ดีจนต้องดู! ‘Parasite’ #ชนชั้นปรสิต หนังม้ามืดจากเกาหลีที่กวาดรางวัลจากเวทีใหญ่เพียบ

        ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์น้องๆ ชาว Dek-D ทำอะไรกันบ้างครับ ส่วนพี่เพิ่งไปดูหนังเรื่องนึงมาครับ เป็นหนังเกาหลีที่เพิ่งเข้าโรงฉายในไทยไปหมาดๆ ชื่อเรื่อง Parasite หรือ ชนชั้นปรสิต ต้องบอกว่ามีคนรีวิวหนังเรื่องนี้เยอะมากกก จากตอนแรกไม่ได้สนใจเลย แต่พอเห็นมีแต่คนพูดถึงก็เลยขอไปพิสูจน์ซะหน่อย  ซึ่งหลังจากดูแล้วพูดเลยว่าเป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูจริงๆ ครับ วันนี้เลยจะมารีวิวเล็กๆ น้อยๆ ว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจยังไงบ้างนะ  

 

Clip


 

Parasite หนังเกาหลีเรื่องแรกที่คว้ารางวัลจากเมืองคานส์ 



        ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลายคนอาจจะได้ยินข่าวเทศกาลหนังเมืองคานส์ ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ประเทศฝรั่งเศส นอกจากแฟชั่นพรมแดงที่หลายคนให้ความสนใจแล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษก็คือ การประกาศชื่อหนังที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังที่ยิ่งใหญ่ของโลกในงานนี้ ซึ่งหนังที่คว้ารางวัลใหญ่ที่สุดของงานไปครอบครองในปีนี้ก็คือ Parasite หรือ 기생충 (กีแซงชุง) นั่นเองครับ นับว่าเป็นภาพยนตร์จากเกาหลีเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัลนี้เลยล่ะ และต้องบอกว่าคนเกาหลีก็ดีใจกันมาก เพราะในวันที่ บงจุนโฮ ผู้กำกับเรื่องนี้บินกลับแดนกิมจิ มีสื่อและผู้คนจำนวนแห่มารอต้อนรับเต็มสนามบินอินชอนเลยครับ และคาดว่าบรรยากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน เพราะว่ากูรูหลายสำนักต่างเก็งเอาไว้แล้วว่า ยังไงหนังเรื่อง Parasite ต้องกวาดรางวัลจากงานออสการ์ปีหน้าอีกแน่ๆ! (ขนลุกแล้ววว) 

 

หนังดีตีแผ่ความเหลื่อมล้ำในสังคม



        พอเห็นชื่อว่าปาล์มทองคำ เชื่อว่าหลายคนอาจจะคิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องเข้าถึงยากแน่ๆ ต้องเป็นหนังลอยๆ จิตวิทยา ศิลปะที่เข้าถึงยากหรือเปล่านะ ตอนแรกพี่เองก็คิดแบบนั้นครับ แต่ความจริงแล้วจะบอกว่าแบบนั้นมันก็ใช่ แต่ก็ไม่ทั้งหมด (อิหยังวะ) ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องนั้นเข้าใจง่าย แถมดูได้แบบสนุกๆ เหมือนหนังตลาดทั่วไป อารมณ์เหมือนนั่งดูละคร แต่นี่มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเรานี่แหละ (ไม่ใช่แค่ของเกาหลีนะ ทั่วโลกเลย) 
 
        ซึ่งจากเรื่อง Parasite นั้น เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราวของ 2 ครอบครัวที่มีฐานะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ครอบครัวหนึ่งรวย มีหน้าที่การงานดี และมีหน้าตาในสังคม ส่วนอีกครอบครัวก็จนตรอก ตกงานทั้งบ้าน แต่จู่ๆ โชคชะตาก็เล่นตลกและทำให้ 2 ครอบครัวนี้ต้องมาเจอกัน เมื่อชายหนุ่มลูกคนโตจากครอบครัวชนชั้นล่าง ได้แฝงตัวเข้าไปทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้กับลูกสาวในครอบครัวของคนชนชั้นสูง หลังจากนั้นเรื่องราวแสนยุ่งเหยิงก็ตามมา (เล่าแค่นี้พอ ต้องไปดูกันเองนะ) ส่วนตัวพี่รู้สึกสนุกมาก หนังดูง่ายกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่าเป็นหนังตลกด้วยซ้ำ ดูเพลินๆ ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอถึงบทจะพีคก็หายใจหายคอไม่หยุดเลย 55555 และถึงแม้จะทำออกมาดูสนุกหรือแฝงความตลก แต่นั่นก็ดูเหมือนจะเป็นตลกร้ายซะมากกว่า บงจุนโฮ ได้บอกเกี่ยวกับการดำเนินเรื่องของหนังเอาไว้ว่า “ผมต้องการทำหนังเพื่อแสดงภาพของชนชั้น และความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ให้ออกมาเป็นหนังตลกปนเศร้า”

 

นักแสดงเล่นดีจนคิดว่าเป็นนี่คือเรื่องจริง 



        สำหรับนักแสดงนำเรื่องนี้ถือว่าเป็นการรวมนักแสดงมากฝีมือของเกาหลีมารวมกันเลยก็ว่าได้ แต่ที่พี่ประทับใจเป็นพิเศษก็คงจะเป็นฝั่งตัวละครของครอบครัวคนจน เพราะแต่ละคนเล่นรับส่งกันดีมากกก (ดูจนเชื่อว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ แถมหน้าตาก็เหมือนกันอีก 5555) อย่างคนที่เล่นบทหัวหน้าครอบครัวอย่าง ซงคังโฮ คนนี้ก็ถือว่าเป็นนักแสดงคู่บุญกับผู้กำกับบงจุนโฮเลย (เคยเล่น The Host, Memories of Murder) แม้ว่าบทที่เค้าเล่นจะออกแนวๆ พวก loser ซะส่วนใหญ่ แต่ก็เล่นออกมาได้แนบเนียนทุกเรื่องเลย
 
       ตัวละครฝั่งลูกทั้ง 2 คนของเค้าก็เล่นได้ดีมากเช่นกัน ในส่วนของบทลูกชายได้ ชเว อูชิก มาเล่น คนนี้ก็เคยฝากผลงานเอาไว้ในหนังดังในตำนานของเกาหลีอย่าง Train To Busan เมื่อปีก่อนนู้น (ส่วนตัวพี่รู้จักอูชิกจากเพลง Congratulations ของวง Day6 ครับ 555) และอีกคนที่พลิกบทบาทสุดๆ จนพี่แอบทึ่งก็คือ พัคโซดัม ที่รับบทเป็นลูกสาว คนนี้ก็เล่นดีมากกก ลบภาพใสๆ จากซีรีส์เรื่อง Cinderella with Four Knights ไปเลยล่ะ ส่วนนักแสดงท่านอื่นๆ ก็เล่นได้เข้าขากันสุดๆ และอีกคนที่เซอร์ไพรซ์คือ พัคซอจุน จากซีรีส์เลขาคิมขวัญใจหลายคนก็โผล่มารับเชิญในเรื่องนี้ด้วยนะ ถึงแม้ว่าจะมาน้อยแต่ก็เป็นอีกตัวละครที่นำมาซึ่งความยุ่งเหยิงต่างๆ เลยก็ว่าได้ครับ  

 

แสง-สี-เสียง-ฉาก ดีงามจนต้องปรบมือ!  



        ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งจะออกมาดีได้ แค่บทอย่างเดียวยังไม่พอ เรื่องขององค์ประกอบศิลป์ต่างๆ ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้หนังนั้นออกมาดี เช่นเดียวกับเรื่อง Parasite ที่วางเรื่องแสง สี เสียง และฉากออกมาได้อย่างลงตัวและสมจริง โดยส่วนตัวพี่ไม่ใช่คนที่ดูหนังแล้วสังเกตอะไรยิบย่อยมากนัก แต่เรื่องนี้คือสังเกตได้ชัดเลยว่าเค้าใส่ใจในเรื่องนี้จริงๆ โดยเฉพาะโลเกชั่นของฝั่งครอบครัวชนชั้นล่างที่ทำออกมาซะนึกว่านี่เป็นบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ รู้สึกว่าไม่ได้จัดฉากขึ้นมา ซึ่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ หรือ Art director ของเรื่องนี้เค้าใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่กลิ่นอับของเสื้อผ้า โซฟาในบ้านที่อยู่ หรือขยะจริงๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นจนมีแมลงวันบินมาเองตามธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งคราบแก๊สที่ติดอยู่ตามโต๊ะ ผนังของบ้านก็แนบเนียนเหมือนใช้งานจริงๆ แต่ที่พี่อึ้งที่สุดก็เป็นห้องน้ำของบ้านนี่แหละครับ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนทำโถส้วมยกสูงแบบต้องปีนขึ้นไป แถมอยู่เหนือหัวกว่าบริเวณอาบน้ำอีก จะว่าไปแล้วมันมีจริงๆ นะครับ ไม่ใช่แค่ที่เกาหลี แต่อาจจะรวมถึงที่ไทยของเราด้วย ซึ่งตรงนี้ก็สะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่ของชนชั้นล่างได้ดีเลยล่ะ 

 

สัญลักษณ์และการเปรียบเปรยที่เจ็บแสบ 



        ข้อนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ตอนแรกภาพในหัวของพี่คือ หนังจะมีความอาร์ต มากด้วยศิลปะที่มีชั้นเชิง ยากที่จะตีความหรือเข้าใจ แต่เอาจริงก็เข้าใจได้ง่ายอยู่นะครับ ซึ่งสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แอบแฝงในเรื่องก็จะมีทั้งสิ่งของ สี อาหาร ตัวคนเอง และรวมถึงกลิ่นด้วย (อันสุดท้ายนี่แบบเจ็บแสบมาก) สรุปแล้วคือ หนังเรื่องนี้ทุกคนสามารถดูเอาสนุกก็ได้ ดูแบบไม่คิดอะไรก็เข้าใจได้ดูเพื่อวิพากษ์ประเด็นหรือสารที่หนังส่งมาก็ได้ หรือจะดูเพื่อวิเคราะห์ศิลปะที่แอบแฝงมาในหนังก็ได้เช่นกัน คือไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้มีแต่คนชื่นชม และได้รางวัลปาล์มทองคำในปีนี้ไปครอบครอง   

 
       สรุปแล้วส่วนตัวชอบเรื่อง Parasite มากครับ ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ตีแผ่ประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคม คนรวย คนจน ได้อย่างเจ็บแสบเลย TT แต่เชื่อเถอะว่า ถึงหนังจะทำออกมาได้ขยี้สังคมมากขนาดไหน เรื่องจริงที่ตัวเราหรือบางคนเจอ อาจจะโหดร้ายมากกว่านั้น ... เพราะทุกสังคมล้วนมีปัญหาความเหลื่อมล้ำอยู่แล้ว แต่ใครบ้างล่ะที่จะมองเห็น หรือบางทีอาจจะเห็นแต่แกล้งไม่เห็นก็เป็นได้ … 
 
       ล่าสุดหนังเรื่อง Parasite ก็มีชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars 2020 ถึง 6 สาขาอีกด้วย คือหนังเค้าดีจริงๆ เอาเป็นว่าอย่าลืมไปดูกันนะครับ ถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยล่ะ ส่วนใครที่ไปดูมาแล้ว มารีวิวกันหน่อยว่ารู้สึกยังไงกับเรื่อง Parasite บ้างนะ? 
พี่วุฒิ
พี่วุฒิ - Columnist มนุษย์ 4 มิติผู้หลงใหลในเพลงเกาหลี ชาเนสที และหมูกระทะ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น