"นักแปลต้องรักหนังสือและใช้ภาษาได้ดี"
พลอย โจนส์
สวัสดีชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคนค่ะ พบกันในคอลัมน์พบปะพูดคุยที่พี่วิวมักจะควงแขนนักเขียนเด็กดีคนเก่งมานั่งคุยกัน แต่คราวนี้พี่วิวขอชวนเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับอาชีพนักแปลค่ะ พี่วิวเชื่อว่านอกจากอาชีพนักเขียนแล้ว อาชีพนักแปลก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพในฝันของเพื่อนๆชาวไรเตอร์หลายคน ซึ่งผู้ที่จะมาพูดคุยแนะนำเทคนิคและเคล็ดลับที่สำคัญสำหรับงานแปลในวันนี้คือ พลอย โจนส์ นักแปลวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซี หลังจากที่เธอค้นหาตัวเองกับงานราชการ งานเอกชนหลายแห่งแล้ว เธอก็พบว่าอาชีพนักแปลคือ งานที่เธอรักที่สุด ทุกวันนี้เธอก็ยังคงสนุกกับการแปลหนังสืออยู่เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้ว และมีหนังสือแปลที่ได้รับการตีพิมพ์แล้วเกือบ 60 เล่ม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ้าแม่แห่งวงการแปลจริงๆเลยค่ะ พี่วิวอยากรู้เสียแล้วสิว่าเธอทำได้ยังไงกัน ตามพี่วิวไปหาคำตอบเลยค่ะ
ผลงานเด่นของพลอย โจนส์ ชุดเซ็ปติมัส ฮีป ปาฏิหาริย์หมายเลข 7 (Septimus Heap) และผลงานแปลล่าสุดชุดวรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซี Half Life สายเลือดปีศาจ (พ่อมดสองสายเลือด,พ่อมดคลั่ง) และ Thorne of Glass (ราชินีแห่งความตาย, มงกุฎรัตติกาล) โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
แนะนำตัวตามสไตล์นักแปลหน่อยค่ะ
พลอย โจนส์ : สวัสดีค่ะ พลอย โจนส์ นะคะ เป็นนักแปลวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซี ผู้ชอบของกินและบ้าซื้อหนังสือมากค่ะ
พลอย โจนส์ นักแปลผู้ชอบของกินและบ้าซื้อหนังสือ
ทำไมต้อง ‘พลอย โจนส์’ เป็นอะไรกับ ‘บริทเจ็ท โจนส์’ รึเปล่าคะ
พลอย โจนส์ : เสียดายจังเลยที่ไม่ได้เป็นอะไรกับบริทเจ็ท โจนส์ ^^ ความจริงชื่อ “พลอย โจนส์” เป็นการเล่นคำพ้องเสียงกับ “ตกกระไดพลอยโจน” ค่ะ เรียกว่าเข้าวงการมาแบบไม่ได้ตั้งใจเพราะผลงานแปลเล่มแรกที่ตีพิมพ์เป็นการรับทำต่อจากเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ตอนคิดนามปากกาก็เลยปรึกษากับ บ.ก. ในตอนนั้นคือคุณเอื้องแห่งนานมีบุ๊คส์แล้วได้เป็นชื่อ “พลอย โจนส์” ค่ะ
เริ่มมาสนใจเรื่องการแปลนิยายมาตั้งแต่เมื่อไหร่
พลอย โจนส์ : สนใจมาตั้งแต่เด็กๆ เลย เพราะอ่านหนังสือชุดที่แปลไม่จบแล้วขัดเคืองใจ เลยตั้งใจว่าโตขึ้นจะแปลเองค่ะ
นักแปลต้องเก่งภาษาจริงมั้ย แล้วต้องเรียนคณะอักษรศาสตร์เท่านั้นหรอ
พลอย โจนส์ : นักแปลไม่ต้องเก่งภาษาก็ได้ แต่ถ้าเก่งจะทำให้งานง่ายขึ้น พลอยคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าการเก่งภาษาคือนักแปลต้องใช้ภาษาได้ดีและมีความเข้าใจทั้งภาษาต้นทางและปลายทางอย่างดี ค่ะ บางครั้งคนเก่งภาษามากๆ แต่นึกคำแปลไม่ออกหรืออธิบายให้คนอื่นเข้าใจไม่ได้ก็มี ส่วนเรื่องเรียนคณะอักษรศาสตร์ก็ไม่จำเป็นเช่นกัน มีเพื่อนๆ นักแปลเก่งๆ หลายคนที่ไม่ได้จบคณะอักษรศาสตร์ แต่ก็ผลิตผลงานดีๆ ออกมาได้มากมาย พลอยคิดว่านักแปลที่ดีจะจบอะไรก็ได้ แต่ต้องรักหนังสือและงานแปลค่ะ
ผลงานเล่มแรกที่แปลชื่อว่า?
พลอย โจนส์ : “สงครามโลกครั้งที่หนึ่งน่าสะพรึงกลัว” แปลจาก The Frightful First World War ของคุณ Terry Deary ค่ะ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ อยู่ในชุด “ประวัติศาสตร์โหดมันฮา” ตอนนี้ก็ยังมีขายอยู่นะคะ ^^
เล่มแรกที่แปลหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ
นอกเหนือจากแนวแฟนตาซีแล้ว แปลงานแนวอื่นด้วยไหมคะ
พลอย โจนส์ : ถ้าเป็นหนังสือสำหรับเด็กจะเน้นแฟนตาซีค่ะ มีแนวอื่นบ้างประปราย เช่น แนวผจญภัยไขปริศนา แนววิทยาศาสตร์ไซไฟ และแนวความรู้อ่านสนุก นอกนั้นก็มีสารคดีสำหรับผู้ใหญ่ที่ใช้อีกนามปากกาค่ะ
แล้วชอบงานแปลแนวไหนมากที่สุด
พลอย โจนส์ : ตอบโดยไม่ต้องคิดเลย ชอบงานแปลแนวแฟนตาซีมากที่สุดค่ะ
การแปลหนังสือประเภทต่างๆ มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง ไม่ชอบอ่านนิยายแต่ต้องแปลงานนิยายจะทำได้ไหม
พลอย โจนส์ : หนังสือมีหลายประเภท การแปลแต่ละประเภทก็แตกต่างกัน โดยเฉพาะน้ำเสียงที่สื่อถึงผู้อ่าน ต้องดูด้วยว่าผู้อ่านกลุ่มเป้าหมายเป็นใครแล้วพยายามสื่อไปถึงเขา เช่น วรรณกรรมเยาวชนก็จะเน้นความเข้าใจ ความสนุก ภาษาที่ราบรื่นและไม่ยากเกินไป ส่วนถ้าเป็นสารคดีก็จะเน้นความชัดเจน สื่อสารอย่างตรงประเด็นและต้องทำการบ้านในการค้นข้อมูลมากขึ้นค่ะ ถ้าไม่ชอบอ่านนิยายก็แปลได้ แต่คงจะเหนื่อยและใช้เวลานาน เพราะเราทำในสิ่งที่ฝืนความรู้สึก
ขั้นตอนเวลาทำงานแปลของพลอย โจนส์ เป็นยังไง
พลอย โจนส์ : จริงๆ แต่ละเล่มมีขั้นตอนไม่เหมือนกันค่ะ พลอยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม แต่หลักๆ ก็คือ อ่านต้นฉบับให้จบก่อนเพื่อให้รู้เรื่องโดยรวม ระหว่างอ่านให้จดประเด็นที่ต้องค้นคว้าเพิ่มเติมไว้ด้วย เช่น การอ้างอิงถึงบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ หรือกลอนกับคาถาที่ต้องแปล เป็นต้น จากนั้นจะเริ่มคำนวณเวลาที่ต้องใช้ในการแปลเทียบกับจำนวนหน้า แล้วกำหนดอัตราการแปลและกำหนดเสร็จแบบคร่าวๆ พอเรียบร้อยก็ลงมือแปลจนจบ แล้วทบทวนรอบแรกเทียบกับต้นฉบับ ก่อนอ่านทวนรอบที่ 2 และ 3 ตามความเหมาะสมค่ะ
มุมทำงานของพลอย โจนส์
แล้วเราจะมั่นใจได้ยังคะ ว่าเราแปลถูก
พลอย โจนส์ : ไม่มั่นใจค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีแปลผิด พลอยว่างานแปลก็เหมือนงานอื่นๆ ที่ผิดพลาดได้ต่อให้ระวังแค่ไหนก็ตาม แต่เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่ผิดแบบเดิมอีก ทุกครั้งที่แปลคือทำดีที่สุดเท่าที่เรามีความรู้ความสามารถในตอนนั้น หากผิดก็นำมาปรับปรุงแก้ไขในอนาคตค่ะ
วัฒนธรรมแต่ละประเทศ มีผลต่อการแปลงานมั้ยคะ
พลอย โจนส์ : มีมากเลยค่ะ บางครั้งแปลไปก็ต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรมของผู้เขียนไปด้วยเพราะมันสะท้อนออกมาที่ผลงานของเขา พอเราจะถ่ายทอดเป็นภาษาไทยก็ต้องเข้าใจมันเสียก่อน เพื่อให้คนอ่านเข้าใจด้วย
สำหรับ พลอย โจนส์สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับงานแปลคืออะไร
พลอย โจนส์ : พลอยรู้สึกว่าถ้าเป็นเรื่องของการแปลงาน มันคือความสนุก การเรียนรู้ และการเปิดโลกใหม่ๆ ในทุกวัน สิ่งที่ยากที่สุดจึงไม่ได้อยู่ที่งานแปลแต่อยู่ที่องค์ประกอบภายนอกของการเป็นนักแปล นักแปลต้องทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ใช่แค่แปลงาน เราต้องสานสัมพันธ์กับผู้อ่าน สำนักพิมพ์ และผู้เกี่ยวข้องในการทำงานรอบด้าน บางครั้งก็มีปัจจัยซับซ้อนหลายอย่างที่ทำให้มันไม่ง่าย
เรื่องที่ยากอีกอย่างคือการเลือกรับงาน บางครั้งเราตัดสินใจไม่ดี หรือมีเวลาคิดน้อย รับงานที่เกินตัวหรือไม่ถนัดมา ทำให้นึกเสียใจภายหลัง แต่ก็ต้องหาทางแก้ปัญหาไปให้ได้
นักเขียนและนักแปล พลอย โจนส์ คิดว่าต่างกันตรงไหน
พลอย โจนส์ : คิดว่านักเขียนและนักแปลต่างกันทุกอย่าง เพราะเป็นคนละอาชีพกัน แต่เป็นอาชีพที่ใกล้กันและพึ่งพาอาศัยกัน นักเขียนคิดเรื่องราวแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาหนึ่ง นักแปลอ่านภาษานั้นแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นอีกภาษา ดังนั้นจึงเป็นอาชีพที่อยู่ในวงการหนังสือเหมือนกัน แต่ทำหน้าที่กันคนละอย่างค่ะ ถ้าไม่มีนักเขียน นักแปลก็ไม่รู้จะแปลอะไร ถ้าไม่มีนักแปล นักเขียนก็อาจเผยแพร่สารได้เฉพาะคนกลุ่มเดียว ไม่สามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมที่ใช้ภาษาต่างกันได้อย่างกว้างขวาง
ขอเคล็ดลับสำหรับนักแปลมือใหม่ไปสู่มือการเป็นนักแปลอาชีพในแบบฉบับพลอย โจนส์
พลอย โจนส์ : พลอยเชื่อว่าถ้าชอบอ่านหนังสือก็ได้เปรียบแล้วค่ะ นักแปลที่มีคลังคำกว้างขวางให้เลือกใช้เป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุด หากอยากเป็นนักแปลก็ควรอ่านหนังสือเยอะๆ และหมั่นลองแปลในใจบ่อยๆ อีกอย่างคือเป็นนักแปลต้องอดทนค่ะ มันเป็นงานที่หลายคนอาจมองว่าน่าเบื่อ ต้องแปลหนังสือเป็นร้อยๆ หน้าอย่างต่อเนื่อง แถมต้องอ่านเรื่องหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 รอบด้วย แต่สุดท้ายแล้วถ้าอยากเป็นนักแปลก็ควรลองแปลค่ะ แปลหนังสือที่เราชอบ ลองดูว่าเราสนุกกับการแปลหรือไม่ บางทีเราอาจเจออาชีพที่ชอบและใช่ก็ได้นะคะ
พี่วิวว่านอกจากอาชีพนักเขียนแล้ว อาชีพนักแปลก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพในฝันของเพื่อนๆชาวไรเตอร์หลายคน เรียกได้ว่านักเขียนนักแปลนั้นมีความแตกต่างกันเพียงเส้นบางๆเท่านั้น แต่สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง 2 อาชีพเลยก็คือ การถ่ายทอดภาษาสำนวนออกมาให้สวยงามและความรักที่มอบให้หนังสือคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อย่างที่พลอย โจนส์บอกไว้ ''ถ้าไม่มีนักเขียน นักแปลก็ไม่รู้จะแปลอะไร ถ้าไม่มีนักแปล นักเขียนก็อาจเผยแพร่สารได้เฉพาะคนกลุ่มเดียว ไม่สามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมที่ใช้ภาษาต่างกันได้อย่างกว้างขวาง'' พี่วิวก็ขอเป็นกำลังใจให้แก่เพื่อนๆชาวเด็กดีไรเตอร์ว่าที่นักเขียนและนักแปลในอนาคตทุกคนเลยนะคะ
ก่อนจากกันพี่วิว แน่นอนว่าพี่วิวเตรียมชุดวรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซีจากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ไว้แจกเพื่อนๆที่ติดตามคอลัมน์พบปะพูดคุยมาจนถึงบรรทัดนี้ ซึ่งทั้ง 2 ชุดนี้ ชุดHalf Life สายเลือดปีศาจ และชุดThorne of Glass เป็นผลงานแปลล่าสุดของพลอยโจนส์ด้วย แต่ก่อนอื่นพี่วิวอยากให้พลอย โจนส์พูดถึงวรรณกรรมเรื่อง ‘Half Life สายเลือดปีศาจ’ เล่มนี้หน่อยค่ะ เห็นว่าได้ลงกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) สถิติการแปลเป็นภาษาต่างประเทศสูงสุดในโลกตั้งแต่ยังไม่ตีพิมพ์ คิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ
พลอย โจนส์ : ชุด “สายเลือดปีศาจ” เล่มนี้แปลออกมาสองเล่มแล้วคือ “พ่อมดสองสายเลือด” กับ “พ่อมดคลั่ง” เป็นวรรณกรรมเยาวชนแนวที่เขียนมาสำหรับคนอ่านที่โตขึ้นมาหน่อย เนื้อหาจะค่อนข้างหนักและเข้มข้นมาก เป็นเรื่องความขัดแย้งในโลกพ่อมดแม่มดที่แบ่งเป็นฝ่ายขาวและฝ่ายดำ สองฝ่ายนี้ต่อสู้ฆ่าฟันกันมาตลอด แต่มีพ่อมดดำกับแม่มดขาวคู่หนึ่งที่รักกันจนให้กำเนิดนาทานผู้เป็นพระเอกของเรา นาทานเป็นผู้มีพลังพิเศษจากทั้งฝ่ายขาวและฝ่ายดำจึงเก่งมากและโดนตามล่าจากทั้งสองฝ่าย นาทานจะเอาตัวรอดได้ไหม ชะตาชีวิตของเขาจะเป็นไปดังคำทำนายหรือไม่ ต้องติดตามในเล่มค่ะ เนื้อหาเข้มข้นขนาดนี้ก็เลยคิดว่าเป็นสาเหตุที่มีคนแปลหนังสือเล่มนี้กันมากขนาดนั้นค่ะ
แล้วอีกหนึ่งผลงานชุด Thorne of Glass วรรณกรรมแฟนตาซีย้อนยุค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรคะ
พลอย โจนส์ : ชุด “Thorne of Glass” เป็นแนวแฟนตาซีย้อนยุคที่ไม่ได้ตรงกับช่วงไหนในประวัติศาสตร์จริง แต่คนเขียนได้สมมติให้คล้ายกับว่าเกิดขึ้นในยุคกลาง มันต่างจากแฟนตาซียุคปัจจุบันตรงที่ชีวิตของตัวละครจะเหมือนคนสมัยก่อน ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย การแต่งตัวก็เป็นชุดกระโปรงยาวสำหรับผู้หญิง ผู้ชายพกดาบหรืออาวุธติดตัว ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีอุปกรณ์ทันสมัย แต่มีเวทมนตร์และการผจญภัย พลอยคิดว่าถ้าใครชอบเรื่องที่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง ตำนาน การผจญภัย สัตว์ประหลาด คาถา แม่มด ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ค่ะ ฉากโบราณก็จริงแต่โครงเรื่องทันสมัยและซับซ้อนซ่อนเงื่อน ใครที่ชอบนางเอกเก่งก็น่าจะถูกใจเรื่องนี้เช่นกัน นางเอกชื่อเซเรนาเป็นนักฆ่าที่ภูมิหลังไม่ธรรมดา ด้วยความจำเป็นต้องมารับใช้กษัตริย์ผู้อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของอาณาจักรบ้านเกิด เธอได้ผูกมิตรกับเจ้าชายและหัวหน้าราชองครักษ์ในดินแดนศัตรูจนเกิดเป็นความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่ชะตากรรมและอดีตยังตามมาหลอกหลอน รวมถึงการผจญภัยที่เกี่ยวข้องกับสายเลือดของเธอด้วย หนังสือชุดนี้แปลออกมาแล้วสองเล่มคือ “ราชินีแห่งความตาย” และ “มงกุฎแห่งรัตติกาล” ค่ะ
น่าอ่านน่าสะสมทั้ง 2 ชุดเลยนะเนี่ย ใครไม่อยากพลาดล่ะก็ ฟังดีๆนะคะ กติกาคือ ให้เพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นลงคอมเมนต์บทความในหัวข้อ อยากเป็นนักแปลหนังสือประเภทอะไร เพราะอะไร และวงเล็บท้ายคำตอบว่าอยากได้นิยายแปลของพลอย โจนส์เรื่องไหนระหว่าง ชุด Half Life สายเลือดปีศาจ และ ชุด Thorne of Glass
เริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันนี้ - 19 มิถุนายน 2559
ประกาศผล 20 มิถุนายน 2559
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล
POPROCK ชุด Half Life สายเลือดปีศาจ
ปีศาจหัวโต ชุด Thorne of Glass
ส่งชื่อ-ที่อยู่-มายไอดียืนยันตัวตนมาที่ pimonwan@dek-d.com
ภายในวันที่ 27 มิ.ย. 59
20 ความคิดเห็น
อยากเป็นนักเเปลนิยายภาษาจีนกำลังภายในค่ะ ล่าสุดหนูได้อ่านงานเเปลของคุณน.นพรัตน์ เรื่องจอมยุตธ์ไร้น้ำตา ได้เห็นถึงภาษาการเเปลที่เชียบขาดเเต่ไท่ทับลายของนักเขียนยังคงภาาาต้นฉบับไว้อย่างสวยงาม เหมือนน้ำใสบริสุทธิ์ที่ถูกตักเก็บไว้ในกระบอกไม้ไผ่ ได้กลิ่นของไผ่ที่ถูกตัดเเล้วยังได้รสของน้ำบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่เข้ากันได้ดีมากจริงๆค่ะ โก้งเล้ง กับ น.นพรัตน์เป็นนักแปลนักเขียนที่คู่ควรกันมากจริงๆค่ะ (ชุดHalf Life สายเลือดปีศาจค่ะ)
อยากเป็นนักแปลวรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซีครับ เพราะอ่านวรรณกรรมเยาวชน ของริก ไรออร์แดน (Rick Riordan) ทั้งชุด Percy Jackson, Heroes of Olympus และ The Kane chronicles ฉบับแปลโดย ดาวิษ ชาญชัยวานิช และลมตะวัน ซึ่งผมก็เขียนนิยายอยู่ด้วยแล้วบก. สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งก็บอกว่าสำนวนการบรรยายเหมือนนิยายแปล ส่วนตัวก็ชอบภาษาอังกฤษและหนังสืออยู่แล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่างั้นก็ลองมาเป็นนักแปลเลยละกัน ผมอ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับภาษาอังกฤษดูก็เข้าใจดี เลยลองเอานิยายจาก Wattpad มาแปลดู (ไม่ได้เอามาเผยแพร่นะครับ) มันออกมาดูดีซะด้วย (ชุด Half life สายเลือดปีศาจครับ)
ขอบคุณครับ
สนใจอยากเป็นนักแปลนะคะ แต่กลัวเรื่องลิขสิทธิ์หรืออะไรพวกนี้ด้วย
แบบพอเราแปลๆ ไป อ้าว สนพ.นี้เอาไปแล้ว อ้าวเรื่องนี้มีคนแปลอยู่
อะไรพวกนี้ด้วย T T
เลยแบบ...กังวลมากกกกกกกกก
อยากให้Dek-dชี้เรื่องพวกนี้ด้วย เพราะไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี กลัวไปหมด
มันไม่เหมือนกับแต่งนิยายเองที่เราสามารถเขียนขึ้นได้เลย
#ค่อนข้างเป็นคนซีเรียสเรื่องลิขสิทธิ์
หนังสือประเภทฮาวทูค่ะ เพราะวกนี้จะมีหลักฐานการวิจัยต่างๆ ด้วยค่ะ แล้วส่วนตัวชินกับการอ่านพวกงานวิจัยมากกว่า ถ้าเป็นนิยายศัพท์สวยๆ เยอะไม่ไหว อยากได้ Thorn Of Glass
อยากเป็นนักแปลแนวแฟนตาซีค่ะ เพราะชอบอ่านนิยายแฟนตาซีมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนกันและมีอีกหลายเรื่องที่อยากอ่านเป็นภาษาไทยแต่ยังไม่มีคนแปล แล้วก็หวังว่าวันนึงจะได้แปลนิยายของตัวเองเป็นภาษาอังกฤษด้วยค่ะ555 ส่วนตัวนับถือนักแปลหลายๆท่านมากเพราะงานแปลเป็นงานที่มีรายละเอียดมากต้องใส่ใจค้นคว้าข้อมูลด้วย แล้วถ้าไม่มีนักแปลเหล่านี้เราก็คงจะไม่ได้อ่านนิยายสนุกๆเป็นภาษาไทยเลย เราก็อยากเป็นนักแปลหนึ่งในนั้นที่ช่วยให้นักอ่านได้อ่านงานสนุกๆหลากหลายมากขึ้นค่ะ :) (ชุด Half Life สายเลือดปีศาจ)
อยากเป็นนักแปลวรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซีค่ะ เพราะว่าชอบเรื่องแนวๆ นี้อยู่แล้ว น่าจะเป็นเพราะแฮร์รี่ พอตเตอร์กระมัง แล้วก็ LN ค่ะ
แล้วก็รู้สึกว่าทำให้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย มีประโยชน์แล้วก็สนุกด้วย
(ชุด Half life สายเลือดปีศาจค่ะ)
อยากแปลนิยายแนวแฟนตาซีค่ะ บอกได้เลยว่าคลั่งไคล้นิยายแนวนี้หนักมาก เรื่องที่อ่านแล้วติดใจจนวางไม่ลงจนถึงตอนนี้คือแฮร์รี่พอตเตอร์ค่ะ เพราะการแปลช่วยให้เราจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น สามารถพัฒนาการพูดของตนเองให้ดีขึ้นได้ เป็นการเรียนนอกห้องเรียนเองในอีกแบบหนึ่งค่ะ ใช้เวลาว่างของตนให้มีประโยชน์และมีสาระ รวมทั้งมีความสนุกที่ได้อ่านนิยายด้วย
นับถือนักแปลแต่ละคนมากค่ะ กว่าจะขัดเกลาประโยคในนิยายให้น่าอ่านได้ขนาดนี้ นับถือๆ
(ชุด Half life สายเลือดปีศาจค่ะ)
ขอร่วมกิจกรรมด้วยนะคะ
อยากเป็นนักเเปลหนังสือประเภทสืบสวน/ระทึกขวัญค่า เพราะ หนังสือแนวนี้มักจะมีปมปริศนาให้ติดตาม ทำให้ผู้อ่านต้องคิดตามตลอดเวลา ส่วนผู้เขียนเองก็ต้องวางปมเรื่องมาเป็นอย่างดีและต้องนำหน้าผู้อ่านอยู่เสมอเพื่อให้เนื้อเรื่องชวนติดตาม
การเป็นนักแปลแนวนี้นอกจากจะต้องมีความเข้าใจเนื้อเรื่อง ยังต้องคิดตามและกลั่นกรองการแปลให้มีความเหมาะสมกับธีมเรื่องและปมปริศนาต่างๆของเรื่อง เพื่อแปลออกมาให้ผู้อ่านเข้าใจอีกต่อหนึ่ง เหมือนเป็นการซ้อนปมหลายๆปมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ผู้เขียน ผู้แปล มาจนถึงผู้อ่าน เป็นอีกแนวหนึ่งที่แปลยากพอสมควร ถ้าเป็นนักแปลเลยอยากจะแปลแนวนี้ค่ะ (อยากได้หนังสือชุด throne of glass ค่ะ เพราะชุด Half Life มีครบ2เล่มแล้ว อิอิ:D)
อยากเป็นนักแปลหนังสือประเภทวรรณกรรมเยาวชนกับแนวแฟนตาซีค่ะ เพราะส่วนตัวชอบอ่านหนังสือแนวนี้อยู่แล้ว ยิ่งเป็นแนวสงคราม แนวเวทมนต์ จะชอบเป็นพิเศษค่ะ
มีนิยายต่างประเทศแนวนี้หลายเรื่องที่เคยเห็น แต่ยังไม่มีคนแปล ก็เลยฝันอยากเป็นนักแปล เพื่อที่จะได้ถ่ายทอดความสนุก ความลุ้นและความตื่นเต้นในนิยายที่เราได้อ่านในอีกภาษาหนึ่ง ให้เพื่อนๆหรือคนอื่นๆที่สนใจในแนวเดียวกันกับเราได้อ่าน และสนุกกับนิยายเล่มนั้นเหมือนกับที่เรารู้สึกด้วยค่ะ ( ชุด Half Life สายเลือดปีศาจค่ะ )
อยากเป็นนักแปลประเภทหนังสือวรรณกรรมเยาวชน แนวแฟนตาซี สอบสวน จิตวิทยา How to เพราะส่วนตัวชอบอ่าหนังสือมาก เเต่เหนือสิ่งอื่นใดคือ"ค ว า ม อิ จ ฉ า"ค่ะ ตัวนี้เลยค่ะที่เป็นเเรงผลักดันให้ฝึกฝนภาษาอังกฤษ เพราะเวลาที่เห็นคุณครูต่างชาติหรือนักเรียนเเลกเปลี่ยนที่รร.นั่งอ่านหนังสือชาติเค้า ใบหน้าฟิน มีความสุข อ่านไปยิ้มไป เห็นเเล้วตาลุกเป็นไฟเลยค่ะ แกเล่นอ่านกันอย่างมีความสุข พอเห็นเเล้วต่อมอยากรู้อยากเห็นมันกำเริบค่ะ อยากรู้แกอ่านกันแกฟิน อมยิ้มอะไรกันนักกันหนา ไม่ก็ติดจนวางไม่ลง บางทีทำหน้าเครียดแบบจะไปฆ่าใคร เราเลยเป็นปมฝังใจว่า "สักวันต้องอ่านให้ได้อย่างกับอ่านหนังสือชาติตัวเอง" อยากรู้ไปหมดทุกอย่างค่ะ อยากรู้ว่ามันสนุกยังไง อยากรู้คนเเต่งคิดอะไร เป็นคนแบบไหน มุมมองยังไง อยากรู้หมดเลยค่ะ พอความรู้สึกจุดๆนี้มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเเรงผลักดันที่ดีมากค่ะ เวลาที่เราอยากรู้เเล้วไม่รู้มันทรมานใช่ไหมค่ะ เราก็มีอารมณ์แบบนั้นเลย ต้องรู้ให้ได้เลยฝึกหนักค่ะ พอทำไปเรื่อยๆ ดูพวกโฆษณาหรือทีเซอร์หนังออกใหม่อะไรงี้ที่เค้าเป็นของต้นฉบับเเล้วฟังออกหรือพอจับใจความได้ว่าเขาพูดอะไรกัน หรือไม่ก็อ่านบทความหนังสือนอกเวลาสั้นๆง่ายๆออก ความฟินนี่บังเกิด กรีีดเเตก เหมือนสอบได้ที่หนึ่ง นี่แหล่ะค่ะเหตุผลเอาสั้นๆง่าย ก็คือความ"อยากรู้"นี่เอง (ชุด Thorne of Glass)
อยากเป็นนักแปลประเภทสืบสวนหรือผจญภัยค่ะ เพราะตัวเราเองชอบนวนิยายของอีนิด ไบลตันมาก ซึ่งเป็นนักเขียนชาวอังกฤษนี่แหละค่ะ เธอมีผลงานมากมายหลายเล่มมากกกก เราอ่านประวัติเขามาค่อนข้างบ่อยเพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ เลยรู้ว่าเขาแต่งนิยายได้วันละยี่สิบหน้า แบบนับถือมาก T^T ผลงานที่ออกมาทุกเล่มก็สนุกค่ะ อ่านได้ทุกเพศทุกวัย เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของอีนิดที่เขียนแนวนี้แล้วสัมผัสได้ถึงธรรมชาติ ของกินในที่นั้นเลยค่ะ เราอ่านผลงานของเธอมาตั้งแต่ป.4 จนตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูอยากเขียนนิยายเลยมาเป็นนักเขียนด้วยค่ะ ฮาาาาา อย่างเซตห้าสหายผจญภัยคือการผจญภัยที่อ่านแล้วสนุก ได้อะไรมาเยอะมาก ส่วนหกสหายไขปริศนานี่ชอบที่สุด คือวางปมแนบเนียนมากค่ะ >< แบบโอ๊ย ประทับใจมากกก นิยายของอีนิดปัจจุบันหาซื้อไม่ได้แล้วค่ะ แบบเศร้าแรงมาก ยังมีอีกหลายงานที่อยากอ่าน เลยอยากแปลนิยายแนวนี้ นั่นก็คืออ่านนิยายอังกฤษรู้เรื่องนั่นแหละ จะได้อ่านของเขาจากต้นฉบับจริงได้เลย 555555 (เพราะในไทยไม่มีสนพ เอามาแปลแล้ว TT) อย่างนิยายสืบสวนของอกาธา คริสตี้ก็สนุกค่ะ ปมซับซ้อนและคาดไม่ถึงมาก แบบประทับใจจจจ เลยอยากแปลแนวนี้เป็นพิเศษค่ะ :D
(อยากได้ Half Life สายเลือดปีศาจ ค่าาาาาาาา)
อยากแปลแนวแฟนตาซีค่ะ ถ้าระบุลึกลงไปก็อยากแปลนิยายของอวี้หว่อ (YUWO) มากกกก
เหตุผลก็เพราะชอบอ่านแนวนี้ คิดว่าถ้าได้แปลแนวนี้ก็คงจะสนุกดี เมื่อก่อนคิดเสมอเลยนะว่านักแปลนี่โชคดีเนอะ ได้อ่านหนังสือก่อนนักอ่านทุกคนเลย แถมฟรีด้วย ฮาาา
โตมาถึงได้รู้ว่ามันก็ไม่ได้สนุกเหมือนกับตอนที่อ่านนิยายภาษาไทย ต้องมานั่งอ่าน แปล หาข้อมูล ยิ่งถ้าแปลผิดนี่คงรู้สึกแย่มากเลย เพราะเหมือนสื่อความจากต้นฉบับผิด แต่ก็ยังฝันว่าอยากเป็นนักแปลอยู่ (ยิ่งถ้าได้ของอวี้หว่อตะดีมาก ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงตอนนั้นอวี้หว่อยังจะเขียนนิยายอยู่หรือเปล่านะ)
(Half Life สายเลือดปีศาจ)
อยากเป็นนักแปลแนวแฟนตาซีค่ะ เพราะว่าชอบอ่านแนวแฟนตาซี เวลาได้อ่านจะรู้สึกตื่นเต้น มันดูล้ำๆ ดีค่ะ บางทีเราก็คาดไม่ถึงว่ามันจะมีอะไรแบบนี้ด้วย การได้อ่านนิยายแนวนี้เลยทำให้รู้สึกว่าจินตนาการมันสามารถสร้างได้ทุกอย่างจริงๆ ค่ะ! แล้วมันก็เหมือนกับเปิดห้องจินตนาการในหัวของเราให้ได้ทำงานเต็มที่ด้วย ได้จินตนาการภาพเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่องที่ได้อ่านอย่างอิสระ ได้คิดและได้สร้างเรื่องราวในหัว รู้สึกสนุกค่ะ เลยอยากจะลองแปลดูบ้าง คิดว่ามันน่าจะสนุกดีถ้าได้ลองใช้คำพูดและการบรรยายของเราแปลออกมาให้นักอ่านได้เห็นภาพแบบที่เราเห็นบ้าง อยากแบ่งปันให้เขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบเดียวกับที่เราได้รับจากการอ่านนิยายแนวนี้บ้างค่ะ ( ชุด Thorne of glass )
หนังสือประเภทแฟนตาซีค่ะ เพราะโดยส่วนตัวก็รักการอ่านนิยายเเนวนี้อยู่เเล้ว ถ้าจะให้บอกว่าเเนวแฟนตาซีมันพิเศษยังไง บอกได้เเค่ว่า มันบรรเจิด ทะลุทะลวง และเหนือจินตนาการมากๆ ตัวละครและเรื่องราวทำให้ดำดิ่งไปกับความรู้สึกที่หลากหลาย
หากได้แปลหนังสือประเภทนี้เหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์และปลดปล่อยเราจากโลกเดิมๆที่น่าเบื่อ และคงทำให้ฟินโลกเเตกอ่ะค่ะ เพราะจะได้รู้เรื่องราวก่อนใคร และที่สำคัญคำศัพท์ที่เราจะแปลน่าจะเจ๋งๆทั้งนั้น คงต้องเข้าใจและเลือกใช้คำและภาษาที่พิเศษๆมากๆเลยย >>> (ชุดThorne of glass)
ชื่อจริงของพลอย โจนส์ คืออะไรหรอคะ พอดีต้องใช้ตอนทำบันทึกการอ่านที่โรงเรียนอ่ะค่ะ
ชื่อจริงของพลอย โจนส์ คืออะไรหรอคะ พอดีต้องใช้ตอนทำบันทึกการอ่านที่โรงเรียนอ่ะค่ะ