รื้อประวัติ ก่อนจะมาเป็น “ปีเตอร์ แพน” นักเขียนผ่านอะไรมาบ้าง
ปีเตอร์แพนจะเป็นหนังแล้วนะ ก่อนจะไปดู มาทำการบ้านกันดีกว่า
 
เมื่อวันก่อนพี่ตินไปดูเมซรันเนอร์มา แล้วก็ได้เห็นตัวอย่างหนังที่น่าดูสุดๆ นั่นก็คือ เรื่อง PAN หรือ ปีเตอร์ แพน นั่นเอง เรื่องของเรื่อง พี่ตินเป็นแฟนคลับปีเตอร์แพนอยู่แล้ว เป็นหนึ่งในหนังสือที่ชอบมาก เพราะงั้น พอรู้ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้จะได้ทำเป็นหนัง ก็ตื่นเต้นฝุดๆ อยากดูมาก หนังเข้าฉายวันที่ 9 ตุลาคมนี้แล้ววววว 
 
แต่ว่าก่อนจะได้ไปดูจริง ก็ขอทำการบ้านล่วงหน้าไว้ก่อน เวลาไปดูจะได้มีข้อมูลบ้างอะไรบ้าง ต้องรู้นิดนึงว่าใครเขียน แล้วเรื่องมันเป็นยังไง หนังสงหนังสือที่มีก็งัดออกมาอ่านสักหน่อย แหม่ ไอ้ที่มีก็เก่าเชียะ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปล่า อย่ากระนั้นเลย เรามาเล่าต่อให้น้องๆ ชาวเด็กดีฟังด้วยก็แล้วกัน ฮิๆ ได้สองเด้งเลย
 
จุดเริ่มต้นของ “ปีเตอร์ แพน”
ก่อนอื่นเลย ขอพูดถึงหนังสือก่อนตามธรรมเนียม พี่ตินเคยอ่านมานานมากแล้ว ปีเตอร์ แพน นี่เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่อ่านบ่อยมากๆ และก็เช่นเดียวกับวรรณกรรมเยาวชนเรื่องอื่นๆ คือ เนื้อหาในหนังสือ ไม่เหมือนในการ์ตูน! ก็อย่างที่รู้กันว่าในหนังสือ เทพนิยายหลายๆ เรื่อง มักจะดาร์คกว่าในการ์ตูนราวๆ 20 เท่าเศษ ปีเตอร์ แพนก็เหมือนกัน ประเด็นหลักของมันพูดถึงเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่มีวันโต เด็กชายคนนี้ใช้ชีวิตอยู่ใน “เนเวอร์แลนด์” หรือ “นิรปฐพี” ชีวิตเต็มไปด้วยการผจญภัย ได้พบเจอเรื่องแปลกๆ ที่ไม่มีใครได้พบเจอ
 
ถ้าถามถึงแรงบันดาลใจของวรรณกรรมเล่มนี้ ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1866 เจ. เอ็ม. แบร์รี่ ผู้เขียน เป็นลูกคนเล็กจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน อยู่ในวัย 6 ขวบ ตอนนั้นเอง เดวิด พี่ชายคนโตของครอบครัวเสียชีวิตในอุบัติเหตุ แม่ของแบร์รี่เสียใจจนช็อก ระหว่างช่วงเวลานั้น ตัวเจ. เอ็ม. แบร์รี่ หรือชื่อต้นคือ เจมส์ ตัดสินใจเลียนแบบพฤติกรรมของเดวิด พี่ชาย ใส่เสื้อผ้าของเขา พูดจาเหมือนกัน เดินเหินเหมือนกันทุกอย่าง จนกระทั่งอายุครบ 13 (เท่ากับอายุที่เดวิดเสียชีวิต) ความสูงของแบร์รี่ไม่เพิ่มขึ้นอีกเลย (เขาสูงแค่ 5 ฟุตเท่านั้น) สิ่งที่น่าแปลกอีกเรื่องก็คือ หนวดเคราของเขาก็ไม่ขึ้นจนอายุ 24 มิหนำซ้ำรูปร่างยังผอมบางและเสียงก็ไม่แตกหนุ่มด้วย สิ่งที่ได้พบเจอ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้แบร์รี่เขียนหนังสือเกี่ยวกับ “ปีเตอร์ แพน” เด็กชายผู้ไม่มีวันโต
 
เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ นักเขียนเรื่องปีเตอร์ แพน 
 
ประวัตินักเขียน เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ (เจ. เอ็ม. แบร์รี่)
แบร์รี่รักการเขียนมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ พอจบมหาวิทยาลัย เขาเดินทางไปลอนดอน เพื่อเริ่มต้นอาชีพนักเขียน เพียงไม่นาน ผลงานก็ได้รับการตีพิมพ์ ในปี ค.ศ. 1880 เขาก็มีชื่อเสียงไปทั่วอังกฤษ กลายเป็นหนึ่งในนักเขียนอันดับต้นๆ ของประเทศ ทว่าทั้งๆ ประสบความสำเร็จในเรื่องงานเขียน แบร์รี่กลับเป็นคนขี้อายและเก็บตัวมาก และยังกลัวการแต่งงานขั้นสุด ถึงขนาดพูดไว้เลยว่า “ฝันร้ายที่สุดคือ ฝันว่าต้องแต่งงาน” อย่างไรก็ตาม แม้ไม่อยากแต่งงาน แต่จู่ๆ แบร์รี่กลับได้พบผู้หญิงพิเศษ เธอคือ แมรี่ แอนเชลล์ (Mary Ansell) นักแสดงผู้รับบทในนิยายของเขา ทั้งคู่เห็นใจกันตอนที่แบร์รี่เป็นปวดบวมอย่างหนัก และแมรี่คอยพยาบาล หลังหายดี เขาก็ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน ทว่า... ความสัมพันธ์กลับไม่ราบรื่น แมรี่ถึงกับพูดว่า “แบร์รี่เป็นคนเย็นชา และไม่รู้จักรัก” สุดท้าย ทั้งคู่ก็เลิกราต่อกัน เพราะแมรี่ไปมีชู้
 
กำเนิด “ปีเตอร์ แพน”
ในปี ค.ศ. 1899 ช่วงนั้น ชีวิตแต่งงานของแบร์รี่เลวร้ายมาก เขาได้รู้จักกับ จอร์จ, จอห์น, ปีเตอร์, ไมเคิล และนิโคลัส เดวี่ส์ และ ซิลเวีย แม่ของเด็กๆ ทั้งห้า ที่เคนซิงตัน พาร์ค ลอนดอน อาร์เธอร์ เดวี่ส์ พ่อของเด็กๆ เป็นทนายความที่งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว แบร์รี่ก็เลยสามารถใช้เวลาอยู่กับลูกชายทั้งห้าของครอบครัวเดวี่ส์อย่างเต็มที่ การได้อยู่กับเด็กๆ ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้แบร์รี่อยากสร้างเรื่องราวที่มีพวกเขาเป็นตัวละครเอก และในปี ค.ศ. 1901 นั้นเอง ผลงานใหม่ของเขาในชื่อ The Boy Castaways of Black Lake Island ก็ถูกเขียนขึ้น ปีต่อมา เขาตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ และใช้ชื่อว่า The Little White Bird ภายในเรื่อง พูดถึงปีเตอร์ แพน เด็กชายที่บินเที่ยวไปในท้องฟ้ากับเหล่าแฟรี่ แบร์รี่เพิ่มจินตนาการไว้ด้วยว่า เด็กทุกคนเกิดมาเหมือนนกที่บินได้อย่างอิสระ แต่ว่าพอเติบโตขึ้น พวกเขาก็หลงลืมวิธีบินไปจนหมด และกลายเป็นผู้ใหญ่ธรรมดาๆ หลังเที่ยวจนเหนื่อย ปีเตอร์ตัดสินใจกลับบ้าน แต่ภาพที่ได้เห็นคือแม่ของเขากำลังอุ้มทารกใหม่ในอ้อมแขน เธอลืมเขาไปแล้ว หลังจากวันนั้น ปีเตอร์ไม่คิดกลับบ้าน และไม่โตขึ้นอีกเลย  
 
หนังสือเล่มนี้ ได้รับความนิยมสูงมาก จนคนอ่านขอร้องให้แบร์รี่เขียนเรื่องของ ปีเตอร์ แพน เพิ่มเติม ซึ่งแบร์รี่ก็จัดให้ โดยใช้ตัวละครเป็นเด็กชายตัวน้อยของครอบครัวเดวี่ส์นั่นเอง พวกเขาพบกับปีเตอร์ แพนในคืนวันหนึ่ง และหลังจากนั้น การผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น ทุกคนเดินทางไปที่เนเวอร์แลนด์ บ้านของปีเตอร์ แพน ได้รู้จักกัปตันฮุก ได้สนุกสนานกับนางเงือก หรือเจ้าหญิงอินเดียนแดง และแน่นอนว่า เรื่องราวของปีเตอร์ แพนโด่งดังเป็นพลุแตก โดยแบร์รี่ ได้เขียนชี้แจงและขอบคุณไว้ด้วยว่าตัวละครต่างๆ มาจากไหน
 
จอร์จ เดวี่ส์ กลายเป็นมิสเตอร์ดาร์ลิ่ง
จอห์น เดวี่ส์ กลายเป็น จอห์น ดาร์ลิ่ง
ไมเคิล เดวี่ส์ กลายเป็น ไมเคิล ดาร์ลิ่ง
นิโคลัส เดวี่ส์ กลายเป็น นิโคลัส ดาร์ลิ่ง
ปีเตอร์ เดวี่ส์ กลายเป็น ปีเตอร์ แพน

สมาชิกครอบครัวเดวี่ส์ 
เด็กชายทุกคนโลดแล่นอยู่ในหนังสือ

 
และไม่น่าเชื่อ แต่ตัวแบร์รี่เอง เขียนให้ตัวเองรับบทของ กัปตันเจมส์ ฮุก! ผู้ซึ่งมือขวาขาด แบร์รี่เอง ต้องทนทุกข์กับอาการเอ็นมือขวาอักเสบเช่นเดียวกับกัปตันฮุก ส่วนเจ้าจระเข้ยักษ์ ติ๊กต็อก แบร์รี่เปรียบเทียบว่า มันเหมือนกับนาฬิกาที่คอยเตือนใจเขาตลอดเวลา แม้แต่ นานา น้องหมาเซ็นต์เบอร์นาร์ดที่คอยดูแลเด็กๆ ก็มีตัวตนจริง กล่าวคือมาจากเจ้า Porthos หมาของเขาเอง
  
อีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่แบร์รี่เพิ่มเข้าไปในเรื่องก็คือ เด็กผู้หญิงตัวน้อย เว็นดี้ ตัวละครนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก มาร์กาเร็ต เฮนลี่ย์ ลูกสาวของเพื่อนเขาเอง เธอสนิทสนมกับแบร์รี่มาก และเรียกเขาว่า "เพื่อน" หลังจากชื่อตัวละครนี้ ออกสู่สาธารณะ เวนดี้ กลายเป็นชื่อฮอตฮิตของเด็กหญิงในประเทศอังกฤษไปในทันที
 
ปีเตอร์ แพน พูดถึงเรื่องอะไร
ขอพูดรวมๆ ทั้งในการ์ตูนและในหนังสือแล้วกันว่า เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ ปีเตอร์ แพน แวะไปในบ้านครอบครัวตระกูลดาร์ลิ่ง และทำเงาหายไป เขากลับไปตามหาเงาพร้อมกับแฟรี่ตัวจิ๋ว ทิงเกอร์เบล และได้พบกับ เวนดี้, จอห์น, นิโคลัส และไมเคิล เด็กๆ ทั้งสี่จากบ้านดาร์ลิ่ง หลังจากพูดคุยกัน เด็กๆ ก็ตัดสินใจตามปีเตอร์แพนไปที่เนเวอร์แลนด์ หรือดินแดนของเด็กที่ถูกทิ้ง ทว่าเมื่อไปถึงที่นั่น ทุกคนกลับถูกเล่นงานโดยกัปตันฮุก อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ก็ช่วยทุกคนได้สำเร็จ และพาเด็กๆ กลับไปส่งบ้านในที่สุด
 
หลายคนวิเคราะห์และพูดถึงเรื่องนี้ โดยอ้างอิงจากทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ว่าเป็นเรื่องเล่าที่สร้างขึ้นจากปมในใจของเจ. เอ็ม. แบร์รี่ เพราะตัวเขาเองหยุดโตด้วยความสูงเพียงแค่ 5 ฟุต นิสัยส่วนตัวก็คล้ายเด็ก เวลาอยู่กับพี่น้องตระกูลเดวี่ส์ทั้งห้า เหมือนเขากลายเป็นลูกชายคนที่หกอย่างไรก็อย่างนั้น และในเมื่อตัวเขาเองเป็นเด็กที่ไม่มีวันโต เนื้อหาที่เขียน ก็เลยเกี่ยวข้องกับเด็กที่ไม่มีวันโตด้วยเช่นกัน (อยากอ่านเรื่องของฟรอยด์ต่อ ลองค้นกูเกิ้ลได้นะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวิเคราะห์จิตใต้สำนึก ว่าคนเราเจออะไรมา ก็จะพยายามต่อต้านหรือทำตรงกันข้าม การกระทำทุกอย่างของเรามาจากจิตใต้สำนึกทั้งสิ้น)
 
ตอนจบ (ที่ไม่แฮปปี้) ของแต่ละตัวละคร
ในการ์ตูน ตัวละครจบลงที่วัยเด็กตลอดกาล ในหนังสือ จบลงที่ตัวละครเด็กทุกคนเติบโต ยกเว้นปีเตอร์ ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวไปตลอดกาล ทว่าในโลกของความเป็นจริง ไม่สวยงามอย่างนั้น อาร์เธอร์ เดวี่ส์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เปิดโอกาสให้แบร์รี่ขอซิลเวียแต่งงาน ทว่าเธอเสียชีวิตด้วยโรคเดียวกับสามี แบร์รี่กลายเป็นพ่อบุญธรรมของเด็กชายทั้งห้า เขาอุทิศชีวิตทั้งหมดเพื่อทุกคน และเรียกพวกเด็กๆ ว่า The Lost Boys (คำนี้ถูกใช้ในหนังสือปีเตอร์ แพนด้วย) อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของแบร์รี่กับลูกบุญธรรมไม่ราบรื่น จนท้าทายที่สุด ก็คงสถานะ “ต่างคนต่างอยู่” เสียมากกว่า
 
จอร์จ ลูกชายคนโต สนิทสนมกับแบรี่มากที่สุด เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อปี ค.ศ. 1915 ไมเคิล จมน้ำตาย จอห์น แต่งงานและไม่ยอมติดต่อแบร์รี่อีกเลย ส่วน ปีเตอร์ น้องคนสุดท้อง ฆ่าตัวตาย (บางคนถึงกับวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาฆ่าตัวตาย จะได้หนีจากการเป็น “ปีเตอร์แพน”
 
บั้นปลายของแบร์รี่ ทั้งรวยและมีชื่อเสียง แต่กลับใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวและโศกเศร้า สุดท้าย เขาตัดสินใจยกลิขสิทธิ์ของเรื่องปีเตอร์ แพน ให้กับ โรงพยาบาล Great Ormond Street Hospital for Sick Children อุทิศเงินทองทั้งหมดให้กับเด็กๆ ตามกฎหมายของอังกฤษ ลิขสิทธิ์หนังสือจะตกเป็นของคนใดคนหนึ่งได้เพียง 50 ปี จากนั้นก็จะกลายเป็นของสาธารณะ ทว่ารัฐสภาตกลงกันว่า เรื่องปีเตอร์ แพน ได้รับการยกเว้น เพราะอยากให้เป็นไปตามเจตนาของเจ้าของเรื่อง คือหารายได้เพื่อช่วยรักษาโรคให้กับเด็กๆ ที่ไม่มีวันโต
 
ภาพในจินตนาการ ฉากฮิตของปีเตอร์ แพน
ปีเตอร์ พาเวนดี้ จอห์น และนิโคลัสบินไปด้วยกัน 
เครดิตภาพ 
theguardian.com/uk
 
โปสเตอร์หนังเรื่อง PAN ในรูปคือเรือเหาะมหัศจรรย์
ที่พาเด็กๆ กลับบ้านในฉากสุดท้าย

 
เด็กที่เล่นเป็นปีเตอร์ หน้าตาลงตัวดีนะ
 
เล่าเรื่องจบไปแล้ว พี่ตินก็ขอพูดปิดท้ายนิดนึงแล้วกันว่า... วรรณกรรมระดับโลกที่อ่านแล้วจับใจสุดๆ แต่ละเรื่องนี่ ช่างมีประวัติหรือเบื้องหลังที่ลึกลับเสียเหลือเกิน และนักเขียนดังๆ นี่ส่วนใหญ่ต้องเจอเรื่องน่าสะเทือนใจสินะ ถึงเขียนหนังสือออกมาได้ดีขนาดนี้...
 
น้องๆ คิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ด้านล่างจ้ะ
  
อตินเอง
  
ขอบคุณข้อมูลบทความและภาพจากภาพยนตร์เรื่อง PAN  
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

thaihub-online74 Member 29 ก.ย. 58 15:09 น. 2
รอดูเหมือนกันครับเรื่องนี้ ติดตามปีเตอร์แพนตั้งแต่ภาคเก่าพอเรึ่มสนใจในปีเตอร์แพนก็หาข้อมูลจนมาเจอหนังเรื่อง pan พอดี บอกตามตรงผมดีใจจนกระโดดทั่วห้องเลย แต่ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงในโลกออนไลน์เลย (ตอนไปดูเมซรันเนอร์ก็เจอตัวอย่างเรื่องแพนเหมือนกันเลยครับ)
0
กำลังโหลด
thaihub-online74 Member 29 ก.ย. 58 15:08 น. 1
รอดูเหมือนกันครับเรื่องนี้ ติดตามปีเตอร์แพนตั้งแต่ภาคเก่าพอเรึ่มสนใจในปีเตอร์แพนก็หาข้อมูลจนมาเจอหนังเรื่อง pan พอดี บอกตามตรงผมดีใจจนกระโดดทั่วห้องเลย แต่ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงในโลกออนไลน์เลย (ตอนไปดูเมซรันเนอร์ก็เจอตัวอย่างเรื่องแพนเหมือนกันเลยครับ)
1
อตินเอง Writer Editor 29 ก.ย. 58 16:31 น. 1-1
ชอบเรื่องนี้มากๆ ค่ะ ไว้พี่จะหาบทความเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของปีเตอร์แพนมาฝากอีกนะคะ รักเลย
0
กำลังโหลด
LoVeLyBiCkY Member 3 ต.ค. 58 00:20 น. 5
ขอบคุณนะคะพี่อตินที่เขียนบทความดีๆและนำประวัติของเรื่องมาเผยแพร่ อ่านแล้วเพลินมากไม่มีเบื่อเลย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากอยู่แล้ว เนื้อหาสนุกน่าสนุกแต่ก็ปนความเศร้าที่เห็นได้ชัดเจนเลยล่ะ
1
กำลังโหลด
AMTHEN Member 12 ธ.ค. 58 23:43 น. 10

ชอบเรื่องนี้มากๆเลย ติดตามตั้งแต่ภาคแรกๆ ฉบับการ์ตูนก็สนุกอ่ะ
แล้วก็เคยฝันไว้ตอนเด็กๆอยากไป เนเวอร์แลนด์บ้าง จนตอนนี้ยังไม่เลิก555555555555รักเลย

0
กำลังโหลด

15 ความคิดเห็น

thaihub-online74 Member 29 ก.ย. 58 15:08 น. 1
รอดูเหมือนกันครับเรื่องนี้ ติดตามปีเตอร์แพนตั้งแต่ภาคเก่าพอเรึ่มสนใจในปีเตอร์แพนก็หาข้อมูลจนมาเจอหนังเรื่อง pan พอดี บอกตามตรงผมดีใจจนกระโดดทั่วห้องเลย แต่ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงในโลกออนไลน์เลย (ตอนไปดูเมซรันเนอร์ก็เจอตัวอย่างเรื่องแพนเหมือนกันเลยครับ)
1
อตินเอง Writer Editor 29 ก.ย. 58 16:31 น. 1-1
ชอบเรื่องนี้มากๆ ค่ะ ไว้พี่จะหาบทความเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของปีเตอร์แพนมาฝากอีกนะคะ รักเลย
0
กำลังโหลด
thaihub-online74 Member 29 ก.ย. 58 15:09 น. 2
รอดูเหมือนกันครับเรื่องนี้ ติดตามปีเตอร์แพนตั้งแต่ภาคเก่าพอเรึ่มสนใจในปีเตอร์แพนก็หาข้อมูลจนมาเจอหนังเรื่อง pan พอดี บอกตามตรงผมดีใจจนกระโดดทั่วห้องเลย แต่ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงในโลกออนไลน์เลย (ตอนไปดูเมซรันเนอร์ก็เจอตัวอย่างเรื่องแพนเหมือนกันเลยครับ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
LEMONADE . Member 2 ต.ค. 58 16:52 น. 4

ชอบเรื่องปีเตอร์แพนมากๆ หาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาให้อ่านอีกนะคะ **ส่วนตัวหลงรักเวนดี้และทิงเกอร์เบลมากกว่าปีเตอร์แพนอีก55555555555

ปล.อีกเรื่องที่ชอบคือเจ้าชายน้อย อ่านหนังสือแล้วชอบมาก ว้าย

0
กำลังโหลด
LoVeLyBiCkY Member 3 ต.ค. 58 00:20 น. 5
ขอบคุณนะคะพี่อตินที่เขียนบทความดีๆและนำประวัติของเรื่องมาเผยแพร่ อ่านแล้วเพลินมากไม่มีเบื่อเลย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากอยู่แล้ว เนื้อหาสนุกน่าสนุกแต่ก็ปนความเศร้าที่เห็นได้ชัดเจนเลยล่ะ
1
กำลังโหลด
มินาโตะ Member 3 ต.ค. 58 09:44 น. 6

ตอนสุดท้ายที่เล่าถึงต่างคนต่างอยู่น่ะค่ะ จอร์จเสียชีวิตในสนามรบ ไมเคิลจมน้ำตาย จอห์นแต่งงาน ปีเตอร์ฆ่าตัวตาย แล้วคือออยากรู้ว่านิโคลัสเค้าไปไหนเหรอคะ แต่งงานไปหรือเสียชีวิตยังไงคะ?? แล้วทำไมปีเตอร์ถึงฆ่าตัวตายล่ะคะ

0
กำลังโหลด
ทิ้งก์ 3 ต.ค. 58 14:35 น. 7
ปีเตอร์ แพน เป็นการ์ตูนเรื่องแรกจากดิสนี่ย์ที่เราชอบมาก เสียงเพลงในเรื่องชวนฝันมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งหนังทั้งการ์ตูน เนื้อเรื่องก็ชวนฝันอยู่แล้วด้วย สรุปแล้วก็ชอบมาก 555555
0
กำลังโหลด
Ton Maitem Member 4 ต.ค. 58 09:57 น. 8
ก็อยากดู ปีเตอร์ แพน ฉบับภาพยนตร์ แต่...ตอนนี้ดูเวอร์ชั่นการ์ตูนก่อน(ออกที่ช่อง บูมเมอแรง )
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
AMTHEN Member 12 ธ.ค. 58 23:43 น. 10

ชอบเรื่องนี้มากๆเลย ติดตามตั้งแต่ภาคแรกๆ ฉบับการ์ตูนก็สนุกอ่ะ
แล้วก็เคยฝันไว้ตอนเด็กๆอยากไป เนเวอร์แลนด์บ้าง จนตอนนี้ยังไม่เลิก555555555555รักเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด