จัดกระเป๋าไปเรียนนอก! ควร-ไม่ควรพกอะไรติดตัวไปด้วย? ตอนที่ 1


     สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D.com น้องๆ หลายคนที่กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ คงกำลังซื้อของจัดกระเป๋ากันอยู่ใช่มั้ยคะ เอ๊...เราจะต้องไปอยู่ตั้งเป็นปี น้ำหนักกระเป๋าก็มีอยู่จำกัด จะเอาไปทุกอย่างคงไม่ได้ แล้วอะไรควรเอาไป อะไรควรไปซื้อใหม่ที่นั่นน่าจะดีกว่า วันนี้พี่จะมาเล่าให้ฟังว่าเราควรจะเอาอะไรไปบ้างค่ะ



เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

     - ชุดแรกที่ต้องเตรียมเพราะหาที่ไหนไม่ได้แน่ๆ เลย ก็คือชุดไทยนั่นเอง เอาไปทำอะไรน่ะหรอ ก็ไว้ใช้ในงานเทศกาลไทยๆ ทั้งหลายไงล่ะ^^

      - ต่อไปก็คงเป็นพวกเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อสูท รองเท้าหนังดูดีหน่อย เอาไว้ใช้พรีเซนต์งานหน้าห้อง ไปดูงานนอกสถานที่ หรือใครที่สนใจทำงานพาร์ทไทม์ เป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารไทยเนี่ยได้ใช้แน่นอน 

     - ส่วนเสื้อผ้าทั่วไปก็จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศนะคะ ถ้าเป็นโซนยุโรปและอเมริกา แต่ละฤดูจะมีความแตกต่างของอากาศที่ชัดเจนอยู่ ซึ่งสภาพอากาศก็จะเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกเสื้อผ้าเลย มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละฤดูเราจะแต่งตัวยังไงดี 

      เริ่มที่ฤดูหนาว อุณหภูมิประมาณ -3c - 10c ช่วงประมาณ เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เค้าก็จะใส่เสื้อ Overcoat หนาๆ พองๆ แต่ละคนจะใส่เสื้อผ้ากันหลายชั้น ตัวใหญ่ๆ เดินทีเหมือนมิชชาลิน -*- ซึ่งเสื้อหนาวพวกนี้น้องไม่ต้องไปหาซื้อเตรียมไว้หรอก มันใหญ่ เปลืองเนื้อที่กระเป๋าเปล่าๆ ไปซื้อที่ปลายทางเอาก็ได้ค่ะ มีให้เลือกมากมาย ยิ่งเวลาลดราคาก็ไม่แพงมากอะไรเท่าไหร่ นักเรียนที่ไปเรียนต่างประเทศส่วนใหญ่จะตั้งหน้าตั้งตารอคอยช่วงลดราคา ซึ่งก็จะมีช่วงกลางปีและช่วงปลายปี ทุกร้านค้าจะกระหน่ำลดราคา ตั้งแต่ 20%-90% เลยทีเดียว บางคนถึงขั้นไปต่อคิวรอร้านเปิดเพื่อที่จะได้เข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นคนแรกๆ แต่บางคนอดทนรอไม่ไหวก็จะไป Outlet ตามเมืองต่างๆ ค่ะ

      มาต่อที่ฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงร่วง อากาศจะเย็นถึงหนาวแต่ไม่ถึงกับหนาวมาก  ซึ่งช่วงนี้คนที่นั่นเค้าก็จะใส่ Jacket หรือ Jumper พวกนี้ก็มาเลือกซื้อลายเท่ๆ เก๋ๆ ได้ที่ปลายทางเหมือนกัน

     
       และสุดท้ายก็คือฤดูร้อน ตรงกับช่วงมิถุนายนถึงกันยายน ฤดูนี้อากาศจะแปรปรวนหน่อย บางวันร้อนจัดแบบเหมือนอยู่ไทยเลย ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นเดินชายหาดได้เลย แต่บางวันจะเย็นนิดๆ อารมณ์เหมือนหน้าหนาวเมืองไทย ดังนั้นเสื้อผ้าที่จะใส่ในฤดูนี้เอาไปจากเมืองไทยก็ได้ เพราะเสื้อผ้าหน้าร้อนบ้านเราราคาถูกและไม่กินที่กระเป๋ามาก แต่ไม่ต้องเอาไปเยอะ เพราะบางทีแฟชั่นของเมืองไทยกับประเทศที่เราจะไปนั้นแตกต่างกันพอควร บางทีที่นั่นเค้านิยมการแต่งตัวสไตล์เรียบๆ หรูๆ ขรึมๆ โทนสีก็จะเป็น ขาว เทา ดำ อยู่แค่นี้ เดินไปก็เจอแต่แบบนี้แหละ ดังนั้นถ้าเห็นใครใส่สีฉูดฉาดแบบแดงมาทั้งตัวเนี่ย เค้าก็จะสันนิฐานไว้ก่อนเลยว่า คนนี้น่าจะเป็นคนจีนแน่ๆ เลย 

   
       และท้ายสุดของท้ายสุด คือฤดูฝน บอกเลยว่าหลายประเทศไม่มีฤดูนี้ค่ะ! เพราะฝนจะตกเมื่อไหร่ก็ตก ตกได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอฤดูไหนทั้งนั้น ดังนั้นถ้าใครไม่ชอบถือร่มก็ขอแนะนำ Rain Jacket เลย สามารถหาซื้อได้จากพวกยี่ห้อ Northface, Jack Wolfskin, Columbia ไม่หนามากค่ะ แต่ถ้าใครคิดว่าใช้ร่มถนัดกว่า ก็ให้ไปซื้อที่ประเทศปลายทางเลยค่ะ อย่างประเทศอังกฤษเนี่ย บอกเลยว่าที่นั่นเวลาฝนตก ลมแรงมากกกก ร่มไทยต้านแรงลมไม่ไหวแน่ๆ ร่มที่อังกฤษมีแบบ Ultra light and strong ไม่แพง 2-10 ปอนด์เอง (ประมาณ 100-500 บาท) 


เครื่องนุ่งห่มอื่นๆ

​      เริ่มที่ถุงเท้า หากประเทศที่จะไปเป็นเมืองหนาว แน่นอนว่าถุงเท้าจะได้ใช้ค่อนข้างบ่อยกว่าตอนอยู่ไทยเยอะเลย น้องๆ อาจจะติดถุงเท้าจากไทยมาบ้างหน่อยก็ได้ แต่พวกที่หนาๆ แบบเป็น wool ค่อยไปซื้อเอาที่นู่นได้ค่ะ 


pixabay.com

      อุปกรณ์กันหนาวอีกชิ้นก็คือผ้าพันคอ เค้าว่ากันว่าถ้าคออุ่น ร่ายกายก็จะอุ่นทั้งหมด ดังนั้นหลายคนก็เลยติดการพันผ้าพันคอในช่วงฤดูหนาว ประเทศเมืองหนาวมักมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งแบบหนา แบบบาง แต่บางคนก็ชอบใส่หมวกมากกว่า ช่วงหน้าหนาว คนจะนิยมใส่หมวกไหมพรม เพราะจะอุ่นเป็นพิเศษ แต่ฤดูอื่นก็เป็นแบบทั่วไป เช่น หมวกแก๊ป หมวกปีกบาน ต่างๆ นานา 

      สิ่งสุดท้ายของหมวดเครื่องแต่งกายก็คือ รองเท้า อันนี้ไม่มีไม่ได้เลยนะเนี่ย อยากแนะนำให้น้องเอารองเท้าที่ใส่แล้วกันน้ำมา อย่างเช่น รองเท้าหนัง หรือผ้าใบซักคู่ แบบใส่เที่ยวก็ได้ เล่นกีฬาก็ดี อะไรประมาณนี้ ส่วนพวกรองเท้าบูทที่เอาไว้ใส่หน้าหนาวค่อยไปซื้อทีนู่นเอาก็ได้ ถ้าจะเอาไปก็เอาไปแค่รองเท้าแตะที่ใส่ในบ้านพอ ที่นั่นเวลาหนาวมันหนาวจริงๆ แบบเดินในบ้านยังเย็นเท้าเลยค่ะ 


อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์


 

      ใครจะเอาโน๊ตบุ๊คไป พี่แนะนำให้ใส่เป้ขึ้นเครื่องนะคะ เพราะกระเป๋าเดินทางเราอาจจะโดนโยนสี่ห้าตลบ กว่าจะถึงนู่น คอมพิวเตอร์เราอาจจะแยกออกมาเป็นส่วนๆ แล้วก็เป็นได้ หรือใครวางแผนจะไปซื้อโน๊คบุ๊คใหม่ที่นั่น ก็อย่าลืมเอาสติกเกอร์แป้นพิมพ์ไทยติดไปด้วย พี่แนะนำให้เอาไปทั้งสีขาวและดำ เพราะถ้าเกิดโน๊คบุ๊คที่น้องซื้อเป็นแป้นสีเดียวกับสติกเกอร์ น้องจะหาตัวหนังสือไม่เจอเลยแหละ 

      ต่อมา ทุกคนคงต้องใช้ไฟแน่ๆ Adapter จึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะหัวปลั๊กที่นั่นจะไม่เหมือนของไทย แล้วถ้าเราไม่มีหัวแปลงเนี่ย จะชาร์จไฟอะไรไม่ได้เลย และอย่าลืมพวกปลั๊กพ่วง/ปลั๊กต่อด้วย เพราะห้องของน้องอาจจะมีจำนวนรูปลั๊กให้เสียบไม่เยอะ ดังนั้นถ้ามีปลั๊กพ่วงซักสี่ห้าตา น้องอยากเสียบไฟอะไรก็สบายๆ ไม่ต้องมาคอยนั่งเปลี่ยนสายนู่นนี้ค่ะ  และอย่าลืมพวกสายชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ กล้อง ไฟฉาย นาฬิกา โทรศัพท์ เมาส์ USB thumb สาย LAN สาย USB สายชาร์จต่างๆ ก็เอามากันให้ครบ

 
อุปกรณ์เครื่องเขียน


 
     ใครเป็นประเภทชอบพกกล่องดินสอใหญ่ๆ ใส่เครื่องเขียนเยอะๆ แบบพี่แล้วล่ะก็ อย่าลืมชิ้นไหนไว้ที่บ้านเลยเชียว ปากกกาทุกชนิด ทั้งธรรมดาและแบบสีสัน เมจิก หัวเล็ก หัวใหญ่ ไฮไลท์อีก ดินสอกดพร้อมไส้ดินสอ ลิขวิด ยางลบ ไม้บรรทัดเล็ก คัดเตอร์ กรรไกร แม็ก แผ่นคั่นหนังสือ โพสต์อิท กาว เครื่องคิดเลข สก็อตเทป แฟ้ม คลิปหนีบกระดาษ ที่หนีบกระกาษ สมุดจดบันทึก และอื่นๆ อะไรที่น้องชอบใช้เป็นพิเศษเอาติดไปด้วยเลย เพราะถ้าใครไปโซนตะวันตก อาจจะไม่ได้มีอะไรน่ารักๆ คิกขุแบบที่ไทย แต่ถ้าใครเป็นแนวง่ายๆ ก็ไปซื้อเอาก็ได้ค่ะ พอไปถึงที่นั่นจะเห็นว่าฝรั่งส่วนใหญ่ชอบใช้ดินสอธรรมดา แบบเหลากบเอา  ส่วนโพสต์อิทจะถูกใช้เยอะมากๆ ในช่วงเวลารวบรวมไอเดีย เพราะฝรั่งเค้านิยมให้เขียนความคิดแต่ละคนลงในโพสต์อิทแล้วมาจัดสรรกัน มันเป็นวิธีที่สะดวกมากๆ ดังนั้นอาจจะต้องใช้เยอะเลยล่ะค่ะ


      นี่เป็นเพียงแค่ 4 หมวดที่จะแพ็คลงในกระเป๋า  น้องๆ อย่าลืมเหลือเนื้อที่ไว้ใส่ของอย่างอื่นด้วยนะคะ แล้วตอนหน้าพี่จะมาเล่ารายละเอียดสัมภาระอื่นรายการอื่นๆ ที่น้องจำเป็นต้องเอาไปด้วย แล้วเจอกันค่ะ
ทีมเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

SalaPaonoi Member 27 ก.ย. 59 07:35 น. 1
แนะนำเล็กน้อย หากจะนำคัตเตอร์ กรรไกร หรือของมีคมทุกชนิด (กรรไกรอันเล็กนิดเดียวด้วย) ต้องโหลดลงใต้ท้องเครื่องเท่านั้นนะคะ กรณีที่พก Power Bank ไปด้วย ต้องระบุจำนวน mah ด้วยนะคะ เกิน 32000 เอาไปไม่ได้ค่ะ และอย่าโหลด Power Bank ลงใต้ท้องเครื่องเด็ดขาดนะคะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด