4 ข้อเข้าใจผิด ในการสร้างตัวละคร

        ทำความรู้จักกับตัวละครหลายๆ แบบมามากแล้ว วันนี้พี่น้องขอเสนอ 4 ข้อที่นักเขียนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสร้างตัวละครกัน ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มที่ข้อแรกเลยแล้วกัน
 

1. บรรยายลักษณะแบบซ้ำซาก

        เจอบ่อยใช่ไหม เวลาอ่านนิยายถึงฉากเปิดตัวพระเอก/นางเอก จะต้องมีคำบรรยายลักษณะเป็นชุดเดียวกัน ราวกับเป็นเครื่องการันตีว่าถ้าบรรยายแบบนี้ พระเอก/นางเอกสวย-หล่อแน่นอน
 

        มันกลายเป็นค่านิยมของบ้านเราไปแล้วว่า ตัวละครหล่อควรเป็นแบบไหน ตัวละครสวยควรเป็นแบบไหน และที่บรรยายตามกันมาแบบนี้เพราะเข้าใจว่านี่คือมาตรฐานความงามของตัวละครที่เราอ่านเจอบ่อยๆ

        แต่เคยเจอไหม ประเภทพระเอกก็ "คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักได้รูป" ส่วนพระรองก็ "คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักได้รูป"

        การบรรยายแบบนี้ไม่ได้ช่วยให้คนอ่านจินตนาการถึงพระเอกกับพระรองแยกจากกันได้เลย งั้นเราจะบรรยายไปทำไมล่ะ สู้ให้ข้อมูลลักษณะตัวละครเฉพาะที่เห็นได้ชัด ต่างจากคนอื่นจริงๆ ไม่ดีกว่าหรือ ยกตัวอย่างจากเรื่องใกล้ตัวอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อพูดถึงลักษณะของตัวละครตัวนี้ เรามักจะนึกถึง "ตาสีเขียวแบบแม่ ผมยุ่งๆ แบบพ่อ แผลเป็นที่หน้าผาก กับแว่น"

        ลักษณะพวกนี้ที่คนเขียนเน้นย้ำกับเราเพราะเป็นลักษณะที่ทำให้เราแยกตัวละครหลักออกจากตัวละครอื่นๆ ได้ และเป็นลักษณะที่จะมีผลต่อเนื้อเรื่องในภายหลัง

        จำไว้ว่า อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพูดถึง ปล่อยให้คนอ่านได้จินตนาการเองบ้าง เราไปบังคับจินตนาการของเขาไม่ได้อยู่แล้ว ใช้เนื้อที่บรรยายสิ่งที่จำเป็นต่อผู้อ่านจริงๆ ดีกว่า แต่ถ้าอยากจะบรรยายเหลือเกินว่าตัวละครนี้ "คิ้วหนา ตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักได้รูป" ก็ขอให้ระวังอย่าไปบรรยายแบบนี้กับตัวละครอีกตัวแล้วกัน
 

2. เสียเวลาทำประวัติตัวละครมากไป

        ตอนเขียนนิยายใหม่ๆ เป็นกันใช่ไหมคะ คิดว่าถ้าอยากให้ตัวละครสมจริง เราต้องสร้างเขาให้เหมือนสร้างตัวละครใน The Sims เลยทีเดียว ใส่ทุกอย่างตั้งแต่ชื่อ-นามสกุล วันเกิด ส่วนสูง-น้ำหนัก กรุ๊ปเลือด สีผมสีตา บ้านเกิด อาหารที่ชอบ สีที่เกลียด ฯลฯ ราวกับกำลังเขียน Friendship อยู่

        วิธีนี้ใช่ว่าทำแล้วไม่ดี ก็ดีตรงที่เรามีข้อมูลตัวละครแน่นๆ อยู่ในมือ เวลาแต่งเราก็อ้างอิงข้อมูลตรงนี้ได้ ไม่ใช่ต้นเรื่องบอกพระเอกเกลียดต้นหอม กลางเรื่องดันเขียนให้พระเอกกินมันซะงั้น
 

        แต่ที่ว่าไม่ดี เพราะเราเสียเวลาทำประวัติตัวละครมากเกินไป จนบางทีกว่าจะทำเสร็จทุกตัว ก็เบื่อ พาลไม่อยากจะเขียนเรื่องแล้ว

        ดังนั้น คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ ทำประวัติตัวละครไว้ แต่อย่าเพิ่งกรอกข้อมูล อย่าไปจริงจังกับมันมาก ให้วางมันไว้ข้างตัว แล้วแต่งนิยายไปก่อน เมื่อเขียนไปเรื่อยๆ แล้ว เราก็จะได้ข้อมูลตัวละครที่มาจากเรื่องเอง เอามาบันทึกไว้ในแฟ้มประวัติ เก็บไว้ใช้ยืนยันทีหลัง ให้ข้อมูลตัวละครออกมาจากเรื่องเองดีกว่า มานั่งคิดข้อมูลตัวละครก่อนแล้วค่อยหาทางยัดมันลงไปในเรื่อง ดูยังไงก็ไม่เป็นธรรมชาติ
 

3. อิงตัวละครกับคนจริงมากไป

        มีใครเอาเพื่อนหรือคนใกล้ตัวมาเขียนนิยายบ้างไหม หรือบางทีก็เอาตัวเองมาเป็นพระเอก/นางเอกซะเลย พี่เชื่อว่าชาว Dek-D ที่เป็นนักเขียนหลายคนใช้วิธีนี้ เพราะคนใกล้ตัวนั้นศึกษาพฤติกรรมง่าย เป็นแหล่งอ้างอิงที่ดีเลยทีเดียว

        แต่ อย่าเอาตัวละครของเราไปผูกติดกับคนจริงมากเกินไป ถ้าหากว่าบุคลิกของคนๆ นั้นไม่เหมาะกับนิยายของเรา ปรับนิดเปลี่ยนหน่อยบ้าง เพื่อให้เรื่องเรามีสีสันมากกว่านี้ดีกว่า เช่น

        เราเอาเพื่อนสนิทเรามาทำเป็นเพื่อนนางเอก เพราะเพื่อนเราเป็นคนพูดเก่ง เฮฮา ชีวิตมีแต่สีสัน เหมาะมากกับบทเพื่อนนางเอก แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปถึงจุดหนึ่ง เราต้องการฉากดราม่าระหว่างเรากับเพื่อน แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนคนนี้ไม่เคยทะเลาะกับเราเลยสักครั้ง เป็นคนที่ไม่คิดเล็กคิดน้อย หรือใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ เราจะทำอย่างไรล่ะ ระหว่างเอาฉากดราม่าออก กับรื้อนิสัยตัวละครเสียใหม่ ให้เขามีอะไรในใจบ้าง
 

4. พยายามแตกต่างมากเกินไป

        แน่นอนว่านักเขียนหลายคนไม่ชอบ "ซ้ำใคร" และนักอ่านหลายคนก็เบื่อเหลือเกินกับตัวละครที่มีบุคลิกซ้ำซาก (Stereotype) เช่น ผู้หญิงต้องไร้เดียงสา เป็นผู้ถูกกระทำตลอดเวลา ส่วนผู้ชายก็ต้องดิบเถื่อน รวย ทำอะไรนางเอกได้โดยที่เธอก็ยังรักเขา

        เราเลยสร้างนางเอกที่ดิบ เถื่อน รวย มาทรมานพระเอกที่อ่อนแอ ตอบโต้ไม่เป็นบ้าง เพื่อเป็นการสวนกระแสในตลาด การคิดแบบสุดโต่งเพื่อสร้างตัวละครที่แหวกขนบนั้นถือเป็นวิธีที่ดี แต่สุดโต่งแบบไร้เหตุผลนั้นก็ใช่ว่าคนอ่านจะยอมรับได้ พักหลังนี้เราเห็นการ์ตูนเจ้าหญิงของวอลท์ ดิสนีย์เริ่มยกนางเอกเป็นหญิงแกร่ง ทำอะไรก็ได้เพียงลำพังแล้วใช่ไหม
 

        แต่เจ้าหญิงพวกนั้นไม่ได้มีแต่ด้านแกร่งเพียงด้านเดียว พวกเธอก็มีด้านที่อ่อนไหวด้วยเหมือนกัน ดิสนีย์ไม่ได้ต้องการอยู่ "ขั้วตรงข้าม" แต่ขีดเส้นตรงกลางไว้ให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นได้ทั้งสองแบบนั่นเอง การทำแบบนี้จะดึงทั้งผู้ชมที่ชอบนางเอกแบบดั้งเดิม กับผู้ชมที่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ให้มาดูหนังเรื่องเดียวกัน
 

ใครที่ยังคิดแบบนี้อยู่ ได้เวลาเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วนะ
จำไว้ว่า "อะไรที่มากเกินไป มักไม่ดี" นะจ้ะ

 ขอบคุณภาพประกอบจาก
http://www.a113animation.com/
http://www.fanpop.com/clubs/cinderella/
พี่น้อง
พี่น้อง - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ไรน้ำ Member 5 มี.ค. 58 20:07 น. 22

มีอีกอย่างที่นักเขียนหลายๆ คนเข้าใจผิด นั่นคือหากพระเอกหรือนางเอกเป็นลูกครึ่ง เช่น แม่เป็นคนไทยแท้ พ่อเป็นฝรั่ง แต่พระเอกหรือนางเอกหรือตัวละครอื่นใดก็ตาม มีตาสีฟ้า หรือสีเทา เหมือนพ่อ อยากจะบอกว่าเป็นข้อมูลที่ผิดค่ะ เพราะตามหลักการถ่ายทอดทางพันธุกรรมแล้ว ตาสีดำเป็นยีนเด่นจะข่มตาสีฟ้าซึ่งเป็นยีนด้อย ทำให้ในรุ่นลูกทุกคนต้องมีตาสีดำหรือน้ำตาลเหมือนแม่ แต่หากรุ่นหลานจะมีโอกาสมีตาสีฟ้าได้ แต่ถ้าแม่เป็นลูกครึ่งแต่งงานกับพ่อซึ่งเป็นฝรั่ง ลูกจึงจะมีโอกาสมีตาสีฟ้าหรือสีอื่นได้ ลองสังเกตพระเอก-นางเอกละครของไทยที่เป็นลูกครึ่งฝรั่งสิคะ มีใครมีตาสีฟ้าเหมือนพ่อบ้างไหม

2
กำลังโหลด

ยอดถูกใจสูงสุด

llZeaLll Member 25 ม.ค. 57 09:16 น. 4

ข้อ1นี่เห็นในนิยายแทบทุกเรื่องเลยค่ะ เลยแบบ อ้าว พระเอกนางเอกหน้าเหมือนกันทุกเรื่องเลยหรอนี่ 555555 ตอนม.ต้นเราเคยเล่นกับเพื่อนนะ แบบไปชมเพื่อนอีกคนว่ามีดวงหน้ามน ตากลมโต คิ้วโก่ง ริมฝีปากได้รูป บลาๆๆ อะไรงี้ เอาคำบรรยายที่เห็นบ่อยๆในนิยายมาชม มันรู้สึกแบบ ตลกอะ 5555

แล้วก็งงกันเองว่าถ้าหน้าตาแบบนี้จริงๆแล้วมันสวยหรอ มันออกจะสะพรึงๆยังไงไม่รู้ 5555

0
กำลังโหลด
Kawisara Lee Member 3 เม.ย. 57 23:18 น. 15

แล้วถ้าไม่บอกลักษณะของพระเอกหรือนางเอกเลยล่ะคะ แบบให้คนอ่านจินตนาการเอาเองเลย5555555555//ขอบคุณค่ะ รักเลย

1
editor_nong Member 4 เม.ย. 57 09:22 น. 15-1
ก็ได้นะ ถ้าเกิดมันไม่ได้มีอะไรพิเศษจริงๆ บรรยายไปแล้วไม่ช่วยอะไรจริงๆ ก็ไม่ต้องบอกอะไร ถ้าเรื่องเกิดในประเทศไทย นางเอกเป็นคนไทย เราก็ไม่จำเป็นต้องบอกสีผมสีตานางเอก คนอ่านจะรู้โดยสัญชาตญาณอยู่แล้วว่าจารุณีผมดำนะ สิ่งที่เราต้องเน้นคือนิสัย บุคลิก หรือทัศนคติของตัวละครที่มีผลต่อเรื่องมากกว่า เยี่ยม
0
กำลังโหลด

23 ความคิดเห็น

Chanyanuch Member 24 ม.ค. 57 17:43 น. 1

ข้อ  2  บอกแค่ชื่อตัวละครกับนิสัยเฉยๆแล้วค่อยลงรายละเอียดของตัวละครในเรื่องไปทีเดียว

0
กำลังโหลด
Boo Blue Member 24 ม.ค. 57 19:43 น. 2

เยี่ยม  

555  ผมก็รู้สึกว่า ผมจะอิงกับชีวิตจริงมากเกินไปจริงๆด้วย ขอบคุณครับที่ทำให้ผมรู้ตัว 5555 

รักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลยรักเลย

0
กำลังโหลด
ดอ ชฎา Member 24 ม.ค. 57 21:07 น. 3

ที่จริงเราก็อยากบรรยายให้พระเอกเป็นคนไม่หล่อมาก แต่คิดคำบรรยายไม่ออกเลยต้องเขียนแบบนั้นอยู่เรื่อย อยากให้พี่ช่วยยกตัวอย่างของบทบรรยายของพระเอกประเภทนี้ให้หน่อยค่ะ จะได้เอาไปต่อยอด

1
กำลังโหลด
llZeaLll Member 25 ม.ค. 57 09:16 น. 4

ข้อ1นี่เห็นในนิยายแทบทุกเรื่องเลยค่ะ เลยแบบ อ้าว พระเอกนางเอกหน้าเหมือนกันทุกเรื่องเลยหรอนี่ 555555 ตอนม.ต้นเราเคยเล่นกับเพื่อนนะ แบบไปชมเพื่อนอีกคนว่ามีดวงหน้ามน ตากลมโต คิ้วโก่ง ริมฝีปากได้รูป บลาๆๆ อะไรงี้ เอาคำบรรยายที่เห็นบ่อยๆในนิยายมาชม มันรู้สึกแบบ ตลกอะ 5555

แล้วก็งงกันเองว่าถ้าหน้าตาแบบนี้จริงๆแล้วมันสวยหรอ มันออกจะสะพรึงๆยังไงไม่รู้ 5555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เด็กบ้านไกล Member 10 ก.พ. 57 01:55 น. 10

ข้อ2 เนี่ยแหละที่ทำให้ไม่ได้ลงมือแต่งจริงๆสักที แต่งประวัติตัวละครเป็นเดือน ยังเก็บไม่ครบทุกตัวเลย เอ่อ..

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Pirawain Member 6 มี.ค. 57 19:12 น. 13

คือเราเขียนชายรักชายอ่ะ ไม่ได้เขียนชายหญิง เพราะอย่างนั้นการที่จะเขียนนายเอกตากลมโต พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ จมูกรั้น ริมฝีปากอวบอิ่ม พระเอกตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหยักสวย

คงไม่ผิดใช่ไหม?

อมยิ้ม

1
editor_nong Member 7 มี.ค. 57 09:17 น. 13-1
ไม่ได้อยู่ที่ว่าใช้คำบรรยายแบบนี้กับตัวละครแบบไหน แต่อยู่ที่ว่า บรรยายแล้วเอื้อประโยชน์ให้กับนิยายของเราแค่ไหน ถ้านายเอกกับนางร้ายหน้าตาสวยเหมือนกัน จะบรรยายอย่างไรให้คนอ่านรู้ว่าหน้าตาทั้งคู่ไม่ได้เหมือนกันนะ นักเขียนบางคนจะบรรยายไปตามที่เคยอ่านมาคือ ตากลมโต แก้มชมพูระเรื่อ ฯลฯ ซึ่งถ้านักอ่านคนไหนจับผิดได้จะรู้เลยว่านี่มันคำบรรยายแบบเดียวกับที่บรรยายอีกตัวเลย แล้วจะบรรยายไปทำไมจริงไหม? เยี่ยม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Kawisara Lee Member 3 เม.ย. 57 23:18 น. 15

แล้วถ้าไม่บอกลักษณะของพระเอกหรือนางเอกเลยล่ะคะ แบบให้คนอ่านจินตนาการเอาเองเลย5555555555//ขอบคุณค่ะ รักเลย

1
editor_nong Member 4 เม.ย. 57 09:22 น. 15-1
ก็ได้นะ ถ้าเกิดมันไม่ได้มีอะไรพิเศษจริงๆ บรรยายไปแล้วไม่ช่วยอะไรจริงๆ ก็ไม่ต้องบอกอะไร ถ้าเรื่องเกิดในประเทศไทย นางเอกเป็นคนไทย เราก็ไม่จำเป็นต้องบอกสีผมสีตานางเอก คนอ่านจะรู้โดยสัญชาตญาณอยู่แล้วว่าจารุณีผมดำนะ สิ่งที่เราต้องเน้นคือนิสัย บุคลิก หรือทัศนคติของตัวละครที่มีผลต่อเรื่องมากกว่า เยี่ยม
0
กำลังโหลด
Giftziiez Member 5 เม.ย. 57 21:38 น. 16

หนูอยากจะลองแต่งบ้างแต่รู้สึกความสามารถยังอ่อนเกิดไป ^^" เลยได้แต่ดูของที่พี่ๆเค้าแต่งขึ้นมา หนูขาดความมั่นใจในตัวเองบางครั้งเพราะมีแต่เรื่องที่ทำให้หนูไหวหวั่น เลยไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาน่ะค่ะ T Tเสียใจอยากแต่งบ้างจังกลัวไม่รอด 

1
editor_nong Member 12 เม.ย. 57 17:29 น. 16-1
ไม่ลองไม่รู้นะ เรายังไม่ได้แต่งให้คนอื่นอ่านเลย จะรู้ได้ไงว่าเราเขียนไม่ดี เราอาจจะมีพรสวรรค์อยู่ในตัวแล้วก็ได้ มีนักเขียนหลายคนนะที่เริ่มเขียนนิยายแล้วคนก็ชอบเลย เยี่ยม
0
กำลังโหลด
princess of evil Member 13 เม.ย. 57 13:28 น. 17

อ่านจบแล้วก็มีกำลังใจจะแต่งนิยายต่อนะคะ 

แต่มันก็ยังไม่มั่นใจที่จะอัพลงเว็บอ่ะค่ะ T T เขิลจุง

0
กำลังโหลด
~ แมวมอง. -Bunri- .มองแมว~ Member 6 ม.ค. 58 06:07 น. 18

ของผมเสียเวลาทำประวัติฮะ.. กะเอาแบบ 3 มิติสุดๆ ต้องสมจริง สุดท้ายเขียนไปเขียนมาเบื่อละ 55 เลยปาโปรเจคที่คิดไว้ทิ้ง กลายเป็นว่าเสียเวลาไปเปล่าๆเลย

0
กำลังโหลด
Coffee Princess [เป็นโรคป่วยดาบ] Member 5 มี.ค. 58 19:09 น. 19

ประวัติตัวละคร อย่างขี้เกียจก็บอกแค่ชื่อ ขยันหน่อยบอกชื่อ วันเกิด อายุ ส่วนสูง นิสัยไม่เคยเขียน ให้มันยืดยุ่นในการแต่งจริง

ส่วนบรรยายตัวละครนี่ เคยคิดเสมอว่าบรรยายทุกส่วนนี่สำคัญมาก (นี่คือบรรยายนางเอกฟิคเรื่องแรก)เขิลจุง

เด็กสาวดวงตาสีน้ำเงิน ผมยาวสีดำเงางามโดยธรรมชาติ ที่ถูกตัดตรงเรียบสนิทราวกับใช้คัตเตอร์กรีดเป็นแนวขวาง ผิวพรรณสีขาวนวลชวนน่าสัมผัสสมกับที่ถูกดูแลมาอย่างดีตามฉบับลูกคุณหนู

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด