ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาจักรเล็กๆในตู้หนังสือ (รีวิวหนังสือ)

    ลำดับตอนที่ #31 : รีวิว...บ้านซ่อนผี 1 凶宅筆記 : Ershisan (แนว Horror)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.22K
      4
      4 ม.ค. 59


    บ้านซ่อนผี 1 凶宅筆記

    ผู้เขียน : Ershisan

    ผู้แปล : ชาญ ธนประกอบ

    สำนักพิมพ์ไครม์แอนด์มิสทรี่ (เครือนานมีบุ๊คส์)

     

    คำโปรยปกหลัง

     "บ้านผีสิง" หมายถึงบ้านที่เคยมีคนตายผิดธรรมชาติ เล่ากันว่าคนที่ตายแบบนี้เนื่องจากยังไม่ถึงอายุขัย จึงตายไปด้วยความคับแค้น และวิญญาณมักไม่ไปไหน บ้านผีสิงจึงมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมาย

    เจียงซั่วกับ ฉินอี้เหิงคือคู่หูนักซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ พวกเขาซื้อ "บ้านผีสิง" ที่เต็มไปด้วยเรื่องหลอนจากทั่วทุกสารทิศ! หน้าที่ของเขาทั้งสองก็คือ "ล้างอาถรรพ์" ให้บ้านผีสิงเหล่านั้น แล้วขายต่อในราคาสูงกว่าเดิมหลายเท่า

    ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น ทว่าใครบางคนกำลังเพ่งเล็งจับจ้องพวกเขา ภัยพิบัติครั้งใหญ่เริ่มก่อตัวรอบทั้งคู่อย่างเงียบๆ กับดักสุดอันตรายตีวงล้อมพวกเขาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด!



    เมื่ออ่านจบแล้วนาตนงก็ต้องจัดรีวิวอย่างด่วนเลย รู้สึกเปิดปีใหม่นี้ดูทะแม่งๆ พิกล เล่มที่แล้วก็แนว Thriller เล่มนี้ยังจะมา Horror อีก 5555+ นิยายรักฟรุ้งฟริ้งสไตล์นาตนงไปไหนหมดเนี่ย

    เอาละ! อย่าเสียเวลานอกเรื่องกันอีกเลย เข้าประเด็นกันดีกว่า ขอบอกก่อนเลยว่านิยายเล่มนี้ถ้าไม่นับตัวอักษรเหลืองๆ บนปกที่โดดเด้งออกมา ก็ต้องจัดว่าเป็นปกที่โดนสุดๆ ชอบมั่กกกกกก ปกเท่ หลอนสมกับเรื่องเลยค่ะคุณขาาาาาา ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าหากนาตนงจะบอกว่า...ซื้อมาเพราะปกล้วนๆ 5555+ (นี่มันผู้พ่ายแพ้ชัดๆ) แต่เอาเถอะ ถึงจะมาเพราะปกแต่อ่านจบแล้วคุ้มโคตรๆ

    ก่อนอื่นต้องบอกว่านิยายเรื่องนี้ถ้าใครชอบ...ก็ชอบเลย ถ้าใครไม่แนวก็ไม่แนวอย่างแรง ความหลอนส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อส่วนบุคคลที่มีต่อสิ่งลี้ลับ ถ้าไม่เชื่อแบบค้านหัวชนฝา อย่าอ่านเลยค่ะคุณไม่อินแน่ๆ แต่ถ้าคุณเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติสัก 5% จัดเลยลองอ่านดู

    บ้านซ่อนผีเป็นเรื่องที่ดำเนินโดยการเล่าของ 'เจียงซั่ว' คนเดียว เป็นนิยายซ้อนเรื่องเล่า โดยมีโครงเรื่องหลักครอบเรื่องเล่าอยู่

    โครงเรื่องหลักคือเจียงซั่วตั้งกระทู้ประกาศว่า 'ถ้าหากมีใครสามารถฟังผมเล่าเรื่องที่นี่ได้ตลอดทั้งคืน ผมสัญญาจะยกบ้านหลังนี้ให้' และมีคน 9 คนที่มาตามประกาศนั้นจริงๆ ซึ่งเจียงซั่วก็เล่าเรื่องให้ฟังโดยมีเงื่อนไขเล็กน้อย และเขายังบอกอีกว่าทุกคนสามารถกลับออกจากที่นี่ไปได้ตลอดเวลาถ้าไม่ต้องการอยู่ต่อ จากนั้นเจียงซั่วก็เริ่มต้นเล่าเรื่อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของเขากับคู่หูที่ชื่อว่า 'ฉินอี้เหิง' ที่ทำงานเป็นนักซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่พิเศษนิดนึง ตรงที่บ้านเหล่านั้นล้วนเป็น 'บ้านผีสิง' นั่นเอง

    เรื่องเล่าทั้งหมดเกี่ยวกับประสบการณ์สั่นประสาทที่เขากับคู่หูได้ประสบมา ซึ่งทุกเรื่องเริ่มมีบางอย่างสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดและน่าหวาดหวั่นด้วย

    ขอบอกว่านาตนงใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้พอสมควรเลยค่ะ อ่านๆ แล้วก็ต้องพัก เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าถ้ามีความเชื่อเรื่องนี้อยู่บ้างมันหลอนค่ะ มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนเราฟัง The Shock แต่พีคกว่าตรงที่เรื่องนี้มันใกล้ตัว ศาสตร์ฮวงจุ้ย งานคุณไสย งานไสยศาสตร์มาเต็มมาก

    แล้วสถานที่เกิดเรื่องมันก็มีทั้งในห้องนอน ใต้เตียง ศาลเจ้า มีทั้งคนเป็น คนตาย คนถูกผีเข้า เรื่องลี้ลับทั้งหลายมาเต็ม บ้านแต่ละหลังอะหือออออ อ่านไปก็ขนลุกไป ยอมใจค่ะ บอกตรงๆว่ากลัวอะ มันบอกไม่ถูก

    นอกเหนือจากเรื่องเล่าจะน่ากลัวแล้ว เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับไสยศาสตร์ยังช่วยส่งเสริมได้อีกด้วย เพราะมันช่วยสนับสนุนให้เนื้อเรื่องบางจุดมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น แถมบางอย่างที่นาตนงรู้มามันก็เป็นตามที่หนังสือบอกเลย ฮืออออออ ไม่กลัวได้ไงล่ะเจอแบบนี้

    นาตนงไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะติอะไรดี คืออ่านลื่นมาก สำนวนแปลก็ดีงาม เนื้อหาก็สนุก ลุ้น หลอนมาเป็นระลอก แม้เรื่องเล่าจะไม่ได้น่ากลัวทั้งหมด แต่เกร็ดที่ใส่มาในเรื่องมันก็ชวนอ่านจริงๆ คนอ่านนี่แทบไม่ได้ต่างอะไรกับเจียงซั่วเลยเพราะเขาเองแค่รู้มาบ้าง พอได้ฟังฉินอี้เหิงอธิบายแล้วเราก็จะค่อยๆ เก็ตตาม แถมอารมณ์เดียวกะเจียงซั่วนั่นแหละ กลัว+หลอน 5555+

    อยากบอกว่าอ่านไปก็ภาวนาให้จบไวๆนะ คือเรื่องที่เจียงซั่วเล่ามันพีคขึ้นทุกขณะ ใกล้ตัวมากขึ้นทุกที แต่พอมาถึงหน้าสุดท้าย นาตนงกรี๊ดสิคะ รออัลไล???? ทำไมจบงี้ ไม่นะ ม่ายยยยยยยยยย อย่าเพิ่งจบ...เล่มต่ออยู่ที่ไหน คือคุณขาาาาา ปมเรื่องเพิ่งคลี่ออกมานิดเดียว แถมทิ้งปัญหาใหญ่ราวกับระเบิดเวลาไว้ที่ 5 หน้าสุดท้าย แล้วโครงเรื่องหลักก็ยังไม่อธิบาย ไม่มีบทสรุป แบบนี้มันทิ้งนาตนงไว้กลางทางชัดๆ อยากอ่านเล่มต่อสิคะคุณ ให้ตายเถอะ...แล้วเรื่องนี้พิมพ์ในเครือนานมีไงคะคุณขาาาาาา ซึ่งหมู่นักอ่านจะรู้ดีว่า [นานมี = นานๆ ออกมาที] รอนานมากกกกกก รอจนลืม หลายเรื่องอยากอ่านแต่ก็ต้องดองไว้เพราะไม่อยากค้างคา คือถ้าออกทิ้งระยะสัก 6 เดือนก็พอนะ ทิ้งเป็นปีนี้นาตนงท้อมาก อย่าง The Left Hand of God นาตนงรอจนลืมจ้าาาาา ลืมไปเลยว่ามีเล่มต่อ = =' เอวังกับเรื่องนั้น หมดความอยากอ่านไปโดยปริยาย

    เอาละ ก่อนที่จะบ่นไปเรื่อยเปื่อย เรามาให้คะแนนกันดีกว่าาาาาา เรื่องนี้เอาไป 8.9/10 นาตนงชอบมาก ถูกใจจนคิดว่าเข้าเมืองจะไปสอยมาอ่านอีก ท่าทางจะถูกจริตกับงานแปลแนวนี้แหละ

    อ่ออออเกือบลืม แถมอิมเมจ ฉินอี้เหิงกับเจียงซั่วให้ด้วย ไม่อยากจิบอกตอนแรกนาตนงก็ไม่ได้จิ้น เจิ้นอะไรหรอกนะ แต่พอเห็นรูปละ ความวายพลุ่งพล่านกันเลยทีเดียว


     





    สปอยล์ฮะ...สปอยล์ สำหรับคนที่อยากรู้แต่ไม่กล้าอ่าน นาตนงก็จัดให้ 

    ขอเตือนไว้ก่อนนะฮะว่า สปอยล์ยับ!!!!

    .

    .

    .

    อย่างที่เกริ่นเนื้อหาไว้ข้างต้นแล้วนะคะ ว่าโครงเรื่องหลักคือ 'เจียงซั่ว' ได้โพสต์กระทู้ว่า 'ถ้าหากมีใครสามารถฟังผมเล่าเรื่องที่นี่ได้ตลอดทั้งคืน ผมสัญญาจะยกบ้านหลังนี้ให้' ซึ่งแน่นอนว่ามีเสียงตอบรับอย่างดีเพราะว่าบ้านหลังที่เขาพูดถึงนี้มีมูลค่าหลายล้านหยวน ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงมีเพียง 9 คนเท่านั้นที่มาล้อมวงฟังเรื่องเล่าของเขาท่ามกลางแสงไฟสลัวในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่นี้ เจียงซั่วได้ตกลงกับอาสาสมัครว่าทุกคนสามารถกลับออกไปได้เมื่อไม่ต้องการฟังต่อ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องให้เขาถ่ายรูปเต็มตัวไว้ เมื่อทุกคนตกลง เรื่องเล่าของเขาจึงเริ่มต้นขึ้น

    บ้านแต่ละหลังที่เจียงซั่วได้พบล้วนแต่มีความไม่ธรรมดาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณแค้นที่ถูกขังอยู่ในบ้าน วิญญาณผีเร่ร่อนที่มาขอส่วนบุญ หรือผู้มีวิชาอาคมที่ทำคุณไสย มีบ้านหลังหนึ่งเจียงซั่วได้รับการติดต่อมาจากเศรษฐีบ้านนอกคนหนึ่ง

    เรื่องราวคร่าวๆ เกี่ยวกับบ้านหลังนั้นคือมีจิตรกรมาเช่าอาศัยอยู่ชั่วคราวตายลง ทำให้บ้านหลังนั้นขายไม่ออก เจียงซั่วกับฉินอี้เหิงจึงเข้าไปตรวจสอบดู ทว่าก็พบภาพวาดประหลาดๆ ของจิตรกรที่ตายในบ้าน แต่นอกจากเรื่องที่จิตรกรผู้นั้นตายในบ้านแล้วยังมีเรื่องโลงศพที่ตั้งอยู่ในบ้านอีก ซึ่งโลงศพนั้นเจ้าของบ้านได้ทำการแจ้งตำรวจและย้ายมันออกไปแล้ว ทว่าในโลงนั้นกลับมีศพของหญิงสาวอยู่ด้วย ภาพวาดประหลาดๆ ที่มาที่ไปแปลกๆ รวมไปถึงสภาพฮวงจุ้ยของบ้านที่ไม่น่าจะมีปัญหากลับทำให้เกิดปัญหามากขึ้น เมื่อหลังจากทำสัญญาซื้อขายบ้านแล้ว เจ้าของเดิมก็มาขอซื้อคืนกลับไป

    ทั้งสองเอะใจและคิดว่าในบ้านหลังนั้นต้องมีอะไรแน่ๆ ฉินอี้เหิงจึงทบทวนดูดีๆ ในที่สุดเขาก็รู้ความลับ...บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้าน แต่แท้จริงแล้วมันคือฝาครอบสุสาน ที่เศรษฐีบ้านนอกสร้างไว้เพื่อ 'จองสุสาน' ให้ตนเอง นอกจากนั้นยังใช้ผู้มีวิชาสะกดวิญญาณแค้นไว้ในนั้นด้วยเพื่อส่งเสริมพลังทางฮวงจุ้ย การติดต่อขายบ้านให้เจียงซั่วจึงมีจุดมั่งหมายที่จะเอาวิญญาณของเขาและคู่หูไปเซ่นสังเวยที่ฝาครอบโลงนั้นนั่นเอง

    หลังจากจบเรื่องบ้านหลังนั้นทั้งและสองรอดมาได้ ทั้งคู่ก็ตัดสินใจทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหาพวกนี้อย่างจริงจัง โดยมี 'หยวนเจิ้น' เป็นนายหน้าหาบ้านพวกนั้นอีกที

    ชื่อเสียงของทั้งคู่เริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ มีบ้านหลายหลังที่มีปัญหา ทั้งยังหมายรวมถึงสิ่งของบางอย่างที่มีปัญหาด้วย แต่ทั้งสองก็ร่วมมือกันเอาตัวรอดมาได้ ทว่าวันหนึ่งก็มีชายผู้ที่มีหกนิ้วติดต่อผ่านหยวนเจิ้นมาว่าอยากจะขายบ้านพักตากอากาศ ทั้งคู่สนใจบ้านหลังนี้มากเพราะราคาถูกเหมือนได้เปล่า จึงพากันไปดู บ้านหลังนั้นมีปัญหาตรงที่เจ้าของบ้านคนเก่าถูกฆ่าตายในบ้าน ทั้งยังถูกตัดเป็นชิ้นๆ ด้วย ส่วนครอบครัวของเจ้าของคนนั่นก็หายสาบสูญไป ชายหกนิ้วที่ซื้อบ้านหลังนี้ไว้เคยย้ายเข้ามาอยู่และพบว่าตอนกลางคืนมีเสียงดังลั่นราวกับฟ้าผ่า จึงทนอยู่ไม่ได้และตัดสินใจที่จะขายมันในราคาถูก

    เมื่อสำรวจดูแล้วและคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องทดสอบเพราะว่าที่หน้าประตูมีรูปปั้นจงขุยตั้งไว้อย่างผิดปกติราวกับจะขังอะไรไว้ในบ้านนั้นเอง พอพิสูจน์เท่านั้นก็งานเข้ากันเลยทีเดียว พวกเขาได้พบกับสิ่งลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด ทั้งนี้ยังได้พบ 'ปาจื้อ' หรือ วันเดือนปีเกิดของเจียงซั่วถูกเขียนและทับไว้ด้วยแผ่นไม้ฝาโลงศพอยู่ที่ใต้ฐานจงขุยด้วย ฉินอี้เหิงรู้แล้วว่าในเวลานี้ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องซื้อบ้านหลังนี้ไว้ทว่าก็ไม่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้สักที

    สิ่งที่อยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้ทั้งคู่ต้องหวนกลับมาอีกครั้งเพื่อตามหา 'รวมบ้าน' ที่ถูกฝังอยู่ใต้บ้านเพื่อรวมกลิ่นอายของคนในบ้านไว้ตามหลักการของจีน ฉินอี้เหิงให้คนงานขุดหารวมบ้าน ทว่าสิ่งที่พบกลับกลายเป็น รูปปั้นหินหน้าตาประหลาดๆ สูงราวครึ่งเมตร 9 ตัว ในที่สุดฉินอี้เหิงก็เข้าใจ พวกเขาหลงมาติดกับดักเข้าเสียแล้ว ชายหกนิ้วคนนั้นตั้งใจให้พวกเขาเข้ามาทำลายค่ายกลลูกมังกรสยบมังกรเข้าเสียแล้ว ที่แท้วิญญาณเจ้าของบ้านหลังนั้นมีดวงมังกร จึงถูกกักขังอย่างโหดร้ายด้วยค่ายกลนี้เมื่อทำลายค่ายกลได้ และส่งเจ้าของบ้านผู้มีดวงมังกรไปเกิดได้ทุกอย่างก็จบลง แต่จนแล้วจนรอดทั้งคู่ก็ไม่ได้ซื้อบ้านหลังนั้นไว้เนื่องจากชายหกนิ้วคนนั้นเหมือนจะหายตัวไปเสียเฉยๆ

    แม้ว่าค่ายกลจะถูกทำลายแล้วทว่า...ปาจื้อของเจียงซั่วที่ถูกเขียนและใช้แผ่นไม้จากฝาโลงศพทับไว้ที่ใต้ฐานรูปปั้นจงขุยยังคงเป็นปริศนาต่อไป

    หลังจากติดต่อชายหกนิ้วไม่ได้อีก ทั้งสองก็ยังคงมีภารกิจล้างอาถรรพ์ให้บ้านต่อไปบ้านแต่ละหลังที่เจียงซั่วกับฉินอี้เหิงได้พบนั้นเริ่มมีบางอย่างสอดคล้องกัน จนกระทั่งได้รับข้อความปริศนาที่บอกว่า หยวนเจิ้นผู้เป็นนายหน้าของเขาไม่ใช่คน ฉินอี้เหิงจึงให้เจียงซั่วระวังตัวเอาไว้

    เพราะก่อนหน้านั้นเจียงซั่วก็ถูกใครบางคนสวมรอยเป็น 'หลิวขาเป๋' หมอที่รักษาอาการหูอื้อเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องขอวิญญาณของเขาด้วยการใช้เข็มปลูกฝีแค้นลงไป ทั้งยังทำอะไรสักอย่างกับกระดานหมากรุกของผีพ่อเฒ่าที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเองฉินอี้เหิงก็ถูกบังตาให้ตามมาไม่ทันด้วย

    หลังจากสืบสาวราวเรื่องไปเรื่อยๆ ฉินอี้เหิงก็เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลที่ค่อยๆ เกี่ยวพันกับเจียงซั่วมากขึ้นทุกที เบาะแสต่างๆ เริ่มเข้ามาหาพวกเขาทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นห้องร้างที่มีเพียงตู้เสื้อผ้าทาสีแดงดูคล้ายโลงศพตั้งขึ้นที่ขังอะไรบางอย่างไว้ จนฉินอี้เหิงได้รับบาดเจ็บจากการทำพิธี

    เมื่อหายดีฉินอี้เหิงจึงลากเจียงซั่วออกไปตามหาสถานที่แห่งหนึ่ง ที่อยู่ในเขตทุรกันดาร แถมหมู่บ้านนั้นยังอยู่ใกล้กับประตูผีที่น่าสะพรึงกลัวด้วย ทั้งสองไปถึงศาลเจ้าแห่งนั้น แต่ก็พบว่ายังช้ากว่าใครบางคนอยู่ดี สถานที่นั้นถูกทำลายความศักดิ์สิทธิ์ด้วยเลือดวัวและเลือดหมาดำไปแล้ว สิ่งที่อยู่ที่นั่นมีแต่ป้ายวิญญาณที่มีวันตายวันเดียวกันเต็มไปหมด รวมถึงป้ายวิญญาณขอพ่อเฒ่าเจ้าของกระดานหมากรุกที่ไม่ยอมไปเกิดนั่นด้วย

    เมื่อสำรวจไปรอบๆ ทั้งสองได้พบกับห้องหนึ่งที่มีตู้คล้ายๆ ตู้สีแดงที่เขาพบวางเรียงอยู่เต็มไปหมด ฉินอี้เหิงรู้ทันทีว่าตู้ทั้งหมดทำมาจากฝาโลงศพ เพราะเขาจำได้อย่างแม่ยำว่าเป็นไม้แบบเดียวกันกับที่ใช้ทับปาจื้อของเจียงซั่วอยู่ใต้ฐานของจงขุย ทั้งยังพบกระทะครอบวิญญาณที่ใส่เศษเล็บของศพไว้จนเต็มอีก สิ่งอัปมงคลทั้งหลายที่รอให้พวกเขามาติดกับจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดนั่นคือจุดเริ่มต้นอันเกี่ยวพันกับชะตาชีวิตของเจียงซั่วที่เหลืออีกเพียงแค่ 2 ปี ทั้งยังมีศพของหยวนเจิ้นที่มือทั้งสองหายไปในตู้แดงถูกส่งมายังบ้านของฉินอี้เหิงทุกอย่างเกี่ยวข้องกันอย่างไร ทำไมใครคนนั้นถึงมีเป้าหมายอยู่ที่ 'เจียงซั่ว' กันแน่

    เรื่องเล่าทั้งหมดจบลงเพียงเท่านั้น และผู้ที่นั่งฟังจนสว่างได้ก็เหลือเพียงแค่เพียงคนเดียว...

    ><><><><><>< 

    จบได้ดีดดิ้นมากกกกกกกกกกก นาตนงจิขาดใจ อยากอ่านต่อแล้ว อยากรู้ว่าเรื่องเป็นไงต่อ เหมือนเพิ่งเริ่มจริงจังใน 5 หน้าสุดท้าย ปวดร้าว สะเทือนใจ หนูอยากรู้วววว์ ออกมาไวๆ เถอะนะ เงินในกระเป๋ามันสั่นไปหมดแล้ว อยากจ่ายๆๆๆๆ

    ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้อ่านแล้วสนุกมากจริงๆ คือมันไม่ได้หักมุมอะไรเลยแต่เรื่องราวความหลอนมันถูกบิลท์โดยรายละเอียดล้วนๆ พูดจริงๆนะ ชวนอ่านมาก ชอบบบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×