คดีปริศนาที่ไม่มีวันหาคำตอบได้ "เอลิซา แลม" กับการเสียชีวิตอย่างลึกลับ

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา น้องๆ น่าจะได้เห็นข่าวการเสียชีวิตอย่างปริศนาของหนุ่มเกียรตินิยมอันดับ 1 ที่วัดภูเขาทองนะคะ ซึ่งเป็นข่าวที่มีทั้งการคาดเดาว่าเขาอาจฆ่าตัวตาย หรืออาจคุ้มคลั่ง บ้างก็บอกว่ามีอาการทางจิต รวมไปถึงอาจถูกฆาตกรรมก็เป็นได้ นอกจากนั้นแล้วยังมีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของวัดเผยแพร่ พอได้ดูแล้วก็รู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงยังไงข่าวก็ยังไม่สรุปว่าจริงๆ แล้วเป็นเหตุใดกันแน่ เหตุการณ์นี้เลยทำให้ พี่นิทาน นึกถึงคดีลึกลับคดีหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา เป็นคดีการเสียชีวิตปริศนาที่แม้ว่าคดีจะปิดไปแล้วตั้งแต่ปี 2013 แต่ปริศนาก็ไม่มีวันคลี่คลายได้เลยค่ะ 

Photo credit : edition.cnn.com
   
    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2013 ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีข่าวการเสียชีวิตอย่างปริศนาของ เอลิซา แลม นักศึกษาชาวแคนาดาอายุ 21 ปี จากมหาวิทยาลัย University of British Columbia ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยมีการพบศพของเธออยู่ในแทงค์น้ำขนาดใหญ่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเซซิล (Cecil Hotel) ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ก่อนหน้าการเสียชีวิตเธอได้ถูกแจ้งว่าเป็นคนหายไปตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว แต่เรื่องก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้เมื่อทางโรงแรมมีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในลิฟต์ที่บันทึกเหตุการณ์ประหลาดชวนขนลุกก่อนช่วงเวลาที่เธอจะเสียชีวิต และนอกจากนั้นคดีของเธอยังเชื่อมโยงไปกับหลายๆ สิ่งปริศนาที่เคยเกิดขึ้นที่โรงแรมนี้ และเรื่องสยองขวัญอื่นๆ ด้วย

คลิปวิดีโอปริศนา

Clip

คลิปปริศนาในลิฟต์ของเอลิซา

   
    หลักฐานชิ้นแรกและชิ้นสำคัญของคดีของเอลิซาก็คือคลิปวิดีโอปริศนาที่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้ คลิปนี้บันทึกท่าทางแปลกๆ ของเอลิซาที่เดินเข้ามาในลิฟต์และทำท่าหลบใครสักคนอยู่ เธอมีท่าทางตื่นกลัวและประหลาดกว่าคนอารมณ์ปกติ เพราะหลังจากเธอเดินเข้ามาในลิต์เธอก็หันไปกดตัวเลขของชั้นต่างๆ ในลิฟต์จนเกือบหมด และพยายามจะกดปิด แต่ลิฟต์ก็ไม่ปิดและค้างไว้แบบนั้นเป็นเวลานานพอสมควร

     นอกจากจะรอให้ลิฟต์ปิดแล้ว เอลิซายังมีท่าทางเหมือนรออะไรบางอย่างหรือรอใครสักคน มีคนตั้งข้อสงสัยหลายอย่างมากจากคลิปวิดีโอนี้ ทั้งบอกว่าเธอเป็นโรคไบโพลาร์บ้าง ผีเข้า ป่วยทางจิตบ้าง หรือเมาและเล่นยามา แต่จากการชันสูตรศพภายหลังนั้นตรวจไม่พบสารเสพติดและยาใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าเธอโดนวางยา แต่เมื่อคลิปวิดีโอเล่นไปถึงนาทีที่ 1:59 เป็นต้นไป เธอก็ทำท่าทางประหลาดๆ ทำมือแปลกๆ ชนให้คนดูขนลุกไปตามๆ กัน ว่าเธอทำท่าแบบนั้นเพราะอะไร แต่มีเรื่องหนึ่งที่คิดว่าน่าจะสมเหตุสมผลที่สุดนั้นก็คือ หลายคนช่วยกันสังเกตว่าในเหตุการณ์นั้นไม่ได้มีแค่เอลิซาคนเดียวเท่านั้น แต่มีบุคคลปริศนาอีกหนึ่งคนที่คอยหลบไม่ให้ตัวเองเข้ามาอยู่ในกล้องนั่นเอง สังเกตได้จาก 'เท้าปริศนา' ของคนร้ายที่อยู่ในนาทีที่ 2:27 ซึ่งน่าจะสรุปได้ว่าเอลิซาอาจถูกขู่ทำร้ายอยู่ตอนนั้น 

     และที่ลิฟต์ไม่ปิดก็เพราะว่าคนร้ายได้กดลิฟต์ไว้จากด้านนอกค่ะ นอกจากนั้นยังมีข้อถกเถียงกันของชาวเน็ตว่าคนร้ายคนนั้นถือปืนอยู่ด้วย มีหลายเว็บไซต์ที่พยายามตั้งข้อสังเกตและซูมวิดีโอเข้าไปดูใกล้ๆ ว่ามีปืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ แต่ทั้งนี้ที่สุดแล้วก็ไม่มีคำตอบแน่ชัด ภายหลังจากที่เอลิซาออกไปจากลิฟต์แล้วเราจะเห็นได้ว่าลิฟต์จึงใช้งานได้ตามปกติ ปิด-เปิด ตามชั้นที่เอลิซาได้กดไว้ตอนแรกค่ะ ลองดูคลิปและสังเกตกันได้เลยค่ะ

ศพในแทงค์น้ำ

   
    หลังจากเหตุการณ์ในลิฟต์ไม่นาน ก็มีเรื่องสยองชวนขนลุกอีกเรื่องคือ แขกเกือบทุกคนในโรงแรมต่างก็บ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำที่ใช้มีกลิ่นประหลาดๆ และเป็นสีขุ่นๆ จึงทำให้ทางโรงแรมต้องขึ้นไปตรวจดูความเรียบร้อย และสิ่งที่ได้พบก็คือ ศพของเอลิซา แลม ที่ขึ้นอืดอยู่ในน้ำ มาเป็นเวลาสองสัปดาห์... แต่การเสียชีวิตของเอลิซานั้นเป็นปริศนาอย่างยิ่ง เนื่องจากแขกปกติทั่วไปจะไม่สามารถขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าได้เพราะมีการปิดไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า และหากเข้าไปได้ แทงค์น้ำก็มีขนาดใหญ่และสูงเกินกว่าใครสักคนจะปีนขึ้นไปได้ และหากขึ้นไปได้ ใครเป็นคนปิดฝาแทงค์น้ำ?!
 

ประวัติอันชวนสยองของโรงแรม

    จากเหตุการณ์เสียชีวิตปริศนาของเอลิซา แลม ทำให้หลายๆ คนต้องไปขุดประวัติโรงแรมเซซิลนี้มา และก็ต้องน่าตกใจเมื่อรู้ว่าโรงแรมนี้ไม่ใช่โรงแรมธรรมดาๆ แต่เคยมีเรื่องราวน่าสยดสยองเกิดขึ้นมาแล้วมากมาย

      โรงแรมนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อช่วงปี 1920 และเป็นโรงแรมที่นิยมสำหรับนักธุรกิจที่มาติดต่อธุระในเมืองที่ต้องการที่พักประมาณ 1-2 คืนเท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อมีโรงแรมหรูๆ และดีๆ อีกมากมายก่อตั้งขึ้นในละแวกนั้น จึงทำให้โรงแรมเซซิลกลายเป็นโรงแรมที่ไม่ค่อยมีคนนิยมเข้าพักนัก แต่หลังจากนั้นเมื่อทางโรงแรมมีการให้เช่าห้องในระยะยาวด้วยราคาถูก จึงมีคนเข้ามาพักมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อกระแสของโรงแรมกำลังดี ก็ต้องถูกบดบังด้วยกระแสแย่ที่น่ากลัว ด้วยจุดเริ่มต้นของการที่มีฆาตกรต่อเนื่องมาเข้าพักและก่อเหตุฆาตกรรมขึ้น โดยฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงที่เคยพักที่โรงแรมเซซิลนั้นได้แก่ ริชาร์ด รามิเรซ (Richard Ramirez) ที่เคยใช้โรงแรมนี้เป็นที่พักและออกไปฆ่าหญิงสาวถึง 13 คน และอีกคนมีชื่อว่า แจ็ค อันเทอร์วีเกอร์ (Jack Unterweger) นักหนังสือพิมพ์ที่เคยฆ่าผู้หญิงขายบริการ 3 คน นอกจากจะมีฆาตกรโรคจิตแล้ว ยังมีผู้คนมากมายมาฆ่าตัวตายที่โรงแรมนี้ ทั้งกระโดดลงมาจากชั้นสูงๆ มากกว่า 5 คน ช่างน่าประหลาดใจและน่าสยองขวัญจริงๆ ค่ะ ที่โรงแรมนี้เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้นมากมายซ้ำๆ กันแบบนี้ 

ความบังเอิญกับหนังเรื่อง "Dark Water"


   
    เหตุการณ์ของ เอลิซา แลม นั้นเกิดขึ้นในปี 2013 แต่หลายคนชวนตั้งคำถามให้คิดว่าทำไมอะไรหลายๆ อย่างถึงไปตรงกับหนังสยองขวัญที่ชื่อว่า Dark Water ที่เคยฉายไปเมื่อปี 2005 โดยตัวเอกของเรื่องเป็นหญิงคนหนึ่งชื่อว่าดาห์เลีย (Dahlia) ที่ย้ายไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งกับลูกสาวที่ชื่อว่า เซซิเลีย (Cecilia) จะเห็นได้ว่าชื่อของตัวละครนั้นมีความคล้ายกับบางอย่าง เช่น ดาห์เลียชื่อนางเอกไปตรงกับฉายา Black Dahlia ของหญิงคนหนึ่งที่เคยถูกฆาตกรรมที่โรงแรมในปี 1947 และลูกสาวของตัวเอกที่ชื่อ เซซิเลีย ที่คล้ายกับชื่อโรงแรมเซซิล (Cecilia / Cecil)

      เหตุการณ์ในเรื่องต่อมาคือดาห์เลียสังเกตเห็นน้ำสีดำๆ หยดลงมาจากเพดานในห้องน้ำเธอ ภายหลังเธอพบว่าที่น้ำดำเพราะว่ามีเด็กผู้หญิงตายในแทงค์น้ำบนดาดฟ้าของอพาร์ตเมนต์ และตอนจบของหนังก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิฟต์ และลิฟต์ก็ขัดข้องเหมือนในเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอของเอลิซา เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ทั้งในหนังและคดีของเอลิซา แลม นั้นช่างเหมือนกันไม่มีผิด
 

เรื่องแปลกๆ ที่เชื่อมโยงต่อกัน

    ในเวลาต่อมาหลังจากมีการพบศพของเอลิซาในแทงค์น้ำ ในแถบย่าน Skid Row ไม่ไกลจากโรงแรมเซซิลมีวัณโรคแพร่ระบาด และอุปกรณ์ทดสอบเชื้อนี้มีชื่อว่า LAM-ELISA... ขนลุกเลยใช่มั้ยคะ อะไรจะบังเอิญปานนั้น และนอกจากนั้นคือมีชาวอินเตอร์เน็ตบางคนได้ลองหาชื่อโรงแรมเซซิลใน google maps และเข้าไปในโหมด street view ก็เจอรูปรถเมล์คันหนึ่งที่กำลังวิ่งผ่านโรงแรม บนรถเมล์ติดป้ายโฆษณาที่เขียนคำว่า 'MURDER IS BACK IN SEASON' หรือแปลประมาณว่าฆาตกรได้กลับมาแล้ว...

   
  
     ถึงแม้ว่าคดีนี้จะได้ปิดลงไปนานแล้ว ด้วยการตัดสินว่า 'เอลิซาฆ่าตัวตาย' ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเลยจริงๆ แต่ไม่มีใครสามารถไขปริศนาที่เคยเกิดขึ้นได้เลยสักคน เพื่อนๆ และครอบครัวเธอต่างก็บอกว่าเอลิซาเป็นคนน่ารัก ร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักของใครต่อใคร น่าสงสารที่เอลิซาต้องเสียชีวิตไปแบบนั้น ใครกันที่อยู่เบื้องหลังของการกระทำทั้งหมดนี้ อาจเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงแรม อาจเป็นเพื่อนเธอ อาจเป็นใครสักคน หรืออาจเป็นพลังลึกลับบางอย่างเหมือนที่เค้าว่ากัน? แต่ท้ายที่สุดแล้ว คำกล่าวของใครบางคนอาจเป็นจริงก็ได้ที่ว่า
'เรื่องลึกลับบางเรื่องก็ไม่ได้มีไว้ให้ไขปริศนา' ค่ะ

อ้างอิง
พี่นิทาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

9 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
ammmymod Member 5 ก.ย. 59 11:51 น. 3-1
เราว่าประมาณนาทีที่2:29มากกว่านะ สังเกตดูตอนเอลิซ่าเดินไป ละแบบเหมือนมีเท่าอีกคนโผล่มา แต่ไม่แน่ใจว่าใช่เท้าเอลิซ่ามั้ยยย แต่ทิศทางการเดินไม่น่าใช่นะคะ ลองดูค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
~โรตีกล้วยหอม~ Member 9 ก.ย. 59 04:34 น. 8

ขนลุกอ่าาา ดูคลิปแล้วกลัวจะมีอะไรออกมา ฮืออออ หลอนจริงๆ แล้วสุดท้ายก็สรุปเหตุไม่ได้ มันน่ากลัวจริงๆ เลย

0
กำลังโหลด
เสาไฟฟ้าต้นที่13 Member 13 ก.ย. 59 19:49 น. 9

น่าเหลือเชื่อมากเลยนะคะ ที่ทุกอย่างโยงเข้าหากันได้ จนเราที่เป็นคนอ่านกระทู้ก็แอบหลอนอยู่เหมือนกัน แล้วดันอ่านตอนกลางคืนซะด้วย นอนไม่หลับแน่เลย555555หน้าซีด

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด