ช่วยต้องรีบดึงเขาขึ้นมา

documentingreality.com
 
        แต่มีนักมายากลที่อยากตามรอยฮูดินี่ อยากทำในสิ่งที่ฮูดินี่ทำไม่ได้ นั่นคือ อเมซิ่ง โจ หรือ โจเซฟ เบอร์รัส เขาเคยเล่นกลฝังตัวเองทั้งเป็นและประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่กลสุดท้ายที่เขาได้เล่นเป็นกลที่เขาจัดแสดงในคืนวันฮาโลวีน ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ฮูดินี่เสียชีวิต นักข่าว ญาติพี่น้องและคนดูมากมายมาดูการแสดงอันยิ่งใหญ่ของเขา
        อเมซิ่ง โจจัดการขังตัวเองในโลงแก้ว (ที่ดูบอบบางมากๆ พี่น้องว่าน่าจะเป็นพลาสติกมากกว่าแก้วนะ) และให้ผู้ช่วยจัดการเอาดินและปูนซีเมนต์ (ขีดเส้นใต้ซีเมนต์สองเส้น) เทกลบหลุมลงไป กะว่าปูนจะได้แห้ง ตะเกียกตะกายขึ้นมาแบบฮูดินี่ไม่ได้แน่
        แต่ยังไม่ทันที่ปูนจะแห้งสนิทดี คนดูและผู้ชมทางการบ้านก็เห็นชัดเต็มสองลูกตาว่าอยู่ดีๆ หลุมที่เทปูนกลับยุบฮวบลงไป
        เนื่องจากปูนที่เทลงไปนั้นมีน้ำหนักเท่ากับช้างแอฟริกันตัวผู้หนึ่งตัว บวกกับโลงใสที่ดูบอบบางมากๆ ทำให้อเมซิ่ง โจเสียชีวิตจากการถูกปูนกดทับทันที (อุปมาว่าโดนช้างเหยียบตาย)
        ที่น่าตะลึงคือการแสดงมายากลนี้ดันถ่ายทอดไปทั่วประเทศ กลายเป็นข่าวใหญ่ สร้างความสะเทือนใจและในขณะเดียวกันก็ทำให้อเมซิ่ง โจกลายเป็นนักมายากลในตำนานตามรอยฮูดินี่ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ไปในคืนเดียวกัน
        ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ กลฝังทั้งเป็นนี้ดังมากจนเด็กวัยรุ่นชาวศรีลังกา จานากา บาสนายาเก อยากทำลายสถิติโดยการให้ครอบครัวฝังเขาทั้งเป็นในหลุมลึก 3 เมตรเป็นเวลา 7 วัน
        ฝังทั้งอย่างนั้นน่ะค่ะ ไม่มีทีมแพทย์ ไม่มีเทคนิค ไม่มีกลใดๆ ทดสอบความอึดล้วนๆ
        แล้วไม่รู้ว่าคนฝังนี่คิดอะไรอยู่ ไม่คิดจะมาเช็ก ไม่เป็นห่วง ไม่อะไร กลับปล่อยไว้ 7 วันให้บาสนายาเกนอนสมใจ พอขุดกลับขึ้นมาอีกที เด็กหนุ่มก็กลายเป็นศพ เสียชีวิตไปนานแล้ว
 
        ด้วยความที่คนดูชอบอะไรที่ท้าทายความตาย ยิ่งเสี่ยงตายมากเท่าไรยิ่งน่าตื่นเต้นมากเท่านั้น ทำให้นักมายากลที่อยากมีชื่อเสียง อยากมีรายได้ก็ต้องพยายามคิดกลเสี่ยงตายมาเป็นโชว์ใหม่ๆ อยู่ตลอด จึงไม่แปลกที่จะมีคนเสียชีวิตจากการทดลอง ซ้อม หรือแสดงมายากลจริงมานักต่อนัก
        สำหรับพี่น้องขอแค่กลประเภทเสกของ ปล่อยนกปล่อยปลา สะกดจิต ทายใจ แค่นี้ก็บันเทิงแล้ว ไม่ต้องพิสดารมากก็ได้ค่ะ ^^"

ขอบคุณข้อมูลจาก
listverse.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก
 
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Nutty4U ^^ Member 20 ก.ค. 59 03:16 น. 3
กลฝังทั้งเป็น ต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้าช่วยครับ หลัก ๆ เลยแพลนแผนเรื่องกาศหายใจไว้ก่อนเลย เพราะการเข้าไปในที่อุดอู้แบบนั้น ถ้าไม่รู้จักวิธีที่เซฟออกซิเจนไว้ใช้หายใจ เก่งแค่ไหนก็ไม่รอดครับ รองลงมาก็เป็นเรื่องความกดทับต่าง ๆ นานา เรื่องพื้นผิว จนไปจบที่การเอาตัวรอดครับ จะว่าไป ไม่มีกลกางเขนเพลิงแฮะ ที่ว่าตรึงร่างแล้วจุดไฟเผาแล้วเอาตัวรอด อันนั้นก็อันตรายเหมือนกัน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

17 ความคิดเห็น

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
Nutty4U ^^ Member 20 ก.ค. 59 03:16 น. 3
กลฝังทั้งเป็น ต้องใช้วิทยาศาสตร์เข้าช่วยครับ หลัก ๆ เลยแพลนแผนเรื่องกาศหายใจไว้ก่อนเลย เพราะการเข้าไปในที่อุดอู้แบบนั้น ถ้าไม่รู้จักวิธีที่เซฟออกซิเจนไว้ใช้หายใจ เก่งแค่ไหนก็ไม่รอดครับ รองลงมาก็เป็นเรื่องความกดทับต่าง ๆ นานา เรื่องพื้นผิว จนไปจบที่การเอาตัวรอดครับ จะว่าไป ไม่มีกลกางเขนเพลิงแฮะ ที่ว่าตรึงร่างแล้วจุดไฟเผาแล้วเอาตัวรอด อันนั้นก็อันตรายเหมือนกัน
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Felinonajang Member 23 ก.ค. 59 03:20 น. 6

กลฝั่งทั้งเป็นนี่เป็นตัวตายตัวแทนหรือป่าวนะ

เพราะตายวันเดียวกันเลย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดไรแต่พอบอกตายวันเดียวกัน มันวูบคิดขึ้นมาเลยไม่รู้คนอืนจะว่าเรางมงายหรือป่าวน้า แต่มันแบบแอบคิดจริงๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด