มายากลก็ถือเป็นอาชีพทางการแสดงอย่างหนึ่งที่ใครจะมาด้านนี้ต้องมีความสร้างสรรค์ ไหวพริบ และที่สำคัญคือความกล้าค่ะ เพราะยิ่งกลอันตรายและดูไม่น่าเป็นไปได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเรียกคนดูได้มากเท่านั้น แต่ชื่อเสียงย่อมแลกมาด้วยชีวิต
วันนี้ "พี่น้อง" จะพาไปดูมายากลที่ขึ้นชื่อเรื่องทำคนตายมานักต่อนักค่ะ
วันนี้ "พี่น้อง" จะพาไปดูมายากลที่ขึ้นชื่อเรื่องทำคนตายมานักต่อนักค่ะ
กลกลืนของ
pixabay.com
ชาวเด็กดีหลายคนคงเคยเห็นกลประเภทกลืนดาบ กลืนนั่นกลืนนี่ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักแสดงผาดโผนฝั่งเอเชีย บางคนก็ทำได้จริงค่ะ ถึงขนาดพิสูจน์ด้วยการเอาคุณหมอมาเอ็กซ์เรย์ให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่ายัดดาบเข้าไปจริง แต่บางคนก็มีเทคนิคพิเศษ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษ กลนี้ก็อันตรายมากทีเดียว
คนที่เสียชีวิตจากการเล่นกลแบบนี้คือหมอฟัน วิเวียน เฮนส์ลีย์ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่นักมายากลมืออาชีพค่ะ เป็นเพียงคนที่ชื่นชอบมายากลเท่านั้น ในปี 1938 เขาแสดงกลหย่อนใบมีดเก่าลงคอให้ลูกชายของเขาดูตามปกติ ซึ่งเคล็ดลับของกลนี้คือต้องปล่อยใบมีดให้ไหลเข้าไปในคอเสื้อ โดยอาศัยมุมอับสายตาของคนดู แต่คุณหมอเฮนส์ลีย์กลับเผลอปล่อยใบมีดโกนลงคอตัวเองจริงๆ
ภรรยานำเขาส่งโรงพยาบาล แต่ด้วยเครื่องมือแพทย์ในยุคนั้น ทำให้คุณหมอช่วยเขาไว้ไม่ได้ เฮนส์ลีย์จึงจบชีวิตลงในอีก 4 วันต่อมาเนื่องจากถูกของมีคมบาดอวัยวะภายใน
คนที่เสียชีวิตจากการเล่นกลแบบนี้คือหมอฟัน วิเวียน เฮนส์ลีย์ ซึ่งจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่นักมายากลมืออาชีพค่ะ เป็นเพียงคนที่ชื่นชอบมายากลเท่านั้น ในปี 1938 เขาแสดงกลหย่อนใบมีดเก่าลงคอให้ลูกชายของเขาดูตามปกติ ซึ่งเคล็ดลับของกลนี้คือต้องปล่อยใบมีดให้ไหลเข้าไปในคอเสื้อ โดยอาศัยมุมอับสายตาของคนดู แต่คุณหมอเฮนส์ลีย์กลับเผลอปล่อยใบมีดโกนลงคอตัวเองจริงๆ
ภรรยานำเขาส่งโรงพยาบาล แต่ด้วยเครื่องมือแพทย์ในยุคนั้น ทำให้คุณหมอช่วยเขาไว้ไม่ได้ เฮนส์ลีย์จึงจบชีวิตลงในอีก 4 วันต่อมาเนื่องจากถูกของมีคมบาดอวัยวะภายใน
กลปลดพันธนาการในน้ำ
Warner Bros.
กลนี้ ถ้าใครดู The Prestige คงจำได้ว่าต้นเหตุที่ทำให้เรื่องราวเกิดขึ้นนั้นมาจากกลปลดพันธนาการในน้ำนี่แหละค่ะ ผู้ช่วยนักมายากลที่เป็นคนรักของตัวเองเข้าไปอยู่ในตู้ที่ใส่น้ำไว้จนเต็มแล้วต้องปลดพันธนาการตัวเองเพื่อออกมาจากตู้ให้ได้ ตามทริคนี้ คนผูกเชือกจะต้องผูกเชือกที่เตี๊ยมกันไว้แล้วว่าเป็นเชือกที่แก้ได้ง่าย แต่ดันผูกเชือกที่แก้ยาก ทำให้ผู้ช่วยนักมายากลคนนี้จมน้ำเสียชีวิต
ในชีวิตจริง หนึ่งในคนที่เสียชีวิตจากกลนี้ชื่อ รอยเด็น เจเนสต้า เป็นนักมายากลชาวอเมริกันที่กำลังเตรียมการแสดงมายากลหนีจากถังใส่นมที่ใส่น้ำไว้จนเต็ม แต่ระหว่างการซ้อมกลนี้ ถังใบที่เขาใช้ดันเป็นถังที่มีรอยบุบ ทำให้เขาใช้เทคนิคขยับตัวเพื่อหาทางทุบถังน้ำออกมาไม่ได้ เขาจึงจมน้ำตายอยู่ในนั้น
youtube.com
ส่วนอีกคนที่ไม่ได้ตายเพราะกลนี้โดยตรง แต่ตายเพราะสถานที่ที่ใช้ซ้อมกลนี้ คือ เจฟ ฮูเปอร์ นักมายากลวัย 23 ปีที่ซ้อมการแสดงกลปลดกุญแจมือใต้ทะเลสาบ หลังจากที่เขาซักซ้อมได้สำเร็จและว่ายขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ด้วยความที่เขาอยู่ห่างจากฝั่งมากและลมแรง ทำให้เขาว่ายกลับเข้าฝั่งไม่ได้ ตะโกนเรียกให้คนมาช่วยก็ไม่ได้ เขาจึงจมน้ำเสียชีวิตเพราะความอ่อนล้า
กลหยุดกระสุน
pixabay.com
กลนี้หลายคนคงรู้ทริคแล้วว่าจริงๆ ปืนที่ใช้ในการแสดงไม่ได้มีกระสุนอยู่จริง แต่จัดฉากให้ดูเหมือนมีกระสุนพุ่งออกไปจริงๆ และที่ทำพลาดกันบ่อยๆ ก็ตรงลืมเอากระสุนจริงออกหรือล้างลำกล้องไม่สะอาดนั่นเองค่ะ
คนที่เสียชีวิตจากกลนี้เป็นภรรยาของนักมายากลชื่อดัง เดลินสกี้ ที่กำลังจัดแสดงมายากลระทึกขวัญต่อหน้าเจ้าชายชวานซ์เบิร์กฯ แห่งเยอรมนี โดยเดลินสกี้ได้เตี๊ยมกับทหารส่วนพระองค์ไว้ว่าให้เอากระสุนออกจากปืนออกให้หมด แล้วแกล้งทำเป็นยิงใส่ภรรยาของเขาซึ่งจะทำท่าเหมือนรับกระสุนได้
ปัญหาคือมีทหารคนหนึ่งที่ไม่ได้เอากระสุนออก และดันยิงกระสุนจริงใส่มาดามเลดินสกี้เข้าที่ท้องต่อหน้าราชวงศ์กันเลย มาดามเลดินสกี้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
คนที่เสียชีวิตจากกลนี้เป็นภรรยาของนักมายากลชื่อดัง เดลินสกี้ ที่กำลังจัดแสดงมายากลระทึกขวัญต่อหน้าเจ้าชายชวานซ์เบิร์กฯ แห่งเยอรมนี โดยเดลินสกี้ได้เตี๊ยมกับทหารส่วนพระองค์ไว้ว่าให้เอากระสุนออกจากปืนออกให้หมด แล้วแกล้งทำเป็นยิงใส่ภรรยาของเขาซึ่งจะทำท่าเหมือนรับกระสุนได้
ปัญหาคือมีทหารคนหนึ่งที่ไม่ได้เอากระสุนออก และดันยิงกระสุนจริงใส่มาดามเลดินสกี้เข้าที่ท้องต่อหน้าราชวงศ์กันเลย มาดามเลดินสกี้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
youtube.com
ส่วนอีกคนคือนักมายากลชาวอเมริกัน วิลเลียม โรบินสัน หรือที่รู้จักกันในนาม "ชุง ลิง ซู" ชาวอเมริกันแท้แต่แกล้งทำตัวเป็นคนจีน พูดภาษาจีน เพื่อให้คนดูตื่นตาขึ้น
ชุง ลิง ซู ขึ้นชื่อเรื่องคงบุคลิกคนจีนของตัวเองไว้มาก ไม่เคยหลุดพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าคนดูเลย จนกระทั่งวันที่เกิดอุบัติเหตุ กลหยุดกระสุนของเขาพลาดเนื่องจากปืนที่ใช้ในการแสดงลำกล้องมีดินปืนค้างอยู่ ทำให้เขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นครั้งแรกที่เขาพูดภาษาอังกฤษออกมาเพื่อขอให้หยุดการแสดง
ชุง ลิง ซูเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา แต่ตำนานของเขายังหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ในหนัง The Prestige ก็มีพูดถึงนักมายากลชาวอเมริกันที่แกล้งทำเป็นคนจีนคนนี้
ชุง ลิง ซู ขึ้นชื่อเรื่องคงบุคลิกคนจีนของตัวเองไว้มาก ไม่เคยหลุดพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าคนดูเลย จนกระทั่งวันที่เกิดอุบัติเหตุ กลหยุดกระสุนของเขาพลาดเนื่องจากปืนที่ใช้ในการแสดงลำกล้องมีดินปืนค้างอยู่ ทำให้เขาถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นครั้งแรกที่เขาพูดภาษาอังกฤษออกมาเพื่อขอให้หยุดการแสดง
ชุง ลิง ซูเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา แต่ตำนานของเขายังหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ในหนัง The Prestige ก็มีพูดถึงนักมายากลชาวอเมริกันที่แกล้งทำเป็นคนจีนคนนี้
กลปลดพันธนาการเพื่อหลบวัตถุอันตราย
ไม่ใช่แค่ปลดพันธนาการในน้ำที่เป็นที่นิยม กลปลดพันธนาการประเภท มัดตัวเองไว้กับเสา แล้วหนีให้ได้ก่อนที่วัตถุอันตรายจะพุ่งเข้ามาก็เป็นกลที่เสี่ยงตายไม่แพ้กัน
ชาร์ลส์ โรเวน หรือ คาร์ เดอะ เมจิกเชียน นักมายากลชาวแอฟริกาใต้ที่เชี่ยวชาญกลปลดพันธนาการและชอบเปิดการแสดงกลทำนองนี้ก็เสียชีวิตจากกลของเขาเอง
ในปี 1930 คาร์จัดแสดงกลหลบหนีในบ้านเกิดตัวเองที่แอฟริกาใต้ โดยใส่เสื้อมัดคนบ้า (เสื้อที่รัดแขนให้กอดตัวเองอยู่ตลอดเวลา) แล้วปล่อยให้รถพุ่งเข้ามาชนที่ความเร็ว 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เขาต้องหนีออกจากเสื้อให้ได้ภายในเวลา 10-15 วินาที
แต่โชคร้ายคือเขาหนีไม่ทันและถูกรถชนเข้าที่ขาอย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส เป็นบุญของคนขับรถที่คาร์ยังมีลมหายใจนานพอจะเป็นพยานยืนยันว่าเขาเต็มใจให้รถชนเอง คนขับรถจึงไม่โดนความผิดใดๆ
ชาร์ลส์ โรเวน หรือ คาร์ เดอะ เมจิกเชียน นักมายากลชาวแอฟริกาใต้ที่เชี่ยวชาญกลปลดพันธนาการและชอบเปิดการแสดงกลทำนองนี้ก็เสียชีวิตจากกลของเขาเอง
ในปี 1930 คาร์จัดแสดงกลหลบหนีในบ้านเกิดตัวเองที่แอฟริกาใต้ โดยใส่เสื้อมัดคนบ้า (เสื้อที่รัดแขนให้กอดตัวเองอยู่ตลอดเวลา) แล้วปล่อยให้รถพุ่งเข้ามาชนที่ความเร็ว 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เขาต้องหนีออกจากเสื้อให้ได้ภายในเวลา 10-15 วินาที
แต่โชคร้ายคือเขาหนีไม่ทันและถูกรถชนเข้าที่ขาอย่างจังจนบาดเจ็บสาหัส เป็นบุญของคนขับรถที่คาร์ยังมีลมหายใจนานพอจะเป็นพยานยืนยันว่าเขาเต็มใจให้รถชนเอง คนขับรถจึงไม่โดนความผิดใดๆ
กลฝังทั้งเป็น
ในบรรดากลทั้งหมด พี่น้องว่ากลนี้น่ากลัวที่สุดแล้ว นักมายากลหลายต่อหลายคนต้องอยากลองเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง กลฝังทั้งเป็นมักมีสไตล์คล้ายๆ กันคือ นักมายากลจะเข้าไปอยู่ในโลงปิดสนิท แล้วฝังโลงลงดิน ก่อนจะขุดขึ้นในสามวัน เจ็ดวัน ว่าไปตามกัน
แม้แต่นักมายากลระดับโลกอย่างแฮร์รี่ ฮูดินี่ก็เคยพยายามเล่นกลนี้แต่ไม่สำเร็จ เขาให้ผู้ช่วยขุดหลุมฝังเขาในดินลึก 6 ฟุต ความกลัวทำให้เขารีบตะกายขึ้นมาจากดินและหมดสติไปจนผู้ช่วยต้องรีบดึงเขาขึ้นมา
แม้แต่นักมายากลระดับโลกอย่างแฮร์รี่ ฮูดินี่ก็เคยพยายามเล่นกลนี้แต่ไม่สำเร็จ เขาให้ผู้ช่วยขุดหลุมฝังเขาในดินลึก 6 ฟุต ความกลัวทำให้เขารีบตะกายขึ้นมาจากดินและหมดสติไปจนผู้ช่วยต้องรีบดึงเขาขึ้นมา
แต่มีนักมายากลที่อยากตามรอยฮูดินี่ อยากทำในสิ่งที่ฮูดินี่ทำไม่ได้ นั่นคือ อเมซิ่ง โจ หรือ โจเซฟ เบอร์รัส เขาเคยเล่นกลฝังตัวเองทั้งเป็นและประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่กลสุดท้ายที่เขาได้เล่นเป็นกลที่เขาจัดแสดงในคืนวันฮาโลวีน ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ฮูดินี่เสียชีวิต นักข่าว ญาติพี่น้องและคนดูมากมายมาดูการแสดงอันยิ่งใหญ่ของเขา
อเมซิ่ง โจจัดการขังตัวเองในโลงแก้ว (ที่ดูบอบบางมากๆ พี่น้องว่าน่าจะเป็นพลาสติกมากกว่าแก้วนะ) และให้ผู้ช่วยจัดการเอาดินและปูนซีเมนต์ (ขีดเส้นใต้ซีเมนต์สองเส้น) เทกลบหลุมลงไป กะว่าปูนจะได้แห้ง ตะเกียกตะกายขึ้นมาแบบฮูดินี่ไม่ได้แน่
แต่ยังไม่ทันที่ปูนจะแห้งสนิทดี คนดูและผู้ชมทางการบ้านก็เห็นชัดเต็มสองลูกตาว่าอยู่ดีๆ หลุมที่เทปูนกลับยุบฮวบลงไป
เนื่องจากปูนที่เทลงไปนั้นมีน้ำหนักเท่ากับช้างแอฟริกันตัวผู้หนึ่งตัว บวกกับโลงใสที่ดูบอบบางมากๆ ทำให้อเมซิ่ง โจเสียชีวิตจากการถูกปูนกดทับทันที (อุปมาว่าโดนช้างเหยียบตาย)
ที่น่าตะลึงคือการแสดงมายากลนี้ดันถ่ายทอดไปทั่วประเทศ กลายเป็นข่าวใหญ่ สร้างความสะเทือนใจและในขณะเดียวกันก็ทำให้อเมซิ่ง โจกลายเป็นนักมายากลในตำนานตามรอยฮูดินี่ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ไปในคืนเดียวกัน
ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ กลฝังทั้งเป็นนี้ดังมากจนเด็กวัยรุ่นชาวศรีลังกา จานากา บาสนายาเก อยากทำลายสถิติโดยการให้ครอบครัวฝังเขาทั้งเป็นในหลุมลึก 3 เมตรเป็นเวลา 7 วัน
ฝังทั้งอย่างนั้นน่ะค่ะ ไม่มีทีมแพทย์ ไม่มีเทคนิค ไม่มีกลใดๆ ทดสอบความอึดล้วนๆ
แล้วไม่รู้ว่าคนฝังนี่คิดอะไรอยู่ ไม่คิดจะมาเช็ก ไม่เป็นห่วง ไม่อะไร กลับปล่อยไว้ 7 วันให้บาสนายาเกนอนสมใจ พอขุดกลับขึ้นมาอีกที เด็กหนุ่มก็กลายเป็นศพ เสียชีวิตไปนานแล้ว
อเมซิ่ง โจจัดการขังตัวเองในโลงแก้ว (ที่ดูบอบบางมากๆ พี่น้องว่าน่าจะเป็นพลาสติกมากกว่าแก้วนะ) และให้ผู้ช่วยจัดการเอาดินและปูนซีเมนต์ (ขีดเส้นใต้ซีเมนต์สองเส้น) เทกลบหลุมลงไป กะว่าปูนจะได้แห้ง ตะเกียกตะกายขึ้นมาแบบฮูดินี่ไม่ได้แน่
แต่ยังไม่ทันที่ปูนจะแห้งสนิทดี คนดูและผู้ชมทางการบ้านก็เห็นชัดเต็มสองลูกตาว่าอยู่ดีๆ หลุมที่เทปูนกลับยุบฮวบลงไป
เนื่องจากปูนที่เทลงไปนั้นมีน้ำหนักเท่ากับช้างแอฟริกันตัวผู้หนึ่งตัว บวกกับโลงใสที่ดูบอบบางมากๆ ทำให้อเมซิ่ง โจเสียชีวิตจากการถูกปูนกดทับทันที (อุปมาว่าโดนช้างเหยียบตาย)
ที่น่าตะลึงคือการแสดงมายากลนี้ดันถ่ายทอดไปทั่วประเทศ กลายเป็นข่าวใหญ่ สร้างความสะเทือนใจและในขณะเดียวกันก็ทำให้อเมซิ่ง โจกลายเป็นนักมายากลในตำนานตามรอยฮูดินี่ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ไปในคืนเดียวกัน
ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ กลฝังทั้งเป็นนี้ดังมากจนเด็กวัยรุ่นชาวศรีลังกา จานากา บาสนายาเก อยากทำลายสถิติโดยการให้ครอบครัวฝังเขาทั้งเป็นในหลุมลึก 3 เมตรเป็นเวลา 7 วัน
ฝังทั้งอย่างนั้นน่ะค่ะ ไม่มีทีมแพทย์ ไม่มีเทคนิค ไม่มีกลใดๆ ทดสอบความอึดล้วนๆ
แล้วไม่รู้ว่าคนฝังนี่คิดอะไรอยู่ ไม่คิดจะมาเช็ก ไม่เป็นห่วง ไม่อะไร กลับปล่อยไว้ 7 วันให้บาสนายาเกนอนสมใจ พอขุดกลับขึ้นมาอีกที เด็กหนุ่มก็กลายเป็นศพ เสียชีวิตไปนานแล้ว
ด้วยความที่คนดูชอบอะไรที่ท้าทายความตาย ยิ่งเสี่ยงตายมากเท่าไรยิ่งน่าตื่นเต้นมากเท่านั้น ทำให้นักมายากลที่อยากมีชื่อเสียง อยากมีรายได้ก็ต้องพยายามคิดกลเสี่ยงตายมาเป็นโชว์ใหม่ๆ อยู่ตลอด จึงไม่แปลกที่จะมีคนเสียชีวิตจากการทดลอง ซ้อม หรือแสดงมายากลจริงมานักต่อนัก
สำหรับพี่น้องขอแค่กลประเภทเสกของ ปล่อยนกปล่อยปลา สะกดจิต ทายใจ แค่นี้ก็บันเทิงแล้ว ไม่ต้องพิสดารมากก็ได้ค่ะ ^^"
สำหรับพี่น้องขอแค่กลประเภทเสกของ ปล่อยนกปล่อยปลา สะกดจิต ทายใจ แค่นี้ก็บันเทิงแล้ว ไม่ต้องพิสดารมากก็ได้ค่ะ ^^"
17 ความคิดเห็น
แต่ละอัน อือหือ โหดมาก 5555
อ่านเเล้ว อย่าลืมไปฟังมั่งนะ เป็นเเบบมหากาพย์เลย55555 สนุกกชัวว
กลฝั่งทั้งเป็นนี่เป็นตัวตายตัวแทนหรือป่าวนะ
เพราะตายวันเดียวกันเลย ตอนแรกก็ไม่ได้คิดไรแต่พอบอกตายวันเดียวกัน มันวูบคิดขึ้นมาเลยไม่รู้คนอืนจะว่าเรางมงายหรือป่าวน้า แต่มันแบบแอบคิดจริงๆ
ช่างไม่กลัวอะไรกันเลย
น่ากลัวอ่ะ#แอบคิดชาติหน้ากูขอให้เกิดเป็นคนธรรมดาไม่เอานักมายากล