แต่ระหว่างรอลุ้นนี้ พี่น้องก็มีอะไรมาฝาก เป็น 'ข้อผิดพลาด' บางอย่างที่พี่เจอระหว่างอ่านผลงานของน้องๆ ทั้งในการประกวดโครงการใหญ่ของแจ่มใส หรือการประกวดเรื่องสั้นวันแม่ที่ผ่านมา ซึ่งข้อผิดพลาดที่พี่น้องหยิบมาให้ดูกันตรงนี้ ใครที่ไม่ได้แต่งนิยายส่งประกวดก็อาจจะกำลังทำอยู่เหมือนกัน อ่านแล้วก็ลองกลับไปสำรวจนิยายตัวเองกันดูนะ
เปลี่ยนมุมมองตามใจฉัน
แต่มุมมองบุคคลที่ 1 เป็นมุมมองจำกัด ถ้าจะใช้ในการเขียนต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะมุมมองนี้ทำให้เกิด "จุดบอด" ในนิยาย จุดที่ตัวละครไม่รู้ คนอ่านก็ไม่รู้เหมือนกัน เช่น
พล็อต: A แอบชอบ B เลยขอให้ C ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ A ช่วยเป็นแม่สื่อให้ แต่ A ไม่รู้เลยว่า C เองก็แอบชอบ B เหมือนกัน (คนอ่านก็จะไม่รู้ เพราะเล่าผ่านมุมมอง A หมด) แต่อยากให้มีสักฉากหนึ่งเหลือเกินที่คนอ่านได้เห็นแผนการที่ C วางไว้
จะทำยังไงล่ะ? เล่าผ่าน A ไม่ได้เพราะ A ต้องไม่รู้อะไรเลยจนกว่าจะจบเรื่อง (ไว้ใจเพื่อนตัวเองเต็มที่) แต่เราอยากให้คนอ่านรู้ก่อน
เนื่องจากการประกวดนักเขียนหน้าใสบังคับให้น้องๆ วางพล็อตกันไว้ก่อนอยู่แล้ว เราจึงควรรู้ตัวแต่แรกแล้วว่าจะเล่าด้วยมุมมองแบบไหนถึงจะ "เก็บเนื้อหา" ที่เราต้องการได้ครบหมด โดยไม่ต้องเปลี่ยนมุมมองสะเปะสะปะแบบนี้
ถ้าเราคิดว่าควรสลับแบบ มุมมองบุคคลที่ 1 นางเอก-พระเอก ไปเรื่อยๆ ก็ต้องทำอย่างนี้ต่อเนื่องไปจนจบ เฉลี่ยให้มันพอดีๆ กัน หรือถ้าเราคิดว่าเราไม่ไหวกับมุมมองนี้ ขอแบบปลอดภัยไว้ก่อนก็เปลี่ยนไปเลือกมุมมองบุคคลที่ 3 แทนดีกว่า
เปิดเรื่องด้วยอะไรซ้ำๆ
ที่พี่เจอบ่อยมากคือ...
เว้นเสียแต่ว่า "ตัวละคร" ของเรามีบุคลิกลักษณะ หรือความสามารถบางอย่างที่พิเศษมากๆ และสำคัญต่อพล็อตเรื่องสุดๆ จนถ้าพูดไปนี่คนอ่านต้องตามอ่านอย่างแน่นอน เราถึงจะเปิดเรื่องด้วยวิธีคลาสสิกนี้ได้
แต่ถ้ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องเลย แค่ชอบเฉยๆ แบบนี้อย่าใส่ดีกว่า
อีกเรื่องที่ ต้องระวังคือเรื่องลิขสิทธิ์ การเอา เนื้อเพลง ไม่ว่าจะของไทยหรือเทศ มาใส่ในนิยายของเรา ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แม้ว่าจะใส่ชื่อนักร้อง ชื่อเพลง ชื่อค่าย ชื่อคนแต่ง ฯลฯ ให้แล้วก็ตาม
หลายคนอาจจะบอก โอ้ย ใครๆ ก็ทำกัน นักเขียนรุ่นครูยังทำ ไม่เห็นมีใครฟ้อง เขามีสิทธิ์ฟ้องได้นะคะ ถึงเขาจะไม่ทำ เกิดเป็นเราแจ็คพ็อตเขาฟ้องขึ้นมาทีนี้ล่ะเก็บตังค์ขึ้นศาลกันสนุกเลย ถ้าอยากโฆษณาเพลงให้ค่าย XYZ ส่งเมล์/โทรศัพท์ไปติดต่อกับค่ายโดยตรงเลยค่ะว่าจะขอนำมาใช้ มีเก็บเงินหรือเปล่า?
ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
- ชื่อเรื่องพิมพ์ผิด/ไวยากรณ์ผิด/ทำตัวเล็ก-ใหญ่ไม่เป็น
- ชื่อตอน (แบบชื่อเรื่องเป๊ะ)
- ชื่อตัวละคร
- ชื่อสถานที่ต่างๆ
- คำคม (ถ้าคิดเองมักจะสะกดผิด ใช้คำแปลกๆ แทนที่จะซึ้งเลยกลายเป็นกุมขมับแทน)
- เนื้อเพลงภาษาอังกฤษ (ซึ่งแถมคำแปลมาให้คนอ่านด้วยเผื่อแปลไม่ออก แต่ดันแปลผิดอีก!)
- บทสนทนาของชาวต่างชาติ (เจ้าของภาษายังพูดผิดเองเลย ถ้ารู้ว่าไม่แม่นจริงๆ ใช้ภาษาไทยธรรมดา แล้วเขียนต่อท้ายว่า เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ก็ได้)
ยิ่งมาพลาดตั้งแต่ชื่อเรื่องก็จบเลย กรรมการจะเลือกเข้ารอบได้ยังไงถ้าแค่ชื่อเรื่องก็ผิดแล้ว
ดังนั้น พี่น้องแนะนำให้เช็คดีๆ ว่าเขียนถูกแล้วหรือยัง ใช้คำแปลกหรือเปล่า ถ้าเราเช็คเองไม่ได้ ให้เพื่อนเช็คก็ไม่ได้ ให้อาจารย์เช็คก็ไม่ได้ ก็เลี่ยงไปใช้ภาษาไทยดีกว่า (ภาษาไทยบางคนยังเขียนผิดๆ ถูกๆ เลยนะ)
พี่รู้ว่าเรากำลังจะเข้าสู่ AEC และหน่วยงานต่างๆ เขากระตือรือร้นกันมาก แต่ถ้ายังไม่พร้อมไม่ต้องรีบเข้าก็ได้
เล่าแบบอ่านการ์ตูน
ในฐานะที่เราเป็น "นักเขียน" ไม่ใช่ "นักวาด" นักวาดเขาใช้เส้นสีในการสื่อสารกับคนดู นักเขียนเราใช้ 'ตัวอักษร' ในการสื่อสาร มีตัวอักษรไทยสวยๆ ให้ใช้ได้แล้ว ใช้ให้เต็มที่เถอะ ไม่ต้องประหยัดคำขนาดนี้ก็ได้
เราอาจจะอ่านการ์ตูนมากไปจนชินกับอะไรแบบนี้ แต่เราลืมไปว่า การ์ตูนมันมีภาพเป็นองค์ประกอบหลัก ตัวหนังสือเป็นองค์ประกอบเสริม กลับกัน นิยายมีตัวหนังสือเป็นองค์ประกอบหลัก ภาพที่แทรกๆ เข้ามาแค่ช่วยทำให้หน้ากระดาษมันสวยขึ้น หรือแฝงนัยบางอย่างที่คนอ่านต้องตีความเอง ต้องแยกให้ออกว่าสิ่งที่เราทำคืองานประเภทไหนกันแน่
เราคือ 'ผู้สื่อสารด้วยการเขียน' ถ้าสื่อสารด้วยการเขียนไม่เป็น จะเรียกตัวเองว่า "นักเขียน" ได้หรือ?
สุดท้ายนี้ที่พี่น้องอยากจะเตือนอีกอย่างก็คือ "นักเขียนที่ดี" ส่วนใหญ่เป็น "ผู้อ่านที่ดี" มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นในการประกวดหรือในการส่งผลงานโดยตรงกับสำนักพิมพ์ เราต้อง "อ่าน" กติกาที่บรรณาธิการ/กรรมการวางไว้ให้ละเอียด มันอาจจะดูเป็นทางการจนอ่านไม่รู้เรื่อง ยาวยืดเยื้อน่าเบื่อ แต่ยังไงก็ต้องอ่าน
ชีวิตจริงไม่มีใครเตือนเราว่านี่ทำไม่ได้ นั่นทำไม่ได้ เราต้องรู้เอง ถ้าเราไม่รู้ เราก็ต้อง "ไขว่คว้า" ให้ตัวเองรู้ให้ได้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหรือเสียโอกาสบางอย่างไปนะจ๊ะ
42 ความคิดเห็น
เราเคยได้เกรด 3 กับเกรด 4 วิชาภาษาอังกฤษตอนเรียนประถมกับม.ต้นยังไม่รอดเลย
ฉันชื่อแลคโตบาซิลัส 5555+ //ลั่น ชื่อคนหรือคะพี่ 555+ สงสัยพระเอกจะชื่อยาคูลท์...ไม่ก็นมเปรี้ยวทั้งหลายแหล่
คนตั้งเขามีความอินเตอร์สูงค่ะ ต้องตามสมัยนิยมเนอะ เข้าสู่อาเซียนแล้วนา้า พี่สาวเค้าชื่อจุลินทรีย์ค่ะ //หัวเราะเบาๆ
เอาไปใช้ปรับปรุงตัวแปบ 55555
ขอบคุณค่ะ
5555+ แต่ที่สงสัยคือทำไมนิยายแบบนี้ยังฮิต(ทั้งอ่านและแต่ง)มานานแสนนาน.. //แอบเศร้านิดหน่อยตรงที่เพื่อนในห้องบอกว่านิยายผมห่วยเพราะไม่มีอีโมติคอน และก็นางเอกเหมือนผู้ชายเกินไป(นางเอกผมแค่ไม่ง้องแง้งเอง) แล้วก็โดนเปรียบเทียบแพ้กับแบบที่ 4
//ยิ่งคิดยิ่งเศร้า
อื้อหือ...รู้สึกความหวังลอยหายไกลออกไปชอบกลนะ ถึงเราจะไม่ค่อยผิดตามหัวข้อ (เพราะเจ็บมาหลายปี) แต่รู้สึกว่าเจ๊ๆ เคี่ยวกันมากจริงๆ แล้วนิยายเค้าจารอดมั้ยเนี่ย
ตลก 555555 คือก็ต้องยอมรับอะนะคะว่าวัยรุ่นสาวๆ ส่วนใหญ่เริ่มแตะนิยายก็เพราะนิยายแนวแจ่มใส แล้วเขาก็จะพบแต่สิ่งไม่มีชีวิตชื่ออิโมติค่อน โดยรู้สึกแค่ว่า อิโมติค่อนมันก็สื่ออะไรได้เยอะนะ!! เขาเลยคิดว่า นิยายฉันน่าจะทำอย่างนั้นบ้าง ผลที่ออกมาคือ บรรยายไม่จำเป็นต้องมี ขอแค่คนอ่านรู้จักอิโมติค่อนก็เพียงพอแล้ว
กรี๊ด >_< ว้าว *0* ไม่นะ TT โอ๊ย -O- ...
นั่นสิคะ นักเขียนจำเป็นต้องเป็นนักอ่าน แต่นักอ่านไม่จำเป็นต้องเขียน เราก็ไม่ได้เขียนดีอะไร (เอาจริงๆ คือไม่ดีเลย) แต่ก็อ่านได้เยอะและวิจารณ์ได้แน่ๆ เวลาเจอนักอ่านบางท่านมาขอให้วิจารณ์นิยายของเขาที่เป็นแนวนี้ส่วนใหญ่เราจะทำใจแต่เนิ่นๆ แล้วว่าจะต้องเจอประเทศแห่งอิโม่ และแล้วก็เจอจริงๆ จนแทบจะหายใจออกเป็นอิโม่ หรือบางท่านก็แทบบรรยายไม่เป็น เราเคยเจอประเภท
น้ำ :: สวัสดี ^^
ฟ้า :: ฉันว่าอากาศดีจัง
//โครม
ฝ้าย :: โอ๊ย เธอชนฉันทำไม
เป็นต้น
อ่านแล้วเล่นเอามึนไปสามวันเจ็ดวันค่ะ
เปิดด้วยเสียง... เปิดบ่อยมาก55555
แต่เรื่องที่ส่งไป(อีกไอดี)ไม่ได้เปิดด้วยเสียงนะเอ้อ
ปล. แปะขำๆ เจอมานานแล้วเห็นว่าฮาดี แคปไว้นานละจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว
ขออนุญาตพูดตรง ๆ นะคะ อย่าโกรธกันนะ
ข้อ 1, 2, 4 น่ะ สนพ.ที่แปะอยู่มุมขวาบนของบทความนี้น่ะ ตัวดีเลยค่ะ นักเขียนเป็นกันทุกคนเลย เคยเอาของน้องสาวมาอ่าน อ่านได้ไม่ถึง 5 นาที โยนทิ้งเลยค่ะ คิดเอาเองนะคะ ว่านักเขียนไม่มีฝีมือ จึงไม่สามารถเขียนให้มันปกติแบบที่นักเขียนดี ๆ คนอื่น ๆ ทำได้ ผลงานของเขาก็ขายได้แค่สนพ.เดียวล่ะค่ะ ถ้าไปสนพ.อื่น อย่างสถาพรเงี้ย ต้นฉบับถูกโยนลงถังขยะไปนานแล้ว
แล้วก็น่าแปลกนะคะ ที่พี่มาเขียนบทความแบบนี้ให้สนพ.ที่ว่า ขนาดเขายังบังคับให้นักเขียนในสังกัดเขียนดี ๆ ไม่ได้ แล้วจะมาบังคับนักหัดเขียนคนอื่นเพื่อ???
ติเพื่อก่อนะคะ ไม่ใช่จ้องทำลายล้างหรือดิสเครดิต คิดจะเป็นภูเขาที่ยิ่งใหญ่ ต้องหัดฟังเสียงของต้นหญ้าเล็ก ๆ ค่ะ
เอ่อ เราเองก็ชอบสนพ.นี้มากๆเลยนะ (แอบเห็นด้วยกับคอมเมนท์ 8)
แต่ว่าแต่ละหัวข้อเนี่ย หนังสือที่ตีพิมพ์ออกมาก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรอคะ
โดยเฉพาะในเรื่องภาษาต่างประเทศ เราก็เห็นว่าใช้ผิดไวยากรณ์อยู่นะ ตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษด้วยซ้ำนะคะ ภาษาอื่นก็มี อันนี้เราขอไม่พูดก็แล้วกันนะ
ไม่ได้จะแย้งหรืออะไรหรอกค่ะ สิ่งที่กระทู้นี้นำเสนอมาก็ถูกนะคะ แต่เราอ่านแล้วยังมีความรู้สึกแปลกๆ ประมาณว่าสนพ.นั้นก็เป็นเหมือนกันไม่ใช่หรอ
อันนี้เป็นเพียงความคิดเห็นนะคะ ที่อยากให้ได้รับรู้จากมุมมองของคนที่ชอบสนพ.นี้เหมือนกันและอยากเป็นนักเขียนด้วย ไม่ได้มีเจตนาทางด้านลบค่ะ
ข้อ 1 อ่า พลาดแบบนี้ไปตอนประกวดปีที่แล้วค่ะ รู้สึกอับอายเบาๆ // ปิดหน้า
ข้อ 2 อืม อันนี้ไม่พลาดเพราะเปิดมาถึงก็บรรยายเลย รอบแรกเปิดมาด้วยการที่นางเอกบ่นว่า 'เหนื่อย...' ส่วนรอบสองนี่เปิดมาด้วยพระเอกบอกว่า 'ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝัน...' ไม่ซ้ำๆ เย่! แต่... คราวที่แล้วพลาดเพราะเอาเพลงมาใส่ด้วย...
ข้อ 3 อันนี้ก็ไม่พลาดแน่นอน เพราะใช้ภาษาอังกฤษคำเดียวจบ แล้วก็ไม่ใช้อีกเลย เย่
ข้อ 4 อันนี้ไม่พลาดสุดๆ เพราะบรรยาย (พล่าม) ไปเยอะมาก
สรุป รอบนี้พลาดไม่เยอะ แต่อะไรๆ ก็ไม่แน่ จะติดหรือไม่ติดก็ยังไม่รู้ แง
เท่าที่เคยอ่านนิยายไทยมา...ผมได้เห็นการเล่าเรื่องของนักเขียนสองแบบนะครับ (อันนี้กำลังพูดถึงเฉพาะเรื่องการใช้อิโมติคอล กับตัวหนังสือนะครับ) แบบเล่าเรื่องแล้วใช้ อิโมติคอล สอดแทรกเข้ามาด้วย กับแบบดั้งเดิมที่เล่าเรื่องบรรยายด้วยตัวอักษรล้วนๆ อ่านยังไงผมก็ว่าแบบบรรยายด้วยตัวอักษรล้วนๆ ยังคงให้อารมณ์ให้รายละเอียดได้เยอะกว่ามีเสน่ห์กว่านะครับ ขนาดไม่ได้ใส่อิโมติคอลผู้เขียนก็ยังสารถทำให้ผู้อ่านทราบอารมณ์หรือบรรยากาศในตอนนั้นๆ ได้อย่างดีเยี่ยมและจินตนาการได้อย่างไม่รู้จบจริงๆ ผมนับถือคนที่บรรยายภาษาได้หลากหลายมากนะครับ ไม่รู้เก่งขนาดนั้นได้ยังไง
หากต้องการฝึกเขียนนิยายผมว่าฝึกฝนวิธีการเขียนตามรุ่นพี่นักเขียนเช่นพวกที่เขาได้รางวัลซีไรต์ หรืองานเขียนที่เขามียอดขายถล่มทลายดีกว่าครับ บอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วก็ไม่ได้สนุกกับเนื้อหาไปเสียทุกเรื่องหรอก หลายเรื่องผมอ่านเพราะว่าอยากดูวิธีการเขียนของเขา วีธีการเล่าให้คนเห็นภาพตาม พวกนี้เก่งมากเลยครับ ต่างจากอ่านนิยายที่ใช้ อิโมติคอล มากทีเดียว ตัวอย่างนะครับ (T_T) สัญลักษณ์นี้เห็นแล้วก็รู้ว่าอารมณ์เศร้า แต่ไม่รู้หรอกว่าเศร้าสุดขีดหรือเศร้านิดหน่อย บรรยายเลยดีกว่าครับ การใช้ อิโมติคอล ผมว่ามันดูเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มเกินไป เท่าที่เห็นมาเป็นกันในหมู่นักเขียนวัยรุ่นไทยเยอะมากด้วย แต่พออ่านงานเขียนของต่างประเทศไม่เคยเจอเลยนะครับ อาจมีบ้างแต่มันคงน้อยจนหาไม่เจอ
มีนิยายวัยรุ่นสองสามเรื่องผมอ่านแล้วชอบเนื้อหามาก คนเขียนเข้าใจคิดพล็อตเรื่องดี เสียอย่างเดียวอิโมติคอลเพียบ เลยรู้สึกว่าอารมณ์ของเนื้อหามันถูกลดทอนลงไปด้วยสัญลักษณ์พวกนี้ อ่านใน Dek-D นี่แหละ แต่งยังไม่จบเสียด้วยไม่รู้คนแต่งเขาเลิกเล่นไปแล้วหรือเปล่าไปหาอ่านอีกทีก็ไม่เจอละ เสียดายจัง
ขอบคุณค่ะ แต่เราเป็นข้อ2
เดี๋ยวนี้นักเขียนสมัยใหม่ มักใช้อิโมติคอลเข้ามากัน เพื่อใช้แสดงอารมณ์แทนคำพูด แต่เราคิดว่าถ้าเขียนเป็นอารมณืเลยมันจะดูดีมาก เพราะเราคือนักเขียน ที่ใช้ตัวอักษรในการเล่าเรื่องราวอย่างที่ว่าจริงๆนะแหละ อีกอย่างเเวลาเราแต่งนิยาย เราไม่ใช้อิโมติคอลเลย ใช้แต่ตัวอักษรล้วนๆ เราคิดว่า การแต่งแบบไม่มีอิโมติคอลมันดูคลาสิคดีกว่าเยอะเลย
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าก้าวขึ้นตึกเรียนอย่างว่องไว ให้ตายสิ คุณป้านะคุณป้า ดันใช้ให้ผม
ไปซื้อยำวุ้นเส้น(แทบทุกเช้า) โอยยย เมื่อไรจะถึงวะ -ขาผมก็สั้นซะเหลือเกินน เกิดมาเตี้ยมันก็
มีข้อด้อยแบบนี้เองเรอะ -เราก็ดีใจเวลาเข้าแถวจะได้อยู่หน้าๆ -ผมก็เป็นพวกชอบอยู่หน้าด้วยสิ เฮ้อออ~
“ถอนหายใจเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอกโอยะ” เสียงครูภาษาไทยสุดหล่อทักผมจากด้านหลัง
แห๊มม คิดว่าหล่อตายอะครับ นั้นๆยังมียักคิ้วให้ผมอีก อ่อลืมบอกไปว่าผมกับอาจารย์สนิท
แกที่สุดอันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากสนิทกับจารย์แกเท่าไร แต่ด้วยเหตุผีสิงผีเข้าหรือเพราะอะไรไม่รู้เหมือนอาจารย์ที่เคารพจะพยายามเอาหน้าหล่อๆ หวานๆมาทักทายผมทุกเช้า ผมสงสัยอยู่ว่าจารย์แกติดจีพีเอสไว้ที่ผม รึเปล่า ไม่ว่าผมจะขึ้นตึกเรียนจากทางไหน เป็นอันต้องเจออาจารย์ทุกเช้า - -
“อาจารย์ครับ”
“ครับ^^”
“-ตายครับ. ..”
“ครับ ^^ “
เอิ่มม...ดูสิครับผู้อ่าน อาจารย์แมร่งหน้าด้านโครตๆอ่าครับ เพราะฉะนั้นผมจะเลิก ไล่คุณจารย์เค้าแล้วล่ะครับ
***แล้วการบรรยายแบบนี้ของเราอ่า เราเปิดเรื่องดีไหมอ่า TT มันคิดอะไรไม่ออก
จะให้เปิดเรื่องมาอาจารย์ฆ่าลูกศิษย์มันไม่ช่ายยย อ้ากกก
ช่วยวิจารณ์หน่อยค่าา**ปล.นี่แนว boy'love นะเออ
-สี่ข้อที่ว่ามานี่ เจอในแจ่มใส เพียบอ่ะ นี่พรูดดดดดด 555555
ก็...ไม่รู้สินะ
เห็นด้วยกับหลายความเห็น เราอาจจะคอมเม้นต์ตรงไปต้องขออภัย
แต่...บางทีอ่านแจ่มใสเงี้ย โอ้โห...อีโมติคอนมาพรึบ มันทำให้แล้ดูเป็นนิยายที่ไร้สาระอ่ะ จากที่มันควรจะอ่านได้อินกว่านี้ ได้อารมณ์กว่านี้ มันกลายเป็นว่า เราไม่สามารถที่จะรับรู้ความรู้สึกของตัวละครที่นักเขียนต้องการจะถ่ายทอดได้อย่างเต็มที่ เหมือนแต่งเองเข้าใจเองอยู่คนเดียว เราก็ อืมมมมมม เอาที่คุณสบายใจอ่ะจ้า
ส่วนใหญ่ก็แจ่มใสเลิฟซีรีส์อ่ะที่เจอแบบนี้ แต่พวกนิยายจีน พวกแนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักเงี้ย มันก็โอเคนะ จัดว่าดีมากเลยแหละ
แต่อาจเป็นเพราะมันเป็นการประกวดอ่ะเนอะ เขาถึงเข้มงวด อีกอย่างบทความนี้ก็ช่วยให้ใครหลายคนมองเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง หรือคนที่ไม่เคยพลาดจะได้รู้เอาไว้ว่าไม่ควรทำ ก็ดีแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆเลย
ที่ว่ามาเนี่ย....สโลแกนแจ่มใสเลย เจอทุกเรื่อง
ขอบคุณค่ะที่แนะนำ ได้ข้อควรรู้เยอะเลย
เคยมีน้องนักเขียนเอานิยายมาให้วิจารณ์ให้ เจออิโมติคอนเยอะมากค่ะ คือเราไม่ได้จำกัดนะว่าห้ามเขียนเลย คิดว่ามันขึ้นอยู่กับกลุ่มนักอ่านและแนวนิยายด้วย แต่บางทีก็เจอเยอะเกินไป บางทีอยู่ในฉากซึ้งๆ เจออิโมเข้าไป แทนที่จะดึงอารมณ์คนอ่านออกมาได้ กลับทำให้อารมณ์หายหมดเลยค่ะ
แถมบางเรื่องเจอทุกบรรทัด ทุกประโยค จนต้องแนะนำไปว่าช่วยลดอิโมลงด้วยค่ะ 555+
แต่ก่อนเราก็เขียนแล้วใส่อิโมนะ แต่ตอนนี้ไม่ใช้แล้วเพราะชอบบรรยายมากกว่าค่ะ เขียนแล้วมันส์มือมากค่ะ
เป็นบทความที่ดีและมีประโยชน์มาก ขอบคุณนะคะ เราจะนำไปปรับปรุงนิยายของเราด้วยค่ะ