1 ข้อคิด สู่ 5 วรรณกรรมระดับโลก
มองหาข้อคิดจากงานของคนอื่น แล้วลองนำมาปรับใช้ในงานของตัวเอง 
 
หากใครจำได้ ไม่นานมานี้ พี่อตินเคยทำบทความรวบรวมหนังที่ได้รับการคัดเลือกจากวรรณกรรม Yong Adult ระดับโลก จะเห็นได้ว่า ในวงการหนังสือระดับโลก วรรณกรรม Young Adult หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า YA กำลังมาแรงมาก เพราะเป็นหนังสือที่อ่านได้ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่น เนื้อหานำเสนอผ่านตัวละครอายุไม่มาก เหตุการณ์ก็มักจะธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ว่าแฝงข้อคิดและแนวการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ วันนี้ เราจับ 5 วรรณกรรม Young Adult ที่ใครๆ ก็พูดถึงและหลงรัก มาตีแผ่กันว่า... ในหนังสือเล่มนี้ มันมีข้อคิดอะไรแฝงอยู่บ้าง
 
คือจริงๆ ตอนพี่อตินอ่านทั้งห้าเล่ม ก็รู้สึกว่า... ได้อะไรดีๆ มากมาย แบบว่าเยอะจนนับไม่ถ้วน แต่เมื่อสรุป ก็ขอยกข้อเดียวที่น่าสนใจที่สุดมาบอกเล่ากันก็แล้วกัน อยากให้น้องๆ ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ ลองดูว่า... อ่านนิยายแล้วได้ข้อคิดบ้างหรือไม่    
 
เรื่อง The Giver
แปลไทยแล้วในชื่อ โจนาสกับผู้ให้
ผู้เขียน โลอิส เลาว์รี่ ผู้แปล ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน
 
It's Important to Have a Broad Worldview
การมองโลกกว้างเป็นเรื่องสำคัญ
ผลงานหนังสือที่พี่ตินเคยอ่านแล้ว แต่ไม่ประทับใจเท่ากับตอนดูหนัง เรื่องนี้ถือว่าหนังทำได้ดีนะ ดูแล้วเข้าใจดีมาก ปกติแล้ว พี่ตินดูหนังแล้วมักตามไม่ค่อยทันเท่าไหร่ ต้องกลับไปอ่านหนังสืออีกครั้ง เพื่อดูว่าฉากนี้เป็นยังไงๆ ตัวละครคิดยังไง เดอะกีฟเวอร์ เท่าที่จำได้เลาๆ (ดูนานแล้ว) เป็นหนังที่เริ่มต้นจากสังคมในอุดมคติ ทุกคนเท่าเทียมกันหมด โลกมีแต่ความดี ความงาม และเมื่อถึงวัยหนึ่ง เราก็จะถูกจัดเข้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วทำหน้าที่นั้นตลอดไป ในสังคมของหนังสือเรื่องนี้ จะมีตัวละครลับสุดแปลก ก็คือ “ผู้ให้” หรือ เดอะกีฟเวอร์นั่นเอง ผู้ให้คือคนเดียวในสังคม ที่จดจำข้อมูลของโลกในอดีตเอาไว้ทั้งหมด และเมื่อถึงจุดจุดนึง ผู้ให้ก็ถ่ายทอดความทรงจำเหล่านี้ให้กับ “โจนัส” ผู้ถูกเลือกคนล่าสุด หลังจากได้รับความทรงจำจากผู้ให้ มุมมองของโจนัสก็เปลี่ยนไป จากที่เคยมองอะไรแค่มุมเดียว คิดเหมือนกับคนอื่นๆ โจนัสเริ่มเห็นอะไรที่หลากหลาย และมองโลกได้กว้างมากขึ้น
 
และนั่นแหละ ข้อคิดหลักที่เราได้จากหนังสือเล่มนี้ ตอนแรก โจนัส พระเอกของเรา ก็มองโลกซ้ำๆ ซากๆ คิดเหมือนคนอื่น แต่สุดท้าย เมื่อเขาได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มุมมองในการมองโลกของเขาก็เปลี่ยนไป ซึ่งตรงนั้นเอง! คีย์เวิร์ดของเรื่อง “การมองโลกให้กว้าง” อย่าหยุดอยู่แค่มุมมองของตัวเอง แต่ให้มองผ่านสายตาของคนอื่นๆ บ้าง เพียงแค่คำคำเดียว ข้อคิดเดียว ก็สร้างหนังสือที่มีคุณค่าได้หนึ่งเล่มเลยนะ  
 
ใครสนใจ สามารถอ่านบทวิจารณ์เพิ่มเติมได้ พี่น้อง สมาชิกทีม Writer ของเราจัดไว้ให้แล้วที่นี่  

ปกภาษาอังกฤษ ดูเข้มๆ
 
เรื่อง Twilight
แปลไทยแล้วในชื่อ ทไวไลท์ ซาก้า แรกรัตติกาล, นวจันทรา, คราสสยุมพร และรุ่งอรุโณทัย
ผู้เขียน สเตฟานี่ เมเยอร์ ผู้แปล เจนจิรา เสรีโยธิน สำนักพิมพ์ ปราชญ์เปรียว
 
Don't Morph Into Your Partner
อย่าทำตัวติดกับคนรักจนเกินไป
ฟังแล้ว หลายคนก็คงงงๆ หมายถึงอะไร ที่เป็นข้อคิดเรื่องความรัก ก็เพราะทไวไลท์ เป็นวรรณกรรมที่เน้นความรักเป็นหลัก เรื่องราวรักสามเส้าระหว่างแวมไพร์ หมาป่า และมนุษย์ ที่จะว่าไปก็แอบน้ำเน่าเบาๆ แต่ก็นั่นแหละ “น้ำเน่าที่เรารัก” เนอะ 55 เราจะเห็นว่าตลอดทั้งเรื่อง เบลล่า เป็นผู้หญิงที่อยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ ชีจะทำหน้าสวยๆ แอ๊บๆ ตาปรือๆ ตลอดเวลา คือถ้าไม่มีเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแวมไพร์หล่อ หรือเจค็อบ น้องหมาป่าบึกคอยปกป้อง เธอก็คงจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย เรียกว่าเป็นผู้หญิงที่ต้องโอนอ่อน หวังพึ่งผู้ชายเสมอ ข้อคิดที่ได้จากทไวไลท์ ก็คือ คนเราทุกคนควรยืนหยัดด้วยตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ขอให้หาสิ่งที่ตัวเองชอบให้พบ แล้วก็ทำในสิ่งที่รัก สร้างตัวตนของตัวเอง เคยได้ยินคำนี้ไหม รักตัวเองก่อนแล้วค่อยไปรักคนอื่น นี่แหละ ข้อคิดความรักที่ได้จากเรื่องนี้
 
หน้าปกทั้ง 4 เล่ม สวยบาดใจ
 
เรื่อง Divergent
แปลไทยแล้วในชื่อ ไดเวอร์เจนท์ แบ่งเป็นสามเล่มจบ
ไดเวอร์เจนท์ มายาเร้นโลก (Divergent)
อินเซอร์เจนท์ ปริศนาสยบโลก (Insurgent)
อัลลิเจนท์ แผนลับดับโลก (Allegiant)
ผู้เขียน เวโรนิก้า รอธ ผู้แปล นลิญ สำนักพิมพ์ Spell

หน้าปกทั้งสามเล่ม สวยเชียว 
 
Everyone Around You Is Leading a Very Complex Life — Don't Ignore Their Needs
ชีวิตของทุกคนล้วนซับซ้อน อย่าละเลยความต้องการของใครง่ายๆ
สิ่งที่ “ทริส” นางเอกของเรื่องไดเวอร์เจนท์ได้เจอเต็มๆ ก็คือ ประสบการณ์ของการต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว ตลอดเรื่อง เราจะเห็นว่าตัวละครแต่ละตัว ต่างก็มีปัญหาของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตัวพระเอก หรือตัวพี่ชายนางเอก ทุกคนต่างก็ต้องต่อสู้เพื่อค้นหาตัวเอง ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นได้ว่า แต่ละตัวละครต่างก็มีชีวิตของตัวเอง ซึ่งไม่เหมือนกันเลย แต่ว่า... การที่ชีวิตของตัวละครเหล่านั้น เป็นแบบนี้ได้ ก็เพราะฉากหลังของชีวิต ไดเวอร์เจนท์สอนให้เรารู้ว่า... ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเรา ต่างก็ไม่เหมือนกันเลย และแต่ละคนนั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตของตน ดังนั้น เราไม่ควรจำกัดความต้องการของใคร หรือตัดสินใครแค่เพียงเพราะเราคิดไม่เหมือนกับเขา

ไดเวอร์เจนท์ ฉบับภาพยนตร์
เรื่องแฮรี่ พ็อตเตอร์
แปลไทยแล้วในชื่อ
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ (Harry Potter and the Philosopher's Stone)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับห้องแห่งความลับ (Harry Potter and the Chamber of Secrets)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (Harry Potter and the Prisoner of Azkaban)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับถ้วยอัคนี (Harry Potter and the Goblet of Fire)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์ (Harry Potter and the Order of the Phoenix)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม (Harry Potter and the Half-Blood Prince)
แฮรี่ พ็อตเตอร์ กับเครื่องรางยมทูต (Harry Potter and the Deathly Hallows)
ผู้เขียน เจ. เค. โรว์ลิ่ง ผู้แปล สุมาลี บำรุงสุข สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์


อดีตไม่ตัดสินใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับทางเลือกของคุณ
It's Your Choices, Not Your Past, That Define You
ข้อคิดของเรื่องนี้ ถือว่าชัดเจนมากๆ พี่อตินค่อนข้างมั่นใจว่าชาวไรท์เตอร์ อ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์จบนะ (แต่จะจบกี่เล่มนี่ว่ากันอีกที) หรือถ้าไม่จบ อย่างน้อยๆ ก็เคยดูหนังนั่นแหละ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียน เข้าใจผูกพล็อตให้เราเห็นว่า แฮรี่ นั้นถูกกำหนดชะตาไว้ตั้งแต่แรกเกิด แต่ว่า... ชะตาก็เป็นสิ่งที่คนเราเลือกเองได้ ฉากเด็ดก็คือฉากที่หมวกคัดสรร บอกว่าจะส่งแฮรี่ไปที่บ้านสลิธิริน แต่แฮรี่กลับยืนกรานจะอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ หรือตัวละครอย่าง เฮอร์ไมโอนี่ เพื่อนรักของแฮรี่เอง ก็เป็นแค่มักเกิ้ล หรือมนุษย์ธรรมดา แต่เพราะความขยันอดทน ทำให้เธอกลายเป็นแม่มดฝีมือดีที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างในหนังสือเล่มนี้ นำไปสู่คำตอบที่ว่า... ไม่ว่าโชคชะตาจะเป็นอย่างไร หรือใครจะมองเราอย่างไร หน้าที่ของเราคือ ทำให้ดีที่สุด และกำหนดชะตาของเราด้วยตัวเอง


เรื่อง ฮังเกอร์เกม
แปลไทยแล้วในชื่อเกมล่าเกม แบ่งเป็นสามเล่มจบ  
เกมล่าชีวิต (Hunger Games)
ปีกแห่งไฟ (Catching Fire)
และม็อกกิ้งเจย์ (Mocking Jay)
ผู้เขียน ซูซาน คอลลินส์ ผู้แปล นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊คส์
 
One Person Can Change Everything
คนเพียงคนเดียว เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้
ฮังเกอร์เกม เป็นหนังสือที่พี่ตินชอบมาก ขออวยเป็นการส่วนตัว (โบกพู่) เคยรีวิวผ่านเฟซตัวเองหลายๆ ครั้ง และต่อจากนี้ ก็ตั้งใจแล้วว่าจะรีวิวผ่านเว็บเด็กดีด้วยนะ (รอจังหวะหนังเข้าอยู่) หากใครเคยอ่าน จะรู้ได้เลยว่า... สังคมของฮังเกอร์เกม เขาอยู่กันแบบ... กดขี่ ทุกอย่างแร้นแค้น ประชากรในแต่ละเขตต้องทำงานหนักเพื่อส่งสิ่งดีๆ ให้กับแคปิตอล เมืองหลวงที่มีแต่กลุ่มชนชั้นสูงพักอยู่อาศัย กลุ่มคนพวกนี้เองที่มีสิทธิ์ขับเคลื่อนเมือง และทุกอย่างก็เป็นวงจรเดิมๆ ของมันมาเนิ่นนาน จนกระทั่ง แคตนิส เอฟเวอร์ดีน นางเอกของเรา ลุกขึ้นมาปฏิวัติ เราจะเห็นได้ว่า แม้แคตนิส อาจไม่ได้ตั้งใจและไม่รู้ตัวว่าทำอะไร แต่พลัง และแรงบันดาลใจในตัวเธอ ก็ส่งไปถึงใจของคนอื่นๆ และทำให้ผู้คนคล้อยตามได้ การสร้างตัวละคนที่โดดเด่น น่าสนใจ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้เกินความเป็นจริง ... (คือแคตนิสก็แค่เด็กสาววัย 16 ธรรมดาๆ ที่อยากแต่งตัวสวย อยากมีความรัก แต่ก็มีความเกลียด มีความกดดันในตัว) มันทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับตัวละคร และการกระทำหลายๆ อย่างของเธอ ก็ส่งผลต่อความรู้สึกของเรา และแน่นอนว่า... มันยังส่งผลต่อความรู้สึกของตัวละครตัวอื่นในเรื่อง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงขั้นปฏิวัติได้ในที่สุด  

เพราะฉะนั้น ฮังเกอร์เกมทำให้เรารู้สึกว่า ถ้าหากเรากล้าพอ เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้ด้วยมือของตัวเอง

บ็อกเซ็ตสวยมาก

จบไปแล้ว 5 เรื่องของเรา จะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนการวิจารณ์สั้นๆ เบาๆ อ่านเพลินๆ กันเนอะ ถือว่าพี่ตินชวนคุยแล้วกัน ยังไงก็ขอสรุปปิดท้ายสักนิดว่า ทั้ง 5 เรื่องนี้ เป็นผลงานแนว YA ที่น่าอ่านน่าศึกษามากๆ จริงๆ แล้ว มีเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องเหมือนกัน แต่พี่ตินไม่ได้ยกมาไว้ในบทความนี้ (เพราะตั้งใจจะทำบทความภาคต่อ กร๊าก) ก็นั่นแหละ กลับมาก่อน ปิดท้ายอีกรอบนะ พี่ตินก็คิดว่า... บทวิจารณ์สั้นๆ นี้ น่าจะให้ประโยชน์กับน้องๆ นัก (อยาก) เขียนได้ไม่มากก็น้อย ถ้าใครอยากเป็นนักเขียน เวลาอ่านหนังสือดีๆ เหล่านี้ ก็ลองมองหาข้อคิดดีๆ แล้วลองวิเคราะห์ คิดดูว่า... ถ้าเป็นผลงานของเราบ้าง เราจะใส่อะไรในนั้น ให้คนอ่านของเราได้สัมผัสบ้าง... ถ้ายังนึกวิธีไม่ออก ก็ลองทำแผนภาพคร่าวๆ หรือเขียนสรุปออกมาก่อนก็ได้ พี่ตินว่าการอ่านงานของคนอื่น บางทีมันก็ช่วยให้เรามองเห็นงานของเราชัดเจนขึ้นได้เหมือนกันนะ
 
ยังไงก็ฝากเอาไว้จ้ะ เวลาอ่านหนังสือ ลองหาสิ่งดีๆ จากเนื้อหา แล้วจะได้ประโยชน์กับเราเยอะมากทีเดียว
 
ทิ้งท้ายกับสองบทความน่าสนใจเกี่ยวกับวรรณกรรมแนว YA ของเรา ฝีมือพี่น้องและพี่อติน ทีม Writer ครับ ^ ^   
 
ทำความรู้จักวรรณกรรม YA หรือ Young Adult ได้ที่นี่  

ลองไปดู 5 วรรณกรรม Young Adult ที่ดังสุดๆ น่าอ่านมากๆ กัน  

 
อตินเอง
 
ขอบคุณข้อมูลแรงบันดาลใจจากเว็บไซต์ www.popsugar.com/smart-living/Lessons-Adults-From-Young-Adult-Literature-35181399


 
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด