คลินิกนักเขียน : Exclusive 12 เขียนยังไงให้จบเรื่อง (สักที)!     
ปัญหาใหญ่ที่นักเขียนทุกคนเห็นแล้วร้องโฮ  
 
สวัสดี น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน กลเม็ดเคล็ดลับฉบับ Exclusive กลับมาแล้วจ้า ครั้งก่อน เราจัดหัวข้อ “เคล็ดลับการเขียนนิยายพีเรียดอย่างสมจริง” ไปแล้ว อาจฟังดูยากอยู่บ้าง แต่พูดเลยว่ามีประโยชน์มากๆ แล้วก็ได้แต่นักเขียนเก่งๆ มาถ่ายทอดความรู้เพียบเลย ยังไงก็ลองคลิกไปอ่านดูได้นะ พี่ตินคอนเฟิร์มเลยว่าเนื้อหาเขาดีจริงๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะนักเขียนที่สนใจนิยายพีเรียด แต่ที่สนใจนิยายแนวอื่นๆ ก็สามารถปรับใช้ได้เหมือนกันนะ อ่านดูๆ


 
สำหรับหัวข้อนี้ เราเลือกปัญหาที่นักเขียนทุกคนต้องเจอ นั่นคือ “เขียนนิยายยังไงให้จบเรื่อง (สักที)” อ่านแล้วเป็นไง เก็ตเลยมะ 55 แบบว่ามีหลายครั้งที่เราเปิดเรื่องไว้ พอเขียนๆ ไปพักนึง เอ้า เบื่อ เลิกเขียนดีกว่า ไปเขียนเรื่องอื่น เราทำแบบนี้ไว้หลายเรื่องมาก สุดท้ายก็ดองๆ หมักๆ เอาไว้ แล้วก็เลยเขียนไม่จบสักเรื่อง (แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) เพราะงั้น พี่ตินเก็บประเด็นนี้แหละ เอามาเป็นหัวข้อหลัก แล้วไปตามล่าหานักเขียนรุ่นพี่มาตอบคำถาม น้องๆ นักเขียนรุ่นใหม่ ลองฟังดูนะ รุ่นพี่ของเรามีเคล็ดลับอย่างไรในการเขียนให้มันจบ!!!
 
คนแรกที่จะพาไปคุยคือ น้องแพรว นักเขียนนามปากกา ภาพิมล และ พิมลภา ผู้ซึ่งอดทนแข็งแกร่งไม่เคยยอมแพ้ น้องแพรวเป็นโรคในกลุ่มกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังต่อสู้อดทน เขียนหนังสือออกมาจนจบเล่มหลายเล่ม เป็นนักเขียนที่เหมาะกับหัวข้อนี้ที่สุด ไปฟังเคล็ดลับการจากน้องแพรวกันนะ
 
ภาพิมล, พิมลภา
“คำตอบที่แพรวเคยได้ยินมาก็คือวินัยค่ะ ผู้เขียนต้องมีวินัยในตัวเอง แต่ตอนได้ยินคำตอบนี้แพรวก็ไปไม่ถูกเหมือนกันนะ มันฟังดูยากจัง ผิดกับนิสัยเฉื่อยๆ ของตัวเอง แพรวก็เลยคิดหาทางให้คำว่าวินัยดูเป็นรูปธรรมมากขึ้นค่ะ


 
ขั้นแรกก็คือ...หมั่นให้กำลังใจตนเอง ปกติแพรวเป็นคนพิมพ์ช้าเฉลี่ยวันละ 1-2 หน้าเองค่ะ ก็ให้กำลังใจตัวเองด้วยการคิดว่าถ้าเราเขียนได้วันละ 1 หน้า เดือนนึงก็ 30 หน้า ไม่ถึงครึ่งปีเราก็จะมีต้นฉบับหนา 150-180 หน้าส่งสนพ. แล้วค่ะ คิดอย่างนี้แล้วเป้าหมายก็ดูใกล้ขึ้นมา ถ้าวันไหนฟิตๆ เขียนได้เยอะ ไม่เกิน 4 เดือนก็ปิดต้นฉบับได้แน่นอนนน
ขั้นต่อมา...ให้รางวัลตัวเอง เมื่อก่อน (ตอนนี้ด้วย) แพรวจะค่อนข้างติดเกม นิยายก็อยากเขียน เกมก็อยากเล่น วิธีที่แพรวใช้ก็คือตั้งกฎขึ้นมาบังคับตัวเองซะดีๆ เช่นว่าวันนี้ต้องเขียนงาน 3 ชม. นะ หรืออย่างน้อย 2 หน้านะ ช่วงเวลานั้นเราก็จะมีสมาธิจดจ่อกับงานตรงหน้าค่ะ เมื่อได้ตามกำหนดแล้วทีนี้จะไปเล่นเกมหรือเมาท์มอยก็ตามสบายเลย บางทีติดพันเขียนต่อก็มีน้าาา อิอิ ทั้งนี้แต่ละคนก็อาจให้รางวัลตัวเองต่างๆ กันไป
ข้อสุดท้าย คิดไม่ออกก็ต้องเขียนค่า จากข้อเมื่อกี้ที่มีกำหนดเวลางานของเรา บางคนอาจจะแบบคิดไม่ออกตอนนั้น แต่แพรวอยากบอกว่าคิดไม่ออกก็ต้องคิดและเขียนค่ะ ห้ามอนุญาตตัวเองไปทำอย่างอื่นก่อนเชียว เพราะยิ่งห่างไปนานมันก็จะต่อไม่ติดน้า ทางที่ดีคืออ่านทวนหรือนั่งจ้องหน้าจอคิดๆๆ ไปค่ะ เขียนไปก่อนแล้วค่อยมาเกลามาตบแต่งทีหลังก็ได้
 
นี่ก็คือคำว่าวินัยในมุมของแพรวค่ะ ใครสนใจจะลองนำไปใช้ดูบ้างก็ได้น้า แพรวว่ามันต้องได้ผลสิน่า สู้ๆ ฮ้าบ”
 
คนที่สองที่พี่ตินจัดมา เป็นนักเขียนที่เลื่องลือกันว่า... มือไวที่สุด!!! มือไวนี่ไม่ใช่แอบจับเนื้อต้องตัวนะ แต่มาจากพิมพ์ไว กร๊าก ทักษิณา หรือพี่ษาของเรา นักเขียนที่ตีพิมพ์นิยายมามากมาย ออกนิยายรวดเร็วว่องไวมาก เรียกว่าเขียนไวขนาดนี้ เหมาะกับหัวข้อนี้สุดๆ แล้วหละ  
 
ทักษิณา
เขียนนิยายอย่างไรให้จบ? สิ่งที่ต้องคิดตั้งแต่ก่อนจะเริ่มลงมือเปิดเรื่องขึ้นมา คือเราต้องพอจะมองเห็นเส้นเรื่องตั้งแต่ต้นกลางปลายและจบคร่าวๆ ในสมองแล้ว (หรือจะจดเอาไว้ก็ได้ค่ะ) ซึ่งเราต้องมองเห็นความสนุก ความน่าติดตามในระหว่างเรื่อง โดยเฉพาะซีนบางซีนที่ช่างสนุกเหลือเกิน อยากเขียนใส่ลงไป อยากให้คนอ่านได้อ่าน...สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้เราสามารถเดินไปให้ถึงฉากที่เราอยากเขียนได้ค่ะ
 
ต้องหมั่นคิดถึงความสนุกของแต่ละฉากแต่ละซีนในเรื่องเข้าไว้ คิดได้ทั้งเรื่องยิ่งดี จะได้มีความกระตือรือร้นที่จะเขียนได้ต่อเนื่องจนจบนะคะ
แน่นอนค่ะ ว่านิยายทุกเรื่อง ตั้งหลายร้อยหน้า ช่วงระหว่างซีนต่อซีนก็ตันกันบ่อยๆ เริ่มต้นซีนใหม่ไม่ออกก็พานอยากทิ้งเรื่องเก่าไปเปิดใหม่ง่ายกว่าก็เยอะ อันนี้ไม่ต้องแปลกใจ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นกันในชนหมู่มากค่ะ แม้แต่ตัวเองก็เป็นเช่นกัน แต่อาศัยว่าเป็นคนที่มุ่งมั่น อยากเห็นผลงานที่เขียนเสร็จสมบูรณ์ ผลงานที่เปิดแล้วเขียนค้าง ไม่ว่าจะเขียนไว้เป็นกี่ร้อยหน้าแต่ถ้าไม่จบ ก็เหมือนลูกที่ยังออกไปอวดโฉมใครไม่ได้ ถ้าเรารักลูกๆ ของเรา ก็ต้องพยายามไปต่อให้จบ ให้ลูกๆ ได้แจ้งเกิด เอาความรักเป็นแรงผลักดัน มุ่งไปข้างหน้า ต่อให้เขียนได้ครั้งละไม่กี่บรรทัด แต่ควรหมั่นให้กำลังใจตัวเอง (จะสะกดจิตตัวเองก็ได้ค่ะ อิอิ) ในทุกครั้งที่ลงมือเขียน นั่นก็เท่ากับเราใกล้เข้าไปอีกนิด เราไม่ได้ย่ำอยู่ที่เดิม สะสมไปวันละนิดละน้อยแต่ถ้ารวมทุกวัน ทำสม่ำเสมอ มันจะกลายเป็นแม่น้ำ เป็นมหาสมุทร ยิ่งใหญ่ประดุจมหาสมุทรแปซิฟิกได้เชียวน้า (กรี๊ดดดด)


 
สิ่งสำคัญเวลาเจอปัญหาที่อยากพูดถึงก็คือ ปัญหา (ในนิยาย) ไม่มีปัญหาไหนไม่มีทางออกค่ะ ลองคิดหาทางโดยการดึงตัวเองออกมาจากปัญหา แล้วมองเขาไปในฐานะคนนอก มีสมาธิ ค่อยๆ คิดไป นิยายแต่ละแนวมีเส้นทางของตัวเองอยู่แล้ว อยากให้กล้าที่จะเขียน จะผิดถูกหรือไม่ดีอย่างไร ก็ลองลงมือเขียนไปก่อนค่ะ แล้วเมื่อเราผ่านไปสักพัก หรือเมื่อเขียนจบแล้วลองมาอ่านจับผิดตัวเอง ก็อาจจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ทางออกที่ดีกว่าเดิม แล้วเราก็ค่อยแก้ไขใส่ลงไปได้ค่ะ นิดหน่อยเอง ก็เราเขียนคำว่า “จบบริบูรณ์” รอบแรกได้แล้ว แก้เพื่อให้งานสมบูรณ์ที่สุดก็คงไม่เท่าไหร่ ทำได้อยู่แล้วค่ะ
 
ท้ายสุดตรงนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ พวกเรามาสู้เพื่ออวดโฉมลูกรัก (ผลงาน) ของเรากันค่ะ สู้ๆ!!
 
นักเขียนคนที่สาม เป็นสาวสวยน่ารักนิสัยดี น้องอ้อม นามปากกา สะมะเรีย ผลงานของน้องอ้อม อ่านแล้วอมยิ้มทุกเรื่อง เชื่อว่าน้องๆ หลายคนน่าจะเคยผ่านตามานะ ^ ^ ไปฟังคำแนะนำจากน้องอ้อมกันเลยจ้า
 
สะมะเรีย
“สิ่งสำคัญในการเขียนนิยายให้จบสำหรับอ้อมก็คือ ความขยันต้องยอมรับว่าการจะเขียนนิยายให้จบสักเล่มนั้นไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยพรสวรรค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องมีพรแสวงอีกด้วย ความขยันและการมีวินัยจะทำให้เราสามารถเรียงร้อยตัวอักษรออกมาจนจบบริบูรณ์ค่ะ ซึ่งต้องยอมรับว่าการจะเข็นตัวเองให้มีวินัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นนอกจากความขยันแล้วหากเราวางโครงเรื่องและหาข้อมูลเอาไว้ให้เรียบร้อยก่อนเขียน ก็จะทำให้เราสามารถเขียนงานได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด แต่อ้อมจะไม่วางโครงเรื่องอย่างละเอียด จะเลือกวางโครงหลัก ฉากสำคัญ และปมของเรื่องเท่านั้น เพราะอ้อมเป็นคนขี้เบื่อ ถ้าวางโครงไว้ละเอียดยิบจะทำให้หมดความสนใจในนิยายเรื่องนั้นๆ ไปเสียก่อนที่จะเขียนจบ แต่หากวางโครงเรื่องไว้เพียงฉากสำคัญๆ เราก็สามารถด้นสดในฉากย่อยทำให้ได้อรรถรสและความตื่นเต้นสำหรับเราเอง มีแรงกระตุ้นในการอยากเขียนให้จบเพราะสนุกกับจินตนาการสดใหม่ระหว่างเขียน
แต่ไม่แนะนำให้ด้นสดทั้งเรื่องนะคะ เพราะนอกจากนิยายอาจมีข้อผิดพลาดแล้ว อาจทำให้เรา ‘ตัน’ เขียนไม่ออกบอกไม่ถูกไปต่อไม่เป็น และอาจพานิยายออกทะเลได้ในที่สุด วิธีของอ้อมเหมาะสำหรับคนขี้เบื่อ แต่ก็ยังยืนยันว่าการวางโครงเรื่องอย่างละเอียดเป็นวิธีที่ดีและรอบคอบที่สุดค่ะ >///<”
 
คนต่อไป คนนี้บอกเลยว่าเด็ดมาก นักเขียนที่ตอนนี้ นิยายติดท็อปอันดับ 1 ของเด็กดี เรียกว่าฮอตและมาแรงมากๆ เจ้าของนามปากกา สินา (หรืออีกหลายนามปากกาอย่าง หรรษา, หันหรร, siiKk ฯลฯ) นอกจากเป็นนักเขียน หรรษายังเป็นนักวาด แล้วก็วนเวียนอยู่ในวงการวรรณกรรมมานานกว่าสิบปี เชื่อว่าคำแนะนำของหรรษาต้องสุดยอดแน่นอน ไม่เชื่อไปดูกัน
 
สินา
วิธีเขียนนิยายให้จบของหรรนะ มันไม่น่าจะเรียกว่าเคล็ดลับนะ เพราะมันเป็นกระบวนการการทำงานมากกว่า ไมว่าใครก็ทำได้ นิยายทุกเรื่องของหรรจะเริ่มจาก
 
  1. หรรจะร่างพล็อตเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบแบบหยาบๆ ก็ออกมาประมาณ 4-10 หน้าเอสี่
  2. หาข้อมูลที่ต้องใช้เสริมในเรื่องของเรา อย่างเช่น เรื่องนี้นางเอกทำอาชีพหน่วยกู้ภัย หรรก็จะไปนั่งหาข้อมูลมา นางเอกที่บ้านเปิดร้านอาหาร หรรก็จะหาข้อมูลต่อ แบบนี้ไปเรื่อยๆ คือพอเรารู้เนื้อเรื่องแล้วเราก็จะรู้ว่าเราต้องหาข้อมูลอะไร
  3. ปรับพล๊อตอีกครั้ง คือหลังจากหาข้อมูลแล้วหรรมักจะเจอจุดผิดพลาดที่เกิดขึ้นในตอนร่างพล๊อตแรก ดังนั้นเลยต้องมาแก้ไขส่วนนี้อีกครั้ง
  4. หลังพล๊อตเรียบร้อยก็ทำการลงมือเขียนโดยกำหนดตัวเองเลยว่าใน 1 เดือนต้องปั่นให้ได้อย่างน้อย 50 หน้า 50 หน้าคือเกณฑ์บังคับของหรรเลย ส่วนจะได้มากกว่านี้อีกเท่าไรก็แล้วแต่ความสามารถและเวลาว่างที่มีในเดือนนั้นๆ
     
หมดแล้วค่ะ กระบวนการทำงาน ทำแค่นี้จริงๆ นะในนิยายแต่ละเรื่อง สิ่งที่สำคัญสุดจะเป็นเรื่องการวางพล็อตกับการบังคับให้ตัวเองเขียนให้ได้อย่างน้อย 50 หน้าเนี่ยแหละ ซึ่งของหรรตอนเริ่มพิมพ์นิยายวันนั้นจะไม่เล่นเน็ตเลย เพราะถ้าเล่นมันจะไม่มีสมาธิ แป๊บๆ ก็เปิดเฟสแป๊บๆ ก็นั่งคุยกับเพื่อน สุดท้ายแล้วไม่ได้งาน ดังนั้นในวันปั่นงานหรรจะไม่สุงสิงกับใครเลย จนกว่าจะเหนื่อยแล้วก็พัก ไม่ยากๆ ลองดูๆ :v)" 
 
ปิดท้าย นักเขียนคนสุดท้าย ที่หายหน้าหายตาไปจากหมวด Writer ของเรานานเกินไปแล้ววว พี่ตินชักคิดถึง ว่าจะจับตัวมานั่งเก้าอี้สัมภาษณ์ยาวๆ กับเรา แต่ก็กลัวเขาจะไม่ว่าง ใช่แล้ว พี่ตินพูดถึง โรโรฯ เจ้าของผลงานสร้างชื่อที่ใครๆ ก็กรี๊ดอย่าง ซิการ์แฟมิลี่ นั่นเอง งานนี้โรโรฯ เจอลูกบังคับของพี่ติน ก็เลยต้องมาตอบคำถามให้น้องๆ ได้ฟังกัน 5555555555555 ลองมาดูนะว่าโรโรฯ จะมีทีเด็ดแบบไหนกัน
 
โรโรฯ  
ส่วนตัว โรโรฯ เลย ไม่มีเคล็ดลับนะ อาศัย
เขียนเรื่องไปเรื่อยๆ โดยใช้แรงผลักดันจากตัวเอง + แรงกดดันจากปัจจัยรอบข้างมากกว่า
 
ฉากจบ เป็นส่วนที่เราต้องวางพล็อตไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว  แต่กว่าจะการเดินทางมาถึง มันช่างให้ความรู้สึกยาวไกล เนิ่นนาน เหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ ...ไม่ต่างจากการปีนเขาสูงชัน ...สิ่งที่ต้องทำคือ พยายาม อย่างเดียวเลยครับ  พยายามไปให้ถึง  พยายามทำให้เสร็จ ...พยายามๆๆ  (จากนั้น เราก็สามารถ อ่านทวนและรีไรท์จนกว่าเราจะพอใจ หรือเท่าที่เวลาจะพอมีให้ทำได้) 
 
สำคัญตัว โรโรฯ คิดว่า...เขียนนิยายใครๆ ก็ทำได้  ...เพียงแต่การเขียนให้จบมันยากมากจริงๆ
 
โรโรฯ (รู้สึกเศร้า)
 
จบได้สมเป็นโรโรฯ จริงๆ ปรบมือแปะๆ แต่ทั้งหมดนี้ ที่นักเขียนทั้งห้าคนพูดมา พี่ตินสรุปได้สั้นๆ ง่ายๆ อย่างหนึ่งก็คือ... การจะเขียนเรื่องให้จบได้ จะต้องมีวินัย อดทน และพยายาม นักเขียนรุ่นพี่ทุกคนพูดถูกมากๆ ว่าการเขียนให้จบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อทำได้ เราจะภูมิใจแบบสุดๆ เลยหละ
 
เพราะงั้น อ่านจบแล้ว ปิดเน็ตหนีโลกไปปั่นต้นฉบับกันเถอะนะทุกคน ^ ^
 
อตินเอง 
 
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

13 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แพนโดร่า ~fay102~ Member 26 มิ.ย. 58 14:16 น. 4

โดยส่วนตัวก็เป็นคนหนึ่งที่แต่งนิยายไว้หลายเรื่อง...แต่ไม่จบสักเรื่อง U_U

จะเอาเทคนิคและวิธีการที่นักเขียนรุ่นพี่แนะนำมาไปใช้ดูนะคะ เผื่อจะได้สัมผัสคำว่า "จบแล้ว" กับเค้าบ้าง (แต่ไม่ใช่จบเห่นะ -*-)

ประโยคนี้ของพี่โรโรฯ ช่างแทงใจดำยิ่งนัก

เขียนนิยายใครๆ ก็ทำได้...เพียงแต่การเขียนให้จบมันยากมากจริงๆ

0
กำลังโหลด
ยมทูตสีคราม Member 26 มิ.ย. 58 20:40 น. 5

นิยายก็อยากให้จบ อ่านหนังสือ เกมก็อยากเล่น เสียใจ การ์ตูนก็อยากอ่าน เอ่อ.. เมะก็อยากดู มืดมน 5555  //ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ คร้าบบบ (จะได้ดัดนิสัยตัวเอง #ฮา) เยี่ยม

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Capricorn_Month Member 26 มิ.ย. 58 23:21 น. 7

นิยายเรื่องแรกในชีวิต ดองมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ ไม่จบสักที รีใหม่อยู่เรื่อย จนพล็อตดั้งเดิมหายไปหมดเลย 555555555 //หัวเราะทั้งน้ำตา

0
กำลังโหลด
ยัยนักคลั่ง Member 28 มิ.ย. 58 10:39 น. 8

ฮือคือเราเปนพวกคิดเรื่องนี้ยังไม่จบดันไปแซนแหลนคิดเรื่องอื่น เรื่ิองเก่าก็ต้องหมักไว้อย่างงั้น ตอนจบก็คิดๆแล้วอะนะแต่พอจะจบบเปลี่ยนฉากทุกที

0
กำลังโหลด
Narumi Tsukiko Member 28 มิ.ย. 58 11:33 น. 9

เราเองก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่แต่งนิยายไม่จบ (แฮ่) เคยแต่งเรื่องไว้เยอะๆ คราวนี้มันก็ดันไม่จบ สุดท้ายก็จำใจแต่งนิยายเรื่องเดียวให้จบ ถึงแม้มันจะไม่จบสมบูรณ์ แต่เราไม่คอยคิดจะปล่อยมันเด็ดขาด พยายามแต่งนิยายจบให้ได้ สู้ตาย!!!

สู้สู้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
phantom&angel Member 8 ส.ค. 58 20:15 น. 11

เราเป็นคนไม่ชอบเขียนพล็อตนิยายนะพูดตรงๆเลย(เคยลองวางพล็อตแต่ตลกมากอ่ะ อายตัวเอง) แต่งนิยายออกมาแต่ละเรื่องคือสดๆไม่เคยมีพล็อตค่ะ ตามอารมณ์ บ้างก็ออกมาดีแต่งจนจบก็มี บ้างก็ไม่จบ(หนักใจมากดองข้ามปีข้ามเดือนกันเลยทีเดียวเชียว) พอมาอ่านเคล็ดลับของพี่หรรษานี่แบบนั่งกุมขมับเลยเพราะปกติชอบนิยายของพี่หรรมากอยากทำตามเคล็ดลับนะแต่ไปไม่เป็นเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด