ด่วน!! เช็กลิสต์คุณสมบัติก่อนบริจาคเลือด!! ระวังไปเก้อ


          สวัสดีค่ะน้องๆชาว Dek-D วันนี้พี่วิวมีข่าวใหม่มาอัพเดต น้องๆหลายคนคงได้ยินกระแสข่าวบนโลกโซเชียลที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ว่าสภากาชาดไทยกำลังเข้าขั้นลำบาก ขาดแคลนเลือดในสต็อก ทำให้ไม่พอสำหรับความต้องการของสถานพยาบาลต่างๆ  หลายคนตั้งข้อสงสัย เกิดอะไรขึ้นกับสภากาชาดไทย? แล้วเราจะช่วยอะไรได้บ้างมั้ย? เรามาดูกันค่ะ

 


 
          ข่าวเลือดในคลังสภากาชาดไทยกำลังหมดสต็อกนี้ได้รับการยืนยันจาก พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยแล้วว่า ขาดแคลนจริง! เพราะโดยทั่วไปแล้ว ผู้บริจาคเลือดมักจะมาเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญๆ ก็เลยทำให้ยอดบริจาคไม่สม่ำเสมอกันในแต่ละเดือน โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา
 
          พอข่าวแพร่สะพัดออกไป ก็มีคนตั้งข้อสงสัยขึ้นหลายอย่างว่าทำไมเลือดถึงขาดแคลน เพราะมีคนที่คุณสมบัติพร้อมจะบริจาคน้อยลงหรือเปล่า หรือที่หนักไปกว่านั้นคือสงสัยว่ากาชาดเอาเลือดไปขาย??
 
          แต่ความจริงแล้วคนไข้ที่ต้องการเลือดมีจำนวนมากจนเลือดที่บริจาคมามีไม่พอซึ่งกำลังเป็นวิกฤตในตอนนี้เพราะกาชาดส่งเลือดให้โรงพยาบาลตามที่ขอเบิกมาไม่ได้ คือ 8,000 ยูนิต แต่ทางศูนย์กลับส่งเลือดให้ได้เพียง 2,000 ยูนิตเท่านั้น หรือคิดง่ายๆคือเท่ากับ 25% จากที่เคยจ่ายให้ได้ 80% ซึ่งถือว่าน้อยมาก!! และที่สำคัญคือขณะนี้เลือดสำรองในคลังก็หมดด้วยเหมือนกัน
 

เดี๋ยวนี้เค้ามีพรอพเป็นคำพูดให้ถือถ่ายรูปด้วย

 
 แล้วใครล่ะที่สามารถบริจาคเลือดได้? เรามาดูคุณสมบัติกันค่ะ

 1. ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัม และมีอายุตั้งแต่ 17 ปี ขึ้นไป

 2. สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีโรคที่อาจถ่ายทอดไปยังผู้ป่วย

 3. ไม่อยู่ในช่วงที่กำลังกินยาแก้อักเสบใดๆ ต้องหยุดยามาแล้ว 7 วัน

 4. ไม่อยู่ภายใน 72 ชั่วโมงหลังการถอนฟัน

 5. สำหรับน้องผู้หญิงต้องไม่อยู่ในช่วงที่กำลังมีประจำเดือน
 

 
          สำหรับคนที่มีคุณสมบัติพร้อมที่จะไปบริจาคเลือดได้แล้ว อย่าลืมเตรียมตัวให้ดีก่อนการบริจาค ไม่อย่างนั้น อาจได้ไปเก้อ เรามาเช็คลิสต์วิธีเตรียมตัวดังต่อไปนี้
 
          - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนวันที่มาบริจาค
          - ทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาค แต่หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู และเน้นอาหารที่มีธาตุเหล็กประเภทเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล
          - ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณเลือดในร่างกาย และป้องกันอาการแทรกซ้อนหลังการบริจาค เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือเวียนหัว
          - งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก่อนมาบริจาคโลหิตอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
          - งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี
 

ที่ผ่านมา เหล่าดาราใจบุญก็มาช่วยกันบริจาคอยู่บ่อยๆ
 
          น้องๆที่สนใจเข้าร่วมบริจาค สามารถบริจาคได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติและโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ หากเป็นที่สภากาชาด จันทร์ พุธ ศุกร์ เปิดถึง 16.30 น. หากเป็นวันอังคารและพฤหัสบดี เปิดถึง 19.30 น. หากเป็นวันหยุด เปิดถึง 15.30 น. หรือติดตามสถานที่ตั้งหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่อื่นๆที่ปฏิทินเวลารับบริจาคโลหิต ใครที่สนใจก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปบริจาคกันได้เลย ส่วนใครไปบริจาคมาแล้วก็มาเล่าประสบการณ์กันหน่อยนะว่าเป็นยังไงบ้าง


 
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://www.redcross.or.th/
http://www.blooddonationthai.com/
http://www.dek-d.com/education/30403/
IG : lham25hours, noonaupdate_pantip, nnattawin, taophiangphor
พี่วิว

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
วิฬารสีหมอก Member 7 มี.ค. 58 12:57 น. 5

อยากบริจาคแต่หมอไม่รับครับ หมอบอกว่าผมเป็นโลหิตจางแล้วก็เป็นเพศที่ ๓ ซึ่งท่านว่าไม่อยากรับ อย่างไรก็ขอให้มีคนมาบริจาคเยอะ ๆ นะครับ

5
กำลังโหลด
ทอมจังผู้น่ารัก Member 7 มี.ค. 58 21:26 น. 13

ครั้งแรกที่จะไปบริจาค เลือดลอยบริจาคไม่ได้ T_T (เราบริจาคที่ รร.) พอพวกพี่เขามาครั้งที่ 2 เราก็เตรียมตัวอย่างดีละ ไม่กินของแสลง ดื่มน้ำมากๆ นอนเยอะๆ สุดท้ายก็บริจาคได้ !!! แต่พอบริจาค เลือดเราออกช้ามาก (เลือดข้น) กว่าจะได้สักถุง ถึงกับชาไปทั้งแขน -*-

ครั้งหน้าจะต้องบริจาคอีกให้ได้ !!! ><

อมยิ้ม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

38 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
วิฬารสีหมอก Member 7 มี.ค. 58 12:57 น. 5

อยากบริจาคแต่หมอไม่รับครับ หมอบอกว่าผมเป็นโลหิตจางแล้วก็เป็นเพศที่ ๓ ซึ่งท่านว่าไม่อยากรับ อย่างไรก็ขอให้มีคนมาบริจาคเยอะ ๆ นะครับ

5
กำลังโหลด
กำลังโหลด
alone 7 มี.ค. 58 15:09 น. 7
เพิ่งไปมาเมื่อวานครับ ครั้งที่8แล้ว คนไปช่วยกันบริจาคเยอะมากครับ แต่ก็ยังไม่พอ ใครที่สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงตามคุณสมบัติก็ไปช่วยกันนะครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
cannelt Member 7 มี.ค. 58 18:55 น. 10

อยากบริจาคให้มากๆ กำลังจะหันไปชวนหม่ามี้ซังว่าไปบริจาคเลือดกันมั้ย แต่พอเลื่อนลงมาดู... "ต้องมีอายุ 17 ปีขึ้นไป" เค้ายังไม่ถึงอ่ะ ฮือ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ทอมจังผู้น่ารัก Member 7 มี.ค. 58 21:26 น. 13

ครั้งแรกที่จะไปบริจาค เลือดลอยบริจาคไม่ได้ T_T (เราบริจาคที่ รร.) พอพวกพี่เขามาครั้งที่ 2 เราก็เตรียมตัวอย่างดีละ ไม่กินของแสลง ดื่มน้ำมากๆ นอนเยอะๆ สุดท้ายก็บริจาคได้ !!! แต่พอบริจาค เลือดเราออกช้ามาก (เลือดข้น) กว่าจะได้สักถุง ถึงกับชาไปทั้งแขน -*-

ครั้งหน้าจะต้องบริจาคอีกให้ได้ !!! ><

อมยิ้ม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อยากบริจาคอีก 8 มี.ค. 58 13:45 น. 17
การบริจาคเลือดต้องมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป(ในกรณีที่อายุ 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง) ส่วนในกรณีที่อายุต่ำกว่านี้จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองและแพทย์จึงจะสามารถบริจาคเลือดได้(เคยมีเคสที่น้องม.ต้นที่โรงเรียนประสบอุบัติเหตุ แล้วสามารถให้เลือดได้ตอน 16 แต่ว่าไม่แน่ใจนักว่าจำเป็นต้องเป็นในกรณีที่ฉุกเฉินแล้วเจาะจงผู้รับหรือไม่) และต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัม ก่อนวันบริจาคต้องไม่นอนดึกนะ อันนี้สำคัญมากๆเลย ส่วนเรื่องประจำเดือนนี่แล้วแต่วิจารณญาณของแพทย์ที่ตรวจก่อนให้เลือด แต่ก็ไม่แนะนำนัก ควรเว้นห่างประมาณ 7 วันก่อน-หลังมีประจำเดือน (เราเพิ่งไปบริจาคมาเมื่อต้นปี เป็นการทำบุญวันเกิดอายุครบ 18 มา) ส่วนสาเหตุที่ไม่ค่อยรับบริจาคโลหิตจากเพศที่3 เพราะ เพศที่3มีโอกาสติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าชายหญิงปกติ และค่าใช้จ่่ายในการตรวจสอบโลหิตมีราคาสูง ในบางครั้งจึงมีการปฏิเสธการรับเลือดจากเพศที่ 3 ไม่ใช่เพราะเรื่องเหยียดเพศหรืออะไรหรอกนะ(อันนี้ถามคุณหมอมาตอนที่ไปบริจาค) เอาเป็นว่าใครที่บริจาคได้ก็อยากให้ช่วยกันบริจาค เพราะ เลือดสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดและเกี่ยวพันถึงชีวิตโดยตรง ส่วนน้องๆที่ยังบริจาคไม่ได้ก็ไม่ต้องรีบร้อน เพราะ ที่ต้องมีการกำหนดเกณฑือายุและน้ำหนักก็เพื่อให้ผู้บริจาคปลอดภัยจากการบริจาคนั่นเอง อายุครบเมื่อไหร่ค่อยไปบริจาคก็ไม่สาย
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด