8+1 สถานที่จริงในปัจจุบัน จากนิราศของสุนทรภู่

8+1 สถานที่จริงในปัจจุบัน
จากนิราศของสุนทรภู่




(รูปจาก : http://scoop.mthai.com/specialdays/2452.html)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวเด็กดี วันนี้พบกับพี่หวานเช่นเคยกับคอลัมน์ "สาระวรรณกรรม" พอผ่านกลางเดือนมิถุนายนมาเเบบนี้ หลายคนคงเริ่มรู้ทันเเล้วใช่มั้ยคะว่าพี่หวานจะต้องหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับ สุนทรภู่ มาเล่าให้ฟังอย่างแเน่นอน เพราะวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญที่นักประพันธ์ผู้มีอิทธิพลต่อวงการวรรณกรรมของไทยอย่างสูงผู้นี้ ได้ถือกำเนิดขึ้นมานั่นเอง...

สำหรับวันนี้ประเด็นน่าสนใจที่พี่หวานจะหยิบมาเล่าให้ชาวเด็กดีฟัง คือการเดินทางตามรอยสุนทรภู่ผ่านนิราศที่ท่านเเต่งไว้กับหัวข้อ "8+1 สถานที่จริงในปัจจุบัน จากนิราศของสุนทรภู่"

การเเต่งนิราศเป็นงานประพันธ์ชนิดหนึ่งที่กวีจะมีการเเต่งเล่าเรื่องหรือบันทึกการเดินทางของตนเองไว้ และสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือการพรรณนาความรู้สึกเศร้าเมื่อต้องจากนางผู้เป็นที่รัก หลายคนอาจจะไม่คาดคิดว่าสถานที่ในบทนิราศจะปรากฏอยู่ในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ใช่ค่ะ สถานที่เหล่านี้มีอยู่จริงๆ และพี่หวานได้รวบรวมมาไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว แต่จะเป็นที่ไหนบ้าง ต้องไปลองอ่านกันค่ะ อยากรู้จริงๆ ว่ามีใครเคยไปเที่ยวที่ไหนมาแล้วบ้าง ^_____________^
 
1. นิราศเมืองแกลง :
อ. แกลง จังหวัดระยอง


(รูปจาก : http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000073902)
 

นิราศเมืองแกลง เป็นนิราศเรื่องแรกที่สุนทรภู่ได้แต่งขึ้น เล่าถึงเรื่องราวการเดินทางด้วยเรือ ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงเมืองแกลง จังหวัดระยอง จากในตัวบทปรากฏผู้ติดตามสองคน เนื้อความเป็นการพรรณนาถึงคราวที่ต้องจากนางจัน... ผู้ซึ่งสุนทรภู่เคยแอบคบหาและแอบมีใจให้ ส่วนจุดประสงค์ที่ต้องออกเดินทางนั้นไม่แน่ชัด มีข้อมูลสันนิษฐานว่าสุนทรภู่เดินทางไปยังเมืองแกลงเพราะไปราชการ และอีกข้อคือไปหาพ่อที่บวชเป็นพระอยู่วัดป่ากร่ำ ต.กร่ำ อ.แกลง ค่ะ

ปัจจุบัน อำเภอแกลง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง โดยมีการสร้างอนุสาวรีย์ของสุนทรภู่ เพื่อระลึกถึงผลงานและคุณความดีของท่านกวีเอกผู้นี้ ที่นี่จึงเปรียบเป็นเหมือนจุดแลนมาร์คสำคัญของจังหวัด เรียกว่าถ้ายังไม่ได้มา ถือว่ามาไม่ถึงค่ะ นอกจากนี้บริเวณรอบๆ อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ยังมีรูปปั้นตัวละครจากเรื่องพระอภัยมณีให้ได้ชมอีกด้วย  

2. นิราศอิเหนา :
ช่องแคบมะละกา ประเทศมาเลเซีย


(รูปจาก: http://www.bloomberg.com/news/articles/2013-11-11/pirates-hijack-tanker-near-singapore-in-second-attack-in-a-month)
 

นิราศอิเหนา มีความแตกต่างจากนิราศอื่นๆ ตรงที่... ไม่ใช่เรื่องการเดินทางของตัวสุนทรภู่เอง แต่เป็นการจำลองภาพเหตุการณ์ตอนที่อิเหนาออกเดินทางตามหานางบุษบาค่ะ พี่หวานอ่านแล้วพบว่าในเนื้อเรื่องได้มีการกล่าวถึง เมืองมะละกา ไว้ด้วย จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวพันกับ... "มะละกา" ที่เป็นช่องแคบทางตอนใต้ของประเทศมาเลเซีย (เชื่อว่าน้องๆ คุ้นกับคำว่า "ช่องแคบมะละกา" เป็นอย่างดี เพราะปรากฎในแบบเรียนของเราเอง!) ทั้งนี้ทั้งนั้น จากข้อมูลที่ค้นหามา พี่หวานพบว่าปัจจุบัน มะละกามีประชากรที่ใช้ภาษาชวาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตรงนี้สัมพันธ์กับเนื้อหาในวรรณคดี... ที่อิเหนาต้องเดินทางไปยังแดนชวาค่ะ 

ต่อไปขอพูดถึง ช่องแคบมะละกา สักนิด (เผื่อใครสนใจอยากเอาไปทำรายงานเพิ่มเติม ^ ^ ) ช่องแคบแห่งนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเรือค้าขายที่สำคัญมาก เป็นจุดรอยต่อของสามประเทศสำคัญ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีเรือสินค้าผ่านเข้าออกวันละหลายร้อยเที่ยวค่ะ และด้วยสาเหตุนี้ จึงทำให้สภาพบ้านเมืองในละแวกนี้ มีความสวยงามแปลกตา เพราะเกิดจากการผสมผสานระหว่างความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับประเทศตะวันตกอื่นๆ ที่เคยเข้ามาค้าขาย ตลอดจนยึดประเทศทั้งสามเป็นอาณานิคมนั่นเองค่ะ ใครผ่านไปแถวนั้น พี่หวานคิดว่า น่าจะได้ข้อมูลทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เยอะทีเดียวค่ะ

3. นิราศพระบาท : รอยพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี


(รูปจาก: http://www.painaidii.com/business/120896/photo/8/lang/th/#photo)
 
นิราศพระบาท จัดว่าเป็นผลงานชิ้นสำคัญอีกเรื่องของสุนทรภู่ ตามลำดับแล้ว แต่งขึ้นเป็นเรื่องที่สอง ต่อจากนิราศเมืองแกลง  

สุนทรภู่สร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้น เมื่อครั้งเดินทางตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท และเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ ค่ะ สุนทรภู่ได้มีการรำพันถึงนางจัน คนรักของท่าน เพราะต้องอยู่ห่างนางเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความร้อนรุ่มไม่สบายใจ เพราะเหมือนตอนที่ต้องจากนางมานั้น คนทั้งคู่มีปัญหาหมางใจกัน (จะเรื่องอะไรพี่หวานก็ไม่แน่ใจนะคะ) แต่ยังไม่ทันได้ปรับความเข้าใจกัน ก็ต้องตามเสด็จเสียแล้ว สุนทรภู่จึงได้เขียนบทนิราศโดยขึ้นต้นมาด้วยความโศกเศร้า โอดครวญพร่ำรำพันถึงหญิงคนรักอย่างเจ็บปวดทีเดียวค่ะ

สิ่งสำคัญที่นักประวัติศาสตร์ชื่นชมในนิราศเรื่องนี้ ก็เพราะเนื้อหาที่บอกเล่าถึงสภาพการเดินทางในอดีต ที่แตกต่างจากปัจจุบันชนิดที่เรียกว่าสุดขั้ว (ในอดีตไม่มีรถ ไม่มีรถไฟ ไม่มีเครื่องบิน คงลำบากน่าดูเลยนะคะ)  เรียกว่านิราศเรื่องนี้ จัดเป็นผลงานทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

ส่วนสถานที่ในนิราศพระบาทที่พี่หวานจะหยิบมาเล่าก็คือ รอยพระพุทธบาท ที่จ.สระบุรี นั่นเองค่ะ การค้นพบรอยพระพุทธบาทของไทยนั้น ตามพระราชพงศาวดารได้มีข้อมูลบอกไว้ว่า เริ่มต้นจากการที่คณะสงฆ์คณะหนึ่งเดินทางไปลังกาทวีป ได้รับข้อมูลจากพระสงฆ์ชาวลังกาว่าที่ไทยก็มีรอยพระพุทธบาทอยู่ที่เชิงเขาสุวรรณบรรพต จากนั้นพระเจ้าทรงธรรมผู้ปกครองเมืองในสมัยนั้นได้ออกค้นหารอยพระพุทธบาทก่อนจะพบและรับสั่งให้มีการดูแลอย่างใกล้ชิด ในที่สุดบริเวณรอบๆ ก็กลายมาเป็นศาสนสถานที่สำคัญซึ่งมีการบูรณะต่อมาเรื่อยๆ จนในปัจจุบันได้กลายมาเป็นวัดพระพุทธบาทราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาก

แต่อีกตำนานก็มีเล่าว่าเพราะพรานบุญ นายพรานคนหนึ่งได้ตามกวางที่ตนยิงจนบาดเจ็บไปเรื่อยๆ เมื่อกวางตัวนี้หยุดกินน้ำจากรอยพระพุทธบาทแล้วแผลทั้งหมดก็หายไป นายพรานจึงดื่นน้ำนั้นบ้างปรากฏว่าโรคเกลื้อนต่างๆ ที่เป็นแล้วรักษาไม่หายซักทีก็หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเรื่องรู้ไปถึงพระเจ้าทรงธรรมจึงได้มีคำสั่งให้มาสร้างมณฑปครอบเอาไว้ค่ะ ^^ (พี่หวานเชื่อว่า น่าจะเป็นพรานบุญคนเดียวกับที่แอบไปพบนางมโนราห์แน่ๆ เลยค่ะ และสระน้ำนั้นก็คือสระที่นางกินนรีแอบมาว่ายเล่น - - จะว่าไปแล้ว เนื้อหาวรรณคดีนี่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับสถานที่จริงได้อย่างน่าสนใจจริงๆ ค่ะ)
 
4. นิราศภูเขาทอง : เจดีย์ภูเขาทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



(รูปจาก: http://m.donmueangairportthai.com/th/popular-destinations/1702/wat-phukhao-thong-phra-nakhon-si-ayutthaya)
 

มาต่อกันที่เรื่อง นิราศภูเขาทอง นิราศที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของสุนทรภู่ เหตุผลอาจจะเป็นเพราะท่านแต่งขึ้นหลังผ่านการจำพรรษาเป็นพระมาเป็นเวลานาน จิตใจจึงสงบมากขึ้น ที่สำคัญ ในนิราศเรื่องนี้ ได้มีการถ่ายทอดอารมณ์และเรื่องราวในชีวิตของสุนทรภู่มากขึ้น เนื่องจากเมื่อสิ้นบุญพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) สุนทรภู่ต้องระหกระเหินไปหลายที่ แม้แต่บ้านก็ไม่มีจะอยู่เลยนะคะ 

คนอ่านจะได้รู้และสัมผัสความเป็นไปในช่วงชีวิตที่ตกยากของสุนทรภู่อย่างชัดเจนในนิราศเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของความจงรักภักดีที่สุนทรภู่มีต่อรัชกาลที่ 2 ท่านได้บรรยายความเศร้าเสียใจต่อการจากไปของรัชกาลที่ 2 ไว้แทบจะทุกบทในนิราศเรื่องนี้ สาเหตุที่บวชก็เช่นเดียวกันค่ะ ท่านให้เหตุผลว่า บวชเพื่อเป็นกุศลต่อรัชกาลที่ 2 และยังระบุเอาไว้ด้วยว่า จะขอเป็นข้าพระบาทตลอดไป

ในปัจจุบัน เจดีย์ภูเขาทอง ถือเป็นวัดเก่าแก่โบราณอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวชม ด้วยความแตกต่างจากรูปเจดีย์ทั่วไป แต่เดิมเจดีย์แห่งนี้สร้างตามแบบมอญ สันนิษฐานว่าสร้างเพื่อประกาศชัยชนะเหนือกรุงศรีอยุธยา แต่สร้างได้เพียงฐานเท่านั้นก็มียกเลิกไปเสียก่อน ภายหลังจึงมีการสร้างตัวเจดีย์แบบไทยขึ้นทับ และต่อมาก็มีการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมจนตัวเจดีย์มีสีขาวทั้งหมด เรียกว่าเป็นเจดีย์ที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมทั้งแบบไทยและมอญรวมกัน น่าไปชมมากๆ ค่ะ

5. นิราศสุพรรณ : จังหวัดสุพรรณบุรี   


(รูปจาก: https://th.wikipedia.org/wiki/วัดป่าเลไลยก์)
 

นิราศสุพรรณ น่าจะประกาศชัดเจนอยู่แล้วว่าแต่งขึ้นเมื่อสุนทรภู่เดินทางไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี เรื่องนี้แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพค่ะ มีข้อมูลบอกไว้หลายแห่งว่าสุนทรภู่เลือกโคลงชนิดนี้ เพราะต้องการจะลบคำสบประมาทจากผู้อื่นที่มองว่าท่านแต่งเป็นแต่คำกลอน และเนื่องจากในช่วงที่แต่งนิราศนี้ขึ้น สุนทรภู่กำลังสนใจเรื่อง "การเล่นแร่แปรธาตุ" การเดินทางครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายอยู่ที่การตามหา "หินแร่" ที่น่าสนใจ ระหว่างทาง เต็มไปด้วยเรื่องราวผจญภัยน่าตื่นเต้น อ่านแล้วสนุกมากค่ะ

จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ปรากฎในเรื่องกับปัจจุบัน ก็แตกต่างกันไปค่ะ เพราะปัจจุบันได้มีการพัฒนาปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่และน่าเที่ยวมากขึ้น แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ได้แก่ วัดป่าเลไลยก์ เป็นวัดเก่าแก่คู่เมืองสุพรรณบุรี ถ้าไม่ได้มาไหว้สักการะบูชาหลวงพ่อโต จะเหมือนมาไม่ถึงจังหวัดสุพรรณบุรีเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้พี่หวานคิดว่าอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจอยากนำเสนอคือ บึงฉวาก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของสุพรรณบุรี ปัจจุบันได้มีการสร้างอะควาเรียมปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ถ้าใครมีโอกาสผ่านไปเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรีก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันลองดูนะคะ
 

6. นิราศพระประธม : พระปฐมเจดีย์ จ. นครปฐม 

นิราศพระประธม เรื่องนี้ เขียนขึ้นเมื่อสุนทรภู่เดินทางไปสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ที่จังหวัดนครปฐม ท่านได้บรรยายลักษณะขององค์พระปฐมเจดีย์และสภาพบ้านเมืองไว้โดยละเอียด อ่านแล้ว รู้สึกได้เลยว่าสุนทรภู่มีความตั้งใจจริงที่จะต้องเดินทางไปที่นี่ให้ได้ ถึงกับชวนบุตรชายสองคนของตนไปด้วยกัน

นอกจากนี้ เรายังได้เห็นเหตุการณ์ที่พี่หวานคิดว่า... นักเขียนทุกคนควรเก็บเอาไว้ใช้ค่ะ เพราะเมื่อสุนทรภู่ได้ฟังเรื่องเล่าจากชาวบ้านแถวนั้นเกี่ยวกับเรื่องราวของพระยากง พระยาพานที่เป็นคนสร้างองค์เจดีย์ ท่านก็ได้เขียนเรื่องนี้ลงในนิราศ เพื่อให้ความรู้ด้วย พี่หวานคิดว่า นักเขียนที่ดี ควรมีคุณสมบัติเช่นนี้ค่ะ คือการนำสิ่งที่เราได้รับรู้มาเผยแพร่ ให้เป็นประโยชน์ต่อคนอ่านคนอื่นๆ ต่อไป  

จากชื่อเรื่องนิราศก็แน่นอนอยู่แล้วว่าสถานที่นั้นต้องเป็น องค์พระปฐมเจดีย์ อย่างแน่นอน ใครที่เคยผ่านมาที่จังหวัดนครปฐมคงจะไม่พลาดต้องแวะไปกราบไหว้เพื่อเป็นศิริมงคลต่อชีวิต บริเวณรอบๆ มีร้านอาหารอร่อยมากมาย (พี่หวานชอบมาก) ตอนเย็นก็มีเปิดตลาดนัดขายของกันอย่างครึกครื้น เรียกได้ว่ามาเที่ยวที่นี่ ได้ไหว้พระ และยังได้อิ่มบุญ อิ่มท้องอีกด้วยนะคะ (กระซิบว่าอาหารที่นครปฐมราคาน่าคบหาและมีรสชาติที่อร่อยแทบทุกอย่างเลยล่ะค่ะ >< งั่มๆๆ)

7. นิราศเมืองเพชร : จังหวัดเพชรบุรี


(รูปจาก: http://www.thailovetrip.com/view.php?id_view=475)

 
นิราศเพชรบุรี เป็นเรื่องที่มี "ที่มา" ไม่ชัดเจนค่ะ จนบัดนี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว นิราศเรื่องนี้แต่งขึ้นเมื่อไหร่และแต่งด้วยจุดประสงค์คืออะไร แต่ก็พอมีข้อมูลสันนิษฐานไว้อีกว่าเป็นการพรรณาเล่าการเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรีด้วยเหตุผลทางราชการค่ะ ขณะเดียวกัน อีกเหตุผลก็บอกว่าเพราะต้นตระกูลฝั่งมารดาของสุนทรภู่น่าจะเป็นคนเพชรบุรี หรืออาจจะมีเพื่อนฝูง คนรู้จักเป็นคนเพชรบุรีก็เป็นได้ เพราะในตัวบทมีการเล่าว่าสุนทรภู่ได้เดินทางไปแวะเวียนเยี่ยมเยียนเพื่อนหลายคนทีเดียว 

ปัจจุบันนี้ จังหวัดเพชรบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย มีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมายค่ะ ที่เป็นที่รู้จักคงจะเป็นอุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรีหรือรู้จักกันในชื่อ "เขาวัง" เป็นพระราชวังฤดูร้อนที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาคารสีขาวล้อมรอบด้วยป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เวลาจะขึ้นไปชมต้องนั่งรถรางซึ่งมักจะมีเหล่าลูกลิงออกมาทักทายนักท่องเที่ยวให้เห็นอยู่เป็นประจำ ถือเป็นสีสันที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยค่ะ

 
8. รำพันพิลาป : วัดเทพธิดาราม กรุงเทพมหานคร


(รูปจาก: http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000126261)
 

นิราศอีกเรื่องที่มีความโดดเด่นจากเรื่องอื่น ชื่อว่า รำพันพิลาป (ไม่มีคำว่านิราศค่ะ แต่ชื่อเพราะมาก พี่หวานชอบ) เป็นเรื่องที่สุนทรภู่แต่งขึ้นจากความฝันของท่านเมื่อครั้งยังบวชอยู่ที่วัดเทพธิดาราม โดยสุนทรภู่ฝันร้ายในคืนหนึ่งว่าต้องมีเหตุให้ถึงแก่ชีวิตจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาจึงรีบจดบันทึกและแต่งออกมาเป็นบทนิราศ กล่าวถึงคราวเคราะห์ที่ท่านต้องพบเจอมา แม้ว่าจะแต่งขึ้นจากความฝันแต่เนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่านี่คือชีวิตจริงบางช่วงตอนของท่านนั่นเองค่ะ

สถานที่ที่ปรากฏในปัจจุบันที่พี่หวานจะยกมาก็คือ วัดเทพธิดาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญอีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากประเทศจีนค่อนข้างมาก สถาปัตยกรรมจึงมีการผสมผสานระหว่างไทยปนจีน พระอุโบสถงดงามมาก รอบนอกมีพระปรางค์สี่ทิศล้อมรอบสวยงาม ถ้าใครมีเวลาก็สามารถแวะไปชมด้วยตาตัวเองได้นะคะว่าวัดเทพธิดารามแห่งนี้จะสวยงามอย่างที่พี่หวานบรรยายไว้รึเปล่า

 
9. นิราศวัดเจ้าฟ้า : ไม่ปรากฎแน่ชัดว่าเป็นสถานที่แห่งใด
 
เนื่องจากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความแตกต่างจากเรื่องอื่นตรงที่ว่าไม่มีข้อมูลระบุว่าวัดเจ้าฟ้าในตัวบทเรื่องนิราศวัดเจ้าฟ้านี้เป็นวัดใด หรืออยู่ที่ไหนในปัจจุบัน แต่ก็มีข้อมูลสันนิษฐานไว้สองที่ด้วยกัน คือวัดเขาดิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี เพราะว่าบริเวณโดยรอบๆ วัดทั้งสองเเห่ง มีสถานที่หรือเส้นทางที่ใกล้เคียงกับที่สุนทรภู่ได้บรรยายไว้ ความน่าจะเป็นที่วัดเจ้าฟ้าจะกลายมาเป็นวัดเขาดินหรือวัดพระพุทธฉายในปัจจุบันจึงมีความเป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ซึ่งในการศึกษาทางวรรณคดีถ้าไม่มีการระบุแน่ชัดหรือสืบค้นข้อมูลไม่ได้ นักวิชาการจะใช้การสันนิษฐานเท่านั้นค่ะ 

 


เป็นยังไงบ้างคะ กับ 8+1 สถานที่จริงในปัจจุบัน จากนิราศของสุนทรภู่ที่พี่หวานหยิบขึ้นมาเล่าในวันนี้ สาเหตุที่ใช้ 8+1 ก็เพราะว่ามีเพียง 8 สถานที่เท่านั้นที่ปรากฏข้อมูลบอกว่าเป็นสถานที่เเห่งใดชัดเจน ส่วนอีก 1 ที่ ที่บวกเพิ่มนั้นเป็นสถานที่ที่ยังคงต้องถกเถียงและหาข้อมูลเพิ่มเติมกันต่อไปค่ะ

เเม้ว่าเวลาจะหมุนผ่านไป เเต่ผลงานเเละคุณงามความดีจะคงอยู่เสมอ ดังเช่นชีวิตของท่านสุนทรภู่ ที่ได้ผ่านช่วงเวลาทั้งสุขเเละทุกข์มากมาย เเม้วันนี้ท่านจะไม่ได้อยู่สร้างผลงานใหม่ๆ ให้เราได้เรียนรู้กันเพิ่มเเล้วก็ตาม เเต่สิ่งที่ท่านเคยทำไว้ก็ได้ส่งผลต่อวงการงานประพันธ์ไทยอย่างมากสมกับฉายากวีเอกของไทยทีท่านได้รับนั่นเองค่ะ

ถ้าเพื่อนๆ หรือน้องๆ ชาวเด็กดีคนไหนเคยไปเที่ยวชมที่ไหนมาเเล้วบ้างอย่าลืมมาเเชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้พี่หวานฟังด้วยนะคะ ^____^




 


ขอขอบคุณข้อมูลเเละรูปภาพจาก
 
คุณดอกบัวบานกลางสระแก้ว
คุณ Chaach, Nida
https://th.wikipedia.org/
http://allknowledges.tripod.com/buddhapata.html
http://www.likemax.com/archive/soontornpoo
http://www.silpathai.net/นิราศเมืองแกลง
https://www.gotoknow.org/posts/395303%20%20%20%20%20%20%สรุป
https://www.gotoknow.org/posts/423593 
http://www.holidaythai.com/Thailand-Attractions-1168.htm
http://www.suphan.biz/suphantour.htm
http://www.kaweeclub.com/b28/t2720/
https://sites.google.com/site/realkuza/
 


 
พี่หวาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

10 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
iuvday 25 มิ.ย. 59 13:00 น. 3
วัดพระพุทธบาทยังสวยอยู่ มีการบูรณะตกแต่งเพิ่มเติมเป็นระยะๆ แต่ธารเกษม แต่ก่อนคงเกษมสมชื่อจริง แต่ตอนนี้คงจะลงไปล่องเรือไม่ได้แล้ว เต็มไปด้วยวัชพืชกับขยะ น้ำตื้นขึ้น เหมือนคลองระบายน้ำธรรมดา ขนาดธารทองแดงใกล้ๆกัน จากโคลงเจ้าฟ้ากุ้งยังตื้นจนเห็นก้นคลอง เสียดายว่าสมัยก่อนคงสวยงามมาก เป็นป่าเป็นเขา เสียใจ
0
กำลังโหลด
มัณทนา Member 25 มิ.ย. 59 14:32 น. 4

"วัดเจ้าฟ้า" ในเรื่องนิราศวัดเจ้าฟ้า คือ วัดเจ้าฟ้าอากาศนาถนรินทร์

แต่ไม่รู้ว่าเป็นวัดไหนในอยุธยา

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
fate_lu Member 6 ส.ค. 59 20:33 น. 9
เจดีย์ภูเขาทอง เท่าที่หนูเคยรู้มา เห็นบอกว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น แต่ว่าสร้างไม่เสร็จ ต่อมาหลังช่วงเสียกรุงครั้งที่ 1 พระเจ้าบุเรงนองเลยสร้างเพื่อประกาศถึงชัยชนะ แต่ว่ามาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ตัวเจดีย์ได้พังลงมา เลยได้สร้างตัวเจดีย์ขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงฐานแบบมอญไว้เหมือนเดิม เป็นวัดแห่งเดียวในอยุธยาที่ผสมศิลปะมอญกับไทยเข้าด้วยกัน ปล.ลักษณะของเจดีย์ ถ้าอยากรู้รายละเอียดกว่านี้อ่านได้ที่สารานุกรมไทยเล่ม 37 (ถ้าจำไม่ผิดน่ะค่ะ) ในนั้นมีบอกรูปแบบของเจดีย์ไว้ค่ะ ไม่ใช่แค่ของอยุธยา แต่มีตั้งแต่สุโขทัยยัยรัตนโกสินทร์เลยค่ะ
0
กำลังโหลด
First'tt 4 ก.ค. 62 23:06 น. 10

นิราศภูเขาทอง ตอนไปถึงเจดีย์ภูเขาทอง อยู่ตรงบทไหนเหรอคะ พอดีว่าในหนังสือเรียนเราไม่มี หรือว่าไม่มีอยู่แล้วคะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด