Time Machine กลับมาอีกแล้วจ้า วันนี้พี่แก้วจะพาน้องๆ ย้อนวันวานไปกับความทรงจำอันแสนหวานของวัยรุ่นยุค 90 กับเรื่องสนุกๆ ที่วัยรุ่นยุคนั้นทุกคนต้องเคยผ่าน แต่เสียดายวัยรุ่นยุคนี้ไม่ได้เจอ มาค่ะ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี แอบเช็กลิสต์ไปด้วยว่าใครทันแค่ไหน ลองไปดูกันค่ะ!
อัดเพลงจากรายการวิทยุ
ก็แหม...สมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ คลิกทีเดียวก็ดาวน์โหลดเพลงได้ แถมนักร้องออกเพลงมาที ก็มาเป็นซิงเกิล เลือกซื้อแต่ละเพลงได้ตามใจชอบ แต่สมัยก่อนน่ะ ถ้าชอบใคร รักใคร ต้องลงทุนซื้อทั้งอัลบั้ม 10-12 เพลง ราคาก็ไม่ถูกนะ หลักร้อยเชียวล่ะ แล้วก็ไม่ได้อยากฟังทุกเพลงนี่นา ทางเลือกสุดท้ายก็คือ รออัดเทปจากรายการวิทยุ รวมเพลงที่ชอบในอัลบั้มเดียวนั่นแหละค่ะ อย่าลืมโทรเข้าไปขอเพลงที่ชอบให้กับคนที่ใช่ด้วยนะ ลงทุนสุดๆ
ภาพจาก pixabay.com
อัดเพลงทีไร ดีเจพูดแทรกทุกที
เชื่อเถอะ! วัยรุ่นยุค 90 ทุกคนต้องเคยเฟล โดนดีเจทำร้าย เวลาจะอัดเพลงทีไร ดีเจชอบพูดแทรกเพลงตลอด ถ้าไม่พูดทับทำนองเพลงตอนต้น พอเพลงจะจบก็ต้องพูดแทรกมาอีก ช้ำสุดๆ อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมากลางเพลงก็มี อัดๆ อยู่ โอ๊ยยย อารมณ์เสียจริงๆ
เพื่อนยืมเทปไปฟัง กลับมาหายหมด
“เฮ้ย! ยืมฟังอัลบั้มใหม่แรพเตอร์หน่อยดิ” เหตุการณ์นี้จะไม่มีอะไรให้กล่าวขานชั่วลูกชั่วหลาน ถ้าเอาเทปให้เพื่อนยืมไปแล้วกลับมาในสภาพปกติ แต่เรื่องมันเกิดเมื่อเทปที่กลับมา อ้าว! ทำไมมีเสียงหมาหอนในเพลง ดีไม่ดี มันกลายเป็นเทปเปล่าซะงั้น เจออย่างนี้บอกตรงๆ แทบกรี๊ดค่ะ ใครที่เคยเจ็บช้ำมาก่อน จะต้องรู้ดีว่า กฎของการให้ยืมเทป คือต้องหักพลาสติกที่อยู่ตรงหัวเทปทิ้งก่อน! หักปุ๊บก็อัดทับไม่ได้ ยกเว้นจะเอาสกอตเทปมาแปะทับที่เดิม แต่ถ้าจะทำขนาดนั้น ก็เอาที่สบายใจเลยนะเพื่อน
ภาพจาก pixabay.com
เทปยืดแช่เย็น
ก็สมัยนั้นไม่มี MP3 นี่นา ความบันเทิงจากการฟังเพลงที่ดีที่สุดคือเทปนี่แหละ แล้วปัญหาโลกแตกของการฟังเทปโปรด ก็คือฟังบ่อยๆ แล้วมันยืด จากเพลงเร็วแดนซ์เสต็ปมัน ห้า หก เจ็ด และแปด มันกลายเป็นเพลงยืดเยื้อยานคาง โอ้โฮ! เซ็งเลยอ่ะ ปัญหาสุดเฟลข้อนี้ วัยรุ่นยุค 90 มีทางแก้! แค่เอาเทปไปแช่เย็นซะก็หมดเรื่อง เค้าว่ากันต่อๆ มาว่ามันได้ผลนะ
กรอเทปง่ายๆ ใช้ดินสอสิจ๊ะ
วนเวียนอยู่กับเทปยังไม่จบ ต้องบอกว่าเสียดายแทนน้องๆ ยุคใหม่ ที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสความสนุกของการใช้เทป โดยเฉพาะเมื่อเราอยากฟังเพลงในเทปนั้น แต่ดันไม่ใช่เพลงแรก จะเป็นเพลงที่สองสามสี่ ก็ว่ากันไป ยุคนั้นไม่ใช่ว่ากดเลือกได้ว่าจะเอาเพลงนี้ซะเมื่อไหร่ ต้องกรอเทปเองค่ะ จะกรอโดยใช้เครื่องเล่นก็ได้ หรือจะใช้วิธีแมนนวล เอาดินสอเสียบรูเทปแล้วหมุนเหวี่ยงไปเลยจ้า
ยังไม่หมดนะ เมื่อบางเครื่องเล่นก็เกิดเฮี้ยนขึ้นมา กินเทปซะงั้น เอาออกมาที เครื่องดึงสายเทปซะยืดยาว จะเก็บกลับเข้าไป ก็ต้องใช้นิ้วไม่ก็ดินสอนี่แหละ ง่ายสุดๆ (เชื่อเถอะ วัยรุ่นยุค 90 แทบทุกคนเคยเล่นแบบนี้มาแล้ว มันอย่าบอกใคร)
ภาพจาก pixabay.com
ตลับเกมไหนเปิดไม่ได้ ต้องใช้ลมเป่า
ลืมไปได้เลยกับเกมเพลย์ เกมออนไลน์ ไฮโซโก้หรู เพราะสมัยโน้นเกมที่ฮิตสุดๆ ต้องเป็นเครื่องแฟมิลี่ แฟมิคอม เกมบอย ที่ต้องเสียบตลับเกมลงไป แล้วก็เรื่องธรรมดาค่ะ ถ้าเปิดไปแล้วดันไม่ติดขึ้นมา วิธีแก้ง่ายๆ ที่วัยรุ่นยุค 90 ทำกัน จากคำบอกเล่าของคนอื่น (เค้าว่ากันมาอีกแล้ว) ก็คือ หยิบตลับเกม หงายขึ้น แล้วเป่าลงไป ฟู่ๆ เสียบอีกที เอ้า! ติดแล้วจ้า ได้ผลจริงด้วย
ยางลบปากกาที่ลบไม่เคยได้เลย
สมัยนี้พี่แก้วก็ยังเห็นบางที่มีขายยางลบปากกาอยู่บ้างนะ ถ้าแบบคลาสสิกหน่อยต้องมาเป็นก้อนเหลี่ยมๆ สีน้ำเงิน กับขนแปรงไว้ปัดเศษยางลบ หรือใหม่ขึ้นมาอีกนิด เป็นก้อนสี่เหลี่ยมด้านนึงสีน้ำเงิน ด้านนึงสีแดง นวัตกรรมที่ทำมาเพื่อลบปากกาลูกลื่น เพราะสมัยนั้นลิขวิดราคาแพง แต่ยางลบเนี่ย ก้อนละไม่กี่บาทเอง ประเด็นในตำนานคือ ยางลบนี้ลบทีไร หมึกปากกาไม่ทันหาย กระดาษหายก่อนทุกที นี่มันใช้ได้จริงใช่มั้ยเนี่ย
ภาพจาก pixabay.com
พีซีทีเขย่าดีๆ เรียกสัญญาณ!
พีซีที นี่เรียกว่าเป็นอุปกรณ์ไฮเทคมากในยุคนั้น เอาง่ายๆ ว่า สมัยนี้มีสมาร์ทโฟน สมัยนั้นก็ต้องพีซีที แต่ที่ต้องเรียกว่าเป็นตำนานที่วัยรุ่นยุค 90 ต้องจดจำและเคยทำมาก่อน ก็มาจากสัญญาณโทรศัพท์ที่ดี๊ดี เคลื่อนที่นิดเดียวหลุดจ้า สัญญาณหาย เดินหากันไปกว่าจะเจอ บางทีถึงกับต้องทำพิธีกรรม ชูพีซีทีแล้วเขย่าๆ เรียกสัญญาณให้มาเข้าทรงจนได้คุยสักที โอ๊ย เขย่าจนแขนเมื่อยเลยเนี่ย
ฟลอปปีดิสก์กับปุ่มล็อกเจ้าปัญหา
ก่อนหน้าจะมาเป็นซีดี ดีวีดี แฟลชไดร์ฟ ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบที่เราเห็นทั่วไปในปัจจุบัน ช่วงนั้น เค้าใช้ฟลอปปีดิสก์ เจ้าแผ่นสี่เหลี่ยมแบนๆ ขนาดเท่าฝ่ามือนี่แหละค่ะ ในการเก็บข้อมูล และพี่แก้วเชื่อว่า วัยรุ่นยุค 90 ที่เคยใช้เจ้านี่มาแล้ว ต้องเคยเจอกับเหตุการณ์เซฟอะไรใส่ฟลอปปีดิสก์ไม่ติด ทำยังไงก็ไม่ได้ ตายแล้ว พังแน่ๆ ฟ้องครู ฟ้องเพื่อน เรื่องใหญ่โต โอ้โฮ ใครก็ได้ช่วยด้วย! มารู้อีกที อ้าว! ดันกดล็อกไว้ซะนี่ แค่เลื่อนเจ้าปุ่มดำๆ เหลี่ยมๆ ตรงมุมนิดเดียว ก็ปลดล็อกแล้วใช้ได้ทันที อายมั้ยล่ะ
ภาพจาก pixabay.com
ต่อเน็ตบ้านอยู่ดีๆ ใครโทรเข้ามา เน็ตหลุดตลอด
สมัยก่อนเวลาบ้านใครต่ออินเทอร์เน็ตที สายโทรศัพท์บ้านจะไม่ว่าง แต่ถ้าเพื่อนคนไหนดันทะลึ่งโทรเข้าบ้านในช่วงเวลาที่ต่อเน็ตอยู่ทีไร เน็ตที่ต่อไว้หลุดทุกที ระหว่างที่คุยก็ต่อเน็ตกลับไม่ได้ด้วย โอ๊ย นี่มันปัญหาระดับชาติ ต้องเลือกแล้วล่ะค่ะ จะเล่นหรือจะคุย
เสียงต่อเน็ตในตำนาน
ปิ๊ดปิ้ด วี้..หว่ออออฟรออออ วี้ วี้ วัยรุ่นสมัยนั้น ไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินเสียงสวรรค์อันคุ้นหูเสียงนี้แน่นอน ก็เสียงต่ออินเทอร์เน็ตในตำนาน ที่เวลาต่อทีไร ดังไปอีกสามบ้าน แอบเล่นเน็ตก็ไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ได้ยินหมด ฮือ! ว่าจะแอบแชท MSN ซะหน่อย หมดกัน
โทรศัพท์บ้านหลายเครื่อง แต่พ่วงกันหมด
แฟนโทรเข้าบ้านมาทีไร ขอแอบคุยที่เงียบๆ ดีกว่า แต่หารู้ไม่ว่า โทรศัพท์อีกเครื่องในบ้านก็พ่วงไว้อยู่ แค่ยกหูก็ได้ยินที่คุยกันหมด แล้วก็โดนสอดแนมจากคุณพ่อคุณแม่ที่ซุ่มอยู่เสมอ แต่จะมาโป๊ะแตกตรงที่ แอบได้ยินเสียงแปลกๆ เข้าโทรศัพท์มา รู้เลยว่า แอบฟังใช่มั้ยเนี่ย
ภาพจาก pixabay.com
กล้องใช้แล้วทิ้ง/ ถ่ายสามสิบรูปใช้ได้สิบรูปไม่ใช่เรื่องแปลก
กล้องดิจิตอลอะไร ไม่มี้ ยุค 90 ที่อินสุดๆ ก็ต้องกล้องฟิล์ม แถมมีแบบใช้แล้วทิ้งด้วย ใส่ฟิล์มปุ๊บ หมุนๆ ดูรูปก็ไม่ได้ แต่งรูปก็ไม่ได้ อัดมาก็เสียไปเกินครึ่ง ตากล้องดีไม่ดี นางแบบสวยไม่สวย วัดใจกันตรงนี้แหละ และโกดักคือแบรนด์ชั้นนำสุดๆ ในยุคนั้น แต่ปัจจุบันหมดยุคโกดักไปนานแล้ว น่าเสียดายจริงๆ
ภาพจาก pixabay.com
ถ้าใครที่เลยวัยมัธยมไปหลายปี พี่แก้วเชื่อว่าต้องทันที่ว่ามาไม่มากก็น้อยล่ะ คิดถึงยุคนั้นทีไร เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กทุกที อิอิ เอาอย่างนี้ค่ะ ลองมาเมาท์กันดีกว่าว่ายังมีอะไรในตำนาน ที่วัยรุ่นยุคนั้นต้องทำตามกัน แต่หาดูในยุคนี้ไม่ได้อีกแล้ว ส่วนน้องๆ ยุคนี้ เกิดไม่ทันก็ไม่เป็นไร แต่อ่านแล้วชอบเรื่องไหนมาบอกกัน แล้วคราวหน้าพี่แก้วจะพาไปย้อนอดีตอะไรอีก อย่าลืมติดตามกันนะ
36 ความคิดเห็น
ตอนเด็กๆเราเคยใช้ดินสอกรอเทปกลับ PCT แผ่นดิสก์ และยางลบปากกา
เป่าตลับเกมนี่ไม่เคยนะ เคยแต่เอาน้ำลายป้าย 555555555
มันคืออะไร...
เกิด 1989 ทันนะครับ
ทุกอันเลย เรามาถึงจุดนี้ได้ยังงัยกัน...555
ดินสอกับคาสเซตเทป
#เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่ามีความสำคัญกันอย่างไร
กระทู้ดักแก่ ทันทุกอย่าง เค้าเกิด 1990 น้าาาาาาาาา
เอิ่ม...
ทำไมรู้สึกว่าอ่านแล้วเข้าใจ + เคยทำมาหมดเลย นะ...นี่มัน กระทู้ดักแก่ชัดๆ TwT
เคยทำทุกอย่างเลยอะ
ยิ่งแผ่นดิส นี่ซื้อมาใช้ทีเป็นกล่องๆ งานเยอะจัด ต้องใช้คู่กับโปรแกรม วินซิป - WinZip เพราะมันจุแค่ 1.44 MB เท่านั้น แล้วใช้ดีไม่ดีข้อมูลหายจ้า งานเงินที่ทำมานี่ต้องสำรองมัน4-5แผ่น แต่สมัยนี้ใช้แฟดร์ไดร์ จุที 32 GB แถมมีฮาดร์ดิสพกพาอีก คิดถึงความลำบากสมัยนั้นรู้สึกแก่ขึ้นอีกเป็น 10 ปีเลยล่ะ
โดนไปสามข้อ^^ ยางลบปากกา,กล้องฟิล์ม,เป่าตลับเกม -0-; แต่ก่อนชอบเล่นPokemonกับHarvest moon มากเลยอ่ะสนุกดี
นึกถึงสมัยก่อนเลยอ่ะ เน็ตฟรี แต่ 3 บาท ก่อนจะเล่นเน็ตต้องรอมันต่อก่อน วี้ๆๆวอออ ออดดด ตู๊ดดด อีดดด อออดดด ต่อเสร็จ MSN โลดด
ที่บ้านแก้ปัญหา (หรือเพิ่มปัญหา??) โทรศัพท์บ้านกับเนตวี้หว่อด้วยการเปิด 2 เบอร์ เพราะมีปัญหาบ่อย ๆ ที่ว่า ลูกจะใช้เนตทำงาน แต่พ่อแม่จะใช้โทรศัพท์เม้ามอยกับญาติ ๆ หรือบางทีตัวอีลูกเองนั่นแหละ ใช้เนตไปคุยงานกับเพื่อนไป งานครูสั่งมาตั้งนานไม่ทำ เพิ่งมานั่งทำเอาวันก่อนส่ง 555
5555 ทันทุกอย่างเลย
พีซีทีนี่จำได้ว่ามีอยู่วันนึงเราปิดไฟจะนอนแล้ว แต่เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ข้างนอกหน้าต่างก็เลยแอบแง้มม่านไปดู เจอพี่ข้างบ้านห้อยตัวออกมานอกระเบียงเป็นชิมแปนซีเพื่อหาสัญญาณ
ตลับเกมส์นี่ทั้งเป่าทั้งแงะจนเหลือข้างในทำทุกทางให้มันเล่นได้
เทปนี่เรื่องจริงทั้งเทปที่ฟังๆไปนักร้องเกิดขี้เกียจกระทันหัน ไหนจะสะลึมสะลือกดปุ่มผิดไปกดอัดเทปแทน ดินสอนี่ไม่เคยใช้กรอนะ นิ้วเลยจ้าหมุนติ้วๆเลย
โทรศัพท์กะเน็ตนี่ใช่เลย เล่นเกมส์กำลังเพลินโทรศัพท์เข้าจ้า แม่ก็คุยไม่นานนะแต่พอเข้าเกมส์ได้อีกทีตี้หายหมดแล้ว
หรือบางทีกำลังคุยกับเพื่อนอยู่คุณน้องสาวก็โผล่มาร่วมวงเฉยเลย
นี่ทันเกือบหมดเลยยกเว้นพีซีทีกับอัดเพลงจากวิทยุ เทปก็ทันนะแต่ไม่เคยให้เพื่อนยืมยิ่งตอนกรอเทปอย่างมันเอานิ้วหมุนเลยจ้าดินสอไม่ต้อง อันนี้มันดักแก่ใช่ป่ะแต่นี่พึ่งอายุ18 คือไร โอ้ยยยยยยเสียใจ