สวัสดีชาวเด็กดีที่รักการอ่านทุกคน วันนี้พี่ตินก็กลับมาพร้อมกับคอลัมน์ Book of the Month สำหรับเดือนที่เจ็ดของเรา เรามาพร้อมกับหนังสือแฟนตาซีที่กำลังฮิต เพราะน่าจะจัดอยู่ในหมวด “จิ้นวาย” ตามที่นักเขียน LadyBlack ได้บอกไว้ ชื่อเรื่องคือ Blood Incident ทีมผมไม่ (วุ่น) วายนะครับ สำนักพิมพ์คุณภาพ สถาพรบุ๊คส์
เนื้อหาของเรื่องนั้นเป็นแนวแฟนตาซีที่ซับซ้อนซ่อนอะไรไว้มากมาย จนนักเขียนเจ้าของเรื่องกำชับพี่ตินว่าห้ามสปอยล์เด็ดขาด! ได้ งั้นเราจะเล่าเพียงคร่าวๆ ว่าตัวละครเด่นของเรื่องนี้มีสี่ตัว ได้แก่ จินเรย์ พระเอกและลูกทีม หรือพระรองทั้งสาม เคเลน ชาร์ลัน และคาลี ทั้งสี่คนเข้าแข่ง “ซันไทน์เกม” ในฐานะทีม และรางวัลของผู้ชนะเกมนี้ มีทั้งเกียรติยศเงินทอง และผู้ชนะยังสามารถขอพรต่อองค์เทพราชาได้หนึ่งอย่าง
ขอย้อนกลับไปเล่าตอนต้นนิดนึง ดินแดนภายในเรื่องนั้นแบ่งออกเป็นสามดินแดนหลัก ได้แก่ ซันไทน์ แกรนดอส และเหมนครา (ชื่อหลังอ่านยากมาก) และทั้งสามดินแดนมีอาณาเขตเชื่อมต่อกันหมด
ซันไทน์ที่พูดถึงในเรื่องเป็นอาณาจักรที่เผ่าชาวฟ้าเป็นผู้ชนชั้นปกครอง อาศัยอยู่บนเมืองลอยฟ้าหรือสรวงสวรรค์ ส่วนประชาชนใต้ปกครอง อาศัยอยู่บนผืนดินเบื้องล่าง ชาวฟ้ามีพลังอำนาจเวทมนตร์เหนือมนุษย์ แตกต่างจากมนุษย์คือมีปีกสีขาว ส่วนมนุษย์ก็มีที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้แต่มีพลังน้อยกว่าชาวฟ้า และยังมีที่เป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีพลังเวทใดๆ
นอกจากคนมีเวทและไม่มีเวทแล้ว ยังมีรูนโซล อีก และรูนโซลนี้ก็คือร่างเวทจำลองที่ผู้ใช้เวทสร้างขึ้นมาจนมีรูปร่างประหนึ่งมนุษย์ จะมีตราประทับบนร่างเพื่อแสดงให้เห็นว่านั่นคือร่างรูนโซล ความลึกลับของรูนโซลมีอยู่มากมายและน่าจะเป็นคีย์สำคัญของเรื่องเลย
เพราะฉะนั้น อยากให้น้องๆ ไปหาอ่านเอาเอง พี่ตินพูดมากก็สปอยล์จนได้ เดี๋ยวคนเขียนมาฆ่าเอา เอาเป็นว่านิยามสั้นๆ รูนโซลเนี่ยมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เสกก็แล้วกันนะ ง่ายๆ
เอาละ ย้อนกลับไปตรงเมื่อกี้ต่อก่อน เรื่องย่อก็คือตัวละครทั้งสี่ไปแข่งซันไทน์เกม สนามแข่งจะเป็นรูปวงกลม มีภูเขาอยู่ตรงกลาง และบนยอดเขานี่แหละที่ตั้งของเป้าหมาย ที่เรียกกันว่า “วิหารเทวา” เจ้าชายอัสลาน บุตรของเทพราชา ประธานการแข่งขัน จะรออยู่พร้อมสององครักษ์และคณะสมาชิกสภาเทวะ ใครไปถึงก่อนก็จะชนะว่าง่ายๆ อย่างนั้นเถอะ และระหว่างการแข่งขันนี้เอง เรื่องราวที่ลับและไม่ลับก็เปิดเผยออกมาเต็มไปหมด ทั้งสี่หนุ่มก็จะต้องฝ่าฟันกันไป ต่อสู้ร่วมกันไป ด้วยแรงแห่งมิตรภาพ และพลังวาย (อะไรนะ)
ขอย้อนกลับไปเล่าตอนต้นนิดนึง ดินแดนภายในเรื่องนั้นแบ่งออกเป็นสามดินแดนหลัก ได้แก่ ซันไทน์ แกรนดอส และเหมนครา (ชื่อหลังอ่านยากมาก) และทั้งสามดินแดนมีอาณาเขตเชื่อมต่อกันหมด
ซันไทน์ที่พูดถึงในเรื่องเป็นอาณาจักรที่เผ่าชาวฟ้าเป็นผู้ชนชั้นปกครอง อาศัยอยู่บนเมืองลอยฟ้าหรือสรวงสวรรค์ ส่วนประชาชนใต้ปกครอง อาศัยอยู่บนผืนดินเบื้องล่าง ชาวฟ้ามีพลังอำนาจเวทมนตร์เหนือมนุษย์ แตกต่างจากมนุษย์คือมีปีกสีขาว ส่วนมนุษย์ก็มีที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้แต่มีพลังน้อยกว่าชาวฟ้า และยังมีที่เป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีพลังเวทใดๆ
นอกจากคนมีเวทและไม่มีเวทแล้ว ยังมีรูนโซล อีก และรูนโซลนี้ก็คือร่างเวทจำลองที่ผู้ใช้เวทสร้างขึ้นมาจนมีรูปร่างประหนึ่งมนุษย์ จะมีตราประทับบนร่างเพื่อแสดงให้เห็นว่านั่นคือร่างรูนโซล ความลึกลับของรูนโซลมีอยู่มากมายและน่าจะเป็นคีย์สำคัญของเรื่องเลย
เพราะฉะนั้น อยากให้น้องๆ ไปหาอ่านเอาเอง พี่ตินพูดมากก็สปอยล์จนได้ เดี๋ยวคนเขียนมาฆ่าเอา เอาเป็นว่านิยามสั้นๆ รูนโซลเนี่ยมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เสกก็แล้วกันนะ ง่ายๆ
เอาละ ย้อนกลับไปตรงเมื่อกี้ต่อก่อน เรื่องย่อก็คือตัวละครทั้งสี่ไปแข่งซันไทน์เกม สนามแข่งจะเป็นรูปวงกลม มีภูเขาอยู่ตรงกลาง และบนยอดเขานี่แหละที่ตั้งของเป้าหมาย ที่เรียกกันว่า “วิหารเทวา” เจ้าชายอัสลาน บุตรของเทพราชา ประธานการแข่งขัน จะรออยู่พร้อมสององครักษ์และคณะสมาชิกสภาเทวะ ใครไปถึงก่อนก็จะชนะว่าง่ายๆ อย่างนั้นเถอะ และระหว่างการแข่งขันนี้เอง เรื่องราวที่ลับและไม่ลับก็เปิดเผยออกมาเต็มไปหมด ทั้งสี่หนุ่มก็จะต้องฝ่าฟันกันไป ต่อสู้ร่วมกันไป ด้วยแรงแห่งมิตรภาพ และพลังวาย (อะไรนะ)
พล็อตซับซ้อนดี - - นั่นคือสิ่งแรกที่รู้สึกเลยหลังจากอ่านพล็อตย่อๆ จบ และเมื่ออ่านในเล่มต่อมา ก็พบว่าเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เน้นเล่นมุกตลกโปกฮา ตัวละครก็น่ารักและขำขำดี ออกแนวยิ้มๆ และชวนให้นึกถึงพวกเกมออนไลน์ซึ่งพี่ตินเคยชอบเล่นมาก พวกที่ให้ตัวละครเดินทางไปเป็นทีม แล้วฝ่าฟันพบเจออุปสรรคและมีเรื่องราวต่างๆ เปิดเผยมาเรื่อยๆ นั่นแหละเรื่องนี้ก็เป็นอย่างนั้น
ลักษณะการเขียนอยู่ที่การขายตัวละครแต่ละตัว ซึ่งต่างก็มีเรื่องเล่าซ่อนอยู่ในตัวตนของตัวเอง และระหว่างทางที่เรื่องดำเนินไป เรื่องราวเหล่านั้นก็ค่อยๆ เปิดเผยคลี่คลายออกมา ให้เราได้รับรู้และทึ่งไปกับวิถีชีวิตของเขา และบังเอิญอีกเช่นกันที่วิถีชีวิตของตัวละครแต่ละตัว มันก็จะมาเชื่อมโยงกันอีก จนทำให้นึกถึงคำว่า “ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล” เพราะทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันไปหมดนั่นเอง
และเมื่ออ่านจบเล่ม เราก็นึกถึงภาคต่อทันทีว่ามันจะเป็นอย่างไร ตัวละครแต่ละตัวจะต้องเผชิญกับอะไรอีกบ้าง และจะเติบโตขึ้นในแง่มุมไหน จินเรย์ เคเลน ชาร์ลัน และคาลี พวกเขาจะต้องเจอกับอะไรหลังจากนี้ และการพบเจอกับเรื่องราวเหล่านั้น จะส่งผลอะไรต่อมิตรภาพและตัวตนของพวกเขาบ้าง
ใครอยากรู้ว่าเรื่องราวที่พวกเขาทั้งสี่ได้พบเจอเป็นอย่างไร ไปจัดหนังสือมาดูซะนะ พี่ตินไม่สปอยล์หรอก นักเขียนขู่ไว้ อิอิ ยังไงก็รอภาคต่อนะจ๊า รีบๆ เขียนเข้าละ ^ ^
ลักษณะการเขียนอยู่ที่การขายตัวละครแต่ละตัว ซึ่งต่างก็มีเรื่องเล่าซ่อนอยู่ในตัวตนของตัวเอง และระหว่างทางที่เรื่องดำเนินไป เรื่องราวเหล่านั้นก็ค่อยๆ เปิดเผยคลี่คลายออกมา ให้เราได้รับรู้และทึ่งไปกับวิถีชีวิตของเขา และบังเอิญอีกเช่นกันที่วิถีชีวิตของตัวละครแต่ละตัว มันก็จะมาเชื่อมโยงกันอีก จนทำให้นึกถึงคำว่า “ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล” เพราะทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันไปหมดนั่นเอง
และเมื่ออ่านจบเล่ม เราก็นึกถึงภาคต่อทันทีว่ามันจะเป็นอย่างไร ตัวละครแต่ละตัวจะต้องเผชิญกับอะไรอีกบ้าง และจะเติบโตขึ้นในแง่มุมไหน จินเรย์ เคเลน ชาร์ลัน และคาลี พวกเขาจะต้องเจอกับอะไรหลังจากนี้ และการพบเจอกับเรื่องราวเหล่านั้น จะส่งผลอะไรต่อมิตรภาพและตัวตนของพวกเขาบ้าง
ใครอยากรู้ว่าเรื่องราวที่พวกเขาทั้งสี่ได้พบเจอเป็นอย่างไร ไปจัดหนังสือมาดูซะนะ พี่ตินไม่สปอยล์หรอก นักเขียนขู่ไว้ อิอิ ยังไงก็รอภาคต่อนะจ๊า รีบๆ เขียนเข้าละ ^ ^
19 ความคิดเห็น
ฟังดูน่าสนุกนะครับ 555+
เดี๋ยวจะนับตังค์ซื้อ
ว้าว!!!
น่าอ่านสุดๆ!!
ต้องไปหาซื้อแล้ว!!
ขอบคุณพี่อตินที่แนะนำจ้า
โอ้ ว้าว -.-
อยากอ่าน อ่ะ
เป็นนิยายที่น่าสนมากเรื่องนึง เหอะๆ
น่าสนุกนะค่ะ ชื่อเรื่องก็ว๊ายวายชวนให้หัวใจจะวาย55 //วิ่งไปร้านหนังสือ
กี่บาทอ่า น่าสนใจมากเลยยยยย
เห็นชื่อคนวาดเป็น Dreamworm แล้วเห็นทีจะไม่ซื้อไม่ได้ ปกโดนมากๆเลยค่ะ TT v TT
ยิ่งเป็นแนวจิ้นด้วยแล้ว ยิ่งน่าซื้อเข้าไปอีก โบกมือลาเงินเก็บ สวัสดีหนังสือใหม่ค่ะ
น่าอ่านสุดๆเลยครับ
ซื้อแล้วค่ะ สนุกมากอ่านแล้วทำให้อยากอ่านอีก
ผมได้มาแว้ว สนุกมากเลยครับ พึงอ่านถึงบทสองเอง