ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านิยายที่กำลังเป็นที่โจษจันในโลกออนไลน์และสื่อต่างๆ คือนิยายรักอีโรติกของ อี.แอล. เจมส์ Fifty Shades of Grey เรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด (ทางกาย) ของนักศึกษาสาว แอนัสเตเซีย กับนักธุรกิจหนุ่มคริสเตียน เกรย์พี่น้องเชื่อว่าหลายคนในเด็กดีคงอายุไม่ถึง อาจจะยังไม่ได้อ่านนิยายหรือดูหนังเรื่องนี้ (แต่เชื่อเถอะ บางคนแอบอ่านแล้ว) ในขณะที่คนอื่นมองงานเขียนชิ้นนี้ในแง่ของความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง เรามามอง Fifty Shades of Grey ในมุมของนักเขียนและนักอ่านบ้างดีกว่า
Fifty Shades of Grey ไม่ใช่อีโรติกเรื่องแรกของโลก
นิยายอีโรติกไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมาตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงยังต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน เป็นเพียงช้างเท้าหลังที่ต้องอยู่ในครัว ชีวิตประจำวันที่แสนน่าเบื่อและชีวิตคู่ที่ไม่ราบรื่น ทำให้ผู้หญิงเลือกหนีความจริงด้วยการอ่านนิยาย
และพล็อตนิยายที่ว่าก็หนีไม่พ้น เรื่องของหญิงสาวผู้บอบบาง ใสซื่อบริสุทธิ์ พบรักกับชายหนุ่มที่ดีพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ
และพล็อตนิยายที่ว่าก็หนีไม่พ้น เรื่องของหญิงสาวผู้บอบบาง ใสซื่อบริสุทธิ์ พบรักกับชายหนุ่มที่ดีพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ
แต่ Fifty Shades of Grey คืออีโรติกเรื่องแรกที่กลายเป็นกระแส
นิยายของอี.แอล. เจมส์เดิมมีพื้นเป็นแฟนฟิคของ Twilight นิยายรักกึ่งแฟนตาซีชื่อดังอีกเรื่องของสเตเฟอนี เมเยอร์ ในช่วงแรกที่ออกมา ได้ฐานแฟนคลับของ Twilight เป็นทุนตั้งตัว จากกระแสปากต่อปากจนแฟนฟิคชุบตัวเป็นนิยายหนึ่งเรื่องเพื่อลงขายเป็น e-book กระแสปากต่อปากเรื่องความร้อนแรงของนิยายเรื่องนี้ทำให้ยอดขายนิยายสูงจนได้รับการติดต่อไปตีพิมพ์เป็นรูปเล่มอีกทียอดขายฉบับตีพิมพ์ของ Fifty Shades of Grey อาจจะเอาชนะ Harry Potter วรรณกรรมเยาวชนขายดีตลอดกาลของเจ.เค.โรว์ลิ่งไม่ได้ แต่เมื่อรวมกับยอดขายฉบับ e-book แล้วถือว่าผ่านฉลุย ยิ่งหนังออกมา ยอดขายก็ยิ่งทะลุเป้าจนฉุดไม่อยู่
"ร้อน" เพราะ "แรง"?
นักอ่านทุกคนที่ได้สัมผัส Fifty Shades of Grey ต่างลงความเห็นโดนปราศจากอคติว่าพล็อตไม่มีอะไรมาก เป็นเพียงหญิงสาวที่ตกหลุมรักในความร้อนแรงและดูอันตรายของหนุ่ม CEO แต่เรื่องมันแรงเมื่อรสนิยมทางเพศของคริสเตียน เกรย์ ไม่ธรรมดา
เขาเป็น "คนเล่นของ"
สิ่งที่นิยายเรื่องนี้นำเสนอคือเพศสัมพันธ์ที่มี 'บทบาท' เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในต่างประเทศนั้นเรียกเซ็กส์ทางเลือกแบบนี้ว่า BDSM (Bondage and Discipline, Dominance and Submission , Sadism and Masochism) นั่นคือคู่นอนจะตกลงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายคุมเกม ใครจะเป็นฝ่ายรับคำสั่ง อาจมีการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น การรัดข้อมือ ปิดตา หรือฟาดด้วยแส้ ฯลฯ
คริสเตียน เกรย์เป็นผู้ชายที่ชื่นชอบการ 'ควบคุม' (Dominance) ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องบนเตียง สีเทาที่เข้มที่สุดจนเกือบเป็นสีดำนั้นหมายถึงรสนิยมจากก้นบึ้งหัวใจของเขา ซึ่งจะค่อยๆ เจือจางลงด้วยสีขาวจากแอนัสตาเซีย สรุปง่ายๆ ว่าเขาจะค่อยๆ คลายปมในใจตัวเองและกลายเป็นผู้ชายที่รักเป็นมากขึ้น
เขาเป็น "คนเล่นของ"สิ่งที่นิยายเรื่องนี้นำเสนอคือเพศสัมพันธ์ที่มี 'บทบาท' เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในต่างประเทศนั้นเรียกเซ็กส์ทางเลือกแบบนี้ว่า BDSM (Bondage and Discipline, Dominance and Submission , Sadism and Masochism) นั่นคือคู่นอนจะตกลงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายคุมเกม ใครจะเป็นฝ่ายรับคำสั่ง อาจมีการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น การรัดข้อมือ ปิดตา หรือฟาดด้วยแส้ ฯลฯ
คริสเตียน เกรย์เป็นผู้ชายที่ชื่นชอบการ 'ควบคุม' (Dominance) ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องบนเตียง สีเทาที่เข้มที่สุดจนเกือบเป็นสีดำนั้นหมายถึงรสนิยมจากก้นบึ้งหัวใจของเขา ซึ่งจะค่อยๆ เจือจางลงด้วยสีขาวจากแอนัสตาเซีย สรุปง่ายๆ ว่าเขาจะค่อยๆ คลายปมในใจตัวเองและกลายเป็นผู้ชายที่รักเป็นมากขึ้น
ความแปลกใหม่ที่หาไม่ได้บ่อยนักในตลาดนิยายอีโรติก
ถ้าผู้ชายมีหนังโป๊ไว้ตอบสนองความต้องการทางเพศ ผู้หญิงก็มีนิยายอีโรติกไว้กระตุ้นตัวเอง เพราะความต้องการทางเพศของชายหญิงต่างกัน ในขณะที่ผู้ชายเน้นภาพชัดเจน เน้นความต้องการที่แท้จริง ผู้หญิงเน้นภาพในจินตนาการที่สวยงาม และความสุข
Fifty Shades ให้ได้ทุกอย่าง ทั้งภาพลักษณ์พระเอกที่ดูเข้ากับยุคสมัย ชายที่ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่ยังหนุ่ม และรสนิยมทางเพศที่น่าค้นหา
อีกทั้งสำนักพิมพ์แรนดอม เฮาส์ยังเลือกยกระดับนิยายเรื่องนี้ให้ใกล้เคียงกับ Twilight เดิม ด้วยการออกแบบหน้าปกให้ใช้วัตถุเป็นสัญลักษณ์ (เหมือนที่ Twilight ใช้แอปเปิ้ล) แทนที่จะใช้รูปหนุ่มสาวเปลือยกายวาบหวิวยืนกอดกัน
อย่างไรก็ดี ผลตอบรับของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว
Fifty Shades ให้ได้ทุกอย่าง ทั้งภาพลักษณ์พระเอกที่ดูเข้ากับยุคสมัย ชายที่ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่ยังหนุ่ม และรสนิยมทางเพศที่น่าค้นหา
อีกทั้งสำนักพิมพ์แรนดอม เฮาส์ยังเลือกยกระดับนิยายเรื่องนี้ให้ใกล้เคียงกับ Twilight เดิม ด้วยการออกแบบหน้าปกให้ใช้วัตถุเป็นสัญลักษณ์ (เหมือนที่ Twilight ใช้แอปเปิ้ล) แทนที่จะใช้รูปหนุ่มสาวเปลือยกายวาบหวิวยืนกอดกัน
อย่างไรก็ดี ผลตอบรับของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว
กระแสต่อต้านจากชาว BDSM
ในขณะที่สาวๆ ต่างกรีดร้องให้กับความเร่าร้อนของคริสเตียน เกรย์ กลุ่มผู้มีรสนิยม BDSM ต่างออกมาต่อต้านภาพลักษณ์ผิดๆ ที่นิยายเรื่องนี้กำลังนำเสนอเกี่ยวกับเซ็กส์ทางเลือก BDSM
BDSM เป็นเซ็กส์ที่สองฝ่ายต้องตกลงกันก่อนว่าใครจะคุมเกม ใครจะปฏิบัติตาม บทบาทของการเป็นผู้คุม และผู้ถูกควบคุมจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศส่วนหนึ่ง และอุปกรณ์เสริมอย่าง การมัดมือมัดเท้า ปิดตา ฟาดด้วยแส้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเร้าอารมณ์
แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากความยินยอมของทั้งสองฝ่าย และผู้คุมเกมต้องระมัดระวังไม่ให้คู่ของตัวเองได้รับบาดเจ็บจนทนไม่ไหว ต้องมีการส่งสัญญาณให้กันเป็นอย่างดีว่าจุดไหนที่ทนได้และทนไม่ได้
สมาชิกกลุ่ม BDSM มองว่าการกระทำของคริสเตียน เกรย์ที่หยิบเอาสัญญาขึ้นมาให้นางเอกเซ็นรับนั้นไม่ถือเป็นการ 'ยินยอม' ของคู่นอน มีหลายฉากในเรื่องที่แอนัสเตเซียทนไม่ได้กับความรุนแรงของคริสเตียน แต่เธอไม่กล้าพูดออกไป หรือการถูกล่อลวงด้วยแอลกอฮอล์หรือวิธีต่างๆ ให้เธอยอมมีอะไรกับเขา
พวกเขามองว่า Fifty Shades of Grey กำลังทำให้ความรุนแรงทางเพศกลายเป็นเรื่องปกติไป
BDSM เป็นเซ็กส์ที่สองฝ่ายต้องตกลงกันก่อนว่าใครจะคุมเกม ใครจะปฏิบัติตาม บทบาทของการเป็นผู้คุม และผู้ถูกควบคุมจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศส่วนหนึ่ง และอุปกรณ์เสริมอย่าง การมัดมือมัดเท้า ปิดตา ฟาดด้วยแส้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเร้าอารมณ์
แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากความยินยอมของทั้งสองฝ่าย และผู้คุมเกมต้องระมัดระวังไม่ให้คู่ของตัวเองได้รับบาดเจ็บจนทนไม่ไหว ต้องมีการส่งสัญญาณให้กันเป็นอย่างดีว่าจุดไหนที่ทนได้และทนไม่ได้
สมาชิกกลุ่ม BDSM มองว่าการกระทำของคริสเตียน เกรย์ที่หยิบเอาสัญญาขึ้นมาให้นางเอกเซ็นรับนั้นไม่ถือเป็นการ 'ยินยอม' ของคู่นอน มีหลายฉากในเรื่องที่แอนัสเตเซียทนไม่ได้กับความรุนแรงของคริสเตียน แต่เธอไม่กล้าพูดออกไป หรือการถูกล่อลวงด้วยแอลกอฮอล์หรือวิธีต่างๆ ให้เธอยอมมีอะไรกับเขา
พวกเขามองว่า Fifty Shades of Grey กำลังทำให้ความรุนแรงทางเพศกลายเป็นเรื่องปกติไป
แล้วเกี่ยวอะไรกับ Feminism?
พอเป็นนิยายรักโรแมนติกทีไร นักวิจารณ์ทุกคนก็จะต้องหยิบเอาทฤษฎีเฟมินิสม์มาอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ทุกที Fifty Shades of Grey ก็โดนเหมือนกัน
(สำหรับคนที่ไม่คุ้น เฟมินิสม์ เป็นแนวคิดสนับสนุนให้ผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย ให้ผู้หญิงมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ผู้หญิงจะไม่ได้เป็นแค่วัตถุทางเพศของผู้ชายอีกต่อไป)
กลุ่มเฟมินิสต์จ๋าจะไม่ค่อยชอบนิยายประโลมโลกแบบสมัยก่อนที่ผู้หญิงต้องเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอรอการช่วยเหลือจากผู้ชายตลอดเวลา ซึ่ง Fifty Shades of Grey เริ่มเรื่องมาแบบนั้น
(สำหรับคนที่ไม่คุ้น เฟมินิสม์ เป็นแนวคิดสนับสนุนให้ผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย ให้ผู้หญิงมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ผู้หญิงจะไม่ได้เป็นแค่วัตถุทางเพศของผู้ชายอีกต่อไป)
กลุ่มเฟมินิสต์จ๋าจะไม่ค่อยชอบนิยายประโลมโลกแบบสมัยก่อนที่ผู้หญิงต้องเป็นสาวน้อยผู้อ่อนแอรอการช่วยเหลือจากผู้ชายตลอดเวลา ซึ่ง Fifty Shades of Grey เริ่มเรื่องมาแบบนั้น
แอนัสตาเซียเป็นผู้หญิงที่ได้รับการศึกษาก็จริง แต่ก็ยังเป็นศาสตร์ที่วนเวียนอยู่กับความเป็นผู้หญิง (เอกวรรณกรรม) อยู่กับโลกแห่งจินตนาการ เธอเป็นผู้หญิงที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่เคยมีอะไรกับผู้ชาย (สำหรับบ้านเราคงถือว่าปกติ สำหรับต่างประเทศคงไม่ใช่)
นางเอกแบบแอนัสตาเซียก็มักจะไม่ได้ลงเอยกับเพื่อนชายที่รู้หน้าค่าตากันดี แต่ไปลงเอยกับผู้ชายที่ถอดแบบชายในนิยายโรแมนติกมาเป๊ะๆ รูปหล่อ มีฐานะ ติดจะเย็นชา ลึกลับและเย้ายวนนิดๆ
แต่กลุ่มเฟมินิสต์น่าจะพอใจตอนจบเล่มแรกของนิยายเรื่องนี้พอสมควร
เพราะตลอดทั้งเรื่อง แอนัสตาเซียจะยอมคริสเตียนทุกอย่าง แต่พอโดนเข็มขัดเข้าไปเส้นเดียว เธอก็คิดขึ้นได้ว่ารักอาจจะไม่ทำให้ความเจ็บบรรเทาลง ก็ยังสะท้อนความคิดผู้หญิงสมัยใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องทนต่อความรุนแรงทางเพศ (แม้จะช้าไปสักหน่อยก็ตาม) เธอเลือกได้นะ และเธอก็จะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมในเล่มสอง
สำหรับพี่น้องแล้ว ถ้าไม่เอาเรื่องคุณค่าทางภาษา นิยายเรื่องนี้ก็ทิ้งสารที่เป็นประโยชน์กับผู้หญิงเอาไว้เหมือนกันนะ
ย้อนกลับมามองนิยายรักของบ้านเรา
นิยายรักบ้านเราก็ร้อนแรงไม่แพ้ Fifty Shades of Grey เช่นกัน เราคงได้เห็นนิยายที่ตั้งชื่อแนว พิศวาส, ทาสรัก, บำเรอ ฯลฯ มีฉากขึ้นเตียงกันเป็นว่าเล่น บางเรื่องพระเอกข่มขืนนางเอกแต่สุดท้ายก็กลายเป็นคู่ชูชื่นซะงั้น
นิยายพวกนี้อาจไม่ได้ขึ้นแท่นเป็น Best Seller เหมือน Fifty Shades of Grey แต่ก็ถือว่าเป็นงานสไตล์เดียวกัน หน้าที่ของมันคือสร้างความบันเทิงให้กับผู้หญิงเหมือนอย่างที่หนังโป๊สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชาย เรื่องเหล่านี้ไม่ถือว่าผิด แต่สิ่งที่น่าห่วงคือสารที่แฝงอยู่ในตัวผลงาน เช่น สนับสนุนความรุนแรงในผู้หญิงโดยทำให้ดูเหมือนเป็นการแสดงความรัก ความรุนแรงที่ยอมรับได้หากผู้กระทำเป็นพระเอกที่หน้าตาดีมีฐานะ
เมื่อหนังสือตีพิมพ์ออกมา คนอ่านจะไม่ได้มานั่งฟังว่าคนเขียนคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องบางเรื่อง คนเขียนไม่รู้หรอกว่าบางอย่างที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจนำเสนอ อาจฝังอยู่ในหัวเป็นภาพจำของคนอ่านกว่าล้านคนไปแล้ว
ฝั่งผู้หญิงที่ได้รับสารคงไม่คิดอะไร เป็นแค่ความสุขของการจินตนาการ แต่ฝั่งผู้ชายอาจเกิดความเชื่อผิดๆ ว่าจริงๆ แล้วผู้หญิงชอบความรุนแรงแบบนี้หรือเปล่าก็ได้
นิยายพวกนี้อาจไม่ได้ขึ้นแท่นเป็น Best Seller เหมือน Fifty Shades of Grey แต่ก็ถือว่าเป็นงานสไตล์เดียวกัน หน้าที่ของมันคือสร้างความบันเทิงให้กับผู้หญิงเหมือนอย่างที่หนังโป๊สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชาย เรื่องเหล่านี้ไม่ถือว่าผิด แต่สิ่งที่น่าห่วงคือสารที่แฝงอยู่ในตัวผลงาน เช่น สนับสนุนความรุนแรงในผู้หญิงโดยทำให้ดูเหมือนเป็นการแสดงความรัก ความรุนแรงที่ยอมรับได้หากผู้กระทำเป็นพระเอกที่หน้าตาดีมีฐานะ
เมื่อหนังสือตีพิมพ์ออกมา คนอ่านจะไม่ได้มานั่งฟังว่าคนเขียนคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องบางเรื่อง คนเขียนไม่รู้หรอกว่าบางอย่างที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจนำเสนอ อาจฝังอยู่ในหัวเป็นภาพจำของคนอ่านกว่าล้านคนไปแล้ว
ฝั่งผู้หญิงที่ได้รับสารคงไม่คิดอะไร เป็นแค่ความสุขของการจินตนาการ แต่ฝั่งผู้ชายอาจเกิดความเชื่อผิดๆ ว่าจริงๆ แล้วผู้หญิงชอบความรุนแรงแบบนี้หรือเปล่าก็ได้
สุดท้ายนี้ ถ้าใครสงสัยว่าทำไมนิยายแนวนี้ถึงขายดีติดตลาดไม่ว่าจะบ้านเราบ้านเขา
ก็ลองคลิกเข้าไปอ่านบทความนี้ดู
ก็ลองคลิกเข้าไปอ่านบทความนี้ดู
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
http://www.theatlantic.com/features/archive/2015/02/consent-isnt-enough-in-fifty-shades-of-grey/385267/
http://www.telegraph.co.uk/culture/books/booknews/9459779/50-Shades-of-Grey-is-best-selling-book-of-all-time.html
ขอบคุณภาพประกอบจาก
en.wikipedia.org
www.cathnewsusa.com
Universal Pictures and Focus Features
12 ความคิดเห็น
วิจารณ์ได้สวดยวดอะ
สุดยอดเลยค่า
นิยายเรื่องนี้ ทางฝั่งเมกานี่...คุณแม่วัยกลางคนอ่านกันเยอะมาก--รู้สึกว่าเรื่องนี้มาจากอังกฤษไม่ใช่เมกา...ไม่แน่ใจ 555-- จนเกิดการล้อว่า Fifty Shades of Grey เป็นเรื่องโป๊ๆ สำหรับคุณแม่ (Mommy porn) หรือนิยายทไวไลท์วัยกลางคน (Twilight of the grown-up) เลยทีเดียว
ผมเคยอ่านเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แนะนำว่าถ้าใครอยากได้อรรถรสจริงๆควรอ่านภาษาอังกฤษ เพราะภาษาไทยมีการตัดบางเนื้อหาออกไปอยู่บ้าง สำหรับผมคิดว่า Fifty Shades of Grey ฉบับภาษาไทย ก็เหมือนนิยายอิโรติคทั่วๆไป ไม่ได้หวือหวาเหมือนต้นฉบับเลย
เรื่องนี้สนุกค่ะะ อ่านมาแล้ว รับประกันความฮอตและร้อนแรงถึงตับไตไส้พุง 5555555555
ปล.แต่หนังยังไม่ได้ดู อายุแค่ 18 เองอ่ะ เศร้าา
Fifty Shades Of Grey นี่สนุกมากอ่ะ ฟินกระชากตับไตไส้พุงปอดม้ามมากจริงๆ ยิ่งมาทำหนังโอ๊ยยยย คือเริศอ่ะ ถึงแม้หลายคนจะวิจารณ์ว่าหนังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่สำหรับเราคิดว่าโอเคมากเลยนะ คือถ้าตัดฉากNCออกไปอ่ะมันจะกลายเป็นนิยายโรแมจติดน่ารักๆมากเลย ยิ่งฉากตอนที่คุณเกรย์พาแอนาขึ้นชาลีแทงโก้ครั้งแรกอ่ะ ฉากนั้นอ่ะโคตรฟินเลยจริงๆ ตอนอ่านว่าฟินแล้วพอตอนดูนี่ฟินกว่าอีกอ่ะ
ตอนแรกกะว่าพอแฟนบินมาหาแล้วจะพาเค้าไปดูเรื่องนี้ด้วยกัน แต่ไทยดันติดเรทหนังไว้ 20+ ถึงจะดูได้ แต่เมืองนอกดันไม่ติดเรท แฟนเลยบอกว่า ขอผมดู Fifty SHades Of Grey ก่อนที่จะไปที่นู่นได้มั้ย? เอาเหอะค่ะ ดูๆเหอะ T^T รออ่านนิยายที่เธอจะเอามาให้ก็ได้ แต่เมื่อวานก็ได้ดูไปละ แต่ซูมอ่ะ ดูจนเค้าใจเลยว่า ทำไมต้อง 20+ ถึงจะดูได้ แต่เราจะ 18 แล้วอ่ะ T^T ดูไม่ได้รึไง?
คือชอบเพลงประกอบ กับนางเอกเรื่องนี้ -///- คนอัลไลน่ารักน่าฟัด -..-
หนูจะหาอ่านค่ะ