สรุปกิจกรรม "สร้างความขัดแย้ง"

        จากกิจกรรม "สร้างความขัดแย้ง" ในบทความ สร้าง Conflict ให้ตรึงใจคนอ่าน พี่น้องรู้สึกว่าต้องมาเปิดบทความใหม่แยกต่างหากเพื่อสรุปสิ่งที่เราได้จากกิจกรรมนี้ และเพื่ออธิบายเพิ่มเติมสำหรับบางคนที่อาจยังงงๆ กับ Conflict (ปรากฏงงกว่าเดิม = =")
 

เปรียบ Conflict ให้เหมือนวงล้อ

        จากกิจกรรม "สร้างความขัดแย้ง" มีหลายคนทีเดียวที่แต่งเติมรายละเอียดให้โจทย์จืดๆ ของพี่เรียบร้อยแล้ว แต่ลืมใส่ Conflict เพื่อเดินเรื่องต่อไปข้างหน้า เมื่อเราอ่านแล้วจึงไม่รู้สึกเหมือนเป็นนิยาย แต่เหมือนเป็นช่วงเกริ่นของนิยายมากกว่า ขอยกตัวอย่างงานของน้องคนหนึ่งซึ่งสำนวนภาษาโอเคทีเดียว
 
‘‘ป้อม’’ ชายหนุ่มที่มีหน้าตาธรรมดา  ชายหนุ่มที่มีหน้าตาจืดชืดไม่สะดุดตาใคร  ชายหนุ่มที่ไร้ความรู้สึก  ชายหนุ่มที่ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้ม
        ทุกๆเช้าป้อมจะคอยเข็นรถไอติมเก่าๆมาขายที่หน้าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง  ทำหน้าที่ตักไอติมให้กับเด็กๆ ที่เข้ามาซื้อด้วยใบหน้าอันเฉยเมยไร้ความ รู้สึก  ป้อมไม่เคยยิ้มให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อไอติม  แต่นั่นก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะไอติมของเขาก็ยังคงขายได้เรื่อยๆ  ป้อมไม่ได้รักเด็ก  ป้อมไม่ได้ชอบไอติมและไม่เคยคิดที่จะชอบมันด้วยซ้ำ  แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเคยทำให้เขามีความสุข  และเป็นเพียงความสุขครั้งสุดท้ายในชีวิต
        ‘‘ป้อม’’ หรือ ‘‘พี่ป้อม’’ ชายหนุ่มที่มีความมุ่งมั่น  ชายหนุ่มที่มีแต่อารมณ์ขันและรักครอบครัวเป็นที่สุด  ชายหนุ่มที่มีแววตาประกายเต็มเปี่ยมไปด้วยความฝัน  ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักของใครๆ  ตอนนี้เขากำลังคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายท่ามกลางกองเลือดและกองเก้าอี้พลาสติก ราคาถูกที่ล้มระเกะระกะหน้าร้านไอติม
        เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนป้อมพาน้องสาวและแม่มากินไอติมที่ร้านเล็กๆแห่งหนึ่ง แถวท้ายตลาดเพื่อฉลองให้กับน้องสาวคนเก่งที่สอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายชื่อ ดังได้  แม่และน้องสาวของป้อมดูมีความสุขเมื่อตักไอติมหวานๆ เข้าปาก  ทั้งๆที่ป้อมไม่ชอบกินของหวาน  ป้อมไม่ชอบกินไอติม  แต่ป้อมกลับรู้สึกมีความสุขที่เห็นรอยยิ้มของแม่และน้องสาว  รอยยิ้มของผู้ที่เป็นดั่งดวงใจ  ก่อนที่เสียงเอะอะโวยวายของกลุ่มวัยรุ่นที่ตีกันจะดังขึ้นพร้อมกับภาพความ สุขตรงหน้าที่ป้อมเห็นเป็นอันต้องพังทลายลง  น้องสาวและแม่ของป้อมกลายเป็น เหยื่อกระสุนปืนของพวกวัยรุ่น
        ป้อมร้องไห้ฟูมฟายจนวินาทีสุดท้าย  เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว  ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่ ‘‘ป้อม’’ ที่ไร้ความรู้สึก  ป้อมที่เฉยเมยต่อทุกสิ่ง  ป้อมที่ไร้รอยยิ้ม  ป้อมที่ไร้ความฝัน  ป้อมที่มีแววตาอันแสนหดหู่
        ป้อมละทิ้งทุกสิ่งและเลือกที่จะเข็นรถเข็นเก่าๆ เพื่อขายไอติมหวานๆ ที่เขาไม่ได้ชอบและไม่เคยชอบไปที่หน้าโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งทุกวันๆ  โรงเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเรียน  โรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าสอบเข้ายาก  โรงเรียนที่ป้อมได้ดูเด็กๆมีความสุขอยู่ภายนอกรั้วโรงเรียนด้วยแววตาอัน หดหู่ของเขา  โรงเรียนที่น้องสาวคนเก่งของเขาสอบติด  และเป็นโรงเรียนซึ่งน้องสาวของเขาไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้เรียน

        จริงๆ แล้วที่น้องเขียนมาคือเรื่องเต็มเลย ไม่ใช่แค่เรื่องย่อ เพราะมีการพรรณนา หรือให้รายละเอียดเหตุการณ์ เรื่องย่อจริงๆ คือ "ป้อมมาขายไอติมที่หน้าโรงเรียนทุกวัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชอบไอติมหรือชอบเด็ก แต่เขาทำเพราะเขาอยากเห็นโรงเรียนที่น้องสาวตัวเองควรจะเรียนอยู่ ถ้าเธอไม่โดนลูกหลงจากการทะเลาะกันเสียชีวิตไปเสียก่อน"

        ทีนี้มาดูหลักการใช้ Conflict ขับเคลื่อนเรื่องกัน
        ตัวละครก็เป็นเหมือนดุมล้อตรงกลาง เป็นศูนย์กลางของเรื่อง เรื่องทั้งหมดหมุนรอบตัวละคร และพาตัวละครเดินไปข้างหน้า ส่วน Conflict ก็ทำหน้าที่เหมือนเป็นกงล้อ มันจะผลักตัวละครให้ "ออก" จากสภาพชีวิตปัจจุบันที่เรื่องกำลังดำเนินอยู่ (เช่น ความสงบสุข) ไปสู่สภาพใหม่ที่แย่กว่า (เช่น สงคราม) แล้วตัวละครต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาหาสภาพชีวิตเดิมให้ได้ (แต่มักจะได้บทเรียนกลับมาด้วย)

        แต่บางทีถ้าตัวละครนั้นอยู่ในสภาพที่แย่อยู่แล้ว Conflict จะเป็นตัวผลักดันให้ตัวละครแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า (แต่ที่เห็นว่าดีนั้นก็ใช่ว่าจะดีสมบูรณ์แบบ) เมื่อตัวละครตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีมันไม่ได้ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ก็จะยอมรับในสภาพเดิมของตน

        ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เชอร์ล็อก โฮล์มส์เป็นตัวละครของเรา เราจะเล่าว่าเขามีลักษณะอย่างไร นิสัยอย่างไรก็ได้ แต่ต้องหาอะไรมาให้เขาทำ มีคดีมาให้เขาไข ไม่อย่างนั้นเรื่องก็จะไม่ดำเนินไปทางไหน เหมือนหากริยาให้ประธานในภาษาไทยนั่นเอง

        เรื่องที่ยกตัวอย่างไว้ข้างบนนั้นไม่ได้ผิด เพียงแต่มันน่าจะมีเรื่องราวต่อจากนั้น วิธีแก้ก็คือคิดพล็อตเพิ่มจากเดิม จะให้ป้อมทำอะไรต่อหลังจากที่เขาสูญเสียทุกอย่างแล้ว เขามีวางแผนแก้แค้นอะไรหรือเปล่า ฯลฯ หรือปรับพล็อตที่มีอยู่ให้ขยายออกตรงกลาง เปิดเรื่องมาเป็นป้อมที่ไม่ค่อยจะเข้ากันดีกับน้องเท่าไร ตีกันอยู่เรื่อยแต่จริงๆ แล้วรักมาก พยายามขายไอติมช่วยแม่หาเงินให้น้องเรียน แล้ววันแห่งความสำเร็จก็มาถึง น้องเขาสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังได้ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันเสียก่อน ตอนนั้นเองเขาจึงได้พูดคำว่า "รัก" กับน้องออกไป แต่เธอไม่อยู่ฟังแล้ว
 

เราสร้างตัวละครไปพร้อมกับ Conflict

        สิ่งที่พี่สังเกตจากเรื่องย่อ (หรือบางอันก็ไม่ค่อยย่อนัก) ของแต่ละคนที่ส่งมาคือ "ป้อม" ตัวละครที่โจทย์ให้มาแค่เป็นหนุ่มขายไอติมไร้อารมณ์มาก ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราจะสร้างเรื่องสักเรื่อง ข้อมูลตัวละครแค่นี้คงไม่พอ ทุกคนก็พยายามสร้างป้อมในแบบของตัวเอง อาจจะเป็นป้อมที่ดูภายนอกไร้ความรู้สึก แต่ภายในเป็นหนุ่มโรคจิต หรือเป็นป้อมที่มีปมในอดีต อะไรก็ว่าไป

        เราคงไม่รู้ตัวกันว่าในขณะที่เราพยายามสร้าง Conflict ของเรื่อง เราก็สร้างตัวละครขึ้นมาเหมือนกัน โจทย์ที่พี่ให้มาเป็นตัวละครที่ "หา Conflict ได้ง่ายๆ" เพราะป้อมเป็นคนธรรมดา ไม่มีอะไรเลย แค่ใส่อะไรที่ผิดไปจากธรรมดาเพียงนิดเดียว ก็เขียนเรื่องได้แล้ว

        แต่ป้อมก็เป็น "ตัวละครที่สร้างยาก" เหมือนกัน เราต้องจำแนกก่อนว่าคนที่จะแสดงออกนิ่งๆ เป็นคนแบบไหนบ้าง คนขี้อาย? คนเคร่งขรึม? คนเฉื่อยชา? คนแอบจิต? หลังจากนั้นเราถึงเลือกว่าตัวละครนิ่งแบบไหนถึงจะเข้ากับเรื่องที่เราคิดไว้

        มีหลายคนที่พยายามเจาะเข้าไปในใจของป้อม หรือ "ให้เหตุผล" กับความนิ่งของเขา ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีในการสร้างนิยายขึ้นมาสักเรื่อง ทำให้ป้อมเป็นตัวละครที่กลมมากขึ้น และทำให้คนอ่านอยากรู้จักเขามากกว่านี้
 

เรื่องย่อต้องอย่ายาว

        สุดท้ายไม่เกี่ยวกับบทเรียน แต่เกี่ยวกับลักษณะการเขียนของพวกเราเอง ตามกติกาพี่เขียนว่า
 
        เขียนมาเป็นเหมือน "เรื่องย่อ" ไม่จำเป็นต้องใส่บทพูด บทบรรยาย เหมือนเล่าพล็อตคร่าวๆ ให้เพื่อนฟัง ภาษาไม่ต้องสละสลวยจ้ะ

        ใครรู้ตัวว่าไม่ได้ทำตามนี้ยกมือซะดีๆ = ..=

        กิจกรรมนี้พี่ไม่ซิเรียส เพราะอยากจะดูเฉยๆ ว่าใส่ Conflict กันเป็นไหม แต่สำหรับการประกวดอื่นๆ ที่เขาต้องการเรื่องย่อ (อย่าง นักเขียนหน้าใส หรือ Enter Books Writer) หรือแม้แต่การส่งเรื่องย่อให้สำนักพิมพ์พิจารณาพร้อมกับต้นฉบับ เราต้องเขียน "เรื่องย่อ" จริงๆ เนื้อเน้นๆ ไม่เอาน้ำ ไม่เอาบทสนทนา ไม่เอาพรรณนา ไม่เอาบรรยายฉาก

        เรื่องย่อที่ยาวไป จะโดนกรรมการหรือบก. อ่านผ่านๆ บางทีอาจเป็นเรื่องดี แต่พอข้ามบางจุดไป เรื่องก็หล่นลงไปอยู่ในถังขยะได้ เช่นกันกับเรื่องย่อที่สั้นกว่าคำโปรยปกหลัง ไม่ยอมบอกตอนจบ นี่ก็โดนสะบัดปลิวเหมือนกัน (แต่กิจกรรมนี้พี่อ่านทุกคำนะ แค่คอมเม้นต์ได้ไม่หมดทุกคน เพราะต้องรีบเฉลย)

        เอาไว้มีโอกาส เรามาฝึกเขียนเรื่องย่อก็แล้วกัน ดูท่าจะเป็นปัญหาใหญ่ของมือใหม่ทุกคน
 

ประกาศรายชื่อ 8 คนที่ได้รางวัล
(หนังสือที่ได้จะหยิบสุ่มๆ เอานะ)


ผู้โชคดีทั้ง 8 คนให้แจ้งชื่อ-ที่อยู่ได้ที่ กล่องข้อความลับ เลย
Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

คะเน Member 17 เม.ย. 57 19:36 น. 3

อ่ะ เพิ่งจำได้ว่ามีกิจกรรมนี้ T^T

แต่ก็ขอยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยนะครับผม ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

8 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
คะเน Member 17 เม.ย. 57 19:36 น. 3

อ่ะ เพิ่งจำได้ว่ามีกิจกรรมนี้ T^T

แต่ก็ขอยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยนะครับผม ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด