พอถึงเวลาหนึ่ง
นักเขียนต้องพัฒนาตัวเอง, พิณณ์อวี
สวัสดีค่ะชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคน พบกันทุกวันเสาร์เหมือนเช่นเคย ใน คอลัมน์พบปะพูดคุย ที่พี่วิวจะควงแขนนักเขียนเด็กดีคนเก่งมาเปิดใจทุกเรื่องราวทั้งเคล็ดลับการเขียนนิยายและเรื่องส่วนตัว อิอิ
ตอนนี้พี่วิวก็กำลังรอคิวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งค่ะ แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องห่วงนะ พี่วิวไม่ได้เจ็บป่วยหรือไม่สบาย แต่พี่วิวมีคิวนัดพบคุณหมอนักเขียนคนดังในเว็บเด็กดีของเรานี่แหละค่ะ ว่ากันว่าคุณหมอหาตัวยากเหลือเกิน แต่พี่วิวโชคดีจริงๆที่ พิณณ์อวี จะมาเป็นแขกรับเชิญของพี่วิวในครั้งนี้ เย้ๆ
พิณณ์อวี เคยมาพูดคุยกันในคอลัมน์นี้แล้วในตอน
พิณณ์อวี คุณหมอนักเขียนผู้หลงใหลดราม่า ครั้งที่แล้วได้พูดคุยกันไปแบบหอมปากหอมคอสั้นๆ กับผลงานดราม่าโรแมนติก กลพรางใจ แต่ครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมผลงานใหม่ล่าสุด ดุจใจซ่อนกล กับสำนักพิมพ์ปริ๊นเซส ที่คราวนี้มีคนกระซิบว่าไม่ดราม่าแล้วนะ เอ๊ะ! จะจริงหรือเปล่า เดี๋ยวตามพี่วิวไปหาคำตอบกันเลยดีกว่า
เปิดเผยโฉมหน้า พิณณ์อวี กับปกใหม่สวยสดใส ดุจใจซ่อนกล
สวัสดีค่ะ ไม่ได้พูดคุยกับพิณณ์อวีมาตั้งนาน สบายดีไหมคะ
พิณณ์อวี : ก็สบายดีเรื่อยๆ 555 ช่วงนี้งานหนักหน่อยเพราะว่าต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย สอบอีกด้วย ก็เลยไม่ค่อยได้โผล่มาทักทาย แต่ก็ยังทักทายกันได้ที่
แฟนเพจบ้านมัธยอรุณ จะพยายามอัพเดตให้เร็วที่สุด
เรียนหนักมากไหมคะ
พิณณ์อวี : ช่วงนี้อยู่ปีสอง เป็นปีที่หนักที่สุดก็เลยดูวุ่นๆ ตลอด ใครตามดูในเฟซบุ๊กจะสัมผัสได้ถึงการบ่นอันมากมายมหาศาล 555
ถึงจะหายไปนานแต่ก็มีผลงานใหม่ล่าสุด ดุจใจซ่อนกล เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรคะ
พิณณ์อวี : ดุจใจซ่อนกล เป็นเรื่องราวของ มิลิน ผู้หญิงสาวชาวไทยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกคุณหนู อยู่โตเกียวอย่างคนมีฐานะ (ซึ่งไม่ใช่แบบพิณณ์อวี 555) และมีแฟนเป็นคุณหมอชาวญี่ปุ่นซึ่งร่ำรวยมหาศาล แต่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นนกน้อยในกรงทอง ขณะเดียวกันก็ได้พบกับ ภาม หนุ่มชาวไทยซึ่งเป็นคนที่ดูซอมซ่อ ขะมุกขมอม เหมือนคนจรที่พบได้บ่อยทั่วไปในโตเกียว ขณะที่มิลินกำลังคิดว่า ความรักของเธอกับหมอโคบายาชิจะไปด้วยกันไม่รอด ก็กลับรู้สึกว่าภามนั้นเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสะดวกใจกว่า ในขณะเดียวกันภาพลักษณ์ของภามเป็นเหมือนคนจร ทำงานเป็นโฮสต์อยู่ในผับบาร์ ทำให้เธอลำบากใจที่จะคบหาสมาคมด้วย แต่เรื่องราวก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอพบว่า โคบายาชิได้ทำผิดต่อเธออย่างไม่น่าให้อภัย แต่กระนั้น ถึงแม้ไม่มีโคบายาชิอยู่ เธอก็ยังลำบากใจที่จะเลือกภาม เรื่องราวต่อจากนั้น ... ติดตามกันต่อได้ในร้านหนังสือใกล้บ้านนะคะ (แอบขายของนิดนึง 555)
เรื่องนี้ยังคงความโรแมนติกดราม่าเหมือนเรื่องก่อนๆ อยู่ไหม
พิณณ์อวี : ดุจใจซ่อนกล ไม่ใช่แนวโรแมนติกดราม่า เพราะว่า อาจจะอยากเขียนอะไรที่แตกต่างออกไปบ้าง เขียนเรื่องที่เป็นเรื่องรักหวานๆ บ้าง จริงๆ ก็ไม่ได้ทิ้งแนวโรแมนติกดราม่าแต่อยากลองเปลี่ยนดู ถ้าอ่านดุจใจซ่อนกล อาจจะพบว่าไม่ได้ทิ้งความดราม่าไปไกลเลย
คำคมจาก ภาม พระเอกของเรื่องนี้ ให้ความรู้สึกดราม่าเบาๆ อ่านแล้วรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยเลย T T
ขอบคุณภาพจาก Facebook Satapornbooks
ใช้เวลาเขียนเล่มนี้นานไหม
พิณณ์อวี : ใช้เวลาเขียนประมาณเดือนนึงนะ อย่างที่บอกเรามีเวลาว่างน้อย ก็เลยต้องเขียนเร็ว ไม่งั้นจะลากยาวข้ามปีไม่จบแทน
ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
พิณณ์อวี : แรงบันดาลใจเรื่องนี้ประหลาดหน่อยเพราะว่ามาจากเพลงของ Muzu ชื่อเพลง “คนถูกทิ้ง” คือพอเห็นพระเอก MV แบบ ผมยาวดูเซอร์ ...อุ๊ย ... น่ารักจัง (ปกติไม่ชอบคนเซอร์ๆ นะชอบแบบสะอาดเรียบร้อย)
อ้าว! พี่วิวนึกว่าได้แรงบันดาลใจจากหนุ่มญี่ปุ่นเซอร์ๆเท่ๆเสียอีก เห็นพิณณ์อวีใส่กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นลงในนิยาย ดุจใจซ่อนกล ขนาดนี้ ^^
พิณณ์อวี : พยายามจะใส่แต่ก็ไม่รู้จะมีกลิ่นอายหรือเปล่านะ ปกติไม่เคยคิดจะเขียนนิยายที่ดำเนินฉากในต่างประเทศเลย คือ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีความคุ้นเคยกับอะไรจนเอามาเขียนได้ แต่วันหนึ่งก็บอกตัวเองว่า เอาล่ะ เราอยากเขียนละ ประเทศนี้ ไหนๆ ก็ไปมาบ่อยเหลือเกิน ไปๆ กลับๆ ไปเรียนบ้าง เที่ยวบ้าง อยู่กับอาจารย์ใจดี ชื่อฮิโตะชิเหมือนกับโอโต้ซังในเรื่อง อาจารย์ดูแลเราเหมือนลูก ก็เหมือนภามกับมิลิน ไม่ค่อยต่างกัน
แล้วอะไรที่ทำให้หมอหลงรักประเทศญี่ปุ่นจนต้องนำมาเป็นฉากในนิยายเล่มนี้คะ
พิณณ์อวี : เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยชอบประเทศญี่ปุ่นเท่าไหร่ จนได้เดินทางไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น (แบบจำใจเล็กน้อย) แต่ว่าหลังจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากอาจารย์ชาวญี่ปุ่น ดูแลเหมือนเป็นลูก ก็เกิดความประทับใจ เดินทางกลับไปเรียนอยู่บ่อยครั้ง มีโอกาสได้ตามอาจารย์ไปเมืองต่างๆ ก็พบว่า ญี่ปุ่นมีเมืองที่น่าสนใจ อย่างที่เขียนในเรื่องคือ โทบะ เป็นเมืองที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ที่จริงแล้วเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความน่ารักมาก มีความเป็นชนบท เคยไปประชุมที่โทบะกับอาจารย์ ประทับใจมากเลยเอากลับมาใส่ไว้ในหนังสือด้วย
วิวสวยๆ ของ ญี่ปุ่น ที่สร้างความประทับใจให้กับพิณณ์อวีจนกลายมาเป็นนิยายกลิ่นอายญี่ปุ่นเล่มนี้
ดุจใจซ่อนกล แตกต่างจากเล่มอื่นๆที่เคยเขียนมายังไงบ้าง
พิณณ์อวี : จริงๆ ก็ไม่ค่อยต่าง แต่มันจะมีความญี่ปุ่นเข้ามาแทรกเยอะหน่อย ต้องพยายามทำให้คนอ่านรู้สึกว่าได้อยู่ญี่ปุ่น เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวหลายที่หรอกนะ แต่พยายามจะเขียนที่ที่เราเคยอยู่ เคยเล่นเคยทำงาน เคยคุ้นชิน
การเขียนนิยายที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับวัฒนธรรมประเทศญี่ปุ่นยากไหมคะ
พิณณ์อวี : ไม่ยากเท่าไหร่ด้วยความที่ตอนไปเรียน โอโต้ซังจะชอบสอนขนบธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น คือนอกจากวิชาการแล้ว เรื่องความรู้รอบตัวก็ต้องแน่น ความชอบแบบที่บางทีก็ไม่ค่อยรู้ ส่วนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก็ค่อยๆ เปิดหาเอา อย่างตอนจบของเรื่องที่เป็นบทกวีของโซเซกิ อันนี้เราก็ได้มาโดยบังเอิญ คือด้วยความแบบ อยากรู้ว่า นี่จะเขียนให้ตัวละครเค้าบอกรักกันยังไงดี เพราะคนญี่ปุ่น ไม่มีคำว่า "ฉันรักเธอ" ด้วยความที่แบบ คิดไม่ออก รู้สึกสมองตันๆ ก็เลย โพสต์ลงเฟซบุ๊กตัวเองดื้อๆ ว่า “ฉันรักเธอ ภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่าอะไรดี” ... สุดท้ายก็มีเพื่อนมาตอบ (ตอบว่าอะไรขออุบไว้ก่อน ไปตามอ่านในเรื่องนะ)
กระแสตอบรับจากแฟนๆตอนเขียนลงเว็บเด็กดี เป็นยังไงบ้างคะ
พิณณ์อวี : ดีค่ะ ดีกว่าเรื่องแรกเยอะ เรื่องนี้ก็มีคนติดตามและคอยให้กำลังใจ บางคนก็แบบมาตลอดทุกเรื่องเลยรู้สึกตื้นตันมากเลย และก็แอบรอ ว่าลงตอนต่อไปจะมาหรือเปล่า วันไหนไม่มาแอบคิดถึง แล้วถ้าเขาไม่มาโพสต์สักทีก็จะรอจนกว่าเขาจะมาโพสต์แล้วค่อยโพสต์ตอนต่อไป รู้สึกตัวเองโรคจิตจริงๆ 555
พี่วิวให้ขายของไปแล้ว คราวนี้มาคุยเล่นกันๆดีกว่าค่ะ พี่วิวอยากรู้ว่า พิณณ์อวี คุณหมอผู้หลงใหลโรแมนติกดราม่า แล้วใครคือนักเขียนแนวโรแมนติกดราม่าในดวงใจ
พิณณ์อวี : คุณทมยันตี แล้วก็ คุณอาริตา ... ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (พี่วิวเชื่อแล้วว่าชอบมากจริงๆ จ้า)
ถ้าโลกนี้ไม่มีนิยายแนวโรแมนติกดราม่า พิณณ์อวีจะเขียนแนวไหน
พิณณ์อวี : คิดไม่ออก ว่าจะเขียนแนวลึกลับ แต่ก็เป็นคนไม่ค่อยลึกลับกับเขาเท่าไหร่ ... ว่าจะเขียนแนวสืบสวนสอบสวน แต่ก็ไม่โรคจิตพอ
ขอเคล็ดลับการวางพล็อตเรื่องการเขียนนิยายแนวโรแมนติกดราม่าในแบบพิณณ์อวี
พิณณ์อวี : จริงๆ เป็นคนอ่อนด้อยพล็อตมากเลย อาจจะเพราะลักษณะนิสัยเป็นคนฟุ้งๆ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ จะสังเกตได้ว่าพล็อตนิยายเราจะเป็นพล็อตง่ายๆ ไม่ซับซ้อน อาจจะเดาออกตั้งแต่บรรทัดแรกเลยด้วยซ้ำไป แต่ทดแทนด้วยบทพูดกับบทบรรยาย ตีเนียนๆ ไป 555
คุณหมอพิณณ์อวีเห็นงานยุ่งๆแบบนี้ แต่ก็ยังมีเวลาเขียนนิยาย มีคำแนะนำเรื่องการแบ่งเวลาเขียนนิยายให้กับเพื่อนๆชาวไรเตอร์บ้างไหมคะ
พิณณ์อวี : ก็ต้องแบ่งเวลาว่า เดือนนี้จะเขียน ก็ตั้งใจเขียน คือจริงๆ แบ่งลำบากมาก และผิดหวังมาหลายครั้งแล้ว จะเห็นได้ว่าเราหายไปอยู่พักใหญ่ เพราะว่าเริ่มเขียนแล้วก็เขียนไม่จบนี่แหละ เพิ่งมาเขียนจบจริงจังก็เรื่องดุจใจซ่อนกล นี่เอง เรื่องแบ่งเวลาก็จะตั้งใจว่า เดือนนี้แหละจะเขียน ช่วงที่ไม่เขียนก็จะทำงาน แล้วก็อ่านหนังสือ ไม่ค่อยเอามาทำซ้ำซ้อนกันมันจะวอกแวก
นับจากวันแรกที่เขียนนิยายลงเว็บเด็กดี จนถึงวันนี้เขียนมากี่ปีแล้วคะ แล้วมีอะไรเปลี่ยนไปในตัวนักเขียนที่ชื่อพิณณ์อวีบ้าง
พิณณ์อวี : ถ้าเอาจริงๆ เขียนมาเป็นสิบปี แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่นะ อาจจะเพราะหายไปเรียนอยู่พักใหญ่ด้วย ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่พัฒนาถึงไหนสักที อยากให้หลายปีหลังจากนี้ เป็นช่วงเวลาที่ได้พัฒนาตัวเอง เหมือนกับคนอื่นสักที
ตอนนี้มีซุ่มเขียนเรื่องใหม่อยู่ไหมคะ แง้มๆ ให้เพื่อนได้ลุ้นกันหน่อย
พิณณ์อวี : เพิ่งเขียนพล็อตเสร็จไปเรื่องหนึ่ง แต่ตั้งชื่อแล้ว ชื่อว่า ดุจดาวล้อมใจ เป็นเรื่องของหมอคนหนึ่งที่ทำงานท่ามกลางความกดดันอยู่เพียงลำพังในโรงพยาบาลบ้านนอก อันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตคนใกล้ตัว (เร็วๆ นี้ได้อ่านกันในมายไอดีแน่นอนจ้า)
ฝากผลงานและข่องทางการติดตามได้เลยค่ะ
พิณณ์อวี : ก็ขอฝาก ดุจใจซ่อนกล ไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ แวะมาทักทายกันได้ ที่
แฟนเพจบ้านมัธยอรุณ หรือที่
เฟซบุ๊กพิณณ์อวี แล้วก็ติดตามอ่านนิยายต่างๆของพิณณ์อวีได้ทาง
มายไอดีนะคะ ยินดีต้อนรับ ....มาฟังเราบ่นกันนะ ^^
พี่วิวเชื่อว่าเพื่อนๆคงต้องอยากไปฟังหมอพิณณ์อวีบ่นกันแน่ๆเลย เพราะว่านานๆจะได้คุยกับคุณหมอนี่นา ^^ แต่ถ้าใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วยังไม่หายคิดถึงเธอคนนี้ ก็ไปติดตามอ่านผลงานล่าสุด ดุจใจซ่อนกล กันไปพลางๆก่อนได้เลยค่ะ
ก่อนจากกันแน่นอนว่าพี่วิวเตรียมหนังสือเรื่อง ดุจใจซ่อนกล ไว้แจกเพื่อนๆ ชาวเด็กดีไรเตอร์จำนวน 3 เล่มด้วยกัน จากที่คุยกันหมอพิณณ์อวีเธอหลงรักประเทศญี่ปุ่นจนนำมาเขียนเป็นฉากนิยายเรืองนี้ พี่วิวก็เลยขอตั้งคำถามคล้ายๆกันว่า อยากให้ประเทศอะไรเป็นฉากนิยายของคุณ เพราะอะไร คอมเมนต์ลงใต้บทความนี้ แล้วมารอลุ้นให้พิณณ์อวีเลือกเป็นผู้โชคดีกันนะคะ
ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ 26 มิถุนายน 2559
ประกาศผล 27 มิถุนายน 2559
มาร่วมสนุกกันเยอะๆ นะคะ ขอบอกนิยายเล่มนี้สนุกมาก ใครพลาดไปล่ะก็..เสียดายแย่
ประกาศผลผู้โชคดี 3 คน
รับรางวัลนิยายเรื่อง ดุจใจซ่อนกล
ปากกาจดฝัน
จ้าวสมุทร
กระจกสีน้ำหมึก
ส่งชื่อ - ที่อยู่ - มายไอดียืนยันตัวตน มาที่ pimonwan@dek-d.com
ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม 2559
28 ความคิดเห็น
อยากได้ประเทศอียิปต์ เป็นฉากในนิยายค่ะ
เพราะจะได้ดื่มด่ำกับอดีต เผื่อมีฟาโรต์มาเข้าฝัน
หรือหลงมนต์ทะเลทรายไปกับหนุ่มเบดูอินล่ำๆ อิอิ
ญี่ปุ่นค่ะ เพราะนิยายที่แต่งธีมออกญี่ปุ่น ฮ่ะๆๆ เข้าเรื่องดีกว่า
เป็นเพราะความชอบในวัฒนธรรมที่ผสมระหว่างความโมเดิร์นกับโบราณเข้าไว้โดยกันอย่างลงตัว สถานที่สวยงาม คนประเทศนี้มีมารยาทและวินัยเหมาะมาเป็นแบบอย่างให้กับผมนำไปปฏิบัติใช้ อีกอย่างที่ชอบคือประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ที่อ่านๆ มา ประเทศนี่เป็นประเทศที่ผมสัมผัสได้ว่าเป็นประเทศที่อิปิกมากถึงมากที่สุด นึกถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นทีไรรู้สึกหึมเหิมขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ดนตรีไพเราะ (เนื่องจากเป็นติ่ง Wagakki band) มีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ในตอนแรกอาจจะเฉยๆ แต่ตอนนี้หลงไหลประเทศนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วครับ
แอดมินขอเป็นเยอรมันแล้วกันค่ะ เพิ่งไปมา
กรุงเบอร์ลินน่าสนใจมากค่ะ มีประวัติศาสตร์ให้เล่า บรรยากาศของสงครามโลกครั้งที่สองยังทิ้งไว้ไม่จางหาย... ตึกเก่า อาคารใหญ่โต สวยมีพลังและให้ความรู้สึกขลังมาก ขณะเดียวกันก็มีบรรยากาศเศร้าๆ แทรกอยู่ด้วย
อยากเห็นนางเอกเดินอยู่มุมตึก ตามร้านดอกไม้ แล้วพระเอกก็เดินสวนมามากๆ เลยค่ะ
ว่าแต่จริงๆ แอดมินห้ามเล่นสินะคะ 55 ถือว่าอยากตอบแล้วกันค่ะ ฮี่ๆๆ
เอาเป็นประเทศไทยนี่แหละค่ะ สถานที่บรรยากาศดีๆ โรแมนติกมีเยอะแยะ โดยส่วนตัวนั้นเราชอบนะ แถมยังได้ช่วยโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวในไทยอีก และอีกเหตุผลก็คือ...ถ้าเขียนในสิ่งที่เราเคยไปสัมผัสมาแล้ว มันคงจะเขียนได้ดีกว่านั่งดูรูป หาข้อมูลในเน็ตใช่ไหมค่ะ
ไทยค่ะ ชินกับบรรยากาศ และนึกภาพออก
ประเทศโรมาเนียค่ะ ไม่ค่อยมีใครเขียนถึงแต่เป็นประเทศที่มีเสน่ห์เฉพาะมากๆ สวยแต่ให้ความรู้สึกน่าค้นหา เป็นประเทศที่เงียบสงบ แต่มีสถาปัตยกรรมสวยๆเยอะ แถมมีประวัติที่น่าสนใจหลายอย่าง ถ้าเอาไปใส่ในนิยาย คงได้เห็นโรมาเนียแบบชัดเจนในมุมอื่นๆ ต้องเป็นอะไรที่สวย โรแมนติคแล้วก็มีกลิ่นอายลึกลับซ่อนอยู่ ^^
ต้องประเทศรัสเซียเลยคะ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เยอะเลย แค่เห็นในภาพก็ฟินแล้ว ยิ่งถ้ามโนต่อไปอีกว่ามีผู้ชายหล่อโคตรๆ จุงมือเดินเที่ยวอะนะ โอ๊ยยย อกอีแป้นจะแตกค่าา
ฝรั่งเศสค่า^^ ต้องตูลูซด้วย เพราะหลงมนต์เสน่ห์ของที่นั่ง ชาวเมืองก็ใจดี เคยไปเรียนซัมเมอร์ที่นั่น หลงรักเลย อยากกลับไปอีกครั้งมั่กมาก
อยากให้เป็นประเทศไทยค่ะ ^^ เพราะว่าสำหรับแพรนะคะ เชื่อว่าประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่มากมายเลยค่าอย่างตัวของแพรเองเป็นคนที่เที่ยวน้อยมากกก อยากให้นิยายที่ฉากที่พระนางไปเที่ยวเกาะตะปู เกาะเต่า ไม่ก็ไปหมู่บ้านของชาวกระเหรี่ยงค่ะ หรือไม่ก็ไปโบราณสถานที่เขาพนมรุ้ง บอกตรงๆว่าที่บอกทั้งหมดไม่เคยได้มีโอกาศไปเลย T^T
เอาประเทศไทยนี่แหละค่ะ จะได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว ช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจ (เวอร์เนอะ) แต่ที่จริงเมืองไทยของเราก็มีสถานที่สวยๆงามๆตั้งมากมายนะคะสวยไม่แพ้ต่างประเทศด้วย ถ้ามีโอกาศได้เขียนถึงสถานที่ที่เป็นองค์ประกอบหลังของเรื่องก็คงเลือกเมืองไทยของเรานี่แหละค่ะ
ธรรมชาติที่ตราตรึงใจเรา ต้องที่ไอซ์แลนด์เลยค่ะ ธรรมชาติสวยมากๆ ทั้งปรากฏการณ์แสงเหนือ และถ้ำน้ำแข็งสกาฟตาเฟล คือเห็นในรูปแล้วคิดได้เลยว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตเราต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้
#มันสวยมาก
ขอเป็นเมืองไทยนี่แหละค่ะ ฉากถ้าไม่อยู่บนเกาะ (ทะเลไทยสวยไม่แพ้ชาติใดในโลก) ก็คงเป็นจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ เพราะเป็นคนที่นี่รู้สึกว่ามีสถานที่สวยๆให้เขียนเยอะ เวลาเขียนแล้วรู้สึกว่ามันมีมนต์เสน่ห์ในตัวเองค่ะ และเมื่อเราเขียนในสิ่งที่รู้ดีก็จะเชื่อว่าคนอ่านจะซึมซับความรู้สึกนั้นไปด้วยได้ ^^
หากถามว่าประเทศอะไรที่อยากเอามาใช้เป็นฉากในนิยายที่สุดตอบได้คำเดียวว่าประเทศไทยเพราะประเทศไทยมีทั้งทะเลที่สวยงาม ภูเขา น้ำตก ทุ่งนาทุ่งหญ้า วัวควาย มองแล้วได้บรรยากาศแบบไทยๆ ทำให้มองเห็นวิถีชีวิตของคนไทยดีค่ะ อีกทั้งยังผู้คนที่มีน้ำใจ นี่เป็นอีกเสน่ห์ของคนไทย ที่ทำให้ชาวต่างชาติชื่นชม ร่วมทั้งเสน่ห์ของประเพณีไทยและวัฒนธรรมไทยที่ดึงดูดใจให้ชาวไทยด้วยกันเองและชาวต่างชาติชื่นชมในความเป็นไทยต่ะ อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าอยู่บ้านของเราเอง รักเธอประเทศไทย
อยากให้เป็นประเทศมองโกเลียค่ะ เพราะเป็นประเทศที่หลายคนคุ้นชื่อมานานส่วนใหญ่มาจากหนังจีนยุคเก่า กับดินแดนที่มีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่อย่าง"เจงกิสข่าน" แต่ในปัจจุบันจะได้ยินเรื่องราวของประเทศมองโกเลียน้อยมาก ด้วยเป็นประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มที่กำลังพัฒนา ไม่มีอาณาเขตติดทะเล และความเจริญยังไม่ทั่วถึง ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมองโกเลียยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก ยังมีความเชื่อและความเคารพศรัทธาในธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้งานเขียนมีความน่าสนใจนอกเหนือไปจากเนื้อเรื่อง และถ้าใครสักคนที่ต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ในสังคมที่ยังต้องพึ่งพาอาศัยกันในหลายๆเรื่อง ความห่วงใย ดูแลและให้ความช่วยเหลือกันจะสร้างความประทับใจและความรู้สึกที่ดีต่อกันได้ไม่ยาก เป็นความโรแมนติกที่เกิดจากใจ เวลาดราม่าก็คงเหงาสุดๆค่ะ