สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... กระแสหนังที่มาแรงมากๆ ในเดือนสิงหาคม 2016 คงต้องยกให้ Train to Busan จริงๆ พี่เป้ ไปดูมาแล้วและก็ชอบมากจริงๆ เป็นหนังที่สอนใจอะไรได้หลายอย่าง โดยเฉพาะการเอาตัวรอดของมนุษย์ในวิกฤตคับขัน
ดูแล้วก็ชอบหลายๆ ประโยคที่ตัวละครพูดกันในหนัง เลยขอนำมาฝากค่ะ มีสปอยล์เล็กๆ ใครยังไม่ได้ดู ระวังด้วยจ้า!
เป็นประโยคที่พี่ชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ น่าจะพีคสุดเลย คนที่พูดประโยคนี้คือซูอัน(ลูกพระเอก) พูดตอนถึงสถานีเมืองแทจอนแล้วพ่อจะพาตัวเองไปอีกทาง ประโยคนี้ในหนังแปลว่า "พ่อคิดถึงแต่ตัวเอง" แต่หากแปลตรงตัวเด๊ะๆ จะแปลประมาณว่า "พ่อไม่รู้จักใครนอกจากตัวเอง" ลองแยกเป็นคำๆ บ้าง
아빠 (อา-ปา) พ่อ
자기 (ชา-กี) ตัวเอง
밖에 (พา-เก) ข้างนอก, นอกจาก
몰라 (มล-ลา) ไม่รู้
นอกจากนี้ หากจะพูดว่า "เธอนึกถึงแต่ตัวเอง" ในภาษาเกาหลีสามารถพูดได้หลายแบบค่ะ เช่น
너 자신만을 생각해요. (นอ ชา-ซิน-มา-นึล แซง-กา-แค-โย) เธอคิดถึงแต่ตัวเอง
너 다른 사람을 생각하지 않아요. (นอ ทา-รึน-ซา-รา-มึล แซง-กา-คา-จี อา-นา-โย) เธอไม่คิดถึงคนอื่น
이럴 땐 자기만 생각하면 되는 거야!
(อี-รอล แต ชา-กี-มัน แซง-กา-คา-มยอน ทเว-นึน-กอ-ย่า)
เป็นประโยคที่พระเอกพูดกับลูกสาวตอนที่ซอมบี้เริ่มอาละวาดบนรถไฟ 이럴 땐 자기만 생각하면 되는 거야! แปลว่า ตอนแบบนี้ คิดถึงแต่ตัวเองก็ได้! (เพื่อให้ลูกรีบหนี อย่ามัวห่วงคนอื่น) ลองถอดเป็นคำๆ กันค่ะ
이럴 때 (อี-รอล แต) ตอนแบบนี้
자기 (ชา-กี) ตัวเอง
만 (มัน) แค่
생각하면 (แซง-กา-คา-มยอน) ถ้าคิดถึง...
되는 거야 (ทเว-นึน-กอ-ย่า) ก็ได้
เป็นอีกประโยคที่พีคมากๆ ใครจะไปคิดล่ะว่า ตัวนำของเรื่องกลับเป็นคนที่เห็นแก่ตัวซะอย่างนั้น แต่ก็ถือว่าสะท้อนแง่มุมของมนุษย์ตอนกำลังเข้าตาจนได้ดีมากๆ เลยค่ะ
저 사람들보다 너랑 있는 게 더 안전해.
(ชอ ซา-รัม-ทึล-โพ-ดา นอ-รัง อิน-นึน เก ทอ อัน-ชอ-แน)
คนที่พูดประโยคนี้คือจินฮี(สาวเชียร์ลีดเดอร์) ตอนที่ยืนยันจะอยู่กับยองกุก(เพื่อนชายนักเบสบอล)ที่เพิ่งหนีซอมบี้มาได้ แทนที่จะอยู่ในโบกี้ที่ปลอดภัยกว่า(แต่มีแต่คนเห็นแก่ตัว) มีความหมายว่า อยู่กับเธอนั้นปลอดภัยกว่าอยู่กับพวกคนเหล่านั้น
저 (ชอ) นั้น
사람들 (ซา-รัม-ดึล) คนจำนวนมาก
보다 (โพ-ดา) มากกว่า
너랑 (นอ-รัง) กับเธอ
있는게 (อิน-นึน-เก) การอยู่
더 (ทอ) มากกว่า
안전해 (อัน-ชอ-แน) ปลอดภัย
안전해 (อัน-ชอ-แน) ปลอดภัย
나중에 공부하지 않으면 저 아저씨처럼 된다.
(นา-จุง-เง คง-บู-ฮา-จี อา-นือ-มยอน ชอ อา-จอ-ชี-ชอ-รอม ทเวน-ตา)
คนที่พูดประโยคนี้คือตัวละครที่น่าจะมีคนเกลียดมากที่สุดและเห็นแก่ตัวที่สุดในเรื่อง นั่นก็คือตาลุงที่เป็นหัวหน้าบริษัทรถทัวร์ขนส่ง ประโยคนี้ตาลุงพูดกับซูอัน ตอนที่ซูอันเปิดประตูห้องน้ำมาแล้วเจอผู้ชายไร้บ้านที่เนื้อตัวมอมแมมที่แอบขึ้นรถมา ตาลุงเลยบอกซูอันว่า "ถ้าไม่เรียนหนังสือ ต่อไปจะกลายเป็นแบบลุงนั้นนะ"
나중에 (นา-จุง-เง) ครั้งหน้า, ต่อไป
공부하지 않으면 (คง-บู-ฮา-จี อา-นือ-มยอน) ถ้าไม่เรียนหนังสือ
저 어저씨 (ชอ อา-จอ-ชี) ลุงนั้น
처럼 (ช่อ-รอม) เหมือน, ราวกับ
된다 (ทเวน-ตา) กลายเป็น
저 어저씨 (ชอ อา-จอ-ชี) ลุงนั้น
처럼 (ช่อ-รอม) เหมือน, ราวกับ
된다 (ทเวน-ตา) กลายเป็น
ไวยากรณ์ที่น่าสนใจคือ 처럼 (ช่อ-รอม) เหมือน, ราวกับ สามารถนำมาใช้กับการเปรียบเทียบได้ค่ะ เช่น
인형처럼 귀여워요. (อิน-ฮยอง-ช่อ-รอม ควี-ยอ-วอ-โย) น่ารักเหมือนตุ๊กตา
배우처럼 예뻐요. (แพ-อู-ช่อ-รอม เย-ปอ-โย) สวยเหมือนดารา
너무 이타적인 성격으로 인해 살지 못한, 끝까지 희생적이었던 인물
(นอ-มู อา-ท่า-ชอ-กิน ซอง-กยอ-กือ-โร อี-แน ซัล-จี โม-ทัน
คึด-กา-จี ฮี-แซง-ชอ-กี-ออด-ตอน อิน-มุล)
คึด-กา-จี ฮี-แซง-ชอ-กี-ออด-ตอน อิน-มุล)
อีกฉากที่พีคมากคือฉากตอนใกล้จะจบที่คุณยายที่อยู่รถไฟโบกี้ที่ปลอดภัย มองเห็นพี่สาวตัวเองที่โดนกัดแล้วกลายเป็นซอมบี้ เกิดรู้สึกปลงตก จึงตัดสินใจเดินไปเปิดประตูให้ซอมบี้เข้ามาในโบกี้ตัวเอง ซึ่งก่อนที่คุณยายจะเดินไปเปิดประตูนั้น ได้พูดประโยคนี้ที่แปลประมาณว่า "ก็เพราะมีนิสัยที่นึกถึงแต่คนอื่น เลยไม่รอดไงล่ะ เธอน่ะมันเป็นมนุษย์ที่เสียสละจนถึงนาทีสุดท้าย" อารมณ์ตัดพ้อพี่สาวตัวเองที่มัวแต่ชักช้า ไม่ยอมหนีมา เลยถูกซอมบี้กัด .... ประโยคนี้ค่อนข้างยากแต่มีความหมายที่ลึกซึ้งมากทีเดียว
มาถึงคำศัพท์ที่น่าสนใจจากหนังกันบ้างค่ะ
부산행 (พู-ซาน-แฮง)
เริ่มต้นที่ชื่อหนังกันก่อนเลยดีกว่า พูซานก็คือเมืองพูซาน ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลทางใต้ของเกาหลีที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อ ส่วน 행 (แฮง) มีความหมายว่า "เส้นทาง-สาย" ค่ะ เรามักเจอคำนี้ที่สถานีรถไฟและบนรถไฟ ซึ่งจะใช้เพื่อบอกให้เราทราบว่า รถไฟขบวนนี้มุ่งหน้าไปไหน หากเป็น 서울행 (ซอ-อุล-แฮง) ก็คือมุ่งหน้าไปโซลนั่นเอง
출발 (ชุ่ล-พัล)
คำนี้มีความหมายว่า "การออกเดินทาง" ในหนังเราจะได้ยินบ่อยมากๆ เวลาที่ตะโกนให้รถไฟออก หากต้องการทำให้เป็นคำกริยา สามารถใช้ว่า 출발하다 (ชุ่ล-พา-ลา-ดา) หรือ 출발되다 (ุชุ่ล-พัล-ทเว-ดา) ก็ได้ค่ะ มีข้อแตกต่างกันคือ หากเป็นตัวคนที่ต้องออกเดินทาง เราเรียกการกระทำที่ต้องออกเดินทางเองนั้นว่า 출발하다 แต่ถ้าเป็นเครื่องบินที่ออกเดินทางเพราะมีคนทำให้มันบินขึ้นได้ เราจะเรียกการกระทำของเครื่องบินว่า 출발되다
승객 (ซึง-แกก)
แปลว่า "ผู้โดยสาร" ใช้ได้ทั้งกับรถบัส รถไฟ หรือเครื่องบินก็ได้เลย ในหนังจะได้ยินบ่อยๆ ตอนมีเสียงประกาศจากรถไฟว่า 승객 여러분 (ซึง-แกก ยอ-รอ-บุน) แปลว่า ผู้โดยสารทุกท่าน
탑승 (ทับ-ซึง)
หมายถึง "การโดยสาร" ใช้กับรถไฟหรือเครื่องบิน มีศัพท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกคือ 탑승구 (ทับ-ซึง-กู) เกทที่รอเครื่องบิน 탑승권 (ทับ-ซึง-กวอน) Boarding Pass 탑승시간 (ทับ-ซึง-ชี-กัน) เวลาเรียกขึ้นเครื่อง
คำนี้ค่อนข้างทางการ หากใช้คำที่ง่ายกว่า ก็คือกริยา 타다 (ท่า-ดา) = ขึ้น(ยานพาหนะ)
미친 새끼 (มิ-ชิ่น แซ-กี)
คำนี้เป็นคำด่าค่ะ แอบจำไม่ได้แล้วว่าใครใช้ด่าใคร ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าน่าจะด่าตาลุงที่สั่งให้ปิดประตูโบกี้ตัวเอง ไม่ให้พวกของพระเอกเข้ามา
미친 새끼 แปลประมาณว่า ไอ้บ้า! ไอ้หมอนี่บ้า! ทำนองนี้ค่ะ หรือคนเกาหลีหลายคนเวลาที่โมโหเพื่อนผู้ชาย มักจะขึ้นเสียงโดยเรียกอีกฝ่ายว่า 이 새끼! (อี แซ-กี) แปลว่า ไอ้หมอนี่ ถือเป็นคำไม่สุภาพนะคะ ไม่ควรใช้พูดกับใครสุ่มสี่สุ่มห้า อาจโดนต่อยเอาได้
대리님, 팀장님, 기장님
(แท-รี-นิม, ทิม-จัง-นิม, คี-จัง-นิม)
ในหนังเราจะได้ยินอะไร นิมๆ บ่อยมาก โดยคำว่า 님 (นิม) เป็นเหมือนคำยกย่องให้เกียรติค่ะ สามารถนำไปวางต่อชื่ออาชีพหรือชื่อตำแหน่งได้ ที่เราคุ้นกันบ่อยสุดก็คือ 선생님 (ซอน-แซง-นิม) ที่แปลว่า คุณครู หรือ 의사님 (อึย-ซา-นิม) ที่แปลว่า คุณหมอ
อย่างในเรื่องก็มีทั้ง 대리님 (แท-รี-นิม) คือผู้จัดการที่ทำงานให้กับพระเอก 팀장님 (ทิม-จัง-นิม) คือหัวหน้าทีมบนรถไฟ และ 기장님 (คี-จัง-นิม) คือพนักงานขับรถไฟ
빨리(ปัล-ลี)
คำนี้หลายคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วเนาะ 빨리 (ปัล-ลี) แปลว่า เร็วๆ ในเรื่องพูดนี้กันเป็นร้อยคำๆ เพราะวิ่งกันทั้งเรื่องเลยทีเดียว โดยหลัง 빨리 สามารถใส่คำกริยาได้ค่ะว่าจะให้ทำอะไรเร็วๆ เช่น
빨리 와 (ปัล-ลี วา) มาไวๆ
빨리 먹어 (ปัล-ลี มอ-กอ) กินไวๆ
빨리 뛰어 (ปัล-ลี ตวี-ออ) วิ่งไวๆ
빨리 와 (ปัล-ลี วา) มาไวๆ
빨리 먹어 (ปัล-ลี มอ-กอ) กินไวๆ
빨리 뛰어 (ปัล-ลี ตวี-ออ) วิ่งไวๆ
당신이 감염됐어요.
(ทัง-ชี-นี คัม-ยอม-ทเว-ซอ-โย)
ประโยคนี้แปลว่า "คุณติดเชื้อแล้ว" ในหนังก็หมายถึงเชื้อซอมบี้นั่นเอง โดยใช้ 감염 + 되다 คล้ายๆ กับ 출발되다 ที่อธิบายไปข้างบนค่ะ เพราะว่าการติดเชื้อนั้น ไม่ได้ติดเชื้อเอง มีคนอื่นมาทำให้ติด(ถูกซอมบี้กัด) เลยต้องเป็น 감염되다 (คัม-ยอม-ทเว-ดา) ผันเป็น --> 감염됐어요 (คัม-ยอม-ทเว-ซอ-โย)
꼬마 (โก-มา)
คำนี้แปลประมาณว่า เจ้าเด็กน้อย, เจ้าหนู เป็นคำที่ทั้งตาลุงเห็นแก่ตัวและซังฮวา(สามีของผู้หญิงท้อง)ใช้เรียกซูอัน เป็นคำที่ใช้เรียกแบบแฝงความเอ็นดูเล็กๆ ค่ะ
생존자 (แซง-ชน-จา)
และคำสุดท้ายที่ได้ยินบ่อยก็คือคำนี้ที่แปลว่า ผู้รอดชีวิต นั่นเองค่ะ ส่วนถ้าใครอยากรู้ว่าในหนังเรื่องนี้จะมี 생존자 ทั้งหมดกี่คน บอกเลยว่าต้องไปดูเอง
เป็นหนังที่ดูแล้วได้ข้อคิดปนหดหู่ใจ อยากจะไปดูอีกรอบ แต่ซอมบี้ก็น่ากลัวเหลือเกิน ดูแล้วก็แอบคิดตาม ถ้าไปอยู่ตรงนั้น เราจะเห็นแก่ตัวแบบนั้นมั้ยนะ TT ป.ล. โซฮีน่ารักมากกกกก
ข้อมูลประกอบ namu.wiki
6 ความคิดเห็น
หนังสนุกมากๆๆ
พี่งรู้ว่าคุณยายสองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน นึกว่ารู้จักกันบนรถไฟหรือเพื่อนกันซะอีก
แต่หนังเรื่องนี้สนุกมากจริงๆ ดูแล้วเดินร้องไห้ออกจากโรงหนังเลย พี่ผช.ที่นั่งข้างๆก็ร้องไห้555555 ซอมบี้น่ากลัวมากแต่ตอนดูรู้สึกว่าไม่เท่าไรพอดูได้นั่งกินป็อบคอร์นชิวๆแต่ตอนท้ายเรื่องนี่ป็อบคอร์นเป็นหมันเลยไม่กินแต่นั่งกอดถังป็อบคอร์นแทน ซอมบี้มันวิ่งเร็วมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่เหนือกว่าซอมบี้คือคนนี่แหละ วิ่งเร็วกว่ามันได้ไง55555555
สนุกมากจนต้องอยากไปดูอีก 100/100
นึกว่าคุณยายสองคนนั้นเป็นเพื่อนกันซะอีก หนังมันสนุก/ซึ้งมากจนเราร้องเลยอะ
ฮือออออออออออ
ดูได้2รอบแต่ตอนแรกไม่กล้าดูแต่ลูกพี่ลูกน้องจะดูแต่สรุปว่านั่งดูคนเดียว555จนตอนนี้ติดเรื่องนี้มากกกก คือหนังเรื่องนี้สอนถึงความเสียสละและความเห็นแก่ตัวของคนในสังคม และคือตอนที่พ่อของเด็กโดนลุงที่เห็นแก่ตัว(เราเรียกแบบนี้จนติดไปแล้ว555)กัดพ่อยอมกระโดลงมาจากรถไฟเพื่อให้ลูกกับคนท้องรอดไปปูซานคือถ้าเป็นเราเห็นลุงที่เห็นแก่ตัวตาเปลี่ยนสีเราก็ถีบตกรถไฟไปแล้วนะ อยากดูอีกแต่ไม่มีเวลา