ละครย้อนยุคสุดหลอน มาแรงแซงทุกโค้งในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ค่ะว่าต้องยกให้ “พิษสวาท” ที่นำแสดงโดยนุ่น วรนุช และป้อง ณวัตน์นี่แหละ ทั้งเนื้อเรื่องที่เข้มข้นโดนใจ หลอนจนต้องนอนเปิดไฟ แล้วยังมีข่าวลือถึงความอาถรรพ์เกี่ยวกับละครเรื่องนี้อีก อ๊ะๆ อยากรู้ล่ะสิว่าอาถรรพ์เรื่องนี้ตั้งแต่รีเมคเวอร์ชั่นแรกถึงเวอร์ชั่นล่าสุดมีอะไรบ้าง พี่กวางรวบรวมมาแล้ว แต่เตือนไว้ก่อนนะว่า...อย่าอ่านตอนมืดๆ คนเดียวววว
1. “พิษสวาท” ไม่ได้แต่งจากเรื่องจริงนะ แต่เป็นบทประพันธ์ของคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือนามปากกา ทมยันตี นักเขียนชั้นครูที่มีความสนใจด้านประวัติศาสตร์และชีวิตของคนโบราณ ทำให้บทประพันธ์สมจริงจนต้องขนลุก!
2. พิษสวาทตีพิมพ์ครั้งแรกนานเกือบ 50 ปีแล้ว! ในนิตยสารสกุลไทยรายสัปดาห์ เนื้อเรื่องกล่าวถึงโศกนาฏกรรมในสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 249 ปีก่อน
3. ตอนที่ทมยันตีเขียนถึงคุณอุบล หรือสโรชินีในเรื่อง คุณหญิงมักเห็นสาวงามนุ่งชุดไทยเดินอยู่ในบ้านพัก บางครั้งก็มายืนเฝ้าคุณหญิงเขียนอยู่เงียบๆ (ฮือออ ขนลุก) สาวงามผู้นี้มักมาพร้อมกลิ่นหอมของดอกบัว คุณหญิงจึงเรียกเธอว่า “พี่บัว”
4. อาถรรพ์พิษสวาท เริ่มตั้งแต่สร้างเป็นละครครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2514 (45 ปีที่แล้ว!!!) เมื่อ เสาวนีย์ สกุลทอง ผู้รับบทคุณอุบล ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตทั้งที่เพิ่งถ่ายทำได้แค่ตอนเดียว ในทางกลับกันก็มีอีกกระแสหนึ่งลือว่า เธออาจถูกฆาตกรรมด้วยฝีมือคนรักของเธอเอง สาเหตุนี้ทำให้ไม่มีนักแสดงหญิงคนไหนกล้าสวมบทแทน ทำให้ผู้กำกับต้องตัดสินใจตัดจบในทันที
5. 3 ปีต่อมา (2517) พิษสวาทถูกสร้างเป็นละครวิทยุบ้าง แต่ก็ยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เมื่อเกิดไฟไหม้อย่างไม่ทราบสาเหตุภายในตึกที่กำลังอัดเสียงอยู่! งานนี้โชคดีไม่มีใครเป็นอะไรมาก แต่ก็ทำทีมงานขวัญเสียกันไม่น้อย ทางผู้จัดจึงต้องรวบรัดตัดตอนจบให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
6. พ.ศ. 2524 ละครพิษสวาทถูกรีเมคอีกครั้ง แต่คราวนี้ผู้จัดดักทางไว้ได้ด้วยการบวงสรวงก่อนถ่ายทำทุกคิว (ปกติแล้วจะบวงสรวงละครแค่ครั้งเดียว คือก่อนเริ่มเปิดกล้องเท่านั้น) โดยเฉพาะคิวที่มีคุณอุบล หรือสโรชินี ทำให้การถ่ายทำราบรื่น ไม่มีเหตุร้ายแรงอะไร
7. แม้กองถ่ายทำจะราบรื่นดี แต่ รัชนู บุญชูดวง ผู้รับบทคุณอุบลในเวอร์ชั่นนั้น ก็ได้พบเหตุประหลาด เมื่อวันหนึ่งเธอนอนพักผ่อนในห้องที่บ้าน แต่เห็นเงาลางๆ ของสาวงามท่านหนึ่งโผล่มาแต่คอ (เฮือกกก!!!) หญิงสาวคนนั้นแนะนำตัวว่าชื่อ บัว และยังเคยมาเข้าฝันบอกให้รัชนู “เล่นเป็นตัวเธอให้ดีที่สุด” ด้วย ทำให้นักแสดงสาวต้องหมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ น่าแปลกที่หลังจากละครปิดกล้องลง รัชนูก็ไม่เคยฝันหรือพบเห็นหญิงสาวผู้นี้อีกเลย
8. นอกจากนี้หลายครั้งรัชนูยังไม่สามารถจำบทพูดของตัวเองได้เมื่ออยู่ในฉาก แต่พอออกมาจากฉากแล้วกลับจำได้! ทำให้ทีมงานต้องแก้ปัญหาด้วยการแปะบทไว้ที่ข้างกล้อง แต่เธอก็ยังจำบทแทบไม่ได้อยู่ดี
คุณรัชนูเล่าเรื่องราวตอนถ่ายทำละครพิษสวาท พ.ศ. 2524 ให้ฟังในรายการ พิษสวาท Special
ติดตามชมได้ที่ https://tv.line.me/
9. พ.ศ. 2534 ละคร “พิษสวาท” ถูกรีเมคเป็นรอบที่ 3 แต่ความอาถรรพ์ก็ยังไม่ไปไหน คราวนี้เหตุร้ายเกิดขึ้นกับ วรรณิศา ศรีวิเชียร ผู้รับบท ทิพย์ ศัตรูหัวใจของอุบลที่มาเกิดใหม่ โดยวรรณิศาเล่นไปได้แค่ครึ่งเรื่องก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถเล่นต่อได้ จึงต้องเปลี่ยนนักแสดงเป็น ดี้ ปัทมา ปานทอง ในครึ่งหลัง
10. มาถึงพ.ศ. 2553 ผู้ใหญ่ในวงการก็ต้องต่อสายทั้งเตือนทั้งห้ามปรามคุณบอย ถกลเกียรติ กันให้วุ่น เมื่อเขาประกาศจะรีเมคละคร พิษสวาท เป็นครั้งที่ 4! แต่คุณบอยไม่ยอมล้มโปรเจ็กต์ง่ายๆ เพราะเขาได้ปรึกษาพระที่นับถือแล้วว่าวิญญาณที่ผูกพันกับละครเครื่องนี้ไม่ใช่ปีศาจร้าย แต่เป็นวิญญาณที่เปี่ยมด้วยความรักและหน้าที่ คุณบอยที่มีความตั้งใจและเป้าหมายดีจึงตัดสินใจเดินหน้าสร้างละครเรื่องนี้เต็มกำลัง
11. โปรเจกต์รีเมคละครเรื่อง “พิษสวาท” ในปี 2553 แรกเริ่มวางตัว บี น้ำทิพย์ เป็นคุณอุบลและสโรชินีไว้ แต่ก่อนวันถ่ายทำแค่ไม่นาน น้ำก็ท่วมอยุธยาอย่างหนัก ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดกล้องออกไปอย่างไม่มีกำหนด และต้องพับโปรเจ็กต์ไว้ชั่วคราว
ภาพพิษสวาทเวอร์ชั่น 4 ที่วางตัวละครไว้เป็น ป้อง ณวัฒน์, บี น้ำทิพย์ และ พิมพ์ พิมพ์มาดา
ภาพจาก รายการ พิษสวาท Special
12. นอกจากน้ำท่วมอยุธยาแล้ว ผู้เขียนบทคนหนึ่งก็ยังป่วยอย่างกะทันหัน ทำให้ต้องคืนโปรเจ็กต์กลับมา และจำเป็นต้องเปลี่ยนทีมงานกับนักแสดงใหม่เป็นบางส่วน จนคุณบอยออกปากเลยว่า เหมือนกับมีใครบางคนกำลังคัดเลือกทีมงานแทนพวกเขายังไงยังงั้น
13. ทีมผู้เขียนบทใหม่เขียนบทโดยยึดให้นุ่นเป็นคุณอุบลในจินตนาการ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อนุ่นปฏิเสธไม่รับบทนี้ ทำให้ทีมเขียนบทตัดสินใจบนบานขอให้ "พี่บัว" ช่วยเหลือ โดยบอกว่า "ถ้าพี่บัวอยากได้ใคร ให้พี่บัวเลือกเลย"
14. อย่างที่รู้กันว่าตอนแรกนุ่นไม่รับเล่นละครเรื่องนี้ เพราะยังเหนื่อยจากละครเรื่องอื่นๆ อยู่ แต่วันหนึ่งเธอฝันเห็นหญิงสาวสวยในชุดไทยสีทอง เดินลงจากบันไดที่โบสถ์ในวังหน้าพร้อมทหารอีก 6 นาย ในฝันนี้นุ่นรับรู้ได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวที่มีความสำคัญต่อแผ่นดินมาก แม้จะไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร แต่ในใจนุ่นคิดถึงคุณอุบลขึ้นมา จึงหยิบนิยายเรื่องพิษสวาทมาลองอ่าน ความแปลกคือเมื่อนุ่นคิดสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ใช่คุณอุบลหรือไม่ ส่วนลึกๆ ในใจมักตอบว่า “ใช่” เป็นสาเหตุให้นุ่นยอมรับบทนี้ในที่สุด
15. ตอนใกล้ตื่นนอนนุ่นมักได้กลิ่นหอม (ที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม) ในห้องตัวเอง แต่กลิ่นจะค่อยๆ จางลงเมื่อตื่น นุ่นนึกถึงที่คุณทมยันตีเคยพูดเรื่องกลิ่นดอกบัว จึงวานให้พี่เลี้ยงที่บ้านไปหาดอกบัวมาให้เพื่อดมกลิ่น สรุปคือเป็นกลิ่นดอกบัวบานสีชมพูจริงๆ!
16. หนึ่งในซีนหินที่สุด คือซีนที่นุ่นต้องพูดไดอะล็อกความยาวกว่า 30 บรรทัด เกี่ยวกับความคับแค้นใจของอุบลที่มีต่อการกระทำของอัคนีในอดีต ซีนนี้นุ่นเล่าว่ายิ่งพูดไป เธอยิ่งรู้สึกว่าไม่ใช่เสียงของตัวเอง เหมือนว่ากำลังกลายเป็นคนอื่น!
17. แต่ถึงแม้จะเจอเรื่องแปลกมากมาย นุ่นก็ไม่กลัวนะ เพราะเธอรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เจอเป็นพลังงานในด้านบวกที่มาคอยช่วยเหลือให้ตนเองและทีมงานผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ ทุกเช้าก่อนถ่ายทำที่กองจึงมีการไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะนุ่นที่จะเตรียมขันและดอกบัวให้พี่บัวทุกเช้า
18. ช่วงถ่ายทำฉากวิญญาณ วันหนึ่งผู้กำกับตื่นมาตอนเช้าแล้วถ่ายเป็นเลือด แต่เมื่อจะโทรศัพท์ไปหาหมอ ก็พบว่าที่สายชาร์จมือถือมีกองดินเปื้อนอยู่ จึงนำไปปรึกษาผู้รู้ ได้ความว่า มีใครบางคนพยายามส่งดินก้อนนี้มาให้คนในกอง... (ใครล่ะ!?)
19. จำฉากที่สโรชินีทักว่าหมอเชษเคยบาดเจ็บระหว่างเล่นฟุตบอลสมัยมหาวิทยาลัยได้มั้ยคะ? แล้วรู้ไหมว่า เจษ ที่รับบทหมอเชษตัวจริงก็เพิ่งประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นฟุตบอลจนเอ็นเข่าขาดเหมือนกัน ที่สำคัญคือเกิดขึ้นก่อนหน้าจะได้อ่านบทหมอเชษเพียง 1 เดือนเท่านั้น! ทำให้เขาต้องรีบเคลียร์คิวละครเรื่องอื่นๆ เพื่อรับเล่นบทนี้ทันที เพราะสัมผัสได้ว่ามีพลังงานบางอย่างแล้วแหละ
20. นอกจากนี้ คืนก่อนวันบวงสรวง เจษยังมีอาการอาหารเป็นพิษ จึงอธิฐานจิตขออโหสิกรรมจากคุณอุบล ทำให้นอนหลับได้ ทั้งที่ก่อนนี้ป่วยจนแทบนอนไม่หลับ ที่สำคัญคือเมื่อเขาตื่นมาตอนเช้าก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง ทำให้สามารถไปบวงสรวงได้ตามปกติ!
21. เครื่องแต่งกายในเรื่องได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้วิธีศึกษาถอดแบบจากประวัติศาสตร์และภาพบนกำแพงวัดใหญ่สุวรรณาราม แล้วตัดเย็บขึ้นใหม่ ไม่มีการใช้ชุดไทยสำเร็จ รวมถึงเครื่องประดับในเรื่องก็มีทั้งสั่งทำเป็นพิเศษ และใช้เครื่องประดับเก่าแก่ โดยบางชิ้นเก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เลยทีเดียว
22. ฉากคุณอุบลถูกตัดหัวที่หลายคนหลอนติดตานั้น รู้ไหมว่านุ่นเป็นคนคิดเอง ว่าต้องการตายทั้งที่ยังลืมตาอยู่! เพราะเธออยากให้คนดูได้เห็นแววตาแห่งความผิดหวังและไม่เข้าใจของคุณอุบลในช่วงเวลาตาย บังเอิญมากที่ฉากนั้นน้ำตาของนุ่นไหลลงไปเข้านัยน์ตาอีกข้างพอดี ทำให้ได้ภาพที่ทั้งสวยงามและน่าสะพรึงสุดๆ!
เฮ้ออออ...บอกเลยว่าบทความนี้เป็นบทความที่พี่กวางเขียนไปก็ขนลุกไปจริงๆ น้องๆ ล่ะมีใครแอบรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาบ้าง แต่การที่รู้เบื้องหลังแบบนี้ก็ทำให้ดูละครได้สนุกขึ้นไปอีกนะ ว่ามั้ย เอาเป็นว่าใครชอบฉากไหน กลัวฉากไหนเป็นพิเศษเรามาแชร์กันในคอมเมนต์เลยจ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก
รายการ พิษสวาท Special ช่อง one
รายการ เที่ยงรายวัน
รายการ one บันเทิง
Teaser พิษสวาท | จดหมายเหตุ Ver.1 ผู้กำกับสันต์ ศรีแก้วหล่อ | ช่อง one 31
รายการ เที่ยงรายวัน
รายการ one บันเทิง
Teaser พิษสวาท | จดหมายเหตุ Ver.1 ผู้กำกับสันต์ ศรีแก้วหล่อ | ช่อง one 31
Facebook : Ju Nkt (ผู้เขียนบท)
20 ความคิดเห็น
เราเคยอ่านจากพันทิปสมัยก่อนนะคะว่าจริงๆแล้วเค้ามีตัวตนจริงๆนะ
ไม่ใช่ว่าคุณทมยันตีเขียนอิงจากเรื่องจริงขึ้นมาหรอคะ
สำหรับนักเขียน สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่การเขียนเรื่องราวจากประวัติศาสตร์จริงแล้วเกิดอาถรรพ์ แต่เป็นการเขียนแต่งแต่กลับไปตรงกับความจริงจนทำให้เกิดอาถรรพ์ตามมา
ยิ่งอ่านยิ่งขนลุกอ่ะ
เย็นหลังวาบๆๆเป็นพักๆเลย
แค่อ่านเฉยๆก็บายแล้วค้าบบบ
เราเรียนท่องเที่ยวเลยได้เคยทำทริป จ.พระนครศรีอยุธยา ลุงคนนึงแกก็เล่าให้ฟังว่า "รู้อะไรไหมว่าวิญญาณที่เฝ้าบ้านเฝ้าเมืองที่อยุธยาน่ะไม่ใช่ปู่โสมที่พวกหนูเข้าใจะแต่เขาเป็นผู้หญิง" ตอนแรกเราก็ไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นใครจนได้มาดูละครเรื่องนี้คำพูดของคุณลุงคนนี้มันก็ดังก้องมาในหัวเลย
โอวววว หลอนนนนน
คือแบบ.....หน้าแบบนี้เลย
ไม่น่าเรียกว่าอาถรรพ์นา บางอย่างมันเหมือนแค่มีอะไรมาช่วยให้โชคดี ยิ่งตอนนี้นุ่นเล่นด้วยแล้ว อาถรรพ์นี้มันต้องเป็นอะไรที่ไม่ดีนะ
ส่วนตั้งแต่เริ่มทำเรื่อยมากมีคนประสบนู่นนี่ เรามองว่านั่นคือความประมาทที่เขาเจอมากกว่า ไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องพิษสวาท แต่เพราะมันอยู่ในช่วงเวลาออนแอร์ บวกกับความเชื่อของคนไทยทำให้กลายเป็นอถรรพ์ ทั้งที่คนตาย คนเกิดอุบัติเหตุ หรือต่าง ๆ เกิดจากตัวเอง ไม่เกี่ยวกับคุณอุบลในเรื่อง โบ้ยไรมากไม่ได้ โบ้ยผีเสียอย่างนั้น
แต่เรื่องนี้ไม่มีความหลอนไม่มีความน่ากลัว ทุกอย่างดูซอฟต์ทันทีเมื่อรู้ว่ามีนุ่น วรนุช แบบเรากลัวหนังผีนะ แค่ซาวน์ก็ไม่ไหว แต่พอนุ่นเล่นแล้วแบบ เรื่องนี้ดูไม่น่ากลัวอะ นี่ยังสงสัยว่า น่ากลัวอะไรเบอร์นั้น ขนาดหน้าขาวตาแดง ยังสวย ผีสวย
น่ากลัวจังเลยนึกว่าเป็นเรื่องจริง
หลอนสุด นี่ขนาดนั่งอ่านตอนกลางวัน-o- ขนลุกแล้วขนลุกอีก ฮือออออ
อ่านแล้วจนรู้สึกอยากดูเลย เห็นคนดูกันแต่ยังไม่ได้ดูเลย5555